“พ่อ!”
“เจ้าตระกูล!”
เหวินหนานเฉิงนั่งลงกับพื้นหญ้าอย่างหมดสภาพ สองมือกุมหน้าอก หายใจไม่เป็นจังหวะ
ลูกหลานสายตรงของบ้านเหวินทั้งหมดหน้าเปลี่ยนสี ช่วยกันเข้ามาพยุงเหวินหนานเฉิงที่รับการโจมตีไม่ไหวนี่
เหวินเฉี่ยวหรูตะลึงอ้าปากค้าง ความซวยเข้ามาเร็วมากเกินไป เวลาแค่นี้เธอเองก็ยังไม่ได้สติเลย
วินาทีต่อมา เธอหมุนหัวควับ หันไปมองถังเฉาบนเวที
ก่อนนี้ที่เธอเสนอให้ใช้สาวใช้สลับตัวกับหลินฉ่ายเวยแต่งงานแทน แต่กลับโดนถังเฉาปฏิเสธ ตอนนั้นเธอยังสงสัยว่าถังเฉาแค่คนเดียวจะใช้วิธีไหนช่วยหลินฉ่ายเวย
ตอนนี้ดูแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องใช้แผนเลย เพราะเขามีอำนาจมากพอจะทำลายบ้านเหวิน
“เขาเป็นใครกันแน่…”
ไม่เพียงคนบ้านเหวินเท่านั้นที่ตะลึง อำนาจอื่นในงานก็พากันใจกระตุก สีหน้าหวาดกลัว
บ้านเหวินโดนเล่นงานหนักงานนี้ มันบังเอิญหรอ?
ทุกคนที่อยู่ที่นี่เป็นพวกไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกลกันทั้งนั้น ไม่มีใครไร้เดียงสาพอที่จะคิดว่า เป็นแคการขัดแย้งทางธุรกิจหรอก
แต่เป็นการแก้แค้น!
ถังเฉาสีหน้าเย็นชา สายตาที่จับจ้องมองบ้านเหวินเหมือนมองดูซากศพเท่านั้น
พวกเขาคิดว่าแบ็คของตนคือหลินชิงเสว่ แต่กลับไม่รู้เลยว่า ตัวเขาเองนี่แหละที่เป็นแบ็คใหญ่ที่สุด
ซ่งหมิงเวยแอบบ่นในใจ ยิ่งคิดยิ่งดีใจที่ตอนแรกตนยอมศิโรราบให้ถังเฉา
ห้าปีก่อนซ่งหรูอี้ลูกผู้พี่ของเขาเคยประกาศคำพูดอหังการ์ออกมาคำหนึ่งว่า
ใครตามฉันอยู่ ใครขวางฉันตาย!
ตอนนี้ดูแล้ว ถังเฉาเหมาะกับคำพูดนี้มากกว่า—ญาติสนิทมิตรสหายทั้งหมดของถังเฉา รวมถึงลูกน้องต่างมีชีวิตที่ดี ส่วนศัตรูของถังเฉากลับตายอย่างอนาถ!
“อย่าร้อนรน ประธานบริษัทที่ร่วมงานทั้งหมดอยู่ที่นี่หมดแล้ว ไปถามให้แน่ชัดสิ!”
เหวินหนานเฉิงไม่ได้ร้อนรนเลิกลั่กไปเพราะเหตุนี้ ไม่นานเขาก็สงบจิตใจได้และสั่งการลงไป
งานแต่งเหวินเหวินเฉิน บ้านเหวินก็เชิญบริษัทที่ร่วมธุรกิจคู่ค้าทั้งหมดมาร่วมงานนี้ด้วย ประธานบริษัทที่เคยเซ็นสัญญาไปก่อนหน้านี้ได้รับเชิญหมดแล้ว
เหวินหนานเฉิงกับเหวินเหวยเฉินพาคนจำนวนมากมายืนหน้าประธานพวกนั้น
“ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ล้วนเคยดื่มกับผมเหวินหนานเฉิงมาทั้งนั้น จะเรียกว่าเป็นพี่น้องก็ไม่แปลก บ้านเหวินของผมทำอะไรให้ทุกท่านไม่พอใจหรือ?” เหวินหนานเฉิงถามสีหน้าเย็นชา
“ไม่ได้ทำหรอก” ประธานแต่ละคนส่ายหัวรัวๆ
“งั้นทำไมจู่ๆถึงถอนเงินลงทุน ทำให้บ้านเหวินของผมเข้าสู่สถานการณ์คับขันเช่นนี้!” เหวินหนานเฉิงตะคอกดัง
ประธานแต่ละคนยิ้มเย็นพูดอย่างไม่แคร์ว่า “คำถามนี้คงต้องถามคุณเองแล้วล่ะ ลองคิดดูสิว่าไปเตะตาปลาใครหรือทำให้คนใหญ่คนโตคนไหนที่ไม่ควรแตะต้องได้ไม่พอใจหรือเปล่า”
“คนใหญ่คนโตที่ไม่ควรแตะต้อง?”
เหวินหนานเฉิงและเหวินเหวยเฉินสบตากันหนึ่งที เพื่อเข้าสู่ตลาดหมิงจู พวกเขาลดเกียรติ์และศักดิ์ศรีลงมาเยอะมาก จะไปเตะตาปลาใครได้ยังไงกัน?
ถ้าจะมีจริงๆ ก็คือถังเฉาที่โดนบ้านหลินไล่ออกไป และตอนนี้คิดจะชิงตัวเจ้าสาวนั่นล่ะ
แต่ว่า ต่อให้ถังเฉาแต่งงานกับหลินชิงเสว่จริง แค่ลี่จิงกรุ๊ปทำอะไรพวกเขาไม่ได้หรอกมั้ง?
ในตอนนี้เอง หูอีซานและเจิงเทียนเสียงพาคนของสมาคมการค้าหงยิงจำนวนมากเดินเข้ามา
อำนาจทั้งหมดในหมิงจูมองกันตาถลน ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คนสมาคมการค้าหงยิงมากันมากขนาดนี้ จะมาทำอะไรกัน?
“เหวินหนานเฉิง ลูกชายนายแต่งงานทั้งที ผมแวะมาดื่มเหล้ามงคลซักแก้วคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”
หูอีซานเทเหล้าให้ตัวเองหนึ่งแก้ว พูดเสียงเย็น
“หูอีซาน แกนี่เอง!”
เหวินหนานเฉิงเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ สายตามาดร้ายพุ่งไปที่หูอีซานพลางตะคอกเสียงดัง
หูอีซานหัวเราะร่วน “นายคิดมากไปแล้ว ผมไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอก!”
เหวินหนานเฉิงขมวดคิ้วหนักขึ้น เขาพูดไม่ผิด ถึงหูอีซานจะเป็นคนรวยอันดับต้นของหมิงจู แต่ในสมาคมการค้าหงยิง ก็เป็นแค่สมาชิกระดับต้น ส่วนเขาเหวินหนานเฉิงกำลังจะได้เลื่อนขึ้นเป็นสมาชิกระดับกลางอยู่แล้ว
ด้านตำแหน่ง หูอีซานเทียบชั้นตนไม่ได้เลย
“งั้นจะเป็นใครล่ะ?”
เขาบ่นพึมพำ เดิมเขาคิดว่าคนใหญ่คนโตเบื้องหลังบ้านหลินคือหูอีซาน ตอนนี้ดูแล้วไม่น่าใช่
“คุณถัง คุณหนูหลิน!”
ในตอนนี้เอง หลัวปู้มายืนอยู่หน้าถังเฉาและหลินชิงเสว่ เอ่ยทักทายอย่างนอบน้อม
เหวินหนานเฉิงเห็นดังนั้น สีหน้าเปลี่ยนสีทันที ผู้รับผิดชอบสมาคมการค้าหงยิงมาเยือนด้วยตัวเอง!
ตอนจะเข้าไปทักทาย ก็เห็นถังเฉาลูบหัวลูกสาวตนพลางว่า “เสี่ยวลี้ สวัสดีคุณปู่หลัวสิ”
“ปีนี้ผมพึ่งจะห้าสิบ—“
หลัวปู้พูดด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ ตอนกำลังจะอธิบาย ถังเสี่ยวลี้ก็เอ่ยทักทายอย่างว่าง่ายแล้ว “คุณปู่หลัวสวัสดีค่ะ!”
“….จ้ะ!”
หลัวปู้ได้แต่รับคำ แต่พอเห็นท่าทางน่ารักว่างานของถังเสี่ยวลี้แล้ว เขาก็พอใจไม่น้อย
เหวินหนานเฉิงเบิกตาค้างมองภาพนั้น ผู้รับผิดชอบสนิทกับถังเฉาขนาดนี้ ต้องรู้ไว้นะ เขาเป็นสมาชิกสมาคมการค้าหงยิงแท้ๆ หลัวปู้ยังไม่เคยมีรอยยิ้มให้เขาเลย!
“ต้องเป็นเพราะหลินชิงเสว่แน่!”
เหวินหนานเฉิงคาดเดาในใจ เขารู้เรื่องภายในนิดหน่อย ประธานหลัวชื่นชมความสามารถของหลินชิงเสว่มาก ถึงขนาดเคบเชิญเธอให้เข้าร่วมสมาคมการค้าหงยิง แต่โดนปฏิเสธไป
ไม่ว่ายังไง ตอนนี้มีเพียงหลัวปู้เท่านั้นที่ช่วยบ้านเหวินได้
“ประธานหลัว!”
