Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 26 ฉันมันคนระยำ

บทที่ 26 ฉันมันคนระยำ

“โอ๊ย!”

หลี่ต้าเป่าร้องเสียงดัง ก่อนจะล้มลงไปที่พื้น ทั้งหัวเต็มไปด้วยเหล้าและเลือดกับเศษแก้ว

เขามองโจวเย่นชิวด้วยความตกใจ พลางทำหน้าเหยเก ก่อนจะค่อยๆ ถูกเลือดกบ ดูน่ากลัวไม่น้อย

“คุณ คุณทำร้ายฉันงั้นเหรอ?โจวเย่นชิว ฉัน ฉันจะฟ้องพี่สาวฉัน!”

“คุณทำผิดมหันต์ ฉันฆ่าคุณให้ตายก็ยังไม่พอ!”

โจวเย่นชิวมีเหงื่อออกเต็มไปหมด พลางยกเท้าเหยียบหลี่ต้าเป่า ก่อนจะพูดด้วยความโกรธว่า: “มีเรื่องกับท่านหลง คุณยังกล้ามาทำตัวแบบนี้อีกเหรอ?เดี๋ยวจะกลับไปหย่ากับพี่สาวคุณให้ดู ต่อให้คุณไปฟ้องคนใหญ่คนโตที่ไหนก็ต้องมาขอโทษท่านหลงและเฉินตงอยู่ดี!”

น้ำเสียงเย็นชา ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่พูดนั้นมันจริงหรือหลอก

หลี่ต้าเป่าอาบเลือด ด้วยท่าทีเกรงกลัว เลยมองโจวเย่นชิวด้วยความร้อนรน

เพราะที่พึ่งของเขา ก็คือพี่สาว

หลายปีมานี้ สามารถยืนอย่างโอ่อ่าได้ และกินๆ นอนๆ ในบริษัทของพี่เขยได้อย่างสบายใจ ก็เพราะความเอ็นดูที่พี่สาวมีให้ และความไม่โต้ตอบของโจวเย่นชิวที่มีต่อพี่สาวเขา

ถ้าเกิดว่าโจวเย่นชิวหย่ากับพี่สาวของเขาจริงๆ เขาก็ไม่เหลืออะไรแล้ว

เมื่อคิดได้ว่าจะเสียชีวิตสุขสบายอย่างในตอนนี้ไป หลี่ต้าเป่าก็อ่อนลงในที่สุด

เขาดิ้น เหมือนกับหมาที่กำลังจะตาย ก่อนจะมาเกาะขาโจวเย่นชิว: “พี่เขย ฉันผิดแล้ว ฉันรู้แล้วว่าฉันผิด……อย่าหย่ากับพี่สาวฉันเลยนะ”

โจวเย่นชิวมีท่าทีเย็นชา แต่แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ

เขาทำธุรกิจมาหลายปี ค่อยๆ ขึ้นมาเป็นนักธุรกิจใหญ่

ความเด็ดเดี่ยวนั้น ไม่ใช่แค่ในสนามรบเท่านั้น แต่ในการทำธุรกิจเขาก็มี

เขาพูดเสียงเย็นชา: “ฉันให้คุณ ขอโทษเฉินตงกับท่านหลงก่อน!”

เพล้ง!

เอาขวดแก้วที่แตกไปครึ่งหนึ่งโยนลงกับพื้น

ก่อนจะพูดจนทำให้หลี่ต้าเป่าตกใจอย่างแรง

เขาหันกลับมามองเฉินตงกับท่านหลงด้วยท่าทีเย็นชา

ก่อนจะมาคุกเข่าลงตรงหน้าเฉินตงอย่างไม่ลังเลใจ

“เฉินตง ฉันขอโทษ ฉันจะชดใช้ให้คุณ เห็นแก่การร่วมงานที่ผ่านมาของเขาเถอะ ปล่อยฉันไปเถอะ”

หลี่ต้าเป่าร้องห่มร้องไห้ ก่อนจะเอาหัวโขกให้เฉินตงอย่างจับ จนหัวเกิดเสียงปังๆ

เขารู้ ว่าท่านหลงเป็นคนสนับสนุนเฉินตง มาออกหน้าวันนี้ ก็เพื่อเฉินตง

ถ้ายังอยากจะมีชีวิตที่สงบสุข ก็ต้องหวังให้เฉินตงพยักหน้ายกโทษให้

แต่ เฉินตงยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้เฉยๆ ไม่ได้ปรายตามองมา และไม่มองหลี่ต้าเป่าเลยแม้แต่น้อย

ฉากนี้ ถูกท่านหลงกับโจวเย่นชิวมองอยู่

หลี่ต้าเป่ามองเฉินตงด้วยความหมดหวัง ใบหน้ามีเลือดไหล ดูโซซัดโซเซไม่น้อย เลยไม่มีท่าทีทระนงเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว

ก่อนหน้านี้เขามีความสงบสุขในชีวิตมาจนเคยชินแล้ว ถ้าเกิดว่าให้เขาต้องเสียชีวิตแบบนั้นไป มันเหมือนกับฆ่าเขาให้ตายเลยล่ะ

แต่ท่าทีของเฉินตงนั้น กลับทำให้เขารู้สึกสลดมากกว่าเดิม

ปัง!

โจวเย่นชิวเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะเตะเข้าที่ด้านหลังของหลี่ต้าเป่า

หลี่ต้าเป่าร้อง “โอ๊ย” ออกมาด้วยความเจ็บปวด หัวที่ถูกเตะนั้นก็โขกลงกับพื้น

“โขกลงไป!โขกจนกว่าจะตาย!จนกว่าเฉินตงจะยกโทษให้ ไม่อย่างนั้นก็ทำจนกว่าจะตายไปตรงนี้เลย!”

น้ำเสียงของโจวเย่นชิวนั้นเย็นชามาก บนหน้าผากก็มีเม็ดเหงื่อเล็กๆ ซึมออกมา

ในเมืองนี้ เขาเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยและเก่งกาจ เป็นคนใหญ่คนโต

แต่เมื่อเทียบกับท่านหลง เขาไม่มีแม้แต่ปัญญาจะถือรองเท้าให้ท่านหลงเลยด้วยซ้ำ

ไม่อย่างนั้น ก่อนหน้านี้เคยคงไม่สามารถได้ไท่ติ่งมาในเวลาเพียงไม่กี่นาทีหรอก

หลี่ต้าเป่าทำให้เฉินตงลำบากเป็นอย่างมาก วันนี้ถ้าเกิดว่าเฉินตงไม่พยักหน้ายกโทษให้ ท่านหลงคงจะต้องมาลงที่เขาแน่นอน

เมื่อเป็นแบบนี้ สำหรับโจวเย่นชิว มันเหมือนปลาเล็กกินปลาใหญ่ ยังไงคนที่ด้อยกว่าไม่ตายก็ไม่มีทางได้เกิดอีกต่อไปแล้ว

เฉินตงเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะมองโจวเย่นชิวสักพัก

จากนั้น แววตาก็มองไปที่หัวที่กำลังโขกลงพื้นอย่างไม่หยุดเพื่อขอให้ยกโทษให้ของหลี่ต้าเป่า

“ฉันเคยบอกแล้ว ว่าเดี๋ยวจะทำให้คุณต้องร้องไห้เลยล่ะ!”

ในเสียงนั้น มีความไม่แยแสปนอยู่ ทำให้หลี่ต้าเป่าตัวแข็งทื่ออยู่กับพื้น และก้มหัวอยู่แบบนั้น

ตอนแรกที่เขากล้าเย่อหยิ่งใส่เฉินตง ก็เพราะอำนาจในมือของพี่เขยตัวเอง เพราะคิดว่าเฉินตงก็เป็นแค่หมาน้อยที่พลิกมามีบทบาทก็เท่านั้นเอง

แต่ทำไมเขาคิดไม่ถึงเลย ว่าคนที่คอยสนับสนุนเฉินตง แข็งแกร่งมากเสียจนพี่เขยเขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะมีเรื่องด้วย

ถ้าเกิดว่าย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะไม่มีทางหาเรื่องเฉินตง

ปัง!

เฉินตงลุกขึ้น แล้วยกเท้าขึ้นเตะหลี่ต้าเป่ากระเด็น: “ฉันพูดจริงทำจริง เดี๋ยวจะทำให้คุณร้องไห้ ก็จะทำให้ได้ร้องจริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้ากล้ามาก่อเรื่องอีก ฉันก็ยินดีจะทำให้หนักกว่าเดิม”

เขาไม่ได้มีนิสัยอ่อนโยน ในสามปีมานี้ เขาทำเพื่อรักษาแม่ เลยต้องกล้ำกลืนฝืนทนช่วยหลี่ต้าเป่าทำเรื่องไม่ดี หลี่ต้าเป่าเองก็ถือจุดนี้ มาใช้เขาตลอดเวลา

หลังจากซื้อไท่ติ่งแล้ว หลี่ต้าเป่าก็ไปนัดบอดกับหวางหนันหนัน สำหรับเขา มันเป็นความน่าอับอายของเขา

หลังจากถูกเขาแก้แค้น หลี่ต้าเป่าก็ไปก่อเรื่องที่โครงการปรับเปลี่ยนย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง เลยทำให้เกิดเรื่องในคืนนี้

เขาเห็นแก่โจวเย่นชิว เลยจะปล่อยหลี่ต้าเป่าไป แต่ถ้าเกิดเรื่องขึ้นอีก เขาเชื่อ ว่าท่านหลงสามารถทำให้คนหายไปได้ง่ายๆ เลย โดยไม่มีข่าวอะไรใดๆ เลยด้วย

