ชื่อ : อุซึมากิ มาซาฮิโกะ
อายุ : 49 ปี (-)
คาถานินจา : 69 (+)
ความแข็งแกร่งร่างกาย : 89 (+)
จักระ : 1,003 (+)
กระบวนท่าพื้นฐาน : LV 10 (100000) (Max Level)
ความชำนาญการใช้ดาวกระจาย : LV 10 (100000) (Max Level)
คุณสมบัติจักระธาตุ คาถาดิน : LV 2 (EXP 16998/20000) (+)
คาถาลม : LV 3 (EXP 85522/100000) (+)
คาถาไฟ : LV 2 (EXP 14493/20000) (+)
ทักษะพิเศษ: การรับรู้
สถานะ: โจนิน (สามัญ)
แต้มการเข้าร่วม : 20
แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ภาพลวงตา มาซาฮิโกะ ดูที่แถบสถานะของเขาและพบว่าเขามีแต้มการเข้าร่วมอยู่ 20 แต้ม แล้วเขาก็สังเกตเห็นว่าบางค่าสถานะมีเครื่องหมาย (+) อยู่ด้านหลัง มันเป็นเช่นเดียวกับเกมที่ค่าสถานะเหล่านั้นสามารถเพิ่มขึ้นได้
โอ้…การได้เข้ารวมเป็นพยานในเหตุการณ์สำคัญของโลกแห่งนี้จะได้รับ แต้มการเข้าร่วม มา แล้วแต้มนั้นก็ใช้ในการเพิ่มค่าสถานะของเขาได้
2 วันมานี้ มาซาฮิโกะ มีแต่ข่าวดีเข้ามาและทำให้เขามีความสุขเป็นอย่างมาก
อย่างแรกก็คือ เขาพบว่าอายุของเขาลดลงได้ และตอนนี้เขาก็สามารถอยู่ดูโลก และมีโอกาสได้รับประสบการณ์มากขึ้นอีกมากมาย
แต่ทำไมระบบนี้ถึงไม่มีคู่มืออะไรแนะนำให้เขาบ้างละ “48 ปี!…48 ปี เชียวนะกว่าฉันจะรู้ว่าแกทำแบบนี้ได้เนี่ย!”
แต่มันก็ยังไม่สายเกินไป เพราะเหตุการณ์สำคัญส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในโลกของ นารูโตะ ยังไม่ได้เกิดขึ้นในยุคของสงครามในครั้งนี้
หลังจากนี้ก็จะมี การก่อตั้งหมู่บ้าน โคโนฮะ , การต่อสู้ที่หุบเขาแห่งจุดสิ้นสุด , มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 1 , 2 , 3 และ 4 เขาสามารถเห็นสิ่งเหล่านี้ด้วยตาของตัวเอง
“เหตุการณ์ที่เราพลาดไปก็คือ การกำเนิดของ ฮาชิรามะ และ มาดาระ คงเป็น 2 เหตุการณ์นี้ที่เราพลาดไปสินะ?” เขาพูดกับตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ เรามาดูกันดีกว่าว่าเครื่องหมายพวกนี้มันทำอะไรได้บ้าง ถั้นคิดไม่ผิดละก็ มันน่าจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น” มาซาฮิโกะ คิดกับตัวเอง จากนั้นเขาก็กดที่เครื่องหมาย (+) บนค่าสถานะ ร่างกาย
ความแข็งแกร่งร่างกาย : 90 (+)
แต้มการเข้าร่วม : 19
ทันใดนั้น มาซาฮิโกะ ก็รู้สึกได้ว่าพลังกำลังหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเขา และเขาก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้น ดูเหมือนว่าเขาสามารถเพิ่มแต้มของสถานะได้ทันทีที่กดเครื่องหมาย (+) นั้น
“ถ้าอย่างนั้น…แล้ว ค่าสถานะคาถา ล่ะ?” จากนั้นเขาก็กดไปที่เครื่องหมาย (+) ของค่าสถานะ คาถาดิน และทันใดนั้น ค่าสถานะ คาถาดิน ของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็น LV 3 (EXP 26998/20000) (+)
“เพิ่มขึ้นตั้ง 10,000 แต้มเลยเหรอเนี่ย? ไม่น่าเชื่อ!”
มาซาฮิโกะ คิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาก็กดไปที่เครื่องหมาย (+) ของ คาถาลม และ คาถาไฟ ทำให้ทั้ง 2 คุณสมบัติจักระธาตุ เพิ่มขึ้นไปอีก 1 LV
เมื่อ คุณสมบัติจักระธาตุ ของเขาเพิ่มขึ้นทุกธาตุแล้ว เขาก็สังเกตเห็นว่ามันส่งผลให้ ค่าสถานะคาถานินจา ของเขาก็เพิ่มขึ้นไปด้วยเช่นกัน มันเพิ่มขึ้นอีก 28 แต้ม และตอนนี้ ค่าสถานะคาถานินจา ของเขาเพิ่มเป็น 97 แต้ม
“การเพิ่มแต้ม คุณสมบัติจักระธาตุ ก็จะส่งผลกับ ค่าสถานะคาถานินจา ด้วยสินะ”
“ถ้าเป็นแบบนี้ เราคิดว่าเราน่าจะสามารถ…” มาซาฮิโกะ ตัดสินใจกดเครื่องหมาย (-) ที่อายุของเขา ย่ำ ๆ ติดกันไปถึง 11 ครั้ง
และตอนนี้ แถบอายุของเขาก็เปลี่ยนเป็น 36 ปีแล้ว
ทันใดนั้นแถบอายุของเขาก็ลดลงเหลือ 36 ปีในทันที และด้วยอายุที่ลดลงทำให้ ค่าสถานะ ร่างกาย ของเขาเพิ่งขึ้นจาก 100 เป็น 102
ในวัยอายุเท่านี้ ร่างกายของมนุษย์จะมีความแข็งแกร่งในระดับที่สูงที่สุด ด้วยเหตุนี้การลดอายุลงจึงทำให้ประสิทธิภาพของร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นนั้นเอง
“ถ้าเราลดอายุลงไปมากกว่านี้ ความแข็งแกร่งร่างกายของเราจะลดลงรึเปล่านะ?”
จากนั้นเขาก็มองดูที่แถบสภานะอีกครั้ง ตอนนี้ แต้มการเข้าร่วม ของเขาเหลืออยู่ 4 แต้ม
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ตัดสินใจว่าเขาจะเพิ่มค่าสถานะ คาถานินจา อีก 3 แต้ม และเก็บไว้ 1 แต้ม เผื่อเหตุจำเป็นที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อเสร็จสิ้นการเพิ่มค่าสถานะ แถบสถานะของ มาซาฮิโกะ จึงเปลี่ยนเป็นแบบนี้
ชื่อ : อุซึมากิ มาซาฮิโกะ
อายุ : 36 ปี (-)
คาถานินจา : 100 (+)
ความแข็งแกร่งร่างกาย : 102 (+)
จักระ : 1,003 (+)
กระบวนท่าพื้นฐาน : LV 10 (100000) (Max Level)
ความชำนาญการใช้ดาวกระจาย : LV 10 (100000) (Max Level)
คุณสมบัติจักระธาตุ คาถาดิน : LV 3 (27286/20000) (+)
คาถาลม : LV 4 (105864/100000) (+)
คาถาไฟ : LV 3 (24692/20000) (+)
คาถาน้ำ : LV 0 (0/10000) (+)
คาถาสายฟ้า : LV 0 (0/10000) (+)
ทักษะพิเศษ: การรับรู้
สถานะ: โจนิน (ขั้นสูง)
แต้มการเข้าร่วม : 1
ค่าคุณสมบัติจักระธาตุใหม่ที่ปรากฏขึ้นมาในแถบสถานะของเขาก็คือ คาถาน้ำ และ คาถาสายฟ้า
เมื่อเห็นดังนั้น มาซาฮิโกะ ก็ยิ้มออกมาด้วยความพอใจเป็นอย่างมาก
“แน่ใจได้แล้วสินะว่า การเพิ่มค่าสถานะ คาถานินจา จะทำให้ปลดล็อก คุณสมบัติจักระธาตุ ใหม่ขึ้นมา ตอนแรกเรามี คุณสมบัติจักระธาตุ อยู่ 3 ธาตุ แต่ตอนนี้เรามี คุณสมบัติจักระธาตุ ถึง 5 ธาตุเลยทีเดียว…อืม…ส่วน คุณสมบัติจักระธาตุ หยิน และ หยาง…มันคงต้องมีเงื่อนไขพิเศษอะไรบางอย่างเพื่อปลดล็อกออกมาละมั้ง”
“สายฟ้า กับ น้ำ งั้นเหรอ?” มาซาฮิโกะ ครุ่นคิด
มาซาฮิโกะ เกิดมาพร้อมกับ คุณสมบัติจักระธาตุลม และตลอด 48 ปีที่ผ่านมา เขาก็พยายามพัฒนามันให้ไปถึงระดับที่จะสามารถใช้คาถาประจำตัวของ นารูโตะ ได้ มันจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก คาถาลม : กระสุนวงจักร
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพื่อที่จะพัฒนามัน มาซาฮิโกะ ต้องฝึกฝนกับลูกบอลน้ำให้ได้เสียก่อน และในยุคนี้ การหาลูกบอลน้ำก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย…นี่คือสิ่งที่ทำให้ คาถาลม ของเขาก่อนหน้านี้ยังคงอยู่ที่ LV 3
ด้วยการลองถูกลองผิด เขาก็พอจับทางในการทำ กระสุนวงจักระ ได้บ้างแล้ว และแน่นอนว่าขั้นต่อไปของเขาก็คือการพัฒนา กระสุนวงจักระ ให้เป็น คาถาลม : ดาวกระจายวงจักร
การตัดต้นไม่หรือน้ำตกด้วย คาถาลม เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่การแปลงคุณสมบัติจักระธาตุ นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
แต่ตอนนี้ ค่าสถานนะต่าง ๆ ของเขาก็ได้เพิ่มขึ้นแล้ว และเขาก็คิดว่าการที่เขาจะพัฒนา ดาวกระจายวงจักร ได้นั้น อย่างน้อยค่า คุณสมบัติจักระธาตุลม ของเขาก็ต้องอยู่ใน LV 4 ขึ้นไป ต่อให้เขารู้ขั้นตอนและวิธีสร้างมันขึ้นมาอยู่บ้าง แต่มันก็ยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากอยู่ดี
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไรกับ คาถาสายฟ้า และ คาถาน้ำ ที่เพิ่งเพิ่มขึ้นมา เพราะเขารู้ดีว่าหากเขาต้องการฝึกวิชาอย่าง ตัดสายฟ้า หรือ พันปักษา เขาก็ต้องมีค่าสถานะ คาถาสายฟ้า อย่างน้อยก็ LV 3 หรือ LV 4 และเขาก็ไม่รู้ว่ามันจะไปถึงระดับนั้นและเขาจะทำมันสำเร็จเมื่อไร
ในตอนนี้ เป้าหมายในระยะสั้นของเขาก็คือ การพัฒนา ดาวกระจายวงจักร ให้สมบูรณ์ และมีส่วนร่วมในทุกเหตุการณ์ที่สำคัญในโลกนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเซนจู หากเขาสามารถเข้าร่วมได้เขาก็จะได้รับแต้มการเข้าร่วมและจากนั้นเขาก็จะใช้มันเพื่อไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตของเขา…
เมื่อคิดเรื่องเหล่านี้อยู่พักใหญ่ มาซาฮิโกะ ก็รู้สึกง่วงขึ้นมาและเผลอหลับไปในที่สุด
เช้าวันรุ่งขึ้น เสียงเคราะประตูก็ทำให้ มาซาฮิโกะ ตื่นขึ้น
“ท่านปู่ครับ ท่านพ่อ เชิญท่านไปที่ห้องโถงเพื่อถามอะไรบางอย่างครับ” ฮาชิรามะ พูด
“อย่างงั้นเหรอ เจ้าไปก่อนเลย ฉันของเตรียมตัวก่อน เดี๋ยวฉันตามไป”
มาซาฮิโกะ เดินไปล้างหน้าและเมื่อเขาก้มลงมองอ่างน้ำ เขาก็พบกับใบหน้าที่คุ้นเคยสะท้อนอยู่ในน้ำ แต่ใบหน้านั้นดูเด็กกว่าความเป็นจริงมาก
“โอ้พระเจ้า ตอนนี้อายุฉันลดลงเหลือ 36 ปีแล้ว แล้วอย่างนี้ฉันจะอธิบายเรื่องนี้กับทุกคนยังไงดี?” มาซาฮิโกะ คิด
