“บริษัทเทคโนโลยีติ่งยี่?เป็นไปได้ยังไงกัน?”
เมื่อได้ยินคำอุทานของหลินจ้อง หลินฉ่ายแวยและโจวเหม่ยหยูนจึงมองไปที่ตรงนั้นด้วยสายตาที่เหลือเชื่อ
คนกลุ่มนั้นเดินบนพรมแดงที่ลากยาวเข้ามา เพียงมองแค่แวบเดียว สีหน้าของหลินฉ่ายเวยก็ดูตกตะลึง
“บริษัทเทคโนโลยีติ่งยี่เป็นบริษัทชั้นนำในห้าสิบอันดับแรกของเมืองหมิงจู”
ขอบเขตใหญ่กว่าบริษัทลี่จิงเสียอีก จะมาเป็นสปอนเซอร์ให้ได้ยังไงกัน?”
หลินฉ่ายเวยหันศีรษะแล้วมองไปที่ถังเฉาทันที
ถังเฉาอยู่ที่มุมหนึ่งของงานเลี้ยง เอนตัวจิบไวน์ ราวกับว่าเรื่องทั้งหมดนี้นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา
สิ่งนี้ยิ่งทำให้หลินฉ่ายเวยไม่เชื่อเข้าไปอีก ใบหน้าของหล่อนนั้นกระตุกอย่างแรง
“เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้ …ฉันไม่เชื่อ!”
หลินฉ่ายเวยนั้นตะโกนอย่างตกใจ แต่น่าเสียดายที่เสียงดนตรีสดในตอนนี้ทำการต้อนรับดังมากจนไม่มีใครได้ยินหล่อนเลย
โจวเหม่ยหยูนเองก็ได้แต่มองคนของบริษัทเทคโนโลยีติ่งยี่เดินผ่านไปด้วยใบหน้าที่น่าเกลียดเป็นอย่างมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความปวดแสบปวดร้อนราวกับว่ามีใครมาตบอย่างไงอย่างงั้น
ก่อนหน้านี้พวกหล่อนยังล้อเลียนถังเฉาอยู่เลยว่าไม่มีทางที่จะหาสปอนเซอร์มาได้ อยากที่จะเห็นถังเฉาทำตัวโง่ๆออกไป แต่ไม่ทันไรสปอนเซอร์ก็มาซะงั้น
แถมยังเป็นบริษัทชั้นนำห้าสิบอันดับแรกในหมิงจูอีกต่างหาก…..
หลินเจิ้นสงเองก็ได้จ้องมองไปที่กลุ่มคนของบริษัทเทคโนโลยีติ่งยี่ ตนไม่อยากจะเชื่อในสายตาของตัวเอง
สปอนเซอร์ที่แท้ก็คือบริษัทท็อปห้าสิบอันดับแรก บริษัทเทคโนโลยีติ่งยี่นี่เอง!
ในไม่ช้าเขาก็มองไปที่ถังเฉา ถังเฉายิ้มบาๆให้ เขาเหยียดนิ้วออกและทำท่าทางนิ่งเฉย
การแสดงมันเพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น
บนเวทีในตอนนี้ ประธานหวางติ่งเหยนจากบริษัทเทคโนโลยีติ่งยี่นั้นได้เริ่มพูดขึ้นแล้ว คำพูดและการกระทำต่างๆที่มีต่อบริษัทลี่จิงกรุ๊ปนั้น มีแต่การยกย่องและชื่นชม อีกทั้งยังพร้อมที่จะสนับสนุนโดยที่ไม่มีเงื่อนไข
เมื่อได้ฟังคำพูดเหล่านี้ หลินฉ่ายเวยและโจวเหม่ยหยูนก็ดูเป็นคนซื่อบื้อในทันที
หลังจากนั้นไม่นาน หลินฉ่ายเวยก็ได้แสดงรอยยิ้มที่ดูน่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้ออกมาและปลอบใจตัวเองว่า “บริษัทเทคโนโลยีติ่งยี่มาแล้วมันทำไมกัน พวกเขาจะไม่ยอมลงทุนในธุรกิจที่ขาดทุนอย่างแน่นอน แม้จะได้รับการสนับสนุนแต่ก็คงไม่เกินหนึ่งล้านแน่ๆ—–”
ก่อนสิ้นเสียงของหลินฉ่ายเวย ประธานหวางติ่งเหยนก็ได้รายงานเงินที่จะสนับสนุน
ว้าว—
ทันใดนั้น ผู้คนที่ชมอยู่ก็ต่างพากันตกใจ
ใบหน้าของทุกคนนั้นดูทึ่งเป็นอย่างมากเมื่อมองไปที่หวางติ่งเหยนที่อยู่บนเวที หลินฉ่ายเวยเองเมื่อได้ยิน ก็ต่างลมจับเป็นลมไป
หวางติ่งเหยนที่อยู่บนเวทียิ้มเล็กน้อย
ห้าสิบล้าน เงินนี้ถือเป็นสิ่งที่เล็กน้อยสำหรับเขา แต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้รับผิดชอบงานนี้ประทับใจ มันก็ถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมากหลังจากที่หวางติ่งหลังจากที่เหยนลงไปนั่งที่นั่งของเขาแล้ว และหลี่ถาวก็กำลังกล่าวขอบคุณหลินเจิ้นสงอยู่ ในขณะนี้ประตูก็ถูกผลักให้เปิดออกอีกครั้ง
สายตาของผู้คนต่างจับจ้องไปที่กลุ่มคนที่เดินกันเข้ามา
ซึ่งก็เป็นเหมือนกับบริษัทเทคโนโลยีติ่งยี่ พวกเขาทั้งหมดมีสีหน้าจริงจัง สวมชุดสูทและรองเท้าหนัง
“เทียนเหอกรุ๊ปยินดีที่จะเป็นสปอนเซอร์ให้ โดยไม่มีเงื่อนไขเป็นจำนวนห้าสิบล้านหยวน ขอให้บริษัทลี่จิงกรุ๊ปและตระกูลหลินประสบความสำเร็จ!”
