บทที่ 2 ตอนที่ 15
ท่านราชันศักดิ์สิทธิ์เริ่มบทสนทนาตามใจของเขา แต่เด็กอีกสามคนที่เหลือยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลยนะ
คุณหนูดูเป็นกังวลเล็กน้อย ทว่าเนื่องจากคนที่ถามเป็นถึงราชันศักดิ์สิทธิ์ เธอก็เลยไม่มีทางเลือกนอกจากตอบออกไป
「ดิชั้นจะไปปรึกษากับท่านพ่อหลังจากจบงานเลี้ยงวันนี้ค่ะ ฝ่าบาท」
「งั้นหรอ ถ้าเป็นคลูฟชราทละเป็นไง?」
「โกะโฮะ!」เจ้าชายคลูฟชราทสำลักเหล้าก่อนอาหาร
แน่นอนว่าเขาจะต้องตกใจอยู่แล้วถ้าเรื่องการหมั้นหมายของตัวเองถูกพูดขึ้นมาอย่างง่ายดายราวกับถามถึงสภาพอากาศแบบนี้
ผมบอกคุณหนูไปแล้วว่าไม่ควรส่งสายตาเชิญชวนแบบนั้นออกไป ทว่าเธอก็ยังปักธงหลุยส์กับเจ้าชายคลูฟชราทไปแล้วในเวลาแค่นี้ ถึงจะมั่นใจว่าตัวเธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ
「ท่านพ่อ– ฝ่าบาท! พูดอะไรหน่ะครับ!?」
「ข้าบอกเจ้าไปแล้วไม่ใช่รึว่าที่นี่เองก็เป็นที่สำหรับหามเหสีให้กับเจ้าหน่ะ?」
มเหสีของเจ้าศักดิ์สิทธิ์ลำดับที่ 2
เหล่าคุณหนูที่ควรจะนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ห่างออกไปนั้นตอบสนองอย่างพร้อมเพียงกัน ทุกคนดูจะแอบฟังพวกเราอยู่นะ เพราะโต๊ะอื่นๆนั้นเงียบเชียบกันหมดเลย
「ฝะ-ฝ่าบาทบอกผมเองไม่ใช่หรอครับว่าผมควรตัดสินใจเอง」
「เห็นเจ้าพูดติดอ่างแบบนั้น ใครจะรู้ว่าเจ้าจะใช้เวลานานแค่ไหน」
「ถึงยังนั้น นี่มันก็เร็วเกินไปแล้วนะครับ!」
「ว่าไงนะ? นี่เจ้าไม่พอใจลูกสาวของวิกเตอร์หรือไง?」
「นะ-นะ-นะ-นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมพยายามจะพูดนะครับ…」
ขณะที่พ่อลูกกำลังเถียงกันนั้น หลุยส์ก็มองมาที่ผมพร้อมกับกัดฟัน
–เฮ้คุณคนคุ้มกันครับ เจ้านายของคุณเป็นตัวอันตรายครับ กำจัดเขาที
เห็นกับตาตัวเองมักจะดีกว่าฟังมา 10,000 คำงั้นหรอ
เข้าใจละ… ต่อให้เป็นตระกูลดยุคก็เข้ามายุ่งไม่ได้ถ้าคุณหนูกลายเป็นคู่หมั้นของเจ้าชายศักดิ์สิทธิ์สินะ
ความรู้สึกของหลุยส์ถูกส่งผ่านมาที่ผมอย่างชัดเจนเลย
และผมก็ได้หันไปทางอื่นพร้อมกับเมินมัน
「แก กล้าเมินข้า–」
「คลูฟชราทซามะ! ดิชั้นชื่อชาล็อตจากตระกูลมาร์ควิสเฟรสค่ะ! ดิชั้นได้พบกับท่านเป็นครั้งแรกค่ะ!」คุณหนูชาล็อตรีบแนะนำตัวเองให้กับเขาโดยไม่รอช้า
「ข้ารู้สึกเสียใจกับเหล่าเด็กๆจริงๆที่มีพ่อเป็นคนชอบยุ่งไม่เข้าเรื่องแบบนี้」
หมีเทาพูดได้!!! โอ๊ะ ไม่ใช่สิ เป็นเอิร์ลประจำชายแดนนี่นา
「อาห์? เจ้าพูดถึงข้าเรอะ เอิร์ลชายแดน?」
「ถ้าท่านรู้ตัว ทำไมท่านถึงไม่อยู่เงียบๆละครับ คุณคนคุ้มกัน?」
「ตอนที่ข้าเรียกตัวเจ้า เจ้าก็ไม่มาที่เมืองศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ให้เหตุผลใดๆเลย แต่ตอนนี้เจ้ากลับลอบเข้ามาในที่แห่งนี้ แถมยังสวมหนังหมีที่ไม่เข้ากับสถานที่มาอีก ใครกันแน่ที่เป็นพ่อชอบยุ่งไม่เข้าเรื่องหน่ะ?」
「เหล่าเด็กๆเป็นตัวหลักในวันนี้ ใครกันนะที่พูดแบบนั้น?」
「อ้า!? เจ้าจะเอาเรอะ?」
「โอ๊ะ? เอาสิ ฝ่าบาท เรื่องนี้จะต้องนองเลือดแน่นอน」
