สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 250 ซ่อนตั๋วไว้

บทที่250 ซ่อนตั๋วไว้

เย้นหว่านตอบ “มาซื้อเสื้อผ้า”

ฉูรั่วไป๋นึกว่าเย้นหว่านมาซื้อเสื้อผ้าที่ใส่ทั่วไป ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เขายิ้มพร้อมกับพูดว่า “พอดีเลย ฉันก็มาเดินเล่นเพราะว่าไม่มีอะไรทำ ฉันเดินเป็นเพื่อนเธอแล้วกัน”

“คุณน่ะเหรอ? ผู้ชายมาช็อปปิ้งเป็นเพื่อนฉัน น่าจะเบื่อน่าดูเลยนะ”

“ฉันเป็นผู้ชายธรรมดาๆ ที่ไหนกัน เธออย่าลืมสิ ฉันเป็นดีไซเนอร์เสื้อผ้านะ”

แฟชั่นดีไซเนอร์มาช็อปปิ้ง เดินไปเดินมาก็กลายเป็นการทำงาน ศึกษาวิจัย

เย้นหว่านเข้าใจในทันที คิดว่าที่รั่วไป๋มาห้างในตอนนี้ คือกำลังมองหาเทรนด์เสื้อผ้าใหม่ ๆ อยู่หรือเปล่า?

ถ้ายังงั้นก็ดีแล้ว ก็ได้มาเดินช็อปปิ้งกับเธอ

ดังนั้นเย้นหว่านก็เลยพยักหน้า “งั้นก็ไปกันเถอะ”

ก่อนหน้านี้บางทีก็จะออกมาสำรวจ ศึกษาวิจัยกับฉูรั่วไป๋บ้าง เย้นหว่านมาเดินช็อปปิ้งกับฉูรั่วไป๋ก็เลยไม่รู้สึกกดดันอะไรเพราะว่าความเคยชิน

ฉูรั่วไป๋เดินอยู่ข้างๆ เย้นหว่าน แต่ว่าในใจเขาคิดไม่เหมือนกับเธอ

สำหรับเขาแล้วนั้น วันนี้เป็นแค่การเดินเล่นช็อปปิ้งอย่างเดียว เขาเดินช็อปปิ้งเป็นเพื่อนเย้นหว่าน ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกัน เหมือนกับคู่รักตัวน้อยๆ

เมื่อก่อนเขาก็แค่นอนกับสาวๆ เท่านั้น น้อยมากที่จะออกมาเที่ยวเล่นด้วยกัน ต่อให้ไปเป็นเพื่อนจริง ก็เป็นแค่การทำอย่างขอไปทีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเท่านั้นเอง การที่วันนี้ได้มาเดินช็อปปิ้งอย่างใสซื่อกับผู้หญิงคนหนึ่งแบบนี้นั้น ถือว่าเป็นครั้งแรกของเขาเลย

และความรู้สึกแบบนี้ ก็ดูเหมือนจะดีมากเลยทีเดียว

ไม่น่าแปลกใจที่ผู้ชายบางคนรักผู้หญิงเพียงคนเดียวในชีวิต ช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยไม่ยอมแม้แต่จะชายตามองผู้หญิงคนอื่นเลยแม้แต่น้อย

ฉูรั่วไป๋ก็รู้สึกเช่นกัน เหมือนกับว่าเขาก็อยากจะมีอนาคตแบบนี้เหมือนกัน และการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ก็ถือว่าเป็นอะไรที่งดงาม

เย้นหว่านซื้อเสื้อผ้าทั่วไปมาแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้ซื้อชุดราตรีเลย

เธอเดินไปเดินมาในห้าง ล้วนเป็นร้านค้าระดับไฮเอนด์ที่มีชุดราตรี

ฉูรั่วไป๋เดินอยู่ข้างๆ เย้นหว่านอย่างตามใจ คุยเล่นเรื่อยเปื่อย “พรุ่งนี้เธอมีงานอะไรไหม? ”

เย้นหว่านส่ายหน้า “ตอนนี้ยังไม่มี”

พรุ่งนี้ต้องไปเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์แล้ว เย้นหว่านได้ผลักแผนการทำงานทั้งหมดออกไปก่อน

ฉูรั่วไป๋รู้สึกมีความสุข ประจวบเหมาะพอดีเลย

ก่อนหน้านี้เขาได้ไปบังเอิญรู้มาว่าเย้นหว่านอยากไปเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์ที่เมืองเจียงในครั้งนี้ เพราะฉะนั้นก็เลยพยายามอย่างสุดความสามารถ ซื้อบัตรผ่านประตูเพิ่มขึ้นมาอีกใบหนึ่ง เพื่อให้เย้นหว่านโดยเฉพาะ

ถ้าเกิดว่าเธอได้ตั๋วไป ต้องดีใจมากแน่ๆ

ฉูรั่วไป๋รีบดึงตั๋วที่อยู่ตรงหน้าอกออกมาทันที เตรียมจะส่งให้เย้นหว่าน

“นี่คือตั๋ว……”

เขายังไม่ทันจะพูดจบ ก็เห็นเย้นหว่านหันเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าข้างๆ

ร้านเสื้อผ้าร้านนี้เน้นเป็นชุดราตรี

ฉูรั่วไป๋มองแผ่นหลังของเย้นหว่านที่เดินเข้าไปข้างใน คำพูดที่อยากจะพูด ก็พูดออกมาไม่ทัน

เขารู้สึกสงสัยมากกว่าเดิม เย้นหว่านมาซื้อเสื้อผ้า แล้วจะมาดูชุดราตรีเพื่ออะไรกัน?

“ คุณฉู เข้ามาสิ ฉันอยากดูชุดราตรีร้านนี้หน่อยน่ะ”

พอเห็นว่าฉูรั่วไป๋ไม่ได้ตามเข้ามา เย้นหว่านก็เลยหันมาตะโกนเรียกเขา

เธอกวาดตามองผ่านตู้โชว์สินค้า ก็แทบจะเห็นสไตล์ของร้านนี้ได้เลย แล้วก็เข้ากับความต้องการของเธอพอดี

เธอเดินไปทั่วห้างนี้แล้ว แต่ก็ยังเลือกเสื้อผ้าไม่ได้สักที มีความเป็นไปได้มากว่าจะสามารถจัดการได้ภายในร้านนี้

ฉูรั่วไป๋ไม่ได้พลาดคำว่าชุดราตรีที่เธอพูด

วัตถุประสงค์ชัดเจน แน่นอนว่าไม่ได้มาที่นี่แบบเรื่อยเปื่อย ที่แท้เย้นหว่านก็มาเพื่อจะซื้อชุดราตรียังงั้นเหรอ?

เธอจะซื้อชุดราตรีไปอย่างไม่มีเหตุผลทำไมกัน?

ฉูรั่วไป๋เดินเข้าไปด้วยความสงสัย แล้วก็ถามออกมาว่า “เธอจะซื้อชุดราตรีเหรอ? ”

“อืมๆ ”

เย้นหว่านพยักหน้า แล้วก็เดินเข้าไปข้างในต่อ สายตามองไปรอบๆ และก็ไม่ทันสังเกตว่าในมือของฉูรั่วไป๋ตอนนี้กำลังถืออะไรอยู่

เธอดูไปด้วยพร้อมกับอธิบายไปด้วย “พรุ่งนี้ฉันจะไปร่วมงานแฟชั่นโชว์ ยังไม่มีชุดราตรีที่เหมาะสมเลย”

“เธอจะไปร่วมงานแฟชั่นโชว์งั้นเหรอ? เธอซื้อตั๋วได้ด้วยเหรอ? ”

ฉูรั่วไป๋พูดออกมาอย่างประหลาดใจ

นี่คือสิ่งที่เขานึกไม่ถึงเลยแม้แต่นิดเดียว

เพราะว่าเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงในเมืองเจียง แน่นอนว่าเขาต้องรู้กฎของงานแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้ เพราะว่าจัดงานค่อนข้างใหญ่ ตั๋วเข้าร่วมงานก็เลยเริ่มขายก่อนล่วงหน้าถึงสามเดือน แล้วก็ไม่ใช่ว่ามีเงินก็สามารถซื้อได้

คนที่สามารถซื้อได้ ต้องเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีความหวังในอุตสาหกรรมแฟชั่น แต่ต่อให้เป็นแบบนั้น ตั๋วพวกนี้ ก็ขายจนเหลือไม่เยอะเท่าไหร่ตั้งแต่สามเดือนก่อนแล้ว

และเย้นหว่านก็พึ่งจะมาเมืองเจียงได้ไม่นาน และก็เพราะว่าได้มาที่เมืองเจียง เธอถึงได้อยากจะเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้

แล้วปกติแล้วตั๋วสำหรับเข้างานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ก็หายากอยู่แล้ว แถมเย้นหว่านยังเริ่มช้าขนาดนี้ 90%ซื้อไม่ได้อยู่แล้ว

ตั๋วของฉูรั่วไป๋ ก็ได้มาจากพรรคพวกทั้งนั้น ไม่ยังงั้นก็คงไม่มีเหมือนกัน

เพราะฉะนั้นเขาก็เลยจะเอามาให้เย้นหว่าน แต่ไม่คิดเลยว่า เย้นหว่านจะมีตั๋วอยู่แล้ว!

เย้นหว่านเห็นท่าทางประหลาดใจของฉูรั่วไป๋ ก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ ถึงยังไงเธอก็รู้อยู่แล้วว่าตั๋วร่วมงานในครั้งนี้มันหายากขนาดไหน

เธออดไม่ได้ที่จะคิดว่าตั๋วใบนี้โห้หลีเฉินเป็นคนให้เธอมาก พอนึกถึงผู้ชายที่ทั้งเอาใจใส่และเอาแต่ใจคนนั้น การเต้นของหัวใจเย้นหว่านก็ผิดจังหวะขึ้นมาทันที

สีหน้าไม่สบายใจปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่ง

“อืม มีตั๋วแล้ว”

เย้นหว่านตอบอย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก เธอไม่อยากพูดว่าโห้หลีเฉินเป็นคนให้เธอมา

เพราะว่าโห้หลีเฉิน หัวข้อการสนทนานี้ทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง เธอเดินเข้าไปข้างในโดยอัตโนมัติ แล้วก็เลือกชุดและเริ่มมองหา พยายามเบี้ยงเบนหัวข้อนี้

พนักงานรีบเดินเข้ามาอย่างกระตือรือร้นทันที ให้คำแนะนำกับเย้นหว่านด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“คุณผู้หญิงคะ คุณนี่ช่างมีรสนิยมจริงๆ เลยนะคะ ชุดราตรีชุดนี้เหมาะกับคุณมาก อยากลองดูหน่อยไหมคะ? ”

ฉูรั่วไป๋ยืนอยู่ข้างๆ กลายเป็นหินไปแล้ว

ความตกตะลึงของเขาได้เปลี่ยนกลายเป็นความผิดหวัง พูดอะไรไม่ออก ถึงแม้ว่าเย้นหว่านจะไม่ได้พูด แต่เขาก็แทบจะเดาได้แล้ว ว่าตั๋วของเย้นหว่านนี้มาจากไหน

คนที่สามารถหาตั๋วให้เธอได้ นอกจากเขาแล้ว ก็ยังมีอีกคนหนึ่งที่สามารถใช้เพียงแค่มือเดียวในการปกคลุมท้องฟ้าได้ นั่นก็คือโห้หลีเฉิน

เขาพยายามอย่างหนักเพื่อวานให้คนไปหาตั๋วให้ เพื่อที่อยากจะมอบให้เย้นหว่านด้วยตัวเอง ทำให้เธอมีความสุข แต่ไม่คิดเลยว่า เขายังไม่ทันจะได้มอบให้เธอ โห้หลีเฉินก็ชิงทำก่อนเสียแล้ว!

โอกาสที่ดีขนาดนี้ แต่ว่ากลับโดนโห้หลีเฉินแย่งไป ตอนนี้ฉูรั่วไป๋รู้สึกหดหู่จนอยากจะฆ่าคน

ตามการแนะนำของพนักงานคนนั้น เย้นหว่านถึงได้มองชุดราตรีชุดนี้อย่างละเอียด ถึงแม้ว่าจะเลือกมามั่วๆ แต่ว่ามันก็ถือว่าเป็นชุดที่ไม่เลวเลยทีเดียว

เธอมองแล้วมองอีก หันหน้าไปเตรียมจะถามฉูรั่วไป๋ “คุณฉู คุณคิดว่าชุดนี้เป็นยังไงบ้าง……เป็นอะไรไปเหรอ? ”

เห็นความทุกข์บนใบหน้าของฉูรั่วไป๋ เย้นหว่านก็รู้สึกสงสัย

ฉูรั่วไป๋ดึงสติกลับมา มือที่ถือตั๋วอยู่นั้นเก็บเข้าไปทันที ซ่อนมันไว้ด้านหลังของตัวเอง

สีหน้าของเขาไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่ แล้วถามว่า “ไม่มีอะไรหรอก ทำไมนะ เมื่อกี้เธอว่าไงเหรอ? ”

“ฉันอยากลองชุดนี้ดู คุณคิดว่าชุดนี้เป็นยังไงบ้าง? ”

เย้นหว่านทวนอีกครั้งอย่างมีความอดทน

ฉูรั่วไป๋ขจัดความหดหู่ของตัวเองออกไป มองดูชุดนี้แล้วก็พยักหน้า

“ไม่เลวเลย เหมาะกับเธอ”

เย้นหว่านเชื่อในรสนิยมของฉูรั่วไป๋ เธอคลี่ยิ้มขึ้นมาทันทีและพูดกับพนักงานว่า :

“ถ้ายังงั้นฉันรบกวนขอลองชุดนี้หน่อยนะคะ”

“ได้ค่ะ คุณผู้หญิง เชิญตามดิฉันมาได้เลยค่ะ”

พนักงานหยิบชุดนั้นออกมาอย่างคล่องแคล่ว ถือมันอย่างระมัดระวัง แล้วก็พาเย้นหว่านไปยังห้องลองชุด

ฉูรั่วไป๋เห็นว่าเย้นหว่านเดินออกไปแล้ว ใบหน้าที่หล่อเหลาก็ทรุดลงอีกครั้งหนึ่ง

เขามองