เมื่อได้ยินข่าวบริษัทตระกูลซ่งถอนตัวจากโครงการของสำนักงานการก่อสร้างแล้ว หลินฉ่ายเวยก็หน้าซีด
จุดจบแบบนี้ เธอคาดการณ์ไว้ตั้งนานแล้ว เพียงแต่ไม่คิดว่ามันจะมาเร็วขนาดนี้
ทุกอย่าง เป็นเพราะเธอหลงเชื่อซ่งหรูอี้ ช่วยเธอจัดการเรื่องที่เล็กมากเรื่องหนึ่ง
“หัวหน้าค่ะ เป็นอะไรไป?ทำไมสีหน้าดูไม่ดีขนาดนี้? ”
แผนกการค้าระหว่างประเทศ พนักงานหญิงคนหนึ่งถามอย่างเป็นห่วง
หลินฉ่ายเวยตกใจ รีบส่ายหน้า “ไม่ ไม่มีอะไร……”
หลังจากที่ให้ทุกคนออกไป สีหน้าของเธอยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่
ถังเฉา ช่วยเธอให้ได้ตำแหน่งหัวหน้าตำแหน่งนี้
เดาได้ไม่ยาก ต่อไปเพียงแค่เธอโดดเด่น เลื่อนตำแหน่งให้เธอขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นเรื่องที่แน่นอน
แต่ตอนนี้ เธอกลับทำเรื่องแบบนี้
หลินฉ่ายเวย เป็นทุกข์อย่างที่สุด และกลัวมากว่าเรื่องจะถูกเปิดโปงออกมา
อีกฝั่ง ถังเฉาอยู่ที่ห้องทำงานของหลินชิงเสว่ กดเบอร์โทรหาซ่งหรูอี้
“หมายความว่าไง?”
สีหน้าของเขาบูดบึ้งสุดๆ แล้วถามด้วยเสียงเบา
ซ่งหรูอี้หัวเราะเหอะๆ “ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ จู่ๆฉันไม่อยากทำโครงการของสำนักงานการก่อสร้างแล้ว ให้บริษัทลี่จิงกรุ๊ปทำฝ่ายเดียวก็แล้วกัน”
ถังเฉาเยือกเย็น แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คุณน่าจะรู้ดี ว่าถอนตัวตอนนี้ จะเสียหายต่อบริษัทลี่จิงกรุ๊ปมากขนาดไหน”
ซ่งหรูอี้เงียบอยู่นาน น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเย็นชา “แล้วไง?”
“เมื่อสามวันก่อนฉันเตือนพวกคุณแล้ว ว่าพวกเราเปิดศึกกันอย่างเป็นทางการ ฉันจะใช้เล่ห์กลอะไร มันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน!”
“คุณทำแบบนี้ บริษัทตระกูลซ่งก็เสียหายหนัก สำนักงานการก่อสร้าง ไม่ได้หลอกง่ายขนาดนั้น”
ถังเฉากล่าวอย่างสงบ
“ฉันไม่สน”
ซ่งหรูอี้กล่าวอย่างเย็นชา “”ในสายตาของคุณ ฉันเป็นคนที่ลังเลกับเรื่องเล็กๆแบบนี้เหรอ?ฉันอยากทำอะไร ก็จะต้องทำให้ได้ ไม่สนขั้นตอน สนแค่ผลลัพธ์เท่านั้น
“ซ่งหรูอี้ คุณนี้บ้าจริงๆ!”
เสียงของถังเฉาเยือกเย็นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“คุณไม่ได้เพิ่งรู้จักฉัน ยังไงในสายตาของคุณ ฉันก็เป็นหญิงโหดเหี้ยมที่ทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมฉันไม่ทำภาพลักษณ์นี้ให้มันเป็นความจริงเสียเลยล่ะ?”
เสียงของซ่งหรูอี้เต็มไปด้วยความโกรธ ถังเฉากลับรับรู้ถึงความเศร้าโศก
“เราเคยร่วมชายคาเดียวกัน แต่คุณ ไม่เคยรู้เลยว่าฉันต้องการอะไร!”
ตู้ดๆๆ……
ซ่งหรูอี้วางสายไป แต่ถังเฉายังคงจับมือถือ แล้วยืนนิ่ง
“เธอพูดอะไร?” หลินชิงเสว่ถาม
ถังเฉาเล่าคำพูดของเธอให้ฟัง หลินชิงเสว่ก็ถอนหายใจ
“ในเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่ต้องคิดที่จะตำหนิเธอ จะจัดการอย่างไรต่อไปสิเรื่องหลัก”
ถังเฉานิ่งเงียบไม่พูดอะไร
เขาไม่เข้าใจจริงๆเหรอ?
