บทที่ 2 ตอนที่ 31
「…อืม? ที่นี่ที่ไหน?」
ผมได้ยินเสียงกระซิบอันแผ่วเบาดังขึ้น
「ในที่สุดคุณหนูก็พื้นแล้ว!」เหล่าเมดต่างร้องออกมา
「ได้โปรดรอก่อนครับ」ผมหยุดเมดที่กำลังจะเข้ามาที่เตียงขณะที่ทำการโชวฺ์อุปกรณ์เวทย์อันนั้นขึ้นมา
「…นั่นมันอะไรหรอ เรย์จิ?」
เมื่อมองคุณหนูผ่าน【World Ruler】มานาของเธอนั้นฟื้นคืนมาบ้างแล้ว นอกจากนั้นก็ดูจะสุขภาพแข็งแรงดีอยู่
「คุณหนูจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนจะหลับไปได้ไหมครับ?」
「…………」
หลังจากเงียบไปสักพัก คุณหนูก็พยักหน้า
「นั่นเป็นผลจากเนตรเวทมนตร์ของคุณหนูครับ ในตอนนี้มันยังไม่ทำงานเพราะขาดมานาก็จริง แต่ผมอยากจะให้คุณหนูสวมอุปกรณ์เวทมนตร์อันนี้เอาไว้เพื่อกันการทำงานของมันเอาไว้ครับ」
「…กำไลอันนี้นะหรอ? เป็นของขวัญจากนายงั้นหรอ เรย์จิ?」
「มันเป็นของขวัญจากท่านเอิร์ลครับ ถ้าเป็นผมละก็ ผมคงจะเลือกอันที่มันถูกและดีไซน์น่ารักกว่านี้ครับ」
อุปกรณ์เวทมนตร์อันนี้มันดูหยาบกระด้างเกินกว่าที่จะเรียกได้ว่าเป็นกำไลข้อมือซะด้วยซ้ำ
「…ฟุฟุ ชั้นเองก็อยากจะได้ของขวัญจากนายในสักวันนึงเหมือนกันนะ」
「ผมไม่อาจให้คุณหนูเฝ้ารอของขวัญได้หรอกครับ ดังนั้นผมจะจำเอาไว้นะครับ」
「…………」
「…ทำไมอยู่ๆถึงเงียบไปละครับ คุณหนู?」
「นายใส่ใจกว่าทุกทีนะ อาการของชั้นมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ?」
สัญชาตญาณแม่นยำอะไรขนาดนี้! สมแล้วที่เป็นพ่อลูกกัน
「เปล่าครับ คือเรื่องมันเกิดขึ้นในตอนที่ผมไม่อยู่ ดังนั้นผมก็เลยรู้สึกผิดนิดหน่อยนะครับ เอานี่ครับ ยื่นมือของคุณหนูมาทางนี้สิครับ」
แล้วผมก็สวมอุปกรณ์เวทมนตร์ไปที่มือซ้ายของคุณหนู
「อืมม…」คุณหนูขมวดคิ้ว
「มันรู้สึกไม่ดีอย่างนั้นหรอครับ?」
「อืม นิดหน่อยหน่ะ… แต่ถ้าแค่นี้ชั้นทนได้–」
ผมนำกำไลออกมาจากข้อมือของคุณหนูแล้วพูดกับเมดว่า
「ใครก็ได้ช่วยนำเข็มเย็บผ้ามาให้หน่อยครับ」
「…เข็ม? เรย์จิ นายกำลังจะทำอะไรหน่ะ?」
「ผมจะทำการปรับมันครับ」
เมดได้นำเข็มที่ยาวกว่า 10 เซนติเมตรนิดหน่อยมาให้ ผมวางกำไลลงใต้ตะเกียงเวทมนตร์แล้วทำการศึกษาด้านในของมัน
(【World Ruler】【ความคล่องแคล่ว】ต้องหวังพึ่งพวกแกแล้ว…)
จากนั้นผมก็ได้เริ่มแกะสลักด้านในด้วยเข็มในมือ
「เรย์จิ!? นั่นมันอุปกรณ์เวทมนตร์นะ! ถ้าทำยังงั้นละก็ มันจะพัง–」
「ไม่มีปัญหา ผมทำเสร็จไปเรียบร้อยแล้วครับ」
ผมปรับให้มันเหลือปริมาณมานาในร่างของคุณหนูมากขึ้นเล็กน้อย คุณหนูได้ยื่นมือซ้ายของเธอออกมาด้วยท่าทางหวาดกลัวนิดหน่อย และผมก็ได้สวมกำไลนั่นให้กับเธอ
「รู้สึกยังไงบ้างครับตอนนี้?」
「มันดีกว่าก่อนหน้านี้เยอะเลย!」
เสียงของคุณหนูดูพึ่งพอใจมาก ผมมั่นใจเลยว่ากำไลก่อนปรับมันจะต้องสร้างภาระให้กับร่างกายมากมายแน่ๆเลย
(ตัวคุณหนูยิ่งเป็นพวกฝืนตัวเองเพราะทิฐิซะด้วยสิ…)
มาทำให้งานพิธีราบรื่นด้วยสิ่งนี้กันเถอะ
* * 1 วันก่อนงานพิธีมอบหินสกิล: ที่พักอาศัยของตระกูลโรซีเออร์ * *
เด็กหนุ่มที่ตกอยู่ในห้วงความรักกำลังเบิกบานใจ เพราะเขากำลังจะได้พบกับหวานใจของเขาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แล้ว
「ดูท่านอารมณ์ดีนะครับ ท่านหลุยส์」
คฤหาสน์โรซีเออร์นั้นเหมือนกับของ 6 ดยุคผู้ยิ่งใหญ๋ตระกูลอื่นๆ ทว่า ในส่วนของขนาดนั้นใหญ่มากที่สุด เหตุผลก็มาจากตัวดินแดนที่ถูกมอบให้กับตระกูลโรซีเออร์นั้นอยู่ติดกับเมืองศักดิ์สิทธิ์ครูวานยู และมันสะดวกสำหรับตระกูลโรซีเออร์ ที่จะมีคฤหาสน์ขนาดใหญ่เพื่อให้สามารถเดินทางไปกลับจากเมืองหลวงได้อย่างง่ายดาย
ถึงคฤหาสน์จะใหญ่โตก็จริง แต่จำนวนผู้คนที่สามารถเข้ามาได้นั้นน้อยมากๆ มีเพียงขุนนางเพียงหยิมมือเท่านั้นที่จะได้รับเชิญ และงานเลี้ยงน้ำชาที่จัดโดยตระกูลโรซีเออร์เองก็จะจัดขึ้นที่อาคารที่แยกออกจากตัวคฤหาสน์อีกที
ภายในคฤหาสน์นั้นไม่ได้มีเพียงแค่หลุยส์เท่านั้น แต่ยังมีคนที่เกี่ยวข้องแน่นแฟ้นอย่าง—อาเธอร์ ผู้เป็นถึงกัปตันของภาคีอัศวินที่ 2 แห่งราชันศักดิ์สิทธิ์
「นายก็เข้าใจงั้นหรอ อาเธอร์?」
หลุยส์นั้นมาจากตระกูลหลัก ส่วนอาเธอร์นั้นมาจากตระกูลรอง ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะแก่กว่าหรือเป็นถึงกัปตันของภาคีอัศวินก็ตาม หลุยส์ก็ยังคงมีฐานะสูงกว่าอยู่ดี
「ให้ผมเดานะครับ? ท่านคงกำลังคิดถึงท่านหญิงอีวาสินะครับ」
「–!? นี้ข้าดูออกง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?」
「ครับ…」อาเธอร์พูดแบบรักษามารยาท「ถ้าท่านต้องการตัวเธอละก็ ท่านเอิร์ลซิวลิซส์ก็ไม่อาจปฎิเสธได้หรอกครับ ท่านหลุยส์」
「…………」
「ท่านหลุยส์ครับ?」
สีหน้าของเด็กหนุ่มนั้นมืดมนลงราวกับเมฆฝน เช่นเดียวกับท้องฟ้าด้านนอก
「อีวานั่นฉลาดกว่าข้ามาก」
「ผมเองหวังว่าท่านเองก็จะเรียนรู้มากขึ้นเช่นกันครับ ท่านหลุยส์ ท่านมีพรสวรรค์นะครับ」
「ไม่ใช่แค่นั้นหรอก… ฝ่าบาทเองก็กล่าวว่า–」
—ข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วรึว่าวันนี้เองก็เป็นวันที่จะมาเลือกคู่หมั้นของเจ้าหน่ะ?
