[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit – บทที่2 ตอนที่ 29

บทที่ 2 ตอนที่ 29

 

ทันทีที่การประชุมจบลง พวกเราก็รีบมุ่งหน้ากลับคฤหาสน์ในทันที เพราะพวกเราถูกเรียกตัวกลับจากท่านเอิร์ลด้วยคนส่งสาร

 

ผมสงสัยว่าทำไมคนคุ้มกันของคุณชายอีธานถึงโบกมือให้กับผม แต่ทันทีที่การประชุมจบลง เธอก็ได้รีบกลับไปเหมือนกัน ดังนั้นผมก็เลยไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอเลยสักนิด

 

เมื่อพวกเรากลับมาถึงคฤหาสน์ ผมก็พบกับท่านเอิร์ลที่มีสีหน้าจริงจังรออยู่

 

「กัปตันแม็กซิม เรย์จิซัง ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยาก」

 

「กระผมแค่ทำตามหน้าที่ครับ」

 

แม็กซิมคุกเข่าลงต่อหน้าท่านเอิร์ล ในขณะที่ผมยังคงยืนอยู่เหมือนเดิม ถึงผมจะเป็นลูกจ้าง แต่ผมก็ไม่ได้สวามิภักดิ์ซะหน่อยนี่

 

เมื่อผมรายงานเรื่องราวการประชุมในวันนี้ทั้งๆที่ยืนอยู่แบบนั้น แม็กซิมก็ถูกขอให้ออกไปจากห้องตามปกติ น่าแปลกที่วันนี้หัวหน้าพ่อบ้านไม่อยู่ที่นี่ด้วย

 

「เรย์จิซัง มีเรื่องสำคัญ 2 เรื่องที่ข้าอยากจะพูดคุยในวันนี้」

 

「สำคัญหรอครับ? เกี่ยวกับพิธีมอบหินสกิลหรอครับ?」

 

「ไม่ มันเกี่ยวก็จริง แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวกันตรงๆ」

 

「?」

 

ขณะที่ผมยืนอยู่ตรงนั้นอย่างงุนงง ดวงตาของท่านเอิร์ลก็ได้เรืองแสงออกมา แสดงถึงการใช้ “เนตรเวทมนตร์แห่งการสืบสวน” ของเขา

 

「เรย์จิซัง เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับดวงตาคู่นี้มั้ง?」

 

「มันเป็นดวงตาที่มีพลังพิเศษเมื่อส่งผ่านมานาเข้าไปใช่ไหมครับ? เป็นสื่งที่สามารถสืบทอดไปสู่ลูกหลานได้ แถมยังปรากฏได้ถ้าบรรพบุรุษมีมันแม้พ่อแม่จะไม่มีก็ตามครับ ทว่ามันก็ยังมีบางอันที่จะไม่ปรากฏถ้าพ่อแม่ไม่มีมันด้วยครับ อย่างเช่น “สัฟ้าศักดิ์สิทธิ์” ของราชวงศ์」

 

「ถูกต้อง ข้าเคยบอกเจ้าถึงเรื่องเนตรเวทมนตร์ของอีวาแล้วใช่ไหม?」

 

「ครับ มันคือ “เนตรเวทมนตร์แห่งการชักจูง” ใช่ไหมละครับ」

 

เนตรเวทมนตร์ที่จะชักจูงให้ผู้คนสู้เพื่อเธอเมื่อสบตากับเธอ ผมเองก็ไม่เคยเห็นมันถูกใช้งานเลย ดังนั้นต่อให้เป็น【World Ruler】ก็ไม่สามารถอธิบายผลของมันได้เลย

 

อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นคุณหนูละก็ ผมคิดว่าเธอคงชักจูงให้เหล่าชายหนุ่มต่อสู้เพื่อเธอโดยที่ไม่ต้องใช้เนตรเวทมนตร์อะไรนั่นได้อยู่แล้ว เพียงแค่มองดูเธอเติบโตขึ้นเป็นสาวงามในไม่กี่ปีมานี้ก็รู้แล้ว

 

「แล้วเนตรเวทมนตร์นั้นมันทำไมหรอครับ?」

 

「ก่อนหน้านี้มันทำงานหน่ะสิ」

 

「แต่ เธอก็น่าจะเคยใช้งานมันมาก่อนแล้วไม่ใช่หรอครับ?」

 

「เธอสามารถใช้งานมันได้ แต่ผลของมันจะอ่อนแอ แถมยังใช้มานาเยอะอีกด้วย เพราะข้าขอให้นักปิดผนึกที่มีชื่อเสียงปิดผนึกเนตรเวทมนตร์ของเธอเอาไว้」

 

「ผนึกเนตรเวทมนตร์ของเธอยังงั้นหรอครับ?」

 

หมายความว่าไงกัน? เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเรื่องนี้เลย ผมเห็นดวงตาของคุณหนูมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ดังนั้น【World Ruler】ก็น่าจะเห็นผนึกสิ

 

ไม่สิ บางทีผนึกอาจจะไม่ได้ร่ายใส่ดวงตาของเธอตรงๆก็ได้ ถ้ามันถูกร่ายใส่ส่วนกักเก็บเวทมนตร์ในร่างกายละก็【World Ruler】ก็ไม่มีทางบอกได้ถ้าผมไม่เพ่งดูอย่างละเอียด

 

「…ข้าไม่เคยบอกเจ้าถึงเรื่องแม่ของอีวาเลย」ท่านเอิร์ลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง

 

เอาจริงๆนะ ผมไม่ได้อยากได้ยินเรื่องแม่ของคุณหนูในตอนนี้หรอก ทว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นแน่ๆ เพราะท่านเอิร์ลตัดสินใจจะให้ผมรู้เรื่องนี้ในตอนนี้นี่นา

 

「มานาของอีวานั้นสูงมากๆเมื่อเทียบกับเผ่ามนุษย์ปกติ」

 

「เอ๊ะ?」

 

ไม่เห็นรู้สึกอย่างนั้นเลยแห่ะ แต่ก็แน่ละ ก็ผมไม่เคยเห็นคุณหนูใช้เวทมนตร์เลยนี่นา

 

ถึงยังงั้น ก็ยังมีนักเวทย์มากประสบการณ์ที่สังกัดภาคีอัศวิน หรือจอมเวทย์สายต่อสู้ในกิลด์นักผจญภัยที่มีมานามากพอจะเล็ดลอดออกมาจากร่ายกายของพวกเขาอยู่ด้วย ซึ่งผมสามารถตรวจจับได้ชัดเจนด้วย【World Ruler】ได้

 

「มานาของเธอนั้นมากพอที่จะทำให้เนตรเวทมนตร์ของเธอทำงานตั้งแต่เธอเกิดมาเลยละ ผลของมานาที่ไหลผ่านดวงตาของเธออย่างควบคุมไม่ได้นั้น – ได้ชักจูงมนุษย์ที่อยู่ใกล้กับเธอที่สุดเข้า」

 

ไม่มีทาง นั่นหมายความว่า…

 

ผมไม่อยากจะคาดเดาเลยด้วยซ้ำ เพราะผมรู้แล้วว่าเรื่องนี้มันจะจบไม่สวย

 

「…แม่ของเธอใช่ไหมครับ?」

 

ท่านเอิร์ลพยักหน้า ผมเคยพูดคุบกับท่านเอิร์ลมาหลายครั้งแล้วจาก “ช่วงรายงาน” ดังนั้นผมจึงเคยเห็นเขาพยักหน้ามาหลายต่อหลายครั้งแล้วเช่นกัน ทว่าในวันนี้ เขาดูหมดเรี่ยวแรงมากกว่าที่ผมเคยเห็น ทั้งความโกรธที่แสนจะทนและความเศร้าที่ไม่อาจอธิบายได้

 

「อเดล (Adele)… ภรรยาของข้าถูกผลของ “เนตรเวทมนตร์แห่งการชักจูง” จนทำร้ายหมอที่เข้ามาตรวจสุขภาพ ในตอนนั้นเธอได้โยนอีวาที่ยักเป็นทารกอยู่ออกไป โชคดีที่หมอไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่อีวานั้นกระดูกแขนหัก」

 

「นั่นมัน… เป็นอุบัติเหตุที่โชคร้ายจริงๆครับ」

 

「ใช่แล้ว มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครที่ผิดทั้งนั้น คนที่มีเนตรเวทมนตร์อย่างข้านั้นไม่ได้รับผลของเนตรเวทมนตร์อื่นๆ และอีวาเองก็หลับลึกจากการใช้มานา แต่ว่า…  ภรรยาของข้านั้นหลังจากที่เธอได้สติก็รู้สึกเศร้าโศกเสียใจ」

 

ท่านเอิร์ลหยุดพูดไปซักพัก แล้วจากนั้น เขาก็ได้สารภาพออกมาหมดทุกอย่างราวกับจะปลดปล่อยมันออกมาทั้งหมดพร้อมๆกัน

 

「ภรรยาของข้านั้นเป็นหญิงสาวที่ที่มีเกียรติมากๆ เธอไม่อาจให้อภัยตัวเธอเองได้จนเธอออกจากคฤหาสน์ไป」

 

「ท่านเอิร์ล… ท่านไม่เรียกตัวเธอกลับมาหรอครับ?」

 

「ข้าเรียกเธอหลายครั้งแล้ว ขนาดที่ข้าบอกเธอว่าเนตรเวทมนตร์ของอีวาเสถียรจากผนึกแล้วก็ตาม เธอก็ไม่เคยกลับมาเลยซักครั้ง」

 

「ทำไมท่านไม่ลอกเรียกเธอมาเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ละครับ?」

 

「…ข้าเองก็อยากจะทำยังงั้น」

 

อ่า เป็นอย่างนี้นี่เอง

 

ท่านเอิร์ลสายหัวของเขาอย่างอ่อนแอ ผมเข้าใจแล้ว

 

เธอไม่อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว

 

「…ภรรยาของข้าได้กลับไปยังบ้านของครอบครัวของเธอ ได้ล้มป่วยลงหลังจากให้กำเนิดเด็ก พอ 3 ปีต่อมาเธอก็ได้เสียชีวิตลง ดูเหมือนว่าเธอจะยังเสียใจในสิ่งที่เธอทำกับอีวาจนถึงวินาทีสุดท้ายเลย ข้าน่าจะใช้อำนาจของตัวเองในฐานะขุนนางแล้วพาเธอกลับมาแท้ๆ — ทว่า ตอนนี้ทุกอย่างมันก็ได้สายเกินไปแล้ว」

 

「เธอมาจากตระกูลขุนนางที่ต่ำกว่าอย่างนั้นหรอครับ?」

 

「ไม่ เธอเป็นสามัญชน」

 

ผมตกใจมากๆเลย ที่คนที่สมบูรณ์แบบอย่างท่านเอิร์ลนั้นมีภรรยาเป็นสามัญชนแบบนี้

 

「ข้าอยากจะหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็นอย่างการส่งคนรับใช้ส่วนตัวไปยังบ้านของสามัญชนเพื่อบังคับให้อเดลกับมา ทว่านั่นกลับกลายเป็นเรื่องที่ผิดพลาดไป ตัวข้าเองก็ไม่เคยบอกอีวาถึงเรื่องสถานะของแม่ของเธอเลยสักครั้ง ดังนั้น ในตอนที่เธอพูดว่า “สังคมที่ทั้งสามัญชนและขุนนางอยู่กันอย่างเท่าเทียม” มันทำให้หัวใจของข้าแทบจะหยุดเต้นเลย ข้าเอาแต่คิดว่าถ้าสังคมแบบนั้นมีจริง บางทีข้าอาจจะช่วยอเดลเอาไว้ได้ก็ได้ แต่ว่า ถึงคิดแบบนั้นไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาแล้วในตอนนี้ ฮาฮาฮาฮา」

 

ท่านเอิร์ลหัวเราะออกมา ผมไม่เคยได้ยินเสียงหัวเราะอันเปลี่ยวเหงาแบบนั้นมาก่อนเลย

 

 

 

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

Options

not work with dark mode
Reset