เมื่อนานมาแล้วในการพูดคุยตอนกลางคืน ตอนที่ซ่งหรูอี้พูดว่า‘ขมิ้นกับปูนเข้ากันไม่ได้’ เขาก็รู้ความในใจของซ่งหรูอี้แล้ว
เพียงแต่ บางคน ถูกกำหนดให้เป็นได้แค่ศัตรูกันเท่านั้น
แววตาของถังเฉาเปลี่ยนไปดุดันขึ้น แล้วพูดกับหลี่ถาวว่า “เรียกหลินฉ่ายเวยมา”
“ค่ะ”
ไม่นาน หลินฉ่ายเวยตัวสั่นมาต่อหน้าของถังเฉาและหลินชิงเสว่
เธอไม่กล้าสบตาถังเฉาโดยตรง เพราะร้อนตัวสุดๆแล้ว
“คนที่ติดต่อกับบริษัทตระกูลซ่งคือคุณ ตอนนี้บริษัทเจอปัญหาใหญ่ขนาดนี้ คุณไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเหรอ?”
ถังเฉาพูดเสียงโทนต่ำ จ้องไปยังหลินฉ่ายเวย แล้วถาม
“ฉัน……”
สีหน้าของหลินฉ่ายเวยแย่ลง อ้าปากขึ้น แต่กลับไม่พูดอะไร
หลินชิงเสว่หน้าตาอบอุ่นขึ้น แล้วกล่าวอย่างจริงจัง “ฉ่ายเวย พูดมาตรงๆ พวกเราไม่มีทางโทษคุณค่ะ”
หลินฉ่ายเวยร้อนรนมากขึ้น ในใจตื่นตระหนกไม่สงบ
ตอนนี้ เธอก็เสียใจเช่นกัน
ปุก!
ทันใดนั้นเธอก็คุกเข่าต่อหน้าถังเฉาและหลินชิงเสว่ แล้วร้องไห้ออกมา
“ฉันทำผิดต่อพวกคุณ!”
“คุณทำอะไรกันแน่?”
ถังเฉาสีหน้าเกรี้ยวกราด
หลินฉ่ายเวยน้ำตาไหลออกมา “ก่อนหน้านี้ซ่งหรูอี้มาหาฉัน เธอบอกว่าพวกคุณจะต้องหย่ากันแน่นอน แล้วยังบอกฉัน ว่าพอพวกคุณหย่ากันแล้ว ฉันก็จะได้ขึ้นแทนที่……”
เมื่อได้ยินดังนี้ ถังเฉาและหลินชิงเสว่ก็หน้าถอดสี
“เธอให้คุณทำอะไร?”
หลินฉ่ายเวยสีหน้าหมดอาลัยตายอยาก กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้น “ฉันบอกข้อมูลของบริษัทให้เธอฟัง……”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินฉ่ายเวย ถังเฉาและหลินชิงเสว่ก็รู้แล้วว่าปัญหาจะต้องเป็นไปในทิศทางที่แย่ที่สุดแล้ว
ปัง!
ในขณะเดียวกันนี้ หลี่ถาวรีบเดินเข้ามา พูดกับหลินชิงเสว่ว่า “ประธานหลิน ไม่ได้การแล้วค่ะ บริษัทโรงงานที่ตกลงจะช่วยเหลือโครงการของสำนักงานการก่อสร้างของเรา ประกาศถอนตัวจากการร่วมมือกันทั้งหมดเลยค่ะ!”
“โรงงานพวกนี้ ล้วนเป็นโรงงานที่บริษัทตระกูลซ่งหามาทั้งนั้น”
“ตอนนี้ ประธานซือของสำนักงานการก่อสร้างได้มาถึงแล้วค่ะ!”
สีหน้าของถังเฉายิ่งอยู่ยิ่งบูดบึ้งขึ้นเรื่อยๆ หลินชิงเสว่ก็สับสนวุ่นวาย
และแล้วพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าซ่งหรูอี้จัดการกับพวกเขาได้อย่างไร
เธอรู้จุดอ่อนของหลินฉ่ายเวย แฝงตัวเข้าไป หลังจากที่ได้ความลับของบริษัทลี่จิงกรุ๊ปแล้ว ก็เริ่มปฏิบัติการแผนถัดไป
บริษัทที่ตกลงร่วมมือกัน ต่างพากันถอนตัว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป โครงการของสำนักงานการก่อสร้างที่ใหญ่โต ก็จะเหลือเพียงลี่จิงกรุ๊ปที่สนับสนุนอยู่ฝ่ายเดียวแล้ว
“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ!”