กอลิลล่ากับหมีต่างเพชิญหน้ากันโดยที่กอดอกของตัวเองเอาไว้ พวกเขาห่างกันเพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น
ฝั่งหนึ่งคือราชันศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังปล่อยมานาออกมา และอีกฝั่งหนึ่งก็คือเอิร์ลหมีเทาประจำชายแดน จะเล่นมวยปล้ำกันหรอ? …ไม่สิ อืม ผมเองก็ไม่รู้จักนิสัยของทั้งสองคนซะด้วยสิ ดังนั้นผมก็เลยค่อนข้างสับสนนิดหน่อย ทว่าเจ้าชายคลูฟชราทก็หมอบลงไปกับพื้นพร้อมกับเอามือกุมหัวซะแล้ว คุณหนูมิร่าลูกสาวของเอิร์ลชายแดนเองก็ทำแบบเดียวกันด้วย มีเพียงแค่คุณหนูชาล็อตที่ถูกเมินโดยสมบูรณ์เท่านั้นที่น้ำตาระรื่นอยู่
ทว่าผมก็รู้ตัวหลังจากที่ผมเห็นคุณชายอีธานที่มองออกไปอย่างงุนงง ใช่แล้ว นั่นคือปฏิกิริยาทั่วไปที่ควรจะเป็นสินะ อย่างไรก็ตาม หลุยส์กลับมองเหตุการณ์นี้ด้วยสายตาแพรวพราวราวกับกำลังคิดว่า “พวกเขากำลังจะสู้กันงั้นหรอ? เอาจริงดิ? โคตรเจ๋ง”
ม่านแห่งความโกลาหลในงานเลี้ยงแห่งนี้ก็ได้เปิดฉากขึ้น
「—งั้นหรอ งั้นตระกูลซิวลิซส์ก็ไม่มีอาณาเขตของตัวเองสินะ?」
「ค่ะ ใช่แล้วค่ะ ท่านพ่อมักจะพูดอยู่เสมอว่า “การปกครองอาณาเขตนั้นจะใช้ความรับผิดชอบ และจะต้องใช้เวลาอย่างมากในการทำแบบนั้น” ตระกูลซิวลิซส์นั้นทำงานรับใช้ทั้งประเทศในเมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วน่ะค่ะ」
「ผมคิดว่ามันเป็นคำพูดที่น่าชื่นชมมากเลยนะครับ」
「ไม่ค่ะ… ดิชั้นคิดว่าการผลิตสินค้าพื้นเมืองเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศเองก็สำคัญไม่แพ้กันนะคะ เหมือนกับที่ตระกูลเอเบเน่ของอีธานซามะกำลังทำอยู่น่ะค่ะ」
「พวกเรายังต้องพัฒนาอีกมาก–」
「ดิชั้นได้ยินมาว่าการพัฒนาน้ำหอมชนิดใหม่นั้นสำเร็จไปเมื่อปีที่แล้วสินะคะ ยินดีด้วยนะคะ」
「นั่นมันน่าอายจัง คุณรู้อะไรมากมายเลยนะครับ คุณหนูอีวา」
คุณชายอีธานกับคุณหนูกำลังพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองอยู่ ผมดีใจที่คุณหนูสนใจในเรื่องที่ครูสอนพิเศษสอนด้วย ผมรู้สึกอย่างกับเป็นผู้ปกครองที่กำลังภูมิใจในตัวลูกเลย
เจ้าชายคลูฟชราทกับคุณหนูมิร่านั้นกระวนกระวายเกินไปที่จะพูดอะไรออกมา เพราะคนคุ้มกันของพวกเขากำลังจ้องมองกันและกันพร้อมกับเส้นเลือดที่ปูดอยู่บนหัว ส่วนคุณหนูชาล็อตที่พลาดการแนะนำตัวเองเมื่อสักครู่ก็กำลังทานอาหารที่นำมาเสิร์ฟให้อย่างเคร่งเครียดอยู่
ผมไม่แน่ใจว่าหลุยส์กำลังคิดที่จะพูดคุยกับคุณหนูอยู่หรือเปล่า หรือเขากำลังกังวลเรื่อง “การหมั้นหมาย” ที่ท่านราชันศักดิ์สิทธิ์พูดออกมา หรือเพราะเขาแค่ตามบทสนทนาของคุณหนูกับคุณชายอีธานอยู่กันแน่ ทว่าเขาทำเพียงแค่ทานอาหารของเขาอยู่อย่าเงียบๆเท่านั้น เขามองไปที่ใบหน้าของคุณหนูขณะที่กำลังเคี้ยวอาหารอยู่ก่อนจะถอนหายใจออกมา ให้ตายสิ เขาหลงเธออย่างหัวปักหัวปำเลย
「เนื่องจากพวกเราเองก็อายุเท่าๆกัน มาเป็นเพื่อนกันเถอะ」คุณชายอีธานกล่าวกับทุกคนแบบนั้น
บางทีเขาคงจะพูดแบบนั้นเพื่อคนอื่นๆที่กำลังรู้สึกอึดอันกัน เด็กคนนี่ช่างน่าชื่นชมสำหรับเด็กอายุเพียงแค่นี้จริงๆ เผ่าฮาล์ฟลิงทุกคนนั้นเป็นคนดีกันหมดเลยหรือไงกัน?
「เป็นความคิดที่ดีนะคะ!」คุณหนูชาล็อตพูดขึ้น
「แล้วพวกเราจะทำอะไรเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กันละ อีธาน?」ในที่สุดหลุยส์ก็พูดออกมา
ดูจากวิธีที่หลุยส์ใช้เรียกคุณชายอีธาน ดูเหมือนทั้งคู่จะรู้จักกันมาก่อนสินะ
「ตัวอย่างเช่น ผมมักจะอยู่ที่บ้านในอาณาเขตของผมเองเป็นเวลานาน ดังนั้นผมจะดีใจถ้าพวกเรามารวมตัวกันได้ในตอนที่ผมเข้ามาที่เมืองศักดิ์สิทธิ์นะครับ」
「นายก็ทำเพื่อตัวเองไม่ใช่หรอไง?」
「ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่? ยังไงซะ ผมก็มักจะว่างตลอดเวลาอยู่ในตอนที่ผมอยู่ในเมืองศักดิ์สิทธิ์ และนายเองก็เป็นคนเดียวที่ผมสามารถพบได้เวลาที่มาที่นี่นะ หลุยส์」
「ข้าคนเดียวมันไม่พอรึไง?」
「งั้นนายจะมาเล่นกับผมทุกวันไหมละ?」
「ก่ะ ไม่มีวันซะละ」
「แหม่-โอ้-แหม่ ทั้งสองคนสนิทกันจังเลยนะคะ!」คุณหนูชาล็อตเข้าไปแทรกบทสนทนาของพวกเขา
พวกเขาก็ดูจะสนิทกันดีนะ แต่ดูไม่เหมือนว่าพวกเขาจะเข้ากันได้เลย
「แล้วก็นะ คลูฟชราทซามะเองก็จะเข้าร่วมด้วยใช่ไหมคะ?」
ดูเหมือนนั่นจะเป็นปัญหาหลักของคุณหนูชาล็อต หรือจะต้องพูดว่าเป็นสิ่งที่เธอกังวลอยู่สินะ เจ้าชายคลูฟชราทที่กำลังถูกพูดถึงนั้นรีบหันกลับไปด้านหลังเพื่อยืนยันกับพ่อของเขา ท่านราชันพยักหน้าตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง
「ผะ-ผมเองก็อยากจะร่วมด้วยครับ!」
เจ้าชายคลูฟชราทที่กำลังกระตือรือร้นนั้นดูน่ารักมาก เด็กท่าทางใจดีแบบนี้เกิดมาจากราชันศักดิ์สิทธิ์ที่เหมือนกับกอลิลล่านั่นได้ยังไงกัน?
จากนั้นเจ้าชายคลูฟชราทก็พยายามตรวจดูปฏิกิริยาของทุกคน ก่อนที่สายตาของเขาจะไปหยุดอยู่ที่คุณหนูอีวา
「จะดีหรือปล่าวคะที่ดิชั้นจะเข้าร่วมด้วย?」คุณหนูถามออกมาพร้อมกับเอียงหัวของเธอเอง
「ละเว้นตระกูลซิวลิซส์จะดีกว่าหรือปล่าวคะ?」
เมื่อคุณหนูชาล็อตพูดขึ้นมาแบบนั้นขณะที่ส่งสายตาจิกกัดไปทางคุณหนู เจ้าชายคลูฟชราทก็ลนลานทันที
「ทะ-ทำไมคุณถึงอยากจะทิ้งคุณอีวาเอาไว้นอกกลุ่มละครับ คุณชาล็อต?」
「เจ้าชายคลูฟชราทคะ ดิชั้นกลัวเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องนั้นค่ะ ดิชั้นพูดได้แค่ว่า “ตระกูลซิวลิซส์นั้นได้สร้างความคัดแย้งขึ้นในสังคมขุนนาง” น่ะค่ะ」
จากนั้นคุณหนูชาล็อตก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยออกมา