บทที่ 1 ตอนที่ 25
หลังจากที่ผมโผล่หน้ามาจากหลังคาแล้วตะโกนออกมา ทุกคนก็มองขึ้นมาอย่างตื่นตะลึง
「เรย์จิ!!! คาดการณ์เวลาที!!!」
「อีกไม่กี่นาทีครับ!!!」
「!」
…เร็ว เร็วมาก ความเร็วระดับนี้น่าจะมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลย ผมก็ไม่ได้อยากจับตาดูอยู่บนนี้ต่อไปหรอก แต่มันเป็นงานของผมนี่นา
「พวกนักพจญภัย!! อพยพประชาชน!」
หลังจากที่ได้ยินเสียงของโจเซฟซัง เหล่านักพจญภัยก็ได้สติกลับมาแล้วเริ่มเคลื่อนไหว
「ส่วนพวกทหาร! เข้าไปอพยพเจ้าหน้าที่ในอาคารออกมา!」
「ตะ-แต่… อยู่ในอาคารจะไม่ปลอดภัยกว่าหรอ?」
「เรย์จิ! มังกรนั่นตัวใหญ่แค่ไหน?!」
「ใหญ่กว่าอาคารนี้มากครับ!」
「บ้าเอ้ย!!! ได้ยินแล้วใช่ไหม?!! ถ้ายังอยู่ในนั้นละก็รับรองได้ว่าเละแน่ๆ!」
「ว่าไงนะ!?」
「สิ่งเดียวที่คนที่สู้ไม่ได้ทำได้ก็คือวิ่งหนี! เร็วเข้า!」
「ตะ-แต่เมืองนี้มันกว้างมากเลยนะ…」
「แต่ตรงนี้มันอันตรายที่สุดแล้วโว้ย!! เร็วเข้าสิวะ!!」
「คุ… เข้าใจแล้ว!」
ในที่สุดโจเซฟซังก็โน้วน้าวทหารคนนั้นได้
ทหารคนนั้นเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว เขาวิ่งเข้าไปในอาคารและเริ่มเรียกเหล่าเจ้าหน้าที่ออกมา
「เอออ… แล้วข้าควรจะทำอะไรละ?」
ผมสบตาเข้ากับทหารอีกคนที่อยู่บนระเบียงชั้น 3
「เออ… ทำไมคุณไม่ไปรวมกลุ่มกับคนที่ยังอยู่ในอาคารละครับ?」
「อะ-อา ข้าจะทำแบบนั้นแล้วกัน เจ้าเองก็ควรลงมาจากตรงนั้นด้วยเหมือนกันนะ」
ผมย้อนกลับไปที่ดาดฟ้าอีกครั้ง
…บ้าเอ้ย มันเข้ามาใกล้ขึ้นทุกทีแล้ว
มังกรเกือบจะมาถึงกำแพงเมืองชั้นนอกแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อผมชโงกหน้ามองออกไป ก็เห็นเหล่าทหารที่ประจำอยู่ตรงกำแพงชั้นนอกกำลังแตกตื่นกันอยู่
เห็นแบบนั้น ภาพเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก็ลอยขึ้นมาในหัวผมเลย
…จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามังกรนั่นยิงลูกบอลแสงออกมาเหมือนกับที่ผมเห็นในคืนนั้นจากด้านหลังกำแพงชั้นนอกเข้ามาในเมืองกัน? อีกอย่าง ไม่ใช่นั่นเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นก็ได้ไม่ใช่หรอ? ถ้ามังกรตัวนั้นมีสติปัญญาจริงๆละก็ มันต้องสังเกตสถานการณ์อยู่ห่างๆแล้วโจมตีจากระยะไกลเอาแน่ๆ
「ตะ-ต้องหาทางดึงความสนใจซะแล้ว! อืม เอออ…」
เรื่องที่มังกรสามารถตรวจจับหินสกิลได้
แล้วหินสกิลอันไหนละที่มังกรนั่นจะหันมาสนใจกัน?
「อา…」
…ถ้ามังกรมันตรวจจับหินสกิลได้ดีขึ้นจากจำนวณดาวที่หินสกิลมีละ?
ขณะที่ผมคิดแบบนั้น บรรยากาศรอบๆของมังกรตัวนั้นก็เริ่มบิดเบี้ยว
…มันกำลังจะใช้เวทมนตร์หรืออะไรแบบนั้นงั้นหรอ?
「อึก ไม่มีเวลาแล้ว!」
ผมวางมือลงบนอกของผมแล้วจินตนาการอย่างแรงกล้าถึงภาพลักษณ์ของหินสกิล【World Ruler】มันรู้สึกเหมือนกับว่าพลังที่มีกำลังหลุดหายไปจากร่างการเลย – ไม่สิ ไม่ใช่แค่ความรู้สึกแล้ว พลังกำลังหายไปจากร่างกายของผมจริงๆ!
หินสกิลสีดำได้ออกมาจากอกของผม ผมสูญเสียพลังของ【World Ruler】ไป และ ในเวลาเดียวกันก็รวมถึงสกิลทั้งหมดที่ผมเคยเรียนมาด้วยเช่นกัน
…บ้าเอ้ย ผมจะมีชีวิตรอดต่อไปได้ยังไงถ้าไม่มีสกิลนี้อยู่เนี้ย?
ผมคุกเข่าลงกับพื้น ในมือของผมมีหินสกิลสีดำอยู่ – หินสกิลสีดำที่ตรงกลางมีแสงสีรุ้งส่องสว่างวิบวับไปมาเหมือนกับน้ำวน
《ก๊าซซซซซซซซซ……》
ผมได้ยินเสียงคำรามจากมังกรตัวนั้น
…ดูเหมือนการสันนิษฐานของผมจะตรงเผงเลยสินะ มังกรนั่นมองตรงมาที่ผม ไม่สิ… มองตรงมาที่หินสกิล【World Ruler】ต่างหาก
「อุ๊บ! ต้องหนีแล้ว!」
ผมดูดกลืน【World Ruler】กลับเข้ามาในร่างอีกครั้ง ตอนที่ผมทำอย่างงั้น อาการไม่สบายต่างๆก็หายไปหมดราวกับหมอกที่จางหายไป และความรู้สึกถึงพลังอำนาจก็ก่อตัวขึ้นในร่างกายของผม
…อ่าห์ ต้องติดเป็นนิสัยแน่เลย! ไม่ ผมจะยอมให้มันติดเป็นนิสัยไม่ได้! ถ้าผมจะต้องใช้สกิลละก็ ผมจะต้องไม่ยอมตกอยู่ใต้การควบคุมของมันเด็ดขาด
ต้องขอบคุณ หลังจากที่ผมดูดกลืน【World Ruler】กลับเข้าร่าง สกิลที่ผมเคยเรียนมาทั้งหมดก็กลับมาเช่นกัน
ผมวิ่งไปตามหลังคาด้วยสกิล【ทักษะการวิ่ง】แล้วกระโดดไปยังหลังคาของตึกข้างๆที่เป็นอาคาร 2 ชั้น ดังนั้น ผมเลยลงต้องลงจอดด้วยมือและเท้าทั้งสองข้าง ผมเห็นดันเต้ซังกับคนอื่นๆจากด้านบนนี้ด้วย
「มันมาแล้ว!!」ผมตะโกนออกไป
ดันเต้ซังไม่ได้ถามอะไรอย่าง “อะไรหน่ะ” หรือ “ได้ไงกัน” ออกมาเลย
「เข้าใจแล้ว!!」เขาตอบกลับมา
…เขาเชื่อใจผมอย่างสุดหัวใจ ทั้งๆที่พึ่งรู้จักกันไม่กี่วันแท้ๆ… เขาเป็นคนที่ดีจริงๆ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามามัวซึ้งใจกับเรื่องแบบนี้
《ก๊าซซซซซซซ!!!!!》
เสียงคำรามราวกับฟ้าร้องดังขึ้น และสิ่งมีชีวิตที่มีมวลมหาศาลก็ชนเข้ากับอาคารที่ถูกเรียกว่า “สำนักงานจัดการสกิล” ถึงตัวอาคารจะถูกสร้างจากหินแต่ก็ถูกทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยราวกับบล็อกไม้ของเกมแจงก้าไม่มีผิด
ผมที่ยังอยู่บนหลังคาของตึก 2 ชั้นในตอนนั้นโดนคลื่นกระแทกซัดจนปลิวตกจากหลังคา ผมมั่นใจว่าผมต้องตกกระแทกพื้นแน่ๆ ทว่า มีใครบางคนก็รับตัวผมเอาไว้ได้ก่อน
「ทำได้ดีมาก ไอ้เด็กเหลือขอ」
ไรเครียซังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อแล้วหยุดทันทีหลังจากได้ตัวผม
ขณะที่วางตัวผมลง สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่มอนสเตอร์ที่กำลังเกาะอยู่บนซากของอาคาร
「ที่เหลือพวกเราจะจัดการเอง พวกเราจะฆ่าไอ้มังกรนั่นให้ได้」เขาพูดออกมา
ออร่าที่ออกมาจากมังกรตัวนั้นล้นหลามมาก มันเหยียบอาคารทั้งอาคารภายใต้ฝ่าเท้าของมัน และทำลายอาคารที่อยู่ข้างๆอีก 2 อาคารราวกับจะบอกว่าแค่นี้ยังไม่สาแก่ใจของมันเลย
เนื่องจากมานาที่ห่อหุ้มเกล็ดสีเหลืองของมัน มันจึงไม่ได้รับรอยอะไรจากการชนเลยแม้แต่รอยเดียว
รอบข้างเกิดความโกลาหลขึ้น เกือบทุกคนกรีดร้องพร้อมกับวิ่งหนีออกไป และมีบางคนที่ตัวแข็งทื่อจากความหวาดกลัวแล้วเริ่มที่จะร้องไห้ออกมา
ครึ่งนึงของเหล่านักพจญภัยต่างหมดกำลังใจที่จะสู่ต่อ พวกเขาทำได้แค่จ้องมองไปที่มังกรตัวนั้นอย่างเหม่อลอย
ทว่า มีเพียงสองคนที่เป็นผู้นำเท่านั้นนั้นที่แตกต่างออกไป
「ใครที่สู้ไม่ได้ให้ไปช่วยประชาชนอพยพซะ!」
「ส่วนพวกทหารให้ไปเรียกกำลังเสริมมาเดี๋ยวนี้เลย!」
เป็นโจเซฟซังที่กำลังถือขวนสองมือที่ดูมีขนาดใหญ่กว่าอาวุธสองมือตามปกติ และดันเต้ซังที่ยืนอยู่ข้างๆเขาพร้อมกับถือดาบขนาดใหญ่ที่ราวกับแท่งเหล็กเอาไว้ในมือนั่นเอง
「…นี่นายจะใช้ดาบมหึมานั่นแทนโล่ใหญ่ของนายจริงๆงั้นเรอะ?」
「การเคลื่อนไหวของข้าติดขัดขึ้นมากจากคำสาป ตอนนี้ข้าไม่สามารถถืออาวุธพร้อมกันกับโล่ได้」
「งั้นก็ช่วยไม่ได้ละนะ」
「ก็คงจะอย่างงั้น」
ทั้งสองคนไม่ได้ละสายตาไปจากมังกรเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่แน่ใจว่ามังกรตัวนั้นรับรู้ว่าทั้งสองคนเป็นศัตรูแล้วหรือเปล่า แต่มันจับจ้องไปที่พวกเขาทั้งคู่ตาไม่กระพริบเลย
「ลุยกันเลย โล่ใหญ่!」
「อ่า!」
โจเซฟซังวิ่งไปทางขวาและดันเต้ซังก็วิ่งไปทางซ้าย ถึงการเคลื่อนไหวของเขาจะติดขัด แต่ดันเต้ซังก็ยังเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าผมตอนที่ใช้สกิลซะอีก