เหวินหนานเฉิงรีบวิ่งไปหน้าหลัวปู้ เรียกอย่างเคารพ
“มีอะไรหรอ?”
หลัวปู้ชอบถังเสี่ยวลี้มาก ระหว่างเล่นกับเด็กอยู่ ก็โดนเหวินหนานเฉิงมารบกวน สีหน้าเขาเลยบ่งบอกความไม่พอใจมาก
“ประธานหลัว หูอีซานไม่ทำตามกฎสัญญาสมาคมการค้าหงยิง เขาพลิกลิ้น”
เหวินหนานเฉิงชี้ไปที่หูอีซาน พลางกัดฟันบอก
หูอีซานไม่แก้ตัวเลย เขาดื่มเหล้าอย่างสบายอารมณ์ ท่าทีกะรอดูละครเต็มที่
“หืม? ไม่รักษากฎสมาคมการค้าหงยิงยังไง? แล้วพลิกลิ้นยังไงล่ะ?”
สายตาหลัวปู้เย็นชา พลางถามเสียงเรียบ
“เขาไม่เพียงคบค้ากับคนนอก ยับยั้งไม่ให้ผมเข้าตลาดหมิงจู ยังหลอกผมอีก เซ็นสัญญาไปแล้วแท้ๆ โครงการเริ่มดำเนินการไปแล้วด้วย กลับถอนเงินลงทุนกระทันหัน!”
“ผมอนุญาตเองแหละ มีปัญหาไหม?” หลัวปู้บอกเสียงเย็นชา
“ว่าไงนะ?!”
พอคำนี้ออกมา ไม่เพียงเหวินหนานเฉิงใจกระตุกวูบ เหวินเหวยเฉินและคนบ้านเหวินคนอื่นพากันตะลึงอ้าปากค้าง เหมือนจะสูญเสียความสามารถในการพูดไปดื้อๆ พวกเขาพูดอะไรไม่ออกเลย
“ผมมาเพราะเรื่องนี้แหละ”
ออร่าบนตัวหลัวปู้แรงกล้าตามแบบฉบับผู้เหนือกว่า เขาชะงักก่อนพูดกับเหวินหนานเฉิงเสียงเย็นชาว่า “ตอนนี้ผมจะแจ้งคุณอย่างเป็นทางการว่า ยกเลิกฐานะสมาชิกสมาคมการค้าหงยิงของคุณอย่างเป็นทางการ และยึดธุรกิจทั้งหมดรวมถึงบริษัที่อยู่ภายใต้ชื่อบ้านเหวินด้วย!”
บรึ้ม—
วินาศกรรมครั้งใหญ่มาถึงตรงหน้าแล้ว
เหวินหนานเฉิงเบิกตากว้าง สายตาจับจ้องหลัวปู้อย่างตะลึง เหวินเหวยเฉินเองก็ตัวสั่นเทา สีหน้าซีดเผือด สิ้นหวังถึงขีดสุด
ผ่านไปสักพัก เหวินหนานเฉิงฝืนยิ้มออกมาพูดกับหลัวปู้ว่า “ประธานหลัว คุณอย่าล้อเล่นสิ ธุรกิจส่วนใหญ่ของบ้านเหวินผมน่ะทางสมาคมสนับสนุนทั้งนั้น ถ้ายึดไปแล้ว ยกให้ผมดูแลได้ไหม?”
“นายดูท่าทีฉันเหมือนกำลังล้อเล่นอยู่หรือไง?”
หลัวปู้ยิ้มเย็นพลางว่า “ธุรกิจที่ทางสมาคมให้การสนับสนุนทั้งหมด ยกให้หูอีซานดูแล เขาจะรับตำแหน่งคุณต่อ และเลื่อนขึ้นเป็นสมาชิกระดับกลาง”
คำพูดนี้เท่ากับทำลายความหวังสุดท้ายของเหวินหนานเฉิงโดยสิ้นเชิง เหวินเหวยเฉินก็ตะลึงตาค้าง เขารู้สึกเหมือนใกล้ตายเต็มทีแล้ว
“ยืนดีกับคุณหูด้วยนะครับที่ได้เลื่อนขึ้นเป็นสมาชิกระดับกลาง”
“คุณหู ผมคือเซี่ยหรูหลง จากบ้านเซี่ยเมืองเจียงครับ”
“ผมคือลู่โป๋หาน จากบ้านลู่เมืองเจียงครับ”
“…..”
บรรดาตระกูลดังของเมืองเจียงรีบทยอยกันเข้ามาแสดงความยินดีและทักทายหูอีซานเพื่อกระชับความสัมพันธ์รัวๆ
ไม่มีใครหันไปมองคนบ้านเหวินเลย เพราะพวกเขารู้ดีว่า บ้านเหวินจบสิ้นแล้ว