ถังเฉาเพียงชำเลืองมองที่ดวงตาคู่นั้นเพียงครั้งเดียว ทั้งร่างกายก็เย็นซู่
ดวงตาคู่นั้นคือดวงตาแบบไหน?
ไม่มีชีวิตชีวา
ดูเหมือนว่าได้กำจัดอารมณ์ 7 อายตนะ 6 ออกไปแล้ว
เฟิ่งหวงก็เห็นเขาด้วย และตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว “รองหัวหน้า ระวัง!”
วินาทีต่อมา ร่างของเธอก็หายไปจากที่เดิม
“อย่าไล่!”
ขณะที่ถังเฉาตะโกนประโยคนี้ เฟิ่งหวงก็ไล่ตามมันไปแล้ว
ร่างนั้นก็หายไปในทันที
“ให้ตายเถอะ…”
ถังเฉากัดฟันและหันกลับมาพูดกับเหวินเฉี่ยวหรู”คุณน้าเหวิน รบกวนคุณไปช่วยหลินฉ่ายเวยออกมาหน่อย เดี๋ยวผมกลับมา!”
เหวินเฉี่ยวหรูพยักหน้าด้วยความรู้สึกหวาดกลัวที่ยังไม่หาย และวิ่งลงจากภูเขาโดยไม่คำนึงถึงเหวินเหรินวี่ที่เพิ่งเสียชีวิตไป
ในขณะนี้ ในส่วนลึกของภูเขาเจียงหยวน ร่างสองร่างกำลังไล่ตามกันอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของเฟิ่งหวงเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด แต่ก็ยังไล่ตามเงานั้นไม่ได้
ทันใดนั้น ร่างนั้นก็หยุดลง และหันกลับมามองเธออย่างเย็นชา
ทันใดนั้น เฟิ่งหวงก็ตกใจ ไม่กล้าละเลย และมีมีดสั้นเพิ่มมาในมือของเธอ
แทงไปทางเงาดำด้วยสุดกำลัง
และเงาที่สวมเสื้อคลุมสีดำ ก็เอื้อมมือออกไปแล้วดีดนิ้วเบาๆไปยังมีดสั้นในมือของเฟิ่งหวง
แทร่ง!
นิ้วสัมผัสกับมีด และเมื่อทั้งสองสัมผัสกัน ก็มีลมแรงพัดออกมาจากทั่วทุกทิศ
มีดของเฟิ่งหวงก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆด้วย
ในเวลานี้ ความสยดสยองปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฟิ่งหวง
เธอใช้กำลังทั้งหมดของเธอในการโจมตี ส่วนคู่ต่อสู้ทำลายการโจมตีของเธอด้วยนิ้วเดียว
แสดงให้เห็นว่า กำลังของอีกฝ่ายเหนือกว่าเธอมาก!
“คุณคือใครกันแน่!”
เฟิ่งหวงสงบลงในเวลานี้ และถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เงาดำไม่ตอบ แต่กระโดดขึ้นและปรากฏเหนือหัวของเฟิ่งหวง
ฮู้ๆๆ!
เสื้อคลุมที่อยู่ข้างหลังเขากางออกเหมือนครุฑสยายปีก มันดูราวกับค้างคาวที่น่ากลัวและดุร้าย
รูม่านตาของเฟิ่งหวงหดเล็กลงและอุทานออกมาว่า “คือคุณ!”
เธอคุ้นเคยกับรูปลักษณ์นี้มาก!
เมื่อเธอกำลังจะฆ่าหลินโป๋หลายในลานบ้านของตระกูลซ่ง ก็ถูกคนที่ยืนคว่ำใต้ชายคาและดูเหมือนผู้ชายได้ช่วยเขาไป
ก็คือผู้ชายตรงหน้าคนนี้!
ชายค้างคาวปรากฏตัวขึ้นเหนือเธอ ดวงตาคู่นั้นจ้องมาที่เธออย่างเย็นชา
ภายใต้การจ้องมองดังกล่าว เฟิ่งหวงกลับไม่สามารถปลูกแรงในการต่อสู้ออกมาได้เลย
พลังการต่อสู้ระหว่างทั้งสองมีความแตกต่างกันมากเกินไป
แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ นั่งนิ่งรอตายไม่ได้
เฟิ่งหวงกัดฟันอย่างดุดัน และทำได้แค่ใช้มือเปล่าของเธอ
ชายค้างคาวเปลี่ยนหมัดเป็นกรงเล็บแล้ว คว้าออกไปสุดแรง
ซ่า!
ด้านหลังของเฟิ่งหวงถูกขูดอย่างแรง และแจ็คเก็ตหนังรัดรูปสีดำก็กลายเป็นเศษผ้าที่ฉีดเป็นชิ้น ลอยออกไปกลางอากาศ
หลังของเฟิ่งหวง ก็ถูกขูดจนเละ และเลือดก็ไหลรินลงมา
เธอตกลงมาจากต้นไม้ และล้มลงกับพื้นอย่างแรง
ชายค้างคาวก็ลงมาจากฟากฟ้าและปรากฏตัวข้างเฟิ่งหวง จ้องมองเธออย่างเย็นชา
ดวงตาของเฟิ่งหวงตกตะลึงจนถึงสุดขีด ลากร่างกายที่บาดเจ็บของเธอ ถอยไปข้างหลังเรื่อยๆ
นอกจากรองหัวหน้า เธอไม่เคยพบกับศัตรูที่ทรงพลังเช่นนี้
เธอไม่กล้าที่จะต่อสู้อีกครั้ง
เมื่อก่อนอยู่ในลานตระกูลซ่ง ด้านหนึ่งเพราะเขาต้องปกป้องหลินโป๋หลายด้วย อีกด้านเพราะเขาต้องการจากไป ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ต่อสู้กับเธออย่างจริงจัง
บางที ครั้งนี้เขาก็ไม่ได้ต่อสู้อย่างจริงจัง…
ชายค้างคาวแค่ลงมืออีกเพียงครั้งเดียว ก็สามารถจบชีวิตของเฟิ่งหวงได้แล้ว
แต่เขาไม่ทำ เขาแค่กวาดมองอย่างเย็นชาและจากไป
สายตาสุดท้ายทำให้เฟิ่งหวงรู้สึกอธิบายไม่ถูก เหมือนกับมองดูพวกเดียวกัน
“เฟิ่งหวง!”
ในเวลานี้ เสียงของถังเฉาดังมาจากด้านหลัง
เมื่อถังเฉามาถึง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก เมื่อเห็นเฟิ่งหวงมีเลือดไหลออกมาจากหลังไม่หยุด
“คุณเป็นอย่างไร?”
ถังเฉานั่งยองๆ
เฟิ่งหวงกัดฟันและกล่าวว่า “รองหัวหน้า คนนี้คือชายค้างคาวที่เราเคยเจอในลานบ้านของตระกูลซ่งในตอนนั้น เขาแข็งแกร่งมาก!”
ถังเฉาส่ายหัว”อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้ ออกจากที่นี่ก่อน”
เขาพยุงเฟิ่งหวงให้ลุกขึ้น และเมื่อเขาเห็นบาดแผลที่หลังของเฟิ่งหวง แสงอันแหลมคมก็แวบเข้ามาในดวงตาของเขา
เลือดของเฟิ่งหวง ถึงแม้จะเป็นสีแดงก็ตาม
แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่าเป็นสีแดงเข้ม
ก่อนหน้านี้เจียงไป๋เสว่ถูกโจมตีโดยคนของ”หว่างเหลี่ยง” ในเมืองเจียงเฉิง เลือดก็ไหลไปตลอดทาง
สีเลือดก็เป็นสีแดงเข้ม
แค่ไม่ได้อ่อนเหมือนของเฟิ่งหวง
หลังจากสังเกตเห็นสายตาของถังเฉาแล้ว เฟิ่งหวงก็ถามอย่างแปลกใจว่า “รองหัวหน้า เกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่มีอะไร”
ถังเฉาถอนสายตากลับมาอย่างไร้ร่องรอย และกล่าวจางๆ
ถังเฉาพาเฟิ่งหวงลงมาจากภูเขา
ในเวลานี้ เหวินเฉี่ยวหรูได้ช่วยหลินฉ่ายเวยออกมาแล้ว และทั้งสองก็กอดกันและร้องไห้
เมื่อเห็นถังเฉา ดวงตาของหลินฉ่ายเวยก็ร้องไห้จนบวม
“ถังเฉา ฉันขอโทษ…”
เธอขอโทษอย่างสุดแรง
ถังเฉากลับส่ายหัว “ไม่มีอะไรต้องขอโทษ สองสามวันนี้คุณไม่ต้องไปทำงานแล้ว พักผ่อนอยู่บ้านเถอะ”
สองชั่วโมงที่ถูกนำตัวไปที่โกดังร้าง เป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตของหลินฉ่ายเวย
หลินฉ่ายเวยกัดริมฝีปากแน่น รวบรวมความกล้าและพูดกับถังเฉา”คุณเข้าใจผิดว่าฉันหมายถึงอะไร ที่ฉันขอโทษ คือฉันหมายถึงเรื่องที่ฉันไม่สะอาดแล้ว… “
ถังเฉาผงะ จึงเห็นว่าก่อนหน้านี้หลินฉ่ายเวยร้องไห้เสียใจมาก และน้ำตายังคงไหลอยู่ในดวงตาของเธอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อนึกถึงถังเฉาได้เห็นทุกขั้นตอน หลินฉ่ายเวยก็อยากตายมาก
ถังเฉาพูดจางๆ “ไม่เป็นไร”
ท่าทีที่สงบเช่นนี้ ทำให้หลินฉ่ายเวยอยากจะร้องไห้อีกครั้ง
แต่หลังจากคิดดูอีกครั้ง ครั้งแรกของเธอก็ได้มอบให้กับเหวินเหวยเฉิน
ตอนนั้นก็สกปรกแล้ว คราวนี้ ต่างอะไรล่ะ?
เมื่อคิดถึงตอนนี้ หลินฉ่ายเวยก็ถอนหายใจเบาๆ
ในเวลานี้ เธอรู้สึกด้อยค่ากว่าเดิม เมื่อเผชิญหน้ากับถังเฉา
หลังจากส่งเฟิ่งหวงไปพักฟื้นที่พักอาศัยของเธอ ถังเฉาก็จากไป
เดิมทีเขาต้องการพันผ้าพันแผลให้เฟิ่งหวง แต่ถูกปฏิเสธ
คืนนั้น ถังเฉาโทรหาหงโฝ
“เจ้านาย”
จากเสียงที่ทุ้มต่ำของถังเฉา หงโฝรู้สึกว่าดูเหมือนถังเฉาจะอารมณ์ไม่ค่อยดี
ถังเฉาถามอย่างเฉยเมย “คุณมาจากองค์กรนักฆ่า คุณมีงานวิจัยอะไรเกี่ยวกับลักษณะพิเศษของนักฆ่าในองค์กร?”
เมื่อพูดถึงองค์กร หงโฝดูกลัวเล็กน้อย แต่เธอก็ยังจำได้ว่า “หว่างเหลี่ยงเป็นองค์กรทางวิทยาศาสตร์ที่ลึกลับมาก มีองค์กรนักฆ่าหลายแห่งภายใต้ชื่อของมัน ฉันกับพี่เฟิ่งหวงอยู่ในองค์กรนักฆ่าเดียวกัน ถ้าจะพูดเกี่ยวกับคุณลักษณะพิเศษ นั่นคือ นักฆ่าจำนวนมากจะผ่านการทดลองแปลงร่างเพื่อที่จะทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น”
“การทดลองแปลงร่าง?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังเฉาก็ชะงักไปชั่วครู่และถามว่า “หมายความว่าอย่างไร?”
ข่าวสารเช่นนี้ แม้แต่หน่วยสืบราชการลับของประเทศก็หาได้ยาก และสืบได้เฉพาะคนในองค์กรเท่านั้น
หงโฝกล่าวต่อ “หว่างเหลี่ยงเป็นผู้สนับสนุนเรื่องทุนทรัพย์ขององค์กรนักฆ่าหลายแห่ง ฉันไม่ค่อยรู้ดีนัก แต่พวกเขาอยู่กันมานาน”
ถังเฉาเข้าใจในทันที
การทดลองทางวิทยาศาสตร์ มักต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
กล่าวอีกนัยหนึ่ง องค์กร “หว่างเหลี่ยง” ที่เขารู้จักตอนนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภูเขาน้ำแข็งทั้งลูกเท่านั้น กล่าวคือเขารู้จักแค่นิดเดียวเท่านั้น
เนื่องจากรวย จึงสามารถรวบรวมองค์กรนักฆ่าทุกประเภทได้
ถังเฉาก็ถามขึ้นทันทีว่า “นักฆ่าที่แปลงร่างแล้ว แตกต่างจากมนุษย์อย่างไร?”
หงโฝคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “โดยทั่วไปแล้วเขายังเป็นมนุษย์อยู่ แต่มีธาตุโลหะจำนวนมากปะปนอยู่ในร่างกาย สีของเลือดจะคล้ายกับสีสนิม แต่ฉันยังไม่ได้ทำการทดลองดัดแปลง มันน่ากลัวเกินไป!”
หลังจากวางสาย ถังเฉาก็เงียบไปนาน
“เฟิ่งหวง เคยผ่านการแปลงร่างมาก่อนหรือไม่…”