มีแสงสว่างเกิดขึ้นที่ปากของมังกร ในจังหวะนั้นโจเซฟซังก็กระโจนไปข้างหน้า ทันใดนั้น เปลวไฟสีเหลืองก็ถูกปล่อยออกมาจากปากของมัน แผดเผาบริเวณตรงที่โจเซฟซังเคยอยู่ก่อนหน้านี้ มังกรตัวนั่นก็หันมาปล่อยเปลวไฟใส่ดันเต้ซังต่อราวกับเพียงแค่สลับขาไปมาเท่านั้น
「คุณพ่อ!」
น็อนซังกรีดร้องออกมา แต่ดันเต้ซังก็ปักดาบของเขาลงพื้น แล้วทำการดีดตัวหลบเปลวไฟที่กำลังพุ่งเข้ามาด้วยแรงเสริมจากดาบของเขา
…สุดยอดไปเลย เขาทำแบบนั้นได้ทั้งๆที่ไม่มีสกิลประเภทกายกรรมเลย แถมยังสามารถเอาตัวรอดได้โดยใช้เพียงแค่ปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติอย่างเดียวเท่านั้นเอง
「ชิ ดูเหมือนแกจะไม่ยอมให้พวกเราเข้าไปใกล้ได้อย่างง่ายๆงั้นสินะ หา!」
โจเซฟซังเว้นระยะห่างของเขาออกมาก่อนจะตะโกนกลับไปหามังกร แต่มังกรตัวนั้นกลับเอาแต่ก้มหน้ามองไปที่เท้าของมันราวกับไม่ได้สนใจโจเซฟซังกับดันเต้ซังเลยแม้แต่นิดเดียว
…ตรงนั้นมีเพียงแค่ซากของอาคารสำนักงานจัดการสกิลเพียงเท่านั้น หืมม…? มีบางอย่างส่องแสงอยู่ใต้ซาก นั่นมัน… หินสกิล?
「…ไม่มีทางหน่า」
มังกรตัวนั้นอ้าปากออกแล้วปล่อยลมหายใจออกมา มันไม่ใช่ลมหายใจเปลวเพลิง แต่เป็นลมหายใจสีทองระยิบระยับ เมื่อมันโดนใส่หินสกิลอันนั้น หินสกิลก็แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
「อ้า! นั่นหินสกิลแดง 4 ดาวเลยไม่ใช่เรอะ!? น่าเสียดายชะมัด!」
「ทางนั้นก็มีหินสีฟ้าหลายอันที่ถูกทำลายไปแล้วเหมือนกัน!」
เหล่านักพจญภัยต่างกรีดร้องออกมาราวกับจะร้องไห้ สีของหินสกิลบ่งบอกได้ถึงประเภทของมัน “ประเภทร่างกาย” คือ “สีแดง” , “ประเภทเวทมนตร์” คือ “สีฟ้า” , และ “ประเภทยูนีค” คือ “สีรุ้ง”
ผมเห็นพลังงานอะไรบางอย่างคล้ายกับมานาหายขึ้นไปในอากาศหลังจากที่หินสกิลนั้นแตกออก – ที่ผมเห็นได้บางทีอาจจะเป็นเพราะผมมีสกิล 【เสริมการมองเห็น】ก็ได้
หลังจากที่มังกรนั่นทำลายหินสกิลอันนั้นไป มันก็มองไปรอบๆเหมือนกับกำลังมองหาอะไรบางอย่าง
…แกมองหาอะไรกัน? เดี๋ยวก่อนนะ ตอนนี้มันมองตรงมาที่ผมแล้ว!
…ใช่แล้ว แกกำลังมองหาผมอยู่ใช่ไหมละ?! แน่อยู่แล้วสิ! ผมเป็นคนที่ยืนอยู่บนหลังคาก่อนหน้านี้นี่นา! แกเล็งเป้ามาที่ผมเพราะจะทำลายหินสกิลหายากของผมอย่างงั้นสินะ? เหอะ เสียใจด้วยนะ! เพราะผมดูดกลืนมันเข้ามาในร่างแล้วยังไงละ!