“บริษัทหัวเซี่ยเองก็ยินดีที่จะเป็นพันธมิตรที่มั่นคงแข็งแกร่งที่สุดกับบริษัทลี่จิงกรุ๊ปครับ ค่าสปอนเซอร์ห้าสิบล้านหยวน ก็ไม่พอที่แสดงสิ่งที่ผมเคารพครับ”
“หลงจั๋วกรุ๊ปเองก็ยินดีที่จะสปอนเซอร์ห้าสิบล้านหยวนโดยไม่มีเงื่อนไขเช่นกัน!”
“บริษัทพลังงานหลงสิงเองก็เช่นกัน”
“แล้วก็ยังมีจินซื่อกรุ๊ปอีกนะครับ”
“…..”
รวมกับบริษัทเทคโนโลยีติ่งยี่เมื่อกี้อีก คนมากมายต่างพากันเข้ามาที่นี่ ต่างพากันขึ้นกล่าวคำปฏิญาณว่ายินดีที่จะร่วมมือกับบริษัทลี่จิงกรุ๊ปและตระกูลหลิน
เช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยีติ่งเหยนที่เข้ามาที่แรกทำ ตัวแทนทั้งหมดของ บริษัทที่เข้ามาหลังจากนั้น ล้วนแต่เป็นประธานและผู้บริหารระดับสูงทั้งหมด
แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะสะท้อนให้เห็นว่าพวกเขาให้ความสำคัญต่อการเป็นสปอนเซอร์ในครั้งนี้
แถมยังพูดเป็นการส่วนตัวเหมือนกันอีก แต่ละบริษัทต่างสปอนเซอร์ให้จำนวนห้าสิบล้าน
ทุกคนที่อยู่ในงานต่างก็ตกตะลึงเล็กน้อย แม้แต่หลี่เทาซึ่งเป็นเจ้าภาพในงานเลี้ยงอาหารค่ำก็ดูยุ่งอยู่เล็กน้อย ได้แต่มองไปที่บริษัทเหล่านี้อย่างลับๆ
นี่คือเงินห้าสิบล้าน ไม่ใช่ห้าพัน ทำไมถึงได้ทำกับเงินเป็นผักกาดขาวอย่างไงอย่างงั้น อยากทิ้งก็ทิ้ง ยิ่งไปกว่านั้นยังมองว่าไม่มีเงื่อนไขใดๆอีกต่างหาก
กล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า ถีงแม้จะทำงานเสร็จแล้วแต่บริษัทลี่จิงกรุ๊ปก็ไม่ต้องจ่ายเงินให้กับบริษัทของพวกเขาแม้แต่น้อย เพียงแต่ต้องการผู้สนับสนุนโครงการนี้เท่านั้น เพียงแค่เพิ่มบริษัทของพวกเขาไปนั่นก็เพียงพอแล้ว
ทำไมกันล่ะ?
สำหรับหลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหยูนและคนอื่นๆในตระกูลหลินนั้น ทุกคนล้วนแต่ซื่อบื้อกันทั้งนั้น แต่ละคนรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า ดวงตาซื่อบื้อกันไปหมด
หากบอกว่า การมาของบริษัทเทคโนโลยีติ่งยี่นั้นเหมือนกับค้อนที่หนัก ตีบนหัวพวกเขาอย่างรุนแรง จากนั้นก็มีเทียนเหอกรุ๊ป หัวเซียกรุ๊ป หลงจั๋วกรุ๊ป และจินซื่อกรุ๊ปและที่อื่นที่ตามมาอีกมากมาย ราวกับสายฟ้าฟาดอย่างงั้น โดนฟ้าผ่าครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้พวกเขามึนงงกันไปหมดแล้ว
เทียนเหอกรุ๊ป หัวเซียกรุ๊ป หลงจั๋วกรุ๊ป และจินซื่อกรุ๊ปล้วนแต่เป็นบริษัทที่จดทะเบียนขนาดใหญ่เช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยีติ่งยี่ ล้วนแต่เป็นบริษัทอันดับห้าสิบอันดับแรกของหมิงจูทั้งนั้น
ไม่ต้องพูดถึงตระกูลหลินของพวกเขาหรอก บริษัทลี่จิงกรุ๊ปมีระยะเวลาที่เพิ่มมากขึ้น สิ่งนี้ไม่สามารถเอามาเปรียบเทียนได้เลย ทำไมถึงมาปรากฏตัวพร้อมกัน แถมลงเงินห้าสิบล้านเหมือนกันอีกต่างหาก?
นี่ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอีกต่อไป แต่เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่—หลอนสุด ๆ
พวกเขาต่างหันไปมองที่ถังเฉา ราวกับเห็นผีอย่างไงอย่างงั้น
ไอ้คนไร้ประโยชน์นี่ ไม่เพียงแต่เอาสปอนเซอร์มาได้ แต่ยังเอาสปอนเซอร์ที่เป็นห้าสิบอันดับแรกของเมืองหมิงจูมาอีก มันทำได้ยังไงกัน?
หลินเจิ้นสงเองก็มองไปที่ถังเฉาด้วยความตะลึง ใช้ประโยชน์จากการที่ลงนามสัญญาอยู่เดินเข้าไปที่ด้านข้างของถังเฉา อดกลั้นความไว้ไม่ไหวเลยถามไปว่า “เสี่ยวเฉา ประธานบริษัทเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนที่พบตัวยากทั้งนั้น ทำไมถึงมาสปอนเซอร์ให้กับพวกเราตระกูลหลินอย่างไรเงื่อนไขล่ะ?”
ถังเฉายิ้มเบาๆไม่ได้พูดอะไร ได้แต่หันหน้าไปทางที่หลินชิงเสว่อยู่
บริษัทสิบบริษัทที่อยู่ในห้าสิบอันดับแรกของหมิงจูนั้น ล้วนแต่สนับสนุนห้าสิบล้านเอมารวมกันก็ได้ถึงห้าร้อยล้านเลยทีเดียว มันเหมือนที่ถังเฉานั้นคาดการณ์เอาไว้ไม่ผิด
คนอื่น ๆ ตกใจกับตัวเลขที่ให้ราคาสนับสนุนสูงเสียดฟ้าถึงห้าร้อยล้านหยวน ใบหน้าของหลินชิงเสว่นั้นยังคงสงบนิ่งเฉย
เมื่อเธอรับรู้ได้ถึงการจ้องมองของถังเฉา หลินชิงเสว่ก็พยักหน้าเล็กน้อยเพื่อแสดงความขอบคุณ เธอรู้ว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขา
หลังจากที่สตินั้นกลับมา ถังเฉาหันไปหาหลินเจิ้นสงและยิ้มให้ “พ่อ ไม่ต้องกังวลไปหรอก ทั้งหมดนี้มีผมอยู่”
“ตราบใดที่ผมยังอยู่ ทั้งหมดของหมิงจูจะเป็นตระกูลหลิน…ไม่ใช่สิ เราจะเป็นยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆของประเทศเลย”
เมื่อได้ฟังคำพูดที่เรียบแต่มีอำนาจอย่างมากของถังเฉา ดวงตาหลินเจิ้นสงเองก็ตกอยู่ในภวังค์เช่นกัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเมื่อเขามองมาที่ตัวของถังเฉา เขากลับคิดถึงชายคนนั้นที่อยู่ห่างกันไกลในเยี่ยนจิง
ปึ่ง–
ในขณะนี้ ประตูถูกเปิดออกอีกครั้งและมีกลุ่มคนเดินเข้ามาอีก
ทุกคนหลังกลับไป ยังมีอีกเหรอ?
หลินฉ่ายเวยและโจวเหม่ยหยูนในเวลานี้รู้สึกมึนงง เมื่อมองไป คอก็เกิดอาการเคล็ดเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเมื่อมองไปที่กลุ่มคนที่เข้ามา หลินฉ่ายเวยและทุกคนในตระกูลหลินก็ต่างตกตะลึงเล็กน้อย พากันสงสัยว่าพวกเขามาทำอะไรกันที่นี่?
“บริษัทตระกูลซ่งมาถึงแล้ว!”
เสียงประกาศที่ทำให้หูหนวกดังมาจากที่ตรงนั้น
แสงไฟนีออนส่องไป มีที่อยู่ด้านข้างใส่สูทสีขาวพาคนอีกกลุ่มหนึ่งมา เดินขึ้นบนเวที พร้อมกับประกาศเสียงดังว่า
“พวกเราบริษัทตระกูลซ่ง ยินดีที่จะให้เงินสนับสนุนแปดสิบล้าน!”