หลินฉ่ายเวยน้ำตาไหลมาเป็นสาย ร้องไห้จะสะอึกสะอื้น
ถังเฉาและหลินชิงเสว่กลับไม่ได้ใส่ใจเธอ แล้วรีบไปหาซือเหวินปินของสำนักงานการก่อสร้าง
เห็นเพียงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดของเขา “ประธานหลิน ผมผิดหวังในตัวพวกคุณมากจริงๆ ผมหวังดีเอาโครงการของสำนักงานการก่อสร้างให้คุณรับผิดชอบ แค่คุณ กลับทำให้มันกลายเป็นแบบนี้!”
“ทั้งหมดนี้ทำเพื่อประชาชน เพื่อเมืองหมิงจู แต่คุณกลับ……เฮ้อ เรื่องนี้ คุณจะพูดกับประชาชนทั่วไปยังไง?”
เสียงทางการแบบนี้ ถังเฉารู้แล้ว ว่าจะจัดการบริษัทลี่จิงกรุ๊ปแล้ว
หลินชิงเสว่สีหน้าร้อนรน “ประธานซือ ถ้าบริษัทลี่จิงกรุ๊ปของเราทำผิด ฉันจะไม่เถียงเลยค่ะ แต่ตระกูลซ่งเป็นคนผิดสัญญาก่อน พวกเราก็เป็นผู้เสียหายเช่นกันค่ะ!”
“ไม่ต้องพูดแล้ว”
ซือเหวินปินโบกมือ มองไปที่หลินชิงเสว่อย่างเย็นชา “ถึงแม้ตระกูลซ่งจะมีส่วนผิด แต่คนที่เซ็นสัญญา เป็นชื่อของคุณ และมีตราประทับของลี่จิงกรุ๊ปของคุณ คนที่ต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย คือคุณ!”
หลินชิงเสว่หน้าซีดทันใด สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าว “งั้นคุณว่ามา จะเอายังไงคะ?”
สถานการณ์แบบนี้ เธอก็ทำอะไรไม่ได้
ซือเหวินปินดูแคลนแล้วกล่าว “ลี่จิงกรุ๊ปรับโครงการของสำนักงานการก่อสร้างไป แต่กลับกลับคำ ทำผิดกฎ ทำให้ผมเสียหายมหาศาล โครงการแม่น้ำหมิงจูล่ม คุณต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด!”
“ให้ลี่จิงกรุ๊ปมารับโทษแทนเถอะ”
ซือเหวินปินจากไปแล้ว แต่คำพูดของเขา ยังคงวนเวียนอยู่ในหู
หลินชิงเสว่กัดฟัน ตัวสั่นอย่างรุนแรง เหมือนกับวิญญาณออกจากร่างก็มิปราณ แล้วเดินไปที่ห้องทำงานของประธาน
“ชิงเสว่……”
ถังเฉารู้สึกไม่สบายใจ จึงรีบเดินตามไป
ปัง!
ประตูห้องทำงานประธาน ถูกปิดอย่างแรง
เธอกำลังกดเสียงร้องของตัวเองไว้ แต่ ถังเฉาที่ยืนอยู่นอกประตูยังคงได้ยินมัน
“ชิงเสว่ คุรเปิดประตูเถอะนะ มีอะไรเราเผชิญหน้าด้วยกัน!”
ถังเฉารึบเคาะประตู หลี่ถาวถือกุญแจสำรองมา แต่กลับพบว่าประตูใส่กลอนไว้
“ประธานหลินล่ะ?”
ฟางหย่าก็รีบวิ่งเข้ามา ด้วยสีหน้าร้อนรน
หลินฉ่ายเวยที่อยู่หลังสุดของฝูงชน มองไปด้านหน้า กลับสบตาเข้ากลับแววตาอันเลือดเย็นของถังเฉา จึงได้รีบก้มหน้าลงไป
ปัง!
ขณะนี้ ประตูของห้องประธานเปิดออก
หลินชิงเสว่ยืนที่ประตูด้วยตาแดงก่ำ
“ชิงเสว่……”
ถังเฉากำลังจะเข้าไป เห็นหลินชิงเสว่แสยะยิ้มออกมา
“ทุกท่าน ฉันเอง ฉันทำผิดต่อพวกคุณ”
เธอคำนับให้กับทุกคน
ทันใดนั้น ทุกคนก็ชะงักไป
การคำนับนี้ ใช้เวลาไปหนึ่งนาทีเต็มๆ แล้วหลินชิงเสว่จึงได้เงยขึ้นมา
จากนั้น มองไปที่หลี่ถาว “ไปทำคำร้องขอเงินชดเชยมาก้อนหนึ่ง แล้วประกาศล้มละลาย”