ถึงเขาจะมาจากตระกูล 6 ดยุคผู้ยิ่งใหญ่ แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นเจ้าชายศักดิ์สิทธิ์แล้วละก็ เขาก็ไม่มีทางชนะได้อยู่ดี
ตั้งแต่วันนั้น คลูฟชราทก็ถูกห้ามไม่ให้ออกมาจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์และไม่ได้พบกับอีวา—ในช่วงนี้ หลุยส์จึงรู้สึกใจร้อนที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับอีวา
「ฝ่าบาทได้กล่าวสิ่งใดหรือครับ?」
「…ไม่ ไม่มีอะไร」
ตัวคลูฟชราทอาจจะไม่ได้คิดอะไรเลยก็ได้ เขาอาจจะไม่ใช่คู่แข่งทางความรัก ถ้าเป็นแบบนั้น มันก็อาจจะหมายถึงตัวหลุยส์เองที่เป็นกังวลโดยไม่มีเหตุผล–หลุยส์คิดว่าเขาไม่ควรแสดงด้านที่อ่อนแอของเขาออกมาในฐานะขุนนางตระกูลดยุค ดังนั้นเขาก็เลยไม่บอกอะไรกับอาเธอร์มากกว่านั้น
「แล้วก็นะอาเธอร์ คำแนะนำของนายมันห่วยแตกมาก ที่นายบอกว่า “ให้ประกาศเจตจำนงของตัวเองกับผู้หญิงที่ชอบออกไปตรงๆ” แบบนั้น เพราะงั้นข้าก็เลยถูกอีวาพูดว่าความประทับใจแรกของข้ามันแย่เลย」
「เกี่ยวกับเรื่องนั้นนะครับ ผมไม่ได้คาดคิดว่าท่านจะไปพูดกับลูกสาวของ “ลอร์ดเลือดเย็น” แบบนั้้นหน่ะครับ ถ้าเป็นตัวท่านหญิงชาล็อตละก็ พวกเราคงจะมาปรึกษาเรื่องวันแต่งงานกันได้ตอนนี้เลยหล่ะครับ」
「…เอิร์ลซิวลิซส์น่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ?」
「ท่านก็น่าจะได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วไม่ใช่หรอครับ?」
หลุยส์พยักหน้า
อย่างไรก็ตาม ด้วยกฏของสังคมขุนนาง เขาจึงถูกสอนมาว่า “ทุกๆเรื่องนั้นมักจะมีสองด้านเสมอ”
「จำนวนขุนนางที่เขาประหารนั้นอาจจะมากที่สุดเป็นประวัติกาลเลยละครับ」
「มากขนาดนั้นเลยหรอ…?」
「มีเพียงแค่เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินเท่านั้นครับที่ยินดี เพราะเงินเดือนที่ต้องจ่ายให้กับเหล่าขุนนางนั้นลดลงไปมาก ส่วนขุนนางคนอื่นๆนั้นต่างหวาดกลัวว่าพวกเขาจะเป็นรายต่อไปเลยครับ มีเพียงแค่ตระกูลที่อยู่สูงกว่าเอิร์ลประจำชายแดนเท่านั้นที่ปลอดภัยครับ แน่นอนว่ารวมถึงตระกูลโรซีเออร์แห่งนี้ด้วยเช่นกันครับ」
「ทำไมพวกเราถึงปลอดภัยละ? เอิร์ลซิวลิซส์ไม่ได้ไปกล่าวหาใครง่ายๆไม่ใช่หรอ?」
「คือ… ด้วยอำนาจของเอิร์ล ขอบเขตการสอบสวนของเขาจึงจำกัดหน่ะครับ」
「………」
「เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ท่านหลุยส์? ท่านดูซึมๆไปนะครับ」
「…มันไม่ยุติธรรมเลยที่ขุนนางบางคนจะรอดไปได้ด้วยตำแหน่งฐานะแบบนี้」
「ท่านได้ยินเรื่องนั้นมาจากท่านหญิงอีวายังงั้นหรือครับ?」อาเธอร์ถามขึ้นพร้อมกับเลิกคิ้ว
「ปะ-เปล่า ข้าคิดเองหน่ะ」
「อืม… ทุกสิ่งมันก็เปลี่ยนแปลงเพื่อวันข้างหน้าที่ดีขึ้นนั่นแหล่ะครับ ถึงการประหารขุนนางชั่วของท่านเอิร์ลซิวลิซส์จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกระทันหันก็ตาม」
