สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 837 วางแผนจัดแจง

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง ลากเองได้ครับ”

“ไม่ต้องเกรงใจ ต่อไปก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว ทำตัวตามสบายได้เลย”

กู้หรงตบลงที่ไหล่ของป่ายฉีด้วยความพออกพอใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความดีใจอย่างปกปิดเอาไว้ไม่อยู่

สายตาที่ดีอกดีใจนั้น เหมือนกำลังมองลูกเขยในอนาคตของตัวเองอยู่

รอยยิ้มของป่ายฉีแทบจะหุบลงทันที เขารู้สึกเสียใจที่ตามมาด้วย ถ้ารู้มาก่อนก็คงจะขออยู่เฝ้าบ้านวิลล่าของตระกูลเย้นคนเดียว ไม่มาหาเรื่องกับพวกเขาก็ดีอยู่หรอก

ตอนนี้ ปัญหาก็เกิดแล้ว แถมยั่วยุให้คนเขาเกลียดชังแล้วด้วย

ไม่แน่ว่าในช่วงกลางดึกคืนนี้ อาจจะถูกใครสักคนฆ่าเพื่อระบายความโกรธแค้นก็เป็นได้

กู้จื่อเฟยมองท่าทีที่เสน่หาสนิทสนมของพ่อตัวเองที่มีต่อป่ายฉี เธอก็พูดไม่ออก แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ถึงยังไงความสนใจของเขาก็ไม่ได้อยู่ที่เย้นโม่หลิน ไม่อย่างนั้นกู้จื่อเฟยก็คงจะทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ

เธอเดินมาอยู่ตรงหน้าของเย้นหว่าน ยื่นมือออกมาคล้องแขนของเย้นหว่านเอาไว้

“เสี่ยวหว่าน ห้องของพวกเราฉันเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เข้าไปกันเถอะ”

กลุ่มผู้ชายกลุ่มใหญ่ แถมยังมีเย้นโม่หลินอยู่ด้วย กู้จื่อเฟยต้องรู้สึกอึดอัดแน่นอนอยู่แล้ว

เย้นหว่านเข้าใจดี จึงจูงมือกู้จื่อเฟย

ก่อนจะหันมาพูดกับโห้หลีเฉิน

“ไปกันเถอะ”

โห้หลีเฉินพยักหน้า เข็นกระเป๋าสองใบ เดินตามหลังเย้นหว่าน

ทั้งเนื้อทั้งตัวดูสูงส่งมีราศี ใบหน้าหล่อเหลา ทำเรื่องแบบนี้ แต่กลับดูเป็นธรรมชาติสุดๆ

เย้นหว่านมองเขาที่เป็นแบบนี้ ในใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา มีความรู้สึกเดจาวูเหมือนกำลังใช้ชีวิตแบบสามีภรรยาทั่วไปอย่างบอกไม่ถูก

กู้จื่อเฟยมองท่าทางเหม่อลอยของเย้นหว่าน ผลักเธออย่างยิ้มๆ

“อยู่ด้วยกันนานขนาดไหนแล้ว ยังมองไม่พออีกหรือไง ยังคลั่งไคล้ลุ่มหลงอยู่อีกนะ”

เย้นหว่านแก้มแดงขึ้นมา จูงเธอเดินไปข้างหน้าทันที“ถ้าคุณยังจะพูดไร้สาระอีก ฉันจะจั๊กจี้คุณนะ”

“เย้นหว่าน นี่คุณเขินอายจนโกรธเลยหรือไง”

“ฉันเปล่าสักหน่อย”

เย้นหว่านพูดเถียงอย่างเขินอาย กลัวว่าโห้หลีเฉินจะได้ยิน แล้วจะทำให้เธอยิ่งรู้สึกอึดอัด จึงยื่นมือออกมาจั๊กจี้กู้จื่อเฟยทันที

กู้จื่อเฟยบ้าจี้ ก็เลยปล่อยเธอแล้ววิ่งไปข้างหน้า

วิ่งไปพลาง ตะโกนหัวเราะออกมาพลาง“เสี่ยวหว่าน คุณเขินอายแล้ว คุณคลั่งไคล้ลุ่มหลงเข้าแล้วล่ะสิ”

“สงสัยคุณยังจั๊กจี้ไม่พอ อย่าให้ฉันจับได้นะ ฉันจะจั๊กจี้ให้ตายเลย”

เย้นหว่านวิ่งไล่ตามไปด้วยความอับอาย

ผู้หญิงทั้งสองคนวิ่งตะโกนโหวกเหวกเข้าไปในบ้านวิลล่าก่อน จากข้างในประตู ยังมีเสียงหัวเราะเจี๊ยวจ๊าวของพวกเธอดังออกมาอยู่

สายตาที่อบอุ่นของโห้หลีเฉินมองตรงไปยังข้างหน้า มุมปากยิ้มอย่างรักและเอ็นดู

เขาชอบมองเวลาเย้นหว่านเล่นเสียงดัง ชอบเวลาเธอยิ้ม

เย้นโม่หลินยืนเม้มริมฝีปากบางๆอยู่ข้างๆ ในใจที่ตอนแรกรู้สึกอึมครึมไม่ค่อยสุขใจ แต่เพราะเสียงหัวเราะของพวกเธอ ตอนนี้จึงรู้สึกเบิกบานขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ที่แท้เวลาผู้หญิงเล่นเสียงดังกันก็เป็นแบบนี้นี่เอง มันน่ารักอยู่ไม่น้อยเลย

เย้นหว่านกับกู้จื่อเฟยเล่นโหวกเหวกเสียงดังกันอยู่ ไม่นาน พวกของโห้หลีเฉินก็ลากกระเป๋าเข้ามา

กู้จื่อเฟยกำลังลากจูงเย้นหว่านอยู่ พอหันหน้าไป ก็สบตาเข้ากับเย้นโม่หลินเข้าพอดี

เขาลากกระเป๋าเดินทางยืนอยู่ตรงประตู ข้างหลังเป็นแสงที่ส่องสว่างจ้า ราวกับมีแสงสว่างแผ่ออกมาจากข้างหลังของเขา ดูตระการตา น่าหลงใหลสุดๆ

เย้นหว่านที่จูงกู้จื่อเฟยอยู่ พอเห็นเธอเหม่อลอย ก็มองตามเธอไป เห็นพี่ชายที่หล่อเหลาจนทั้งคนทั้งเทพเห็นแล้วต่างก็พากันอิจฉาของตัวเองคนนั้น

“กู้จื่อเฟย คุณคลั่งไคล้ลุ่มหลงเข้าแล้วสินะ”เย้นหว่านพูดยิ้มๆ

กู้จื่อเฟยดึงสติกลับมา แก้มร้อนผ่าวอย่างไม่รู้ตัว รีบปฏิเสธทันที

“คุณอย่ามาพูดอะไรไร้สาระ”

เธอปล่อยเย้นหว่านไปด้วยความตื่นตกใจ ยืนอยู่ข้างๆอย่างเชื่อฟังแต่โดยดี

ร่างกายเกร็งไปหมด ดูอึดอัดไม่เป็นตัวของตัวเอง

ตอนแรกเย้นหว่านอยากที่จะฉวยโอกาสนี้แก้แค้นที่เธอกลั่นแกล้งเธอเมื่อตะกี้ แต่พอเห็นท่าทางแบบนี้ของกู้จื่อเฟยแล้ว ยังไม่ทันจะพูดออกมา ก็หายไปหมดแล้ว

เธอลืมความสัมพันธ์ระหว่างกู้จื่อเฟยกับพี่ชายของเธอไปได้ยังไงเนี่ย

มันเป็นอดีตไปแล้ว

ถอนหายใจออกมาอยู่ภายในใจอย่างช่วยไม่ได้ เย้นหว่านก็ทำได้แค่แสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พูดเปลี่ยนเรื่อง

“ห้องของพวกเราแบ่งกันอยู่ตรงไหนบ้างเหรอ?”

ห้องชั้นสอง ชั้นสามเป็นห้องเดี่ยวที่อยู่ตรงราวบันได เงยหน้าขึ้นไปก็เห็นแล้ว

กู้จื่อเฟยก็ชี้นิ้วขึ้นไปยังห้องทั้งสามที่อยู่ชั้นสาม

“นี่เป็นห้องของคุณกับคุณโห้ ทางนี้เป็นห้องของป่ายฉีกับคุณชายเย้น”

ห้องของเย้นหว่านอยู่ข้างๆกู้จื่อเฟย ถัดมาเป็นห้องของป่ายฉี จากนั้นจึงเป็นห้องของเย้นโม่หลิน

เท่ากับว่า ห้องของเย้นโม่หลินอยู่ไกลที่สุดนั่นเอง

เย้นหว่านเข้าใจความคิดของกู้จื่อเฟย เพื่อลดการติดต่อปฏิสัมพันธ์กัน อยู่ให้ห่างกันสักหน่อย ก็เข้าใจได้

ขณะที่กำลังจะบอกว่าให้ยกกระเป๋าขึ้นข้างบนอยู่นั้น กู้หรงก็เปิดปากพูดขึ้นมาก่อน

“ห้องจัดเตรียมได้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไรเลย”

บรรดาคนตรงนั้นพอได้ยินแบบนี้ ก็มองเขาด้วยความสงสัย

กู้หรงพูดต่อ“ห้องสามห้องจัดเตรียมไว้ให้อยู่ทางซ้ายทั้งหมดเลย จะออกมาขึ้นลิฟต์ก็ไกล ไม่ค่อยสะดวก แบบนี้สิ ป่ายฉีมาอยู่ห้องทางขวาก็ได้นะ”

ห้องเรียงต่อจากห้องของกู้จื่อเฟยทั้งหมด ห้องที่อยู่ซีกทางขวาห้องนั้น ก็คือห้องที่อยู่ติดทางขวาของห้องกู้จื่อเฟยนั่นเอง

ป่ายฉีที่เป็นคนกลาง จู่ๆถูกพูดถึงขึ้นมา ก็สีหน้าไม่ดีขึ้นมาทันที

ทำไมเขาต้องพักอยู่ห้องใกล้กับกู้จื่อเฟยคนเดียวด้วย?

มันดูคลุมเครือไปแล้วนะ!

ป่ายฉีรีบแสดงท่าทีปฏิเสธออกมาทันที“จริงๆผมชอบเดิน……”

“นายอยู่ข้างๆกู้จื่อเฟย ฉันจะได้วางใจลงได้ ตอนค่ำ นายจะได้ช่วยฉันดูแลกู้จื่อเฟยได้ยังไงล่ะ”

กู้หรง พูดอย่างหนักแน่น ท่าทีเข้มงวดสุดๆ

แต่เนื้อหาที่พูด กลับทำให้ผู้คนตรงนั้นสับสนวุ่นวายไม่น้อย

ดูแล? แถมดูแลตอนค่ำอีก? นั่นมันดูแลแบบไหนกันเนี่ย?

เย้นหว่านรู้สึกทนดูต่อไปไม่ไหว มองกู้จื่อเฟยด้วยความเห็นอกเห็นใจ

กู้จื่อเฟยก็สีหน้าพูดไม่ออกเหมือนกัน พ่อของตัวเองนี่ช่างเปิดเผยเกินไปแล้ว แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะส่งเธอออกเรือนไปหรือไง?

แถมอีกฝั่งยังเป็นป่ายฉีอีกต่างหาก……

ถ้าพ่อรู้ว่าป่ายฉีเกือบจะฆ่าเธอ แถมยังข่มขู่เธออยู่ตลอดเวลาด้วยล่ะก็ อยากรู้จะว่าจะจัดแจงขนาดนี้อยู่อีกไหม

กู้จื่อเฟยกดตรงขมับ ตอนที่กำลังคิดจะพูดอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของ กู้หรงอยู่นั้น ข้างๆก็มีเสียงที่เย็นชาของผู้ชายดังขึ้นมา

“ครอบครัวผมเข้มงวด ชายกับหญิงควรจะแยกกัน พวกเราพักที่ชั้นสองดีกว่า ส่วนเสี่ยวหว่านกับกู้จื่อเฟยพักที่ชั้นสาม”

น้ำเสียงทุ้มต่ำ ดูน่าเกรงขามแบบไม่กล้าปฏิเสธ

กู้จื่อเฟยมองเย้นโม่หลินด้วยความตกใจไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบนี้

พักที่ชั้นสอง

จริงๆแล้วเขาไม่อยากพักอาศัยอยู่ชั้นเดียวกันกับเธออย่างนั้นเหรอ?

ก็ใช่ ผู้ชายที่เอาแต่ใจตัวเองไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นแบบเขา อยู่ในบ้านของเธอ มันคงจะทำให้เขารู้สึกอัดอึดอยู่ไม่น้อย

จู่ๆในใจก็ราวกับมีก้อนหินก้อนใหญ่ทับเอาไว้ รู้สึกหดหู่ห่อเหี่ยว

กู้หรงพอได้ยินแบบนั้น ก็ขมวดคิ้วไม่เห็นด้วย

ยังคงทะเยอทะยานไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แต่พอเห็นใบหน้าที่ดำมืดและบรรยากาศที่ไม่พึงประสงค์รอบตัวของเย้นโม่หลิน ทำให้เขาเงียบปากลงโดยสัญชาตญาณทันที

คุณชายคนนี้ ดูท่าแล้วคงจะอารมณ์ไม่ดี

เขาก็เป็นพี่ชายของเย้นหว่านด้วย พวกเขาเป็นแขก ก็ต้องเคารพความต้องการของเขา บวกเข้ากับ ได้ยินมาว่าแบล็คหลังของเขาก็ยิ่งใหญ่มากๆด้วย แถมยังดูนิสัยไม่ค่อยดีเท่าไร ทำตามเจตนาของเขาน่าจะเป็นผลดีมากกว่า

พอคิดถึงตรงนี้ กู้หรงจึงจำใจต้องล้มเลิกความคิดที่จะให้ป่ายฉีอยู่ใกล้กับกู้จื่อเฟยทิ้งไป

ดูท่าแล้ว ต้องคิดหาวิธีการอื่น ให้คู่หนุ่มสาวอยู่ใกล้กันซะแล้ว

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset