เธอเดินมาที่ตรงหน้าโห้หลีเฉินโดยตรง พร้อมมองเขาด้วยแววตาระยิบระยับ “คุยเสร็จหรือยังคะ?”
ถึงแม้ไม่ค่อยได้ยินเสียงคุยพูดกันของข้างนอก แต่พอเห็นพวกเขาไม่ได้ชกต่อยกันขึ้นมา แล้วมองท่าทีของฝู้ยวน เย้นหว่านก็พอดูเดาสถานการณ์ได้คร่าวๆแล้ว
เรื่องข้องเกี่ยวกับยาสมุนไพรของโห้หลีเฉิน เธอก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี จำเป็นต้องได้ยินกับหูตัวเอง
โห้หลีเฉินพยักหน้า พร้อมพูดกับเธออย่างมีความอดทน “ตอนนี้ฝู้ยวนไปเอาหยิงหลิงให้ผมแล้ว พอทานหยิงหลิงลงไป ร่างกายของผมก็จะดีขึ้นอีกเยอะเลย”
“ดีจังเลยค่ะ”
ถึงแม้เป็นคำตอบที่อยู่ในความคาดหมาย แต่ได้ยินกับหูตัวเอง ก็ยังทำให้เย้นหว่านอดดีใจและกระดี๊กระด๊าไม่ได้อยู่ดี
ในที่สุดก็ได้ยกภูเขาออกจากอกเสียที
เวลาไม่ถึงครึ่งปี ก็หายาสมุนไพรตัวที่สองเจอแล้ว ยาสมุนไพรตัวที่สามก็ไม่ไกลแล้ว
ไม่นาน โห้หลีเฉินก็จะกลับมาเป็นคนที่แข็งแรงและอายุยืนยาวร้อยปีแล้ว
แต่เย้นหว่านยังคงมีความตื่นตัวอยู่ หลังจากดีใจแล้วก็ได้ถามอีกว่า “แล้วเขาได้ขออะไรหรือเปล่าคะ?”
เพราะยังไงซะพวกเขามาด้วยลักษณะท่าทางที่ดุร้ายเชียวนะ แถมยังฆ่าท่านฝู้รองด้วย ไม่เป็นมิตรเลยสักนิด
ถึงฝู้ยวนจะขี้ขลาด อย่างน้อยก็จะอาศัยสถานการณ์ที่ได้เปรียบเรียกร้องการชดเชยหน่อย
“คุณฉลาดจังเลย”
โห้หลีเฉินแตะปลายจมูกของเย้นหว่าน และพูดอย่างเอ็นดู “เขาจะไปเอาของอย่างหนึ่งที่คลังสมบัติของตระกูลหยู เดี๋ยวเราก็จะไปเอาที่ตระกูลหยูเลย”
โห้หลีเฉินเป็นคนที่ไม่ปิดบังเย้นหว่านอะไรเลย ได้พูดเรื่องที่หลังจากเขากินหยิงหลิงลงไป ก็จะสามารถเปิดคลังสมบัติของตระกูลหยูให้เย้นหว่านฟัง
“ฝู้ยวนคนนี้อาจจะไม่ธรรมดา คุณพยายามอยู่ห่างจากเขาหน่อย”
เย้นหว่านพยักหน้า มาที่นี่เธอไม่ได้ลงจากรถเลย เพราะไม่อยากสร้างปัญหาให้โห้หลีเฉิน
ถึงแม้ตอนนี้เอาหยิงหลิงได้สำเร็จ แต่ยังไม่รู้เลยว่าฝู้ยวนมีจุดประสงค์อะไรหรือเปล่ากันแน่ เธอย่อมไม่ไปใกล้ชิดเขาอยู่แล้ว
เธอแค่อยู่ข้างหลังโห้หลีเฉินอย่างสบายใจและปลอดภัย ก็เป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาแล้ว
หลังจากเย้นหว่านคุยกับโห้หลีเฉินเสร็จ ก็ถือว่าได้ยกภูเขาออกจากอกแล้ว
ตอนนี้ก็รอแค่ฝู้ยวนเอาหยิงหลิงออกมา จากนั้นก็ขึ้นเครื่องไปที่ตระกูลหยูกับพวกเขา
จากนั้น เธอได้มองไปที่เย้นโม่หลิน
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาบึ้งตึงไว้ มีความเยือกเย็นฟุ้งอยู่ทั้งตัว
เธอพูดอย่างไม่ค่อยวางใจ “พี่ พี่สร่างเมายัง?ยังปวดหัวอยู่หรือเปล่า?”
บินไปตระกูลหยู ก็โคลงเคลงไปมากว่าสิบชั่วโมงอีก
เย้นโม่หลินจากเช้าจนถึงตอนนี้ อยู่ในอาการมึนเมาก็ยังวิ่งไปมาอยู่บนถนน ถ้าเป็นปกติก็ค่อยยังชั่วหน่อย แต่นี่เมาเหล้าอยู่ เกรงว่าร่างกายคงจะรับไม่ไหว
“อืม”
เย้นโม่หลินตอบอย่างเคร่งขรึมคำหนึ่ง แววตาค่อนข้างมืดมน
สร่างเมาแล้ว แต่สมองยังมึนอยู่นิดหน่อย ไม่ค่อยสบาย ความทรงจำยังกระจัดกระจายเล็กน้อย ยังไม่มีเวลา
จัดระเบียบ
เขาเพิ่งลืมตาขึ้น มีความตระหนักเล็กน้อย ก็ได้ยินคำพูดสามหาวของฝู้เหวยข่าย ความหงุดหงิดที่ถูกคนปลุกให้ตื่นระเบิดออกมา พร้อมลงจากรถไปสั่งสอนเขาโดยตรง
ตอนนี้คนก็จัดการเรียบร้อยแล้ว เขาถึงเริ่มดึงสติกลับมา และคิดจุดที่ยังไม่เข้าใจ
อย่างเช่น ตอนที่เขาตื่นขึ้นมาทำไมถึงได้ซบอยู่ที่อ้อมอกของกู้จื่อเฟย?ท่าทางนั้น เหมือนท่าทางที่ผู้หญิงทั่วไปซบอยู่ในอ้อมอกของผู้ชาย แต่เขากลับสลับกัน
ไม่ นี่ไม่ใช่จุดสำคัญ จุดสำคัญคือทำไมเขาถึงได้แนบชิดกับกู้จื่อเฟยขนาดนั้น?
อย่างเช่นอีก ในความทรงจำที่เขายังไม่ได้จัดระเบียบให้ชัดเจน ไม่นึกเลยว่าในเศษความทรงจำที่ประปรายจะมีภาพต่างๆที่เขากอดกู้จื่อเฟยไว้ จากตระกูลกู้ถึงบนรถ……
เขาปวดหัว ไม่กล้าคิดให้ลึกซึ้งกว่านี้ ตอนที่เขาเมาได้ทำเรื่องอะไรลงไปหรือเปล่า
“ลูกพี่ เมาจนภาพดับไปเหรอ?”
ป่ายฉีขยับเข้ามาด้วยรอยยิ้มที่กวนประสาท
เย้นโม่หลินมองหน้าตาที่มุ่งร้ายของเขา หัวคิ้วได้กระตุก ในใจมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี
ความทรงจำกระจัดกระจายในหัวเขาไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เขาก็เลยเม้มริมฝีปากบางไว้ไม่พูดจาซะเลย
ยากที่ป่ายฉีจะเจอเรื่องสนุกแบบนี้ จะยอมปล่อยไปง่ายๆได้ยังไง เขาได้พูดอย่างฝ่ายรุกสุดๆ “ลูกพี่ ฉันติดตามลูกพี่มานานขนาดนี้ ฉันรู้นิสัยการดื่มเหล้าของพี่ดี พี่เป็นคนที่มีนิสัยการดื่มเหล้าดี พอเมาเหล้าส่วนใหญ่จะหลับโดยตรง แค่จำกระบวนการที่ขึ้นไปนอนบนเตียงยังไงไม่ค่อยได้เฉยๆ ครั้งนี้ก็คงพอๆกันแหละมั้ง?ลูกพี่จำไม่ได้ไม่เป็นไร ครั้งนี้พวกเราได้ถ่ายคลิปไว้อยู่ พี่ลองดูก็ได้”
ถ่ายคลิป?
ขมับของเย้นโม่หลินกระตุกอย่างแรง
ในหัวมีภาพที่เขาโอบกอดกู้จื่อเฟยแว๊บผ่าน ด้วยสัญชาตญาณเลยรู้สึกว่าดูคลิปวิดีโอนี้ไม่ได้
เขาพูดด้วยเสียงจริงจัง “ฉันไม่สนใจ”
ป่ายฉียักคิ้ว แกล้งพูดเสียงสูงอย่างกวนประสาท พร้อมพูดอย่างลึกซึ้งกระตุ้นให้เกิดความสนใจ “กู้จื่อเฟยเป็นคนขอให้ถ่ายคลิปวิดีโอนี้เองเลยนะ บอกว่ารอให้ลูกพี่สร่างเมาแล้ว เอาให้ลูกพี่ดู”
เย้นโม่หลิน “……”
เขาตื่นตะลึงเล็กน้อย มองกู้จื่อเฟยที่ยังนั่งอยู่ในรถด้วยสายตาลุ่มลึก
จู่ๆถูกเอ่ยชื่อ กู้จื่อเฟยได้มึนไปครู่หนึ่ง แก้มแดงก่ำขึ้นมาอย่างรวดเร็วโดยเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เธอเป็นคนบอกให้ถ่ายจริง แต่ป่ายฉีจำเป็นต้องพูดออกมาแบบนี้ด้วยเหรอ ทำเหมือนอย่างกับว่าเธอฉวยโอกาสตอนที่คนอื่นลำบากมาทำร้ายคนอื่นอย่างงั้นแหละ
ป่ายฉีดันยังมาเติมเชื้อไฟลงในกองเพลิงอีก หน้าตาเหมือนดูความสนุกไม่สนว่าเรื่องจะมันใหญ่โต
เขาได้พูดว่า “จื่อเฟย อาศัยตอนนี้ทุกคนกำลังเบื่อหน่ายอยู่ เธอเอาคลิปออกมาดูหน่อยสิ?ให้ลูกพี่ได้ดูหน่อย ว่าเวลาเขาเมาเหล้าเป็นยังไง”
เย้นหว่านแค่มองแว๊บเดียวก็ดูความคิดชั่วๆของป่ายฉีออก
นี่คือใช้ทุกวิถีทางอยากให้เย้นโม่หลินขายหน้าต่อหน้าทุกคน ถาพที่เขาเมาเหล้าแล้วตัวติดกู้จื่อเฟยงอมแงมอย่างกับหนุ่มน้อยแอ๊บแบ๊ว คาดว่าคงจะเป็นภาพที่เย้นโม่หลินเองก็ไม่กล้ายอมรับตัวเองหรอก
แต่ ในใจของเย้นหว่านเหมือนมีแมวน้อยคอยข่วนอยู่ เธอเองก็อยากดูมากว่าเย้นโม่หลินจะมีสีหน้าและปฏิกิริยายังไง
จะต้องสนุกมากๆแน่นอน
เย้นหว่านอารมณ์ดี ทันใดนั้นได้หักหลังเย้นโม่หลินและพูดอย่างเติมเชื้อไฟลงไปในกองเพลิง “พี่ พี่ต้องดูจริงๆ เวลาพี่เมา นิสัยการดื่มเหล้าของพี่……ค่อนข้างยากที่จะพูดให้เข้าใจในประโยคเดียว พี่ต้องรู้ผิดก่อนแล้วค่อยสำนึกผิด”
เย้นโม่หลินมองสองคนนี้ที่ผลักเขาขึ้นเวทีอย่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ในใจยิ่งมีลางสังหรณ์ไม่ดีเข้าไปใหญ่
พวกเขานี่คือจะหัวเราะเยาะเขาชัดๆ
เย้นโม่หลินที่แต่ไหนแต่ไรเย่อหยิ่งเคร่งขรึม ยังไม่เคยเป็นที่หัวเราะเยาะของคนอื่นเลย อย่าแม้แต่จะคิดประสบการณ์แบบนี้เลย
เดิมทีเขาควรจะปฏิเสธโดยตรง แต่คำพูดยังไม่ถึงปาก สายตากลับจ้องอยู่ที่กู้จื่อเฟยอย่างคิดหนัก
ถ่ายคลิป เธอเป็นคนพูดออกมาเองว่าจะถ่ายคลิป
ดังนั้นเธอเองก็อาจจะอยากดูมาก และอยากหาความสุขจากตัวเขาเหมือนกัน
ถ้าดูคลิปวิดีโอสามารถทำให้เธอมีความสุข ความขัดแย้งที่อยู่ในใจเย้นโม่หลินก็ได้จางหายไปบ้างแล้ว เรื่องเล็กแค่นี้ เขาสนองเธอก็ได้
ครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง เย้นโม่หลินได้พูดกับกู้จื่อเฟยว่า “ลองเอาออกมาดูก็ได้”
กู้จื่อเฟยทึ่งเล็กน้อย พร้อมมองเย้นโม่หลินด้วยความข้องใจ เมื่อกี๊เขายังบอกอยู่เลยไม่ใช่เหรอว่าไม่สนใจคลิปวิดีโอนี้?
ตอนนี้ยอมดูแล้วเหรอ?
หรือต้องบอกว่า ที่จริงเขาจำเรื่องที่เมาเหล้าไม่ได้เลยสักนิด ดังนั้นก็เลยอยากดูเหมือนกันว่าตอนที่ตัวเองเมาได้ทำอะไรลงไป
แต่เนื้อหาในคลิป เกรงว่าจะเป็นจุดด่างพร้อยทั้งชีวิตของเย้นโม่หลินที่สามารถให้พวกป่ายฉีหัวเราะเยาะสามปีเลยนะ
กู้จื่อเฟยลังเลเล็กน้อย เธอจะช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญดีมั้ยน้อ?
ถึงแม้เธอเองก็อยากรู้อยากเห็นมากเหมือนกันว่าหลังจากเย้นโม่หลินได้ดูคลิปจะมีปฏิกิริยายังไง……
