บทที่535 กู้ซึงจริงตัวหรือปลอม
หนึ่งในผู้ชายคนนั้นพูดอย่างสุภาพว่า “คุณผู้ชายครับ ทำไมคุณต้องปล่อยเย้นหว่านให้ออกไปเจอกู้ซึงด้วยล่ะ? ต่อให้เธอใช้มีดจนพยายามตัดจนถึงพรุ่งนี้เช้า ก็ไม่สามารถตัดเชือกให้ขาดได้หรอก”
เรื่องนี้ในสายตาของผู้ชายนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีความหมายอะไรเลย
หยูซือห้านยิ้มมุมปากอย่างเยาะเย้ย แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน
“ให้ความหวังหน่อย เย้นหว่านจะได้ไม่ต้องวางใจ เพื่อที่จะให้กู้ซึงอยู่ต่อไป ยิ่งเธอเห็นกู้ซึงได้รับความลำบากมากเท่าไหร่ ฉันก็จะยิ่งควบคุมเธอได้ดีขึ้นมากเท่านั้น”
ใช้ความรู้สึกผิดของเย้นหว่านที่มีต่อกู้ซึง บีบจริยธรรมของเธอออกมาทั้งหมด
ผู้ชายคนนั้นเอามือประสานกันแสดงความเคารพ “คุณชายฉลาดมากครับ”
หยูซือห้านหัวเราะเยาะ “เฝ้าพวกเขาอยู่ตรงนี้ สั่งคนอื่นๆ ว่าอย่าขึ้นไปที่ดาดฟ้า”
“ครับ คุณชาย”
หยูซือห้านถึงได้เดินจากไป แล้วร่างของเขาก็หายไปในความมืด
ผ่านไปครู่หนึ่ง เย้นหว่านก็เดินด้อมๆ มองๆ ออกมา
ในมือของเธอถือมีดเล็กๆ อยู่เล่มหนึ่ง กับน้ำอีกขวดหนึ่ง
กู้ซึงมองน้ำขวดนั้นตาเป็นประกาย แล้วก็เร่งเธออย่างรับร้อนว่า “เร็วๆๆ เอามาให้ฉันดื่มเรฌว”
ตอนนี้เขากระหายน้ำเป็นอย่างมาก
เย้นหว่านทนไม่ไหว รีบส่งยื่นขวดน้ำ ป้อนเข้าปากกู้ซึงในทันที
กู้ซึงดื่มลงไปทั้งขวด ในที่สุดก็สามารถดับกระหายได้ สามารถมีชีวิตได้ต่อไป
เขาเปิดปากด่า “หยูซือห้านนั้นเริ่มจะไม่ใช่มนุษย์แล้ว จงใจจะตากฉันให้ตาย ให้ฉันคอแห้งตาย หิวตาย! เสี่ยวหว่าน ถ้าเกิดว่าพวกเรารอดจากที่นี่ไปได้เมื่อไหร่ เธอต้องให้พี่ชายของเธอ กับโห้หลีเฉิน ฆ่ามันให้ตายเลยนะ ฆ่าด้วยวิธีที่แฟนซีด้วย! ”
“ไม่ใช่สิ ต้องให้พวกเขาจับมันไว้ แล้วฉันก็จะทรมานมันจนตาย! ”
พอเห็นท่าทีกัดฟันด้วยความโมโหของกู้ซึงแล้วนั้น เย้นหว่านก็พยักหน้าอย่างให้ความร่วมมือ
“ได้ ถ้าเกิดว่ามีโอกาส ฉันจะฆ่ามันกับนายเอง พวกเราจะมอบสิบความทรมานแห่งแมนจูให้มันเลย”
ดวงตาของกู้ซึงเป็นประกาย “ไม่พอเหรอแก ฉันต้องการมอบการทรมานทั้งหมดของประเทศจีนตลอดห้าพันปีที่ผ่านมาให้กับมัน! ”
เย้นหว่านอึ้งไป มองดูกู้ซึงอย่างชื่นชม โหดใช้ได้เลย
เธอรีบหยิบมีดเล่มเล็กออกมาทันที “ฉันจะตัดเชือกให้นายก่อน แล้วพวกเราก็แอบขโมยเรือเล็กแล้วหนีไป”
กู้ซึงดีใจ ”เธอหาเรือเล็กได้แล้วเหรอ? ”
เย้นหว่านตัดเชือกอย่างรวดเร็ว แล้วก็พยักหน้าไปด้วย “อืม ระหว่างทางที่มานั้นฉันเห็นพอดี”
ตอนแรกก็กังวลว่าจะหนีไปได้อย่างไร ตอนนี้กลับมีเรือลำเล็กอยู่ที่นี่ด้วย
เธอกับกู้ซึงก็สามารถใช้ประโยชน์จากความมืดในตอนกลางคืน แล่นเรือเล็กออกไป
เย้นหว่านวางแผนมาดีมาก เหมือนกับว่าเต็มไปด้วยความหวัง แต่ว่าตอนที่เธอพยายามจะตัดเชือกนั้น ก็อึ้งกลับไปด้วยความประหลาดใจ
นี่มันคือเชือกอะไรกัน?
ทำไมถึงได้แข็งขนาดนี้ นี่มันยากที่จะตัด เธอพยายามใช้มีดตัดอยู่ครู่หนึ่ง มันกลับเสียหายเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
กู้ซึงหันหน้ามามอง แล้วก็ขมวดคิ้วด้วย
“วัสดุนี้มันดูเหมือนจะไม่ใช่เชือกธรรมดาๆ ”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่ฉันออกแรงมากกว่านี้ ถูไปถูมาเดี๋ยวมันก็ขาดเองแหละ”
เย้นหว่านส่งพลังงานทั้งร่างกายของเธอมาที่มือทันที พยายามออกแรงตัดเชือก
ท้องฟ้า ก็ดำสนิทลง
ในท้องฟ้านั้นมีดวงจันทร์ แล้วก็ดาวดวงน้อยๆ ที่คอยกะพริบอยู่ เป็นคืนที่ท้องฟ้าโปร่งเหมาะกับการนอนดูดาวสบาย ๆ
ที่บ้านตระกูลเย้น กลับไม่ได้สงบแบบนั้น
ใบหน้าที่หล่อเหลาของเย้นโม่หลินนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ พาคนมากลุ่มหนึ่ง เดินก้าวใหญ่ ก้าวอย่างไวไปยังประตูเล็ก
ตอนนี้เอง ตรงหน้าประตูเล็กนั้น มีบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ พวกเขายืนล้อมเป็นวงกลม มองผู้ชายที่อยู่ตรงกลาง
ผู้ชายคนนั้น ก็คือกู้ซึง
สีหน้าของเขาดูไม่เข้าใจ เขาเอ่ยปากถามด้วยความสงสัยว่า “พวกนายเป็นอะไรกัน อยู่ดีๆ ทำไมถึงมาหยุดฉัน? ”
บอดี้การ์ดพวกนั้นพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“คุณชายกู้ใจเย็นก่อนครับ คุณผู้ชายของพวกเรากำลังมาแล้ว”
สีหน้าของกู้ซึงไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“ตึกๆๆ ”
เสียงฝีเท้าที่รวดเร็วและเป็นระเบียบดังมาจากไม่ไกล กลุ่มคนพวกนั้นก็เดินเข้ามา
เย้นโม่หลินเดินอยู่ตรงหน้าสุด สายตาที่เฉียบคมมองไปที่กู้ซึงเหมือนหนามแหลม
กู้ซึงพูดด้วยสีหน้าที่ไม่มีความสุข “คุณชายเย้น ผมก็แค่ออกไปซื้อของนิดหน่อย บอดี้การ์ดของคุณห้ามผมไว้ ไม่ให้ผมเข้าไป ขอรบกวนสอบถามเหตุผลหน่อยได้ไหมครับ? ”
“นายแค่ออกไปซื้อของงั้นเหรอ?”
พอเย้นโม่หลินได้ยินดังนั้น สีหน้าก็ยิ่งแย่ขึ้นมากกว่าเดิม
สีหน้าของกู้ซึงสงบนิ่งมาก “ใช่ครับ มีปัญหาอะไรรึเปล่า? ”
“ก็ต้องมีปัญหาใหญ่อยู่แล้วสิ! ใครก็ได้ จับมันไว้! ”
เย้นโม่หลินออกคำสั่งอย่างเข้มงวด
บอดี้การ์ดที่อยู่รอบๆ ได้รับคำสั่ง ก็รีบก้าวเดินขึ้นมาด้านหน้า จะจับกู้ซึงไว้
กู้ซึงหลบอย่างรวดเร็ว ออร่าที่ทรงพลังและน่ากลัวแผ่ออกมาจากร่างกายของเขาในทันที
“กล้าแตะต้องฉันยังงั้นเหรอ? ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! ”
“เหอะ แกไม่ใช่กู้ซึงจริงๆ ด้วย กู้ซึงไม่ได้มีทักษะดีแบบแก”
เย้นโม่หลินหัวเราะอย่างเยือกเย็น ทันใดนั้นก็ยื่นมือออกไป จะจับกู้ซึง
กู้ซึงขมวดคิ้ว แล้วก็หลีกเลี่ยงช่องว่างอย่างรวดเร็ว แล้วก็ถามอย่างเร่งด่วน
“คุณชายเย้น ถ้าเกิดว่าผมไม่ใช่กู้ซึงแล้วผมยังจะเป็นใครได้อีก? ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร”
“ยังเล่นลิ้นอยู่อีกเหรอ? รอให้ฉันฉีกผิวปลอมๆ ของแก ก็รู้แล้วว่าแกเป็นใคร! ”
ท่าทางของเย้นโม่หลินนั้นช่างรวดเร็วและโหดเหี้ยม ใช้วิธีบีบบังคับถึงตาย
ถ้าเกิดว่าเป็นคนปกติ ถ้าเกิดว่าถูกจับได้เมื่อไหร่ จะถูกโค่นล้มภายในเวลาไม่ถึงสามวินาที
แต่ว่ากู้ซึงกลับสามารถหลบหลีกได้อย่างชาญฉลาดในทุกครั้ง ปฏิกิริยาของเขานั้นดูพยายามหลบหลีกอย่างวุ่นวาย แต่ว่าก็มีองค์ประกอบที่สอดคล้องกัน
บอดี้การ์ดรอบข้างตะลึงไป รีบเข้าไปมุงดูทันที
ยอดเยี่ยมไปเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนที่สามารถสไลด์ตัวแบบนี้ได้ตอนที่เย้นโม่หลินลงมือ แถมเขายังไม่ได้ออกแรงโต้กลับเลยด้วยซ้ำ ถ้าเกิดว่าเขาลงมือ เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะสามารถแข่งขันกับเย้นโม่หลินได้ถึงสามร้อยรอบเลย?
พวกเขารู้สึกรอคอยอยู่บ้าง
ในขณะที่กู้ซึงหลบเลี่ยงการโจมตีของเย้นโม่หลินนั้น ก็ถามกลับ
“คุณชายเย้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณกล่าวหาผมอย่างผิดๆ นะ ครั้งนี้ คุณเอาอะไรมายืนยันว่าผมไม่ใช่กู้ซึง?! ”
เย้นโม่หลินประหลาดใจ เขายังรู้อีกว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเคยสงสัยกู้ซึง รู้มาเยอะเหมือนกันนะ
เมื่อเขาได้เผชิญหน้ากับตัวตนของผู้ชายคนนี้ ก็ยิ่งรู้สึกสงสัย
ตอนนี้เขาก็เป็นเต่าอยู่ในขวดอยู่แล้ว เย้นโม่หลินก็ไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะตอบอะไร เขาตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ก็เพราะว่าตอนนี้เสี่ยวหว่านกับกู้ซึง กำลังไปเที่ยวด้วยกันที่ทะเลเฟอร์โรลซี! ”
เรื่องนี้ เขาบอกแค่กงจืออวีกับเย้นเจิ้นจื๋อ คนอื่นๆ ยังไม่รู้เรื่องนี้
ท่าทางของกู้ซึงที่กำลังหลบเขาอยู่นั้นหยุดชะงักไป หมัดหนึ่งของเย้นโม่หลินพุ่งเข้ามา ชกลงไปที่ไหล่ของเขา
เขาตัวสั่น ถอยไปด้านหลังสองก้าวทันที แล้วค่อยถึงจะยืนอย่างมั่นคง
เย้นโม่หลินเองก็รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย ผู้ชายคนนี้ร่างกายดีมากจริงๆ ถ้าเกิดว่าเมื่อกี้ไม่ได้เหม่อ ก็คงจะไม่โดนหมัดเขาหรอก
เขาหัวเราะอย่างเย็นชา “ตอนนี้รู้ตัวแล้วใช่ไหมว่าการปลอมตัวของแกมันแย่แค่ไหน? ถ้าแบบนั้นก็รีบถอดหน้ากากออกมาได้แล้ว! ”
กล้าใช้ใบหน้าของกู้ซึง แล้วก็ปลอมตัวเป็นกู้ซึงแล้วมาที่ตระกูลเย้นอย่างเปิดเผย นี่เป็นครั้งแรกที่เย้นโม่หลินเห็นคนที่มีความกล้ามากขนาดนี้ ผู้ชายที่มีความกล้าจนไม่กลัวตาย!
เขาอยากจะเห็นหน่อย ว่าสรุปแล้วเขาเป็นใครกันแน่ มีความสามารถมากขนาดนี้ และท้าทายอำนาจของตระกูลเย้น
กู้ซึงขมวดคิ้วแน่น ดวงตามืดมิด
เขาจ้องหน้าเย้นโม่หลิน ไม่สนใจคำถามของเขา แต่ถามอย่างเรียบง่ายและว่องไว
“คุณรู้ได้ยังไงว่าพวกเขาไปเที่ยวที่ทะเลเฟอร์โรลซี? ”