เขามองไปรอบ ๆ ด้วยความสับสน จากนั้นเขาก็เหลือบไปเจอแปรงปัดแก้มที่วางอยู่ข้าง ๆ อ่าง ดูเหมือนว่าแขกคนก่อนหน้าจะเป็นผู้หญิง
“อ้า รู้แล้ว!” มาซาฮิโกะ ทำเครื่องหมาย สี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด สีแดงที่กลางหน้าผากโดยใช้แปรงนั้นแล้วยิ้มอย่างพอใจ
เมื่อเขามาถึงห้องโถง เขาก็พบกับ ผู้นำตระกูลเซนจู และคู่บ่าวสาวนั่งอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน
“อรุณสวัสดิ์ ท่านมาซาฮิโกะ…ท่าน…” บูซึมะ อ้าปากค้างและคำพูดของเขาก็ขาดหายไปทันทีเมื่อเห็นใบหน้าที่เยาว์วัยของ มาซาฮิโกะ
“โอ้ นี่นะเหรอ? คือว่าในที่สุดฉันก็ฝึกหนึ่งในวิชาลับของตระกูลอุซึมากิได้จนสำเร็จ มันคือวิชา ผนึกแบบหนึ่ง ที่จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของฉันให้ดูอ่อนกว่าวัยนะ” มาซาฮิโกะ อธิบายอย่างรวดเร็ว
(ผนึกเบียคุโก เหมือนของ ซึนาเดะ)
“ออเหรอ…งั้นฉันก็ยินดีด้วย” บูซึมะ ไม่สามารถพูดอะไรไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว เพราะมันค่อนข้างหน้าเหลือเชื่อที่ได้เห็นคนแก่กลายเป็นเด็กได้ในชั่วข้ามคืน
“ท่านปู่ ผมขอโทษกับท่าทางที่น่าอายของผมเมื่อวานนี้ด้วยนะครับ ผมกับพ่อขอขอบคุณท่านมากสำหรับสิ่งที่ท่านทำให้พวกเราตลอด 2 วันที่ผ่านมา” ฮาชิรามะ พูด
มาซาฮิโกะ มองไปที ฮาชิรามะ และเขาก็สังเกตได้ว่าในที่สุด ฮาชิรามะ ก็กลับมาสู่ตัวตนปกติในฐานะ เทพเจ้าแห่งนินจา เสียที
“เอาละ ที่ฉันเรียกพวกเธอทั้งคู่และ ท่านมาซาฮิโกะ มาในเช้านี้ ฉันแค่อยากจะบอกว่า เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ดังนั้นถ้าขาดเหลืออะไรก็ไม่ต้องเกรงใจ…ถ้าใครไม่มีอะไรพูดแล้ว เราก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ” บูซึมะ พูด
‘นี่ยังเช้าอยู่เลย…งั้นฉันขอตัวไปนอนต่อก่อนดีกว่า’ มาซาฮิโกะ คิด
ขณะที่เขากำลังเดินกลับไปที่ห้องของเขา เขาก็เดินไปตามทางเดินเดียวกับ ฮาชิรามะ และ มิโตะ แต่เมื่อเขากำลังจะเดินแยกออกไปอีกทางหนึ่งเพื่อไปยังห้องของเขา มิโตะ ก็ได้ดึงมือเขาเอาไว้
มิโตะ มองไปที่ ฮาชิรามะ และส่งสายตาว่าให้ ฮาชิรามะ เดินไปก่อน
ฮาชิรามะ พยักหน้าแล้วเขาก็เดินจากไป
“ท่านปู่ หนูรู้จักวิชาผนึกที่ท่านปู่บอกเมื่อกี้” มิโตะ พูดออกมาทันทีหลังจาก ฮาชิรามะ ลับสายตาเธอไป
“โอเค ๆ ก็ดีแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันของตัวกลับไปนอนก่อนนะ…” มาซาฮิโกะ หาวออกมาแล้วก็ยิ้มให้กับ มิโตะ
“แต่เท่าที่หนูรู้ ผนึกนั้น สามารถเรียนรู้ได้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้นไม่ใช่เหรอคะ” มิโตะ พูด
“เออ…เรื่องนั้น…” มาซาฮิโกะ เหมือนถูกฟ้าผ่าลงมากลางสมองของเขา เขาไม่รู้จะตอบเธอว่าอย่างไร เขาได้แต่ฝืนยิ้มออกมาอย่างน่าอึดอัด นี่เป็นวินาทีที่ยาวนานและยากที่สุดในชีวิตของเขา