สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 446 แม่ยายเยี่ยมลูกเขย

บทที่ 446 แม่ยายเยี่ยมลูกเขย

รู้สึกว่าพี่ชายของตัวเองไม่เชื่อซักเท่าไหร่ เย้นหว่านจึงหน้าแดง รู้สึกรับไม่ได้อย่างมาก

เมื่อเงยหน้ามอง เห็นพ่อแม่ตัวเองมีแววตาที่ไม่เชื่อถือนั้น เหมือนกันไม่มีผิด

เหตุการณ์แบบนี้ ไม่ว่าเธอจะพยายามพูดอย่างไร พวกเขาต่างเชื่อว่าเธอแอบรักอยู่

เย้นหว่านยากที่จะอธิบายออกไป

กู้จื่อเฟยหันตัวเองไปทางเย้นหว่านเล็กน้อย แล้วกระซิบ:

“จะให้กู้ซึงมาจีบเธอ สู้เธอลงมือจีบเขาก่อนเสียยังจะดีกว่า”

ดีกว่ายังไง? เย้นหว่านอารมณ์ขุ่นมัว ชื่อเสียงของเธอ ก็เปลี่ยนไปทันที ตกหลุมรักแรกพบกู้ซึง จากนั้นแอบชอบ แล้วก็จีบเขา

ตอนที่เธออยู่ต่อหน้าพ่อแม่ทำตัวลำบากนัก

กู้จื่อเฟยหัวเราะแล้วพูดตอบ “หรือเธอไม่อยากให้พ่อแม่ยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ? ”

“อยากสิ! ”

เย้นหว่านกระซิบตอบ “แต่ไม่คิดว่าจะเป็นวิธีนี้แค่นั้น”

ถึงแม้ว่าเธอจะยินยอม และรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากก็ตาม

กงจืออวีมองดูเย้นหว่านที่มีท่าทีเขินอาย มีอารมณ์หลากหลาย แต่ก็รู้สึกชื่นใจเช่นกัน

ถึงแม้ว่ากู้ซึงยังไม่ค่อยมั่นใจ ว่าคู่ควรกับเธอหรือไม่

แต่อย่างไรซะเย้นหว่านตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกพบ ถ้าหากได้คบกัน ก็คงจะพาเธอเดินออกมาจากความเจ็บปวดนั้นได้

เธอดูออกว่าตั้งแต่ที่กู้ซึงมา เย้นหว่านก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์

แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

แต่ว่าเธอต้องหาคนไปสืบ ฐานะ นิสัยใจคอของกู้ซึงอย่างละเอียดเสียหน่อย

“ในเมื่อคุณกู้และคุณกู้มาเป็นแขกที่บ้านของพวกเรา เสี่ยวหว่านจะอยู่ดูแลเอง พวกเธอวัยรุ่นมีวิธีคุยเล่นกัน อีกสักพักก็ทานข้าวก่อน แล้วพวกเธอค่อยออกไปเที่ยว ฉันเตรียมคนขับรถให้ขับไปส่งแล้ว”

กงจืออวีทานอาหารเช้าด้วยความเอร็ดอร่อย

ในเมื่อลูกสาวชอบ เธอก็ต้องช่วยจัดแจงเสียหน่อย

เย้นหว่านได้ยินเช่นนี้ เธอก็รู้สึกดีใจ เมื่อเป็นเข่นนี้เธอก็สามารถไปไหนมาไหนโดยลำพังกับโห้หลีเฉินได้แล้วสินะ?

เธอตอบด้วยความดีใจ ไม่แม้แต่หยุดคิด “ได้สิ! ”

เพิ่งพูดจบ ก็เห็นแววตาของกงจืออวีที่กำลังยิ้มนั้น เย้นหว่านรีบเก็บอาการ

ให้ตายสิ ท่าทีของเธอไม่มีความเป็นกุลสตรีเสียเลย

โห้หลีเฉินมองท่าทีเย้นหว่านด้วยแววตาลุ่มลึก ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดกับกงจืออวีด้วยมารยาท:

“อย่างนั้นก็รบกวนด้วยครับ”

“ไม่เป็นไร”

กงจืออวียิ้วแล้วพยักหน้า มองดูท่าทางของกู้ซึง ยิ่งรู้สึกชอบ

ถึงแม้ว่าหน้าตาจะสู้คนที่หน้าตาดีไม่เหมือนใครหนึ่งเดียวในโลกอย่างโห้หลีเฉินไม่ได้ แต่ก็หล่อ ดูดี ท่าทางดี แววตาดูนอบน้อม สะอาดสะอ้าน แล้วยังฉลาดอีกด้วย

ถึงแม้ว่าเมื่อตอนเขานั่งอยู่ต่อหน้าเธอ จะดูไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรก็ตาม แต่สิ่งที่เขามองไม่ออกนั้น กลับไม่รู้สึกว่ามันคือสิ่งที่แย่แต่อย่างใด

ผู้ชายที่มีฐานะมีอำนาจ จะไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์มากนัก แต่ก็ไม่ถึงเจ้าร้ายเจ้าเล่ห์ กลางๆ กำลังดี ก็น่าจะดีที่สุด

และกู้ซึง ทำให้เธอรู้สึกว่ากำลังพอดี

“คุณกู้ รอพวกเธอเที่ยวจนเสร็จกลับมา มีเวลามานั่งเล่นที่ห้องหนังสือฉันได้ ฉันอยากจะทำความเข้าใจคนเมืองหนานเหมือนกัน”

กงจืออวียิ้มด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน

พูดถึงเรื่องราวของเมืองหนาน เพื่อเพียงแค่ต้องการทดสอบรสนิยมเท่านั้น

เย้นหว่านกระตุกวาบ เกรงว่ากงจืออวีจะสัมผัสถึงบางอย่างได้ จึงพูดขึ้น:

“แม่ หนูโตที่เมืองหนานมาตั้งแต่เด็ก ถ้าเป็นเรื่องของเมืองหนานล่ะก็ ถามหนูก็ได้นี่คะ แล้วอีกอย่าง ก็ถามจื่อเฟยได้เหมือนกัน”

กงจืออวีเห็นท่าทางตื่นตระหนกของเย้นหว่าน อดไม่ได้ที่จะแอบหนักใจ

นี่ขนาดยังไม่ตัดสินว่าคือการแอบชอบนะ ก็เริ่มจะปกป้องกู้ซึงแล้ว ถ้าคบกันล่ะก็ คงจะทะนุถนอมน่าดู

เธอหัวเราะออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดขึ้น “ถามพวกเธอ ก็รู้แค่เรื่องทั่วๆ ไป แม่อยากรู้เรื่องธุรกิจของที่นั่นต่างหาก”

เย้นหว่าน: “อันนี้ก็…”

เธอไม่รู้จะตอบอย่างไร

โห้หลีเฉินยิ้ม พลางพยักหน้าตอบรับ “ครับ หลังจากที่กลับมา ผมจะไปหาที่ห้องหนังสือนะครับ”

ไม่นาน เรื่องก็ลงเอยเช่นนี้

เย้นหว่านขมุบขมิบที่ปาก ไม่รู้จะตอบอะไร เธอแค่มองโห้หลีเฉินด้วยความกังวล

ไม่รู้ว่าจะรับมือแม่ของเธอไหวไหม? กงจืออวีเป็นคนที่น่ากลัวมาก แววตาเฉียบคม พูดผิดนิดหน่อยก็ถูกมองออก

เย้นหว่านกังวลใจมาก แต่โห้หลีเฉินกลับไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย ใช้ตะเกียบคีบทานอาหารเช้าด้วยความสง่างาม

อาหารที่เขาคีบเยอะที่สุดคือ กองผักที่ย้ายจากตรงหน้าเย้นหว่านมาอยู่ตรงหน้าเขา

กงจืออวีแอบมอง แล้วพยักหน้าเป็นระยะ

แอบประเมินและให้คะแนนกู้ซึงอยู่เรื่อยๆ

เย้นโม่หลินมองออกว่ากงจืออวีหมายความว่าอย่างไร และรู้ว่าถ้าหากรสนิยมของกู้ซึงผ่านล่ะก็ เขาอาจจะได้เป็นน้องเขยของเขาเลย

สำหรับเรื่องชีวิตบั้นปลายของเย้นหว่านนั้น เขายังคงเป็นห่วงอยู่มาก

ดังนั้น จึงพูดขึ้น: “อีกสักพัก เสี่ยวหว่านออกไปเที่ยวเป็นเพื่อนพวกเขาหน่อยสิ”

“แค่กๆๆๆ! ”

อาหารที่เย้นหว่านเพิ่งทานเข้าไปนั้น ไหลผ่านลงคอ แล้วทำให้เธอไอจนหน้าแดงออกมา

โห้หลีเฉินขมวดคิ้ว จากนั้นยกถ้วยซุปที่อยู่ตรงหน้าตัวเองไปตรงหน้าเย้นหว่าน

“ดื่มน้ำ”

“แค่กๆ ค่ะ แค่กๆๆ ”

เย้นหว่านยื่นมือไปรับถ้วยซุปมา แล้วรีบซดลงไป ทำให้อาหารที่ติดคอไหลลงไป

กู้จื่อเฟยที่อยู่ข้างๆ พลางช่วยเย้นหว่านลูบหลัง “ดีขึ้นรึยัง? ”

“ค่ะ แค่กๆ ไม่เป็นไรแล้ว”

เย้นหว่านส่ายหน้า แล้ววางชามลง เพิ่งเห็นว่าถ้วยซุปตรงหน้ายังอยู่ และเธอเป็นคนถือ…

แล้วมองถ้วยซุปที่ว่างเปล่าตรงหน้าโห้หลีเฉิน

“แค่กๆๆ ”

เย้นหว่านไอแก้เขินออกมา ต่อหน้าคนในบ้าน เขายังไม่รังเกียจ

โห้หลีเฉินแววตาดูสุขุม แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงเข้ม “เมื่อกี้มันรีบ ผมก็เลยใช้ถ้วยตัวเองให้คนกิน คงไม่ถือใช่ไหม? ”

เย้นหว่าน:“……”

เธอถือเอาไว้ ยังไงซะก็ไม่ได้กินน้ำลายเขา ทำไมจะต้องพูดออกมาด้วย? ถูกคนจ้องมองมากมาย เธออายหมดแล้ว

เย้นหว่านหน้าแดง แววตาเป็นประกาย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “ไม่ถือค่ะ”

กงจืออวีมองสายตาที่ทั้งสองมองกัน จากนั้นก็ยิ้มออกมา

เมื่อสักครู่ที่เย้นหว่านติดคอนั้น กู้ซึงดูแลเธอได้ในทันที ไม่เพียงแค่เฉียบคม แต่เพราะว่าเขาสนใจเย้นหว่านอยู่ตลอด

แล้วอีกอย่าง เย้นหว่านดื่มซุปถ้วยของกู้ซึง ก็เท่ากับพวกเขาจูบกันแล้ว แถมยังไม่ถือสา แสดงว่าเธอต้องชอบกู้ซึงมากจริงๆ

ทั้งสองมีความรู้สึกต่อกัน จะคบกัน ก็ติดอยู่แค่เรื่องของเวลา

เมื่อตรงหน้าเป็นเช่นนี้ การแสดงออกของกู้ซึง ยิ่งทำให้เธอรู้สึกพอใจ แล้วถ้าหลังจากนี้ ไม่เจอข้อบกพร่องอะไร เรื่องของพวกเขาทั้งสอง ก็เป็นอันเรียบร้อย…

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset