บทที่ 2 ตอนที่ 17
เจ้าชายคลูฟชราทยิ้มออกมามากขึ้น จากนั้นเขาก็ได้ถามกับคุณหนูมิร่าว่า
「เป็นครั้งแรกที่คุณได้มาที่เมืองศักดิ์สิทธิ์หรอครับ?」
「ค่ะ ครั้งแรกของชั้นเลย!!」
เนื่องจากเธอพูดเสียงดังมาก บทสนทนาของโต๊ะอื่นๆก็เลยหยุดลง และคุณหนูมิร่าก็หน้าแดงไปหลังจากสังเกตุเห็นถึงเรื่องนี้
「ขะ-ขออภัยค่ะ…」
「คุณก็น่าจะได้เรียนมารยาทมาบ้างแล้วไม่ใช่หรอคะ? แล้วก็ไม่ใช่ว่าคุณเขียนในจดหมายที่ส่งมาหาดิชั้นว่า “การเรียนมารยาทมันน่าเบื่อ” บ่อยๆด้วยหรอคะ? ถ้าคุณไม่เรียนมันดีๆละก็ ไอ้ความเบื่อหน่ายของคุณมันก็จะยิ่งไร้ค่านะคะ」
「อู จริงด้วย」
โอ๊ะ? คุณหนูชาล็อตกับคุณหนูมิร่าก็เป็นเพื่อนกันด้วยหรอ? นั่นหมายความว่ามีเพียงแค่คุณหนูคนเดียวนะสิที่ถูกทิ้งเอาไว้หน่ะ?
「………」
ดูสิ คุณหนูดูเหมือนกับลูกสุนัขที่ถูกทิ้งเลย ด้านที่ไม่รู้จักของคุณหนูแท้จริงแล้วก็คือ “พวกเรียกร้องความสนใจ” นี่เอง
「ผมหวังว่าเมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้จะสร้างความประทับใจให้กับคุณนะครับ คุณมิร่า」เจ้าชายคลูฟชราทพูดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม
「มากๆเลยค่ะ นี่เป็นครั้งแรกของชั้นที่ได้มายังงานเลี้ยงที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ แถมชั้นยังได้พบกับท่านเจ้าชายศักดิ์สิทธิ์และท่านราชันศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงหญิงสาวที่งดงามขนาดนี้ด้วยค่ะ」
คุณหนูมิร่ามองไปที่คุณหนูอย่างตื่นเต้น คุณหนูที่ไม่เข้าใจถึงสายตานั่น ก็ได้แต่ทำตาปริบๆ
「มิร่า ทำไมถึงไม่ลองเชิญอีวาซามะให้มาเที่ยวที่ดินแดนของพวกเราละ?」
「ตะ-แต่ว่าป๊ะป่า มันน่าเบื่อเกินไปที่จะให้เธอมายังที่ของเรานะคะ…」
ป๊ะป่า?
ท่านเอิร์ลหมีเทาแห่งชายแดนเป็นคนทำให้ลูกสาวของตัวเองเรียกเขาว่าป๊ะป่ายังงั้นหรอ?
「ถ้าเธออาศัยอยู่ในเมืองศักดิ์สิทธิ์มานานแล้วละก็ เธออาจจะอยากออกไปเที่ยวที่อื่นๆบ้างก็ได้」
「ยะ-ยังงั้นหรอคะ…? เออ อืมม อีวาซามะ!」
คุณหนูมิร่ามองไปที่คุณหนูพร้อมกับตัดสินใจได้แล้ว
「ถ้าคุณไม่ว่าอะไร คุณจะมาเยี่ยมเยือนดินแดนของพวกเราเป็นบางครั้งจะได้ไหมคะ!?」
เหมือนกับรุ่นน้องในโรงเรียนมาขอให้ออกเดทด้วยเลย
หลังจากที่ตกเป็นเป้าของบทสนทนา คุณหนูก็ตกตะลึงไปเลย บางทีคงเป็นเพราะตัวเธอไม่เคยถูกเชิญชวนแบบนี้มาก่อนเลยก็ได้ คุณหนูได้มองมาทางผม ดังนั้นผมก็เลยตอบกลับไปด้วยการพยักหน้าเล็กน้อย
「ดิชั้นยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ!!」เธอตอบกลับไป ลืมเลือนเรื่องที่เธอพยายามแกล้งทำตัวไม่เป็นมิตรจนถึงตอนนี้ไปจนหมด
คุณหนูมิร่าดูจะตกใจเล็กน้อย ทว่าเมื่อเธอเห็นใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขของคุณหนู เธอก็เริ่มเล่าเรื่องดินแดนของเธอออกมาอย่างมีความสุข – ยินดีด้วยนะครับคุณหนู ในที่สุดคุณหนูก็มีเพื่อนแล้ว และได้โปรดอย่าลากตัวเพื่อนเข้าร่วม “การบดขยี้ธุรกิจค้าทาส” ด้วยครับ
(หืมม?)
ในตอนนั้น ผมเห็นราชันศักดิ์สิทธิ์กับเอิร์ลชายแดนนั้นกำลังสบตากันอยู่ด้วย
(…เกิดอะไรขึ้นกันนะ?)
ทั้งสองคนที่แทยจะไม่มองหน้ากันจนถึงตอนนี้ อยู่ๆก็มาสบตากันในเวลานี้เนี้ยนะ?
พูดยังไม่ทันขาดคำ เอิร์ลชายแดนก็ได้ห้ามราชันศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมาด้วย
「โอ้…」
「ดูน่าอร่อยจัง」
「นี่มันเยี่ยมไปเลย」
ความคิดของผมถูกขัดโดยคำพูดของเด็กชายทั้งสามคนที่อยู่บนโต๊ะ รวมไปถึงกลิ่มหอมรุณแรงนี้ด้วย
คนรับใช้ 4 คนได้นำไก่ย่างทั้งตัวเข้ามาผ่านพานอาหาร รูปลักษณ์ของมันเป็นไก่ก็จริง ทว่าขนาดของตัวมันนั้นใหญ่เท่ากับพานอาหารเลย
ผิวของมันนั้นเปล่งประกายระยิบระยับด้วยเครื่องเทศหลากสีสัน กลิ่นเผ็ดๆล่องลอยไปมาในอากาศ… โอ้ ไม่นะ… ท้องของผมเริ่มร้องแล้ว
ไก่ย่างที่ใหญ่ถึงขนาดต้องแบกมานั้น แน่นอนว่าไม่อาจยกมันข้ามหัวของแขกได้ ดังนั้นจึงได้มีคนรับใช้กล้ามใหญ่ๆยืนรออยู่ที่โตีะ เมื่อตัวไก่มาถึง เขาก็จะหั่นมันด้วยมีดสองเล่ม ก่อนจะยกมันไปวางไว้บนโต๊ะด้วยตัวของเขาเอง
เจ้าชายคลูฟชราทและลูกชายของตระกูลดยุคนั้นดูจะคุ้นเคยกับมันดี ทว่าตัวคุณหนูกลับดูประหลาดใจมากๆ ในทางตรงกันข้ามก็ได้มีเสียงปรบมือดังขึ้นมาจากโต๊ะอื่นๆด้วย เหล่าชายกล้ามใหญ่พวกนั้นสุดยอดไปเลยนะ ทั้งๆที่ไม่ได้มีสกิลช่วยแท้ๆ
บริกรที่ทำหน้าที่แจกจ่ายอาหารได้มาที่โต๊ะแล้วใช้มีดที่มีด้ามจับยาวๆกับส้อมในการหั่นเนื้ออย่างชำนาญ ท้องของมันนั้นเต็มไปด้วยผักและธัญพืช ซึ่งได้ส่งกลิ่นหอมของสมุนไพรออกมา
จานของแขกนั้นได้มีซอสเตรียมเอาไว้แล้วถึง 5 แบบ สามารถเลือกจิ้มได้ตามใจชอบได้เลย แต่ ไม่มีสำหรับผมจริงๆหรอ? ไม่มีเลยจริงๆหรอ? โอเค……
เนื้อนี้ดูเหมือนจะเป็นจานหลักแล้ว และดูเหมือนว่าต่อจากนี้จะเป็นการพบกับดยุคโรซีเออร์แล้ว จากนั้นก็ดูจะเป็นงานเต้นรำที่จะจัดขึ้นบนพื้นที่ว่างตรงกลางนั่น คุณชายอีธานนั้นดูจะไม่ได้สนใจอะไร ทว่าหลุยส์กลับจ้องมองไปที่คุณหนู เขาต้องอยากจะชวนเธอเต้นรำแน่นอนเลย
ส่วนเจ้าชายคลูฟชราทนั้น…
「ว้าว…」เขาพูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่ซอส
นั่นซอสโปรดของเขางั้นหรอ?
(เอ๊ะ?)
ผมมองไปที่ซอสที่เขามองอยู่ผ่าน【World Ruler】มันดูเหมือนกับซอสที่อยู่บนจากของคุณหนูเลย แต่ว่า — ตอนนั้นแหล่ะที่มันได้เกิดขึ้น
มีเสียงระเบิดเล็กๆดังขึ้น มันเหมือนกับเสียงยิงของปืนพกที่ผมเคยเห็นในหนังต่างประเทศเลย มันไม่ดังมากก็จริงทว่าก็ทำให้ผู้คนตกใจได้ เมื่อผมมองไปยังทิศทางของเสียง แสงไฟทั้งหมดบนโคมระย้าขนาดใหญ่นั้นก็ได้ดับลงในเวลาเดียวกัน
*เสียงที่เหมือนกับเสียงปืนดังขึ้นมาอีกครั้ง*
ภายหลังจากเสียงนั้น แสงจากโคมระย้าขนาดเล็กที่ห้อยอยู่เหนือโต๊ะแต่ละโต๊ะก็ได้ดับลง
「อะไรหน่ะ?」
「เกิดอะไรขึ้น?」
「ชั้นกลัวจังเลย」
เด็กๆต่างส่งเสียงหวาดกลัวออกมาในขณะที่ทั่วทั้งโถงงานเลี้ยงต่างมืดลง มีเพียงแค่ตัวเจ้าชายศักดิ์สิทธิ์คลูฟชราทกับตัวราชันศักดิ์สิทธิ์้เท่านั้นที่ยังส่องสว่างอยู่เล็กน้อย — ซึ่งเป็นแสงจากมานาของ “สีฟ้าศักดิ์สิทธิ์”
นี่เป็นอีเว้นท์อะไรสักอย่างงั้นหรอ? หรือว่าโคมระย้าเสียกัน? — ไม่มีทางที่มันจะเสียได้หรอก โคมระย้านั้นถูกจุดด้วยเทียนไข ไม่ใช่อุปกรณ์เวทมนตร์หรือเครื่องจักรใดๆเลย ทั้งหมดนั้นดับลงพร้อมกัน นั่นก็หมายความว่าพวกมันถูก “รบกวนจากภายนอก”
ผมใช้【มองกลางคืน】เพื่อตรวจสอบเหล่าคนรับใช้ภายในโถงอย่างรวดเร็ว – พวกเขากำลังตื่นตระหนกอยู่
หรือก็คือ นี่ไม่ใช่อีเว้นท์
งานเข้าแล้ว
อ้า ให้ตายเหอะ
จากนั้น ผมก็ได้ยินเสียงกระจกแตก ได้มีร่างสีดำ 6 ร่างบุกเข้ามาในโถงงานเลี้ยง ผมได้ใช้【เวทย์ไฟ】เพื่อสร้างแสงสว่างขึ้นมา 5 จุดรอบตัวในทันที จริงๆในเวลาแบบนี้ มันจะง่ายกว่าถ้าใช้เป็น【เวทย์แสง】แทน ทว่าตัวผมยังไม่เคยเห็น【เวทย์แสง】เลยนี่นา
อยู่ๆร่างกายของผมก็รู้สึกเฉื่อยขึ้น เป็นเพราะว่ามันกำลังดูดมานาอยู่ สกิล【เพิ่มปริมาณมานา】นั้นถูกห้ามเอาไว้ภายในโถงแห่งนี้ ดังนั้นเวทมนตร์ที่ผมสามารถใช้ได้ก็เลยถูกจำกัดขอบเขตเอาไว้ด้วย
「มีผู้บุกรุก!」
คนคุ้มกันฮาล์ฟลิงได้ตะโกนออกมาก่อนผม ตัวเธอได้ไปยืนอยู่ข้างหน้าคุณชายอีธานเพื่อปกป้องเรียบร้อยแล้ว
เหล่าผู้บุกรุกนั้นดูจะไม่ได้มีปัญหากับความมืดเลย พวกมันพุ่งตัวผ่านโต๊ะต่างๆแล้วเข้ามาหาพวกเรา ตามปกติ การโจมตีแบบนี้มักจะเล็งไปที่คนที่ใหญ่ที่สุดก่อนอยู่แล้ว
ถ้ายังงั้น นี่ก็คือการโจมตีเพื่อลอบสังหาร
เป้าหมายของพวกมันก็คือราชันศักดิ์สิทธิ์งั้นหรอ? ไม่สิ ตัวราชันศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้อยู่ในแผนงานเลี้ยงนี้ตั้งแต่แรก
ถ้ายังงั้น เป้าหมายก็คือตัวเจ้าชายศักดิ์สิทธิ์สินะ
「คุณหนูครับ ขออนุญาตเข้าต่อสู้」
「อนุญาต เรย์จิ ปกป้องทุกคนซะ!」
ให้ตายสิ คุณหนูนี้ใช้งานคนหนักจริงๆ