「…ยังงั้นหรอ? แต่ถ้ามาคิดตามที่นายพูดแล้วละก็ ถ้าขุนนางชั้นสูงเป็นตัวการที่แท่จริงแล้ว งั้นที่ประหารขุนนางชั้นล่างไปมากมายก็ไม่ต่างอะไรจากการ “ตัดหางกิ้งก่า” เลยหน่ะสิ」
「ฮึมม…」ครั้งนี้อาเธอร์คร่ำครวญออกมา—สิ่งที่คุณชายสนใจนั้นราวกับขุนนางจริงๆเลย
มันยุ่งยากเกินกว่าที่จะรับมือเรื่องนี้แล้ว อาเธอร์คิดแบบนั้น
「ถ้ายังงั้น ท่านหลุยส์ก็แค่ต้องมีอำนาจครับ」อาเธอร์พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม
「ข้านะหรอ…?」
「ครับ ท่านเป็นถึงตระกูลดยุค ท่านนั้นสามารถปฏิรูปสิ่งต่างๆได้มากมายครับ」
「มันก็แน่นอนอยู่แล้วนี่…」
「อำนาจไม่ใช่แค่การใช้ฐานะที่มีครับ ข้าราชการนั้นจะติดตามผู้ที่มีปัญญา แต่มันจะง่ายขึ้นถ้าท่านเป็นข้าราชการระดับสูงครับ ในทางกลับกัน การจะเป็นข้าราชการระดับสูงนั้น ท่านจะต้องมีความสามารถจริงๆ ไม่เช่นนั้น ต่อให้ท่านมีตำแหน่งที่สูงแค่ไหน ผู้คนก็ไม่มีทางเชื่อฟังท่านหรอกครับ ท่านหลุยส์ครับ ท่านฝึกดาบอยู่ใช่ไหมครับ?」
「อืม ข้าก็ไม่ได้ฝึกมาซักพักแล้วละนะ」
「นั่นไม่ดีเลยนะครับ โชคร้ายที่วันนี้ฝนตก แต่ไว้พวกเราไปฝึกด้วยกันหลังจากอากาศแจ่มใสก็แล้วกันนะครับ ถ้าฝีมือดาบของท่านถูกขัดเกลาเป็นอย่างดีแล้ว ท่านจะสามารถดึงดูดสายตาได้แม้แต่เจ้าหน้าที่ทางทหารเลยนะครับ」
「วิชาดาบงั้นหรอ?」
「นั่นเป็นสิ่งที่ท่านหญิงอีวาไม่อาจทำได้ครับ มีเพียงแค่ท่านเท่านั้นครับที่ทำได้ ท่านหลุยส์ ดูแลดาบของท่านให้ดีๆเพราะท่านจะได้เป็นดาบแห่งตระกูลโรซีเออร์ครับ」
「ข้าเข้าใจแล้ว อาเธอร์」
เมื่อมองเห็นหลุยส์กำหมัดของเขา อาเธอร์ก็ได้พยักหน้า และจากนั้นประตูห้องก็ได้เปิดออก
「อาเธอร์โดโนะ อยู่ที่นี่หรือเปล่า?」
「ท่านดยุคโรซีเออร์」อาเธอร์ที่นั่งอยู่บนโซฟานั้นลุกขึ้นยืนอย่างเร่งรีบก่อนจะยืดชายเสื้อของเขาในตอนที่ดยุคเข้ามาในห้อง
ดยุคที่มีความคล้ายคลึงกับหลุยส์อย่างมากนั้น ถึงเขาจะอ้วนแต่ก็ไม่ได้พุงพลุ๊ย ขนาดตัวของเขานั้นเป็นเหมือนกับภาพในจินตนาการของเศรษฐีที่มีอายุ
ผมของเขาถูกเซ็ดเป็นทรงและแซมไปด้วยผมหงอก และถึงเขาจะอายุ 40 ปลายๆ แต่เขาก็ยังคงมีรูปลักษณ์ที่สง่างามอยู่
(…หืมม? ใบหน้าของท่านดยุคดูซีดๆไปนะ)
ใบหน้าของดยุตนั้นซีดจนถึงขั้นที่อาเธอร์สังเกตเห็นได้ในทันที
「หลุยส์ ข้าขอยืมตัวอาเธอร์ไปซักพักนะ พวกเราต้องไปหารือกันเรื่องการคุ้มกันงานพิธีในวันพรุ่งนี้」
「ได้ครับ ท่านพ่อ」
「ตามข้ามา」
「ครับท่าน」
อาเธอร์เดินออกไปยังทางเดินตามการกวักมือเรียกของดยุค
—เขาสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดในทันที
(หน้าที่คุ้มกันในวันพรุ่งนี้เป็นของภาคีอัศวินที่ 1 นี่ ไม่ใช้หน้าที่ของข้านี่นา มันเกี่ยวข้องอะไรกับท่านดยุตที่กำลังหน้าซีดหรือปล่าว?)
หนึ่งในเหตุผลที่อาเธอร์สามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็นกัปตันที่ 2 ได้ นั่นก็เพราะว่าเขาสามารถรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติได้ในทันทีแบบนี้นี่แหล่ะ