บทที่ 2 ตอนที่ 23
「แต่หนูก็ยังอภัยให้พวกนั้นที่สงสัยเรย์จิไม่ได้อยู่ดีค่ะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่พวกเราพึ่งจะเคยพบกับเจ้าชายคลูฟชราทเมื่อวานเป็นครั้งแรกด้วย…」
「อีวา มีอะไรหลายอย่างที่ขุนนางจะต้องทำนะ」ท่านเอิร์ลพูดขึ้นพร้อมกับถอนหายใจ「หินสกิลที่ลูกจะได้รับถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนหน้า」
「เดือนหน้าหรอครับ…? งั้น มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ท่านจะเป็นคนให้เองกับมือได้ยังงั้นหรอครับ ท่านเอิร์ล?」ผมถามออกไป
「ใช่แล้ว เหล่าเด็กอายุ 12 ปีที่เข้าร่วม “งานเลี้ยงต้นกล้าแห่งคืนข้างขึ้น” จะมารวมตัวกันอีกครั้งแล้วรับมอบหินสกิลต่อหน้าฝ่าบาท」
「งั้นหรอครับ…」
「ถึงผู้ปกครองจะเป็นคนเตรียมหินสกิลเองก็จริง แต่หินสกิลเหล่านั้นจะถูกป่าวประกาศที่นั่นด้วย เพื่อแสดงให้เห็นถึงอำนาจของขุนนางนั้นๆ」
「ถ้างั้น คุณภาพของหินสกิลก็เป็นตัวบ่งบอกอำนาจของขุนนางด้วยสิครับ…」
「ใช่แล้วละ แล้วอีวาอยากจะรู้ว่าหินสกิลของลูกคืออะไรไหม?」ท่านเอิร์ลถามคุณหนู
ช่างน่าแปลกใจ คุณหนูทำเพียงแค่กระพริบตาแล้วพูดว่า「ไม่ค่ะ แค่เดือนเดียวหนูทนได้อยู่แล้ว หนูกังวลเรื่องการพยายามลอบสังหารท่านคลูฟชราทและท่าทีของทางราชวังศักดิ์สิทธิ์มากกว่าค่ะ」
ท่านเอิร์ลพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย แถมยังซาบซึ้งมากกว่าที่แสดงออกมาด้วย การที่ผมพูดอย่างนี้เพราะผมเริ่มเข้าใจวิธีพูดของท่านเอิร์ลแล้วยังไงละ
(คุณหนูครับ คำตอบของคุณหนูช่างสมบูรณ์แบบมากเลยครับ ผมให้ 100 คะแนนเต็มเลย)
ขุนนางจะต้องใจเย็นๆเมื่อกำลังจะได้รับบางสิ่งและจะต้องสนใจเรื่องสาธารณะมากกว่าเรื่องส่วนตัวด้วย
มันเป็นเรื่องที่เรียนมาจากครูสอนพิเศษ และดูเหมือนว่าคุณหนูจะฝึกฝนมันมาเป็นอย่างดี
「ฝ่าบาทกล่าวว่าเขาจะทำการเลื่อนงานมอบหินสกิลไปจนกว่าจะพบตัวคนร้ายที่ลอบวางยาพิษ ทว่า มีขุนนางจำนวนหนึ่งที่ต้องออกมาจากดินแดนของตนเพื่อเดินทางมายังเมืองศักดิ์สิทธิ์ด้วย ดังนั้นพวกเราก็เลยตกลงกันว่าจะเลื่อนไปจัดในเดือนหน้าแทน ฝ่าบาทคาดเดาว่าคนร้ายจะลงมืออีกครั้งแน่นอน」
ดูเหมือนท่านเอิร์ลจะถูกเรียกตัวไปโดยราชันศักดิ์สิทธิ์เพื่อพบกับบุคคลสำคัญต่างๆในเมืองศักดิ์สิทธิ์แล้วใช้ “เนตรเวทมนตร์แห่งการสืบสวน” ถึงเรื่องการวางยาพิษ
โดยเริ่มจากเจ้าชายศักดิ์สิทธิ์กับเจ้าหญิงศักดิ์สิทธิ์ลำดับที่ 1 ไปจนถึงผู้นำตระกูลขุนนางชั้นสูงต่างๆ
อนึ่ง คนรับใช้ที่เป็นคนจัดการเรื่องจานอาหารของเจ้าชายได้หายตัวไปแล้ว ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากมากๆที่จะหาตัวให้พบได้เมื่อมีขุนนางชั้นสูงซ่อนตัวพวกนั้นเอาไว้แล้ว ดังนั้นมันจึงเร็วกว่าถ้าไประบุตัวจากเหล่าผู้นำตระกูลโดยตรงโดยใช้ “เนตรเวทมนตร์แห่งการสืบสวน” ละนะ
「นี่จะต้องทำให้เกิดความขัดแย้งแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนแน่นอนเลยครับ…」
「ใช่ เกือบทุกคนที่รู้ว่าข้ามี “เนตรเวทมนตร์แห่งการสืบสวน” นั้นต่างจ้องมองข้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันเลย ถึงจะไม่มีใครโกหกเลยก็เถอะ」
เขาพูดออกมาอย่างเรียบเฉย ทว่าตามความคิดของผม มันจะต้องเครียดสุดๆไปเลย
นั่นก็หมายความว่าราชันศักดิ์สิทธิ์หวงเจ้าชายคลูฟชราทมากๆเลยสินะ คิดว่านะ? ไม่ว่ายังไงก็ตาม ข้อมูลเรื่องที่ท่านเอิร์ลกำลังสืบสวนโดยใช้เนตรเวทมนตร์อยู่นั้นจะต้องกระจายออกไปอย่างรวดเร็วแน่ๆ ความเป็นไปได้ที่ท่านเอิร์ลจะถูกโจมตีก็มากขึ้นอีกแล้ว
「ท่านเอิร์ลครั-」
「เรย์จิซัง ไว้คุยเรื่องนี้กันทีหลัง」
เห็นได้ชัดเลยว่าท่านเอิร์ลเข้าใจถึงเรื่องนั้นดี แต่เขาไม่อยากให้คุณหนูรู้ก็เลยพูดออกมาว่า “ทีหลัง”
「ท่านพ่อ เรย์จิ หนูเองก็เป็นขุนนางเต็มตัวแล้วนะคะ โปรดบอกหนูด้วยเถอะค่ะ มันอาจจะเป็นเรื่องที่หนูจะต้องรู้เอาไว้ก็ได้นะคะ」
คุณหนูไม่เห็นด้วยกับความคิดของท่านเอิร์ล
ไม่สิ จะต้องบอกว่า เธอทำตามเขามาจนถึงตอนนี้ต่างหาก ถ้าเธอถูกบอกว่า “ลูกไม่จำเป็นต้องรู้” เธอก็คงจะตอบว่า “ค่ะ” แต่ถ้าท่านเอิร์ลบอกให้คุณหนูไป “บดขยี้ธุรกิจค้าทาส” เธอก็คงจะไม่เห็นด้วย
「อีวา ลูกยัง… ไม่สิ ลูกพูดถูก」โทนเสียงของท่านเอิร์ลเปลี่ยนไป「ถ้างั้น ลูกก็จะถูกปฏิบัติในฐานะขุนนางเต็มตัวด้วย」
「ค่ะ!」
บางทีคุณหนูเองก็น่าจะรับรู้ถึงโทนเสียงที่เปลี่ยนไปของท่านเอิร์ลด้วย เธอจึงยืดตัวตรงแล้วเผชิญหน้ากับท่านเอิร์ล ถึงใบหน้าของท่านเอิร์ลจะดูไร้อารมณ์เหมือนทุกที ทว่าในความเป็นจริงแล้ว โทนเสียงของเขานั้นเปิดเผยตรงข้ามกับคำสุภาพของเขามากขึ้น
「อย่างแรกเลย เป็นไปได้ที่พ่ออาจจะถูกฆ่า」
「!! …ค่ะ เพราะถ้าท่านพ่อยังคงสืบสวนต่อไปอย่างนี้ด้วยกันกับฝ่าบาท ท่านพ่อก็น่าจะพบตัวคนร้ายด้วยใช่ไหมละคะ?」
「ใช่แล้วละ เพราะคงไม่มีใครคิดจะทำร้ายเจ้าชายศักดิ์สิทธิ์นอกจากเหล่าราชวงศ์และขุนนางหรอก ฝ่าบาทก็เลยเริ่มสืบสวนจากผู้คนในตำแหน่งที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้」
「เท่าที่จะเป็นไปได้หรอครับ…? เนื่องจากเจ้าชายกับเจ้าหญิงลำดับที่ 1 นั้นมีโอกาสที่จะได้ขึ้นครองบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์มากมายอยู่แล้ว พวกเขาก็น่าจะเป็นคนนอกไม่ใช่หรอครับ?」
「นี่ยังเป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยันนะ แต่พวกเบื้องบนของสำนักงานจัดการแท่นบูชาดูจะกำลังวุ่นวายกันอยู่ ข้าเดาว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นแน่ๆ อะไรบางอย่างที่คนอย่างข้าที่ทำงานเกี่ยวกับอาชญากรรมภายในก็ไม่อาจแตะต้องได้」
「…มันหมายถึงเรื่องที่อาจจะมีหินสกิล 5 ดาวหรือมากกว่าปรากฏตัวขึ้นที่แท่นบูชาแห่งแรก และมันจะถูกมอบให้กับเจ้าชายคลูฟชราท」ท่านเอิร์ลพูดขึ้น
「!」
「!!」
หินสกิล 5 ดาวหรือมากกว่านั้นแน่นอนว่ามันมีค่ามากมายมหาศาลเลยนะ!
หินสกิล 4 ดาวนั้นสามารถถูกครอบครองโดยเหล่าพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จและพวกนักผจญภัยที่โชคดีได้ ทว่า เมื่อนับจำนวนคนที่ครอบครองหิน 5 ดาวหรือมากกว่าแล้วละก็ จำนวนมันดึ่งลงเหวเลยละ
「มีหินสกิล 5 ดาวหรือมากกว่าอยู่ทั้งหมด 7 อันภายใต้การดูแลของราชอาณาจักรครูวานศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ อันแรกก็คือ【ทักษะดาบศักดิ์สิทธิ์ ★★★★★★】ที่ถูกถือครองโดยหัวหน้าภาคีอัศวินลำดับที่ 1 – ประมาณนั้น มันได้ถูกส่งต่อรุ่นสู่รุ่นในหมู่ผู้บัญชาการอัศวิน ถ้าผู้ใช้ตายไปละก็ หินสกิลเองก็จะหายไปด้วย ดังนั้นเหล่าผู้บัญชาการอัศวินจึงไม่ได้อยู่ในแนวหน้าเลย จะเรียกมันว่าตำแหน่งกิตติมศักดิ์ก็ไม่ผิดนัก」
โอ๊ะ จริงหรอ! งั้นนั่นคือเหตุผลที่ผมไม่เคยเห็นผู้บัญชาการอัศวินเลยแม้จะทำงานอยู่ในภาคีอัศวินถึง 3 ปีสินะ
「【ทักษะดาบ ★★★★★】นั้นอยู่ในการดูแลของตระกูลดยุคโรซีเออร์ ยังไงซะอัศวินของพวกเขานั้นอุทิศตนให้กับวิชาดาบอยู่แล้ว ทว่าตัวหินสกิลก็ไม่ได้มอบให้อัศวินคนไหนใช้หรอกนะ มีเพียงแค่ผู้นำตระกูลเท่านั้นที่ใช้มันได้」
ตระกูลของหลุยส์งั้นหรอ ถ้าพวกเขาอุทิศตนให้กับวิชาดาบแล้วละก็ ทำไมพวกเขาถึงจ้างกัปตันอาเธอร์มาเป็นคนคุ้มกันละ? เป็นเพราะเขาคือหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดในภาคีอัศวินยังงั้นหรอ?
「【ทักษะบังคับบัญชาระดับวีรบุรุษ ★★★★★】นั้นเป็นของตระกูลดยุครีส และ【ผสมผสานแห่งความลับ ★★★★★】นั้นเป็นของตระกูลดยุคเอเบน」
ผมไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับตระกูลรีส แต่ตระกูลเอเบนก็คือตระกูลของคุณชายอีธาน สกิลเกี่ยวกับการผสมนั้นเข้ากันได้ดีกับเผ่าฮาร์ฟลิงเลย
「【ทักษะดาบมังกร ★★★★★】เป็นของตระกูลดยุคลูเซียว (Luciel) เป็นตระกูลดยุตที่มี “นักบุญดาบออกัสติน” อยู่ เป็นกลุ่มที่มีอำนาจทางการทหารมากที่สุดในหมู่ 6 ดยุคผู้ยิ่งใหญ่และยังเป็นตระกูลที่สนับสนุนเจ้าชายลำดับที่ 1 ด้วย」
“6 ดยุคผู้ยิ่งใหญ่” หรือ “6 อาร์ชดยุค” นั้นดูจะเป็นเหล่าตระกูลที่สูญเสียสีฟ้าศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว แต่เพราะผลงานเด่นๆของพวกเขา พวกเขาจึงยังเรียกตัวเองว่า “ตระกูลดยุค” ได้อยู่
ตัวอย่างเช่น ถ้าเจ้าชายคลูฟชราทไม่ขึ้นครองบัลลังก์และรับตำแหน่งดยุค แล้วถ้าทายาทที่เกิดมาไม่ได้สืบทอดสีฟ้าศักดิ์สิทธิ์ละก็ ตระกูลของเขาก็จะถูกรวมเข้ากับตระกูลของภรรยาของเขาแทน ตำแหน่งตระกูลดยุคก็จะหายไปในรุ่นแรกทันที
ทว่าตราบใดที่ลูกหลานยังคงมีสีฟ้าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็จะยังเป็นดยุคต่อไปได้ และในช่วงนี้ ถ้าเขาสามารถสร้างความสำเร็จใหญ่ๆได้ – ไม่ว่าจะเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในสงคราม, สร้างสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่, และอื่นๆ – ต่อให้เขาจะเสียสีฟ้าศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วก็ตาม เขาก็ยังคงฐานะดยุคต่อไปได้
ผลลัพธ์ก็คือ มีตระกูลดยุค 6 ตระกูลที่เหลืออยู่หลังจากสูญเสียสีฟ้าศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว จึงเรียกขานกันว่า 6 ตระกูลดยุคผู้ยิ่งใหญ่
「【เสริมพลังเวทมนตร์ ★★★★★】เป็นของตระกูลดยุคลาแมร์ และสุดท้าย【ทักษะการสวดภาวนา ★★★★★】นั้นเป็นของตระกูลเอิร์ลมอนเทนจ์」
「อันสุดท้ายเป็นของตระกูลเอิร์ลหรือเนี้ย」
「ใช่แล้วจาก 6 ดยุคผู้ยิ่งใหญ๋ มีเพียงตระกูลดยุตริเวียร์ที่ยอดเยี่ยมในด้านการขนส่งทางทะเลเท่านั้นที่ยังไม่มีหินสกิล 5 ดาวขึ้นไป เนื่องจากตระกูลดยุคที่ไม่มีหินสกิลระดับสูงพวกนี้จะถูกนับว่าต่ำกว่าตระกูลดยุคอื่นๆด้วย พวกเขาคงจะต้องการหินสกิล 5 ดาวหรือมากกว่าแบบสุดๆไปเลยแน่นอน」
「…จะเกิดอะไรขึ้นกับหินสกิล 5 ดาวหรือมากกว่าที่เกิดใหม่อันนี้ถ้าเจ้าชายคลูฟชราทเสียชีวิตละครับ?」
「มันก็น่าจะถูกใช้โดยตัวฝ่าบาทเอง หรือไม่เจ้าชายก็เจ้าหญิงลำดับที่ 1 ละมั้ง…」
「ทั้ง 3 คนมีสกิลแบบไหนงั้นหรอครับ?」
ท่านเอิร์ลยกนิ้วชี้ของเขาขึ้นแล้วส่ายซ้ายขวาไปมา
「เป็นความลับ ความลับของราชวงศ์ที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้อย่างดีเลยนะ」
「งั้นหรอครับ…」
จะต้องไม่เผยไพ่ในมือ เผื่อได้เปรียบในกรณีฉุกเฉินสินะ
「ถ้าเลขานุการลำดับที่ 2 สเปคคูล่าไปดูสกิลของราชวงศ์โดยไม่ได้รับอนุญาตละก็ หัวของเขาจะหลุดจากบ่า ณ ตรงนั้นเลย」
「หึมม…」
ดูจะเป็นความลับสุดยอดเลยสินะ
ทำเอาผมอยากจะมีสกิล【มองหินสกิล】เลย ผมควรจะตรวจสอบสกิลของสเปคคูล่าซังในขณะที่มี【World Ruler】ด้วยจะดีไหมนะ?
……ไม่ละ 【World Ruler】ของผมเองก็เป็นความลับสุดยอดด้วยเหมือนกัน
「หรือหินสกิลนั่นอาจจะถูกมอบให้กับเจ้าชายลำดับที่ 3 ก็ได้นะ ถึงเจ้าชายลำดับที่ 3 นั้นจะอายุแค่ 10 ขวบ ทว่าเขาเองก็ได้มีคู่หมั้นแล้ว แถมยังเป็นคนจากตระกูลดยุคริเวียร์ซะด้วยสิ」