เมื่อได้ยินดังนั้น

โจวเย่นชิวก็ม่านตาหดลง

หลี่ต้าเป่านั้นกลัวจนหัวใจเต้นเร็วเสียมากกว่า

แววตามีประกายของท่านหลง มองมาที่เฉินตงด้วยความชื่นชมและเซอร์ไพรส์

คนคนหนึ่งมีความสามารถ ก็สามารถช่วยเขาเจริญก้าวหน้าได้เร็วขึ้น

แต่นิสัยของคนคนหนึ่ง ถ้าเกิดว่าเป็นคนลังเล ไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาด เกรงว่าจะมีความสามารถมากแต่ไหนก็จะถูกนิสัยแบบนี้ทำให้เสีย

ในสายตาของเขา เฉินตงเป็นคนรับกิจการต่อจากท่านปู่ เป็นเสาหลักของครอบครัวในอนาคต

มีคนบางคนในครอบครัว เป็นพวกหวังแต่ได้อย่างโหดร้ายเท่านั้น

ถ้าเกิดว่าเฉินตงเป็นคนลังเล เกรงว่าจะได้ใจครอบครัวของเขา แล้วโดยบี้จนตายไปเอง

แต่ตอนนี้ การแสดงออกของเฉินตง ทำให้รู้เลยว่าน่าจะเป็นคนสิ่งที่ผู้สืบทอดควรจะมี!

“แน่นอนๆ เฉินตงคุณวางใจเถอะ ฉันจะสั่งสอนหลี่ต้าเป่าให้ดี ถ้ามีครั้งหน้า ฉันจะจัดการเอง” โจวเย่นชิวเกรงกลัวมาก แต่ก็รีบยิ้มตอบ คำพูดของเฉินตงทำให้หินที่อยู่ในใจตกลงพื้นแล้ว

“ประธานโจว คืนนี้ขอบคุณมาก งั้นพวกเราไปก่อนนะ” เฉินตงยิ้มเบาๆ ก่อนจะพาท่านหลงออกไป

โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมออกไปจากโรงแรมไท่ซาน

ตอนที่นั่งอยู่บนรถ เฉินตงพูดกับคนขับว่า: “ไปส่งฉันที่โรงพยาบาลลี่จิง”

สุดท้ายท่านหลงก็อดไม่ได้ที่จะชม: “คุณชาย การตัดสินใจเมื่อสักครู่ มันทำให้ฉันนับถือจริงๆ”

เฉินตงมองออกไปนอกหน้าต่างนิ่งๆ และมองวิวที่กำลังวิ่งถอยหลังไป

จู่ๆ เขาก็ยิ้มขึ้นมา ก่อนจะหันไปมองท่านหลง: “ไม่ว่าจะเป็นใคร ถูกคนว่าเป็นลูกสวะแบบนั้น คงจะไม่มีนิสัยลังเลใจอะไรออกมาหรอก”

ถึงแม้ว่าจะกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขากลับขมขื่นเป็นอย่างมาก แววตาก็มีความไม่สบายใจอยู่ด้วย

ท่านหลงหยุดยิ้มไป เขาเข้าใจความหมายของเฉินตง

คำด่าลูกสวะนั้น มันรวมถึงอะไรได้เยอะมาก ประสบการณ์ตั้งแต่คุณชายเกิดมาจนถึงตอนนี้ ก็ถือเป็นความน้อยอกน้อยใจที่คุณชายมีต่อท่าน

หายใจเข้าลึกๆ ท่านหลงพูดเบาๆ ว่า: “คุณชาย อันที่จริงตอนที่เขายังนั้นก็โดนบังคับเหมือนกัน ปีที่ผ่านๆ มาเขารู้สึกผิดต่อพวกคุณแม่ลูก ตอนนั้นเขา……”

เฉินตงยกนิ้วขึ้น เพื่อบอกให้หยุดพูด

“ฉันไม่อยากฟังอะไรเจ็บปวด ชีวิตคนมันลำบากพอแล้ว ทิ้งลูกทิ้งครอบครัวไป อยากจะชดเชยพันล้านเหรอ?ปลูกฝังฉันมาเป็นคนรับช่วงต่อก็อยากจะชดเชยงั้นเหรอ?ตัวเขาเองที่เอาเลือดเนื้อเชื้อไขไปเป็นของแลกเปลี่ยน ลูกสวะอย่างฉันก็จะเอาครอบครัวของเขามาแลกเปลี่ยนเหมือนกัน”

ท่านหลงส่ายหัว เมื่อได้ยินคำว่าลูกสวะคำนี้ มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าใจถูกเข็มทิ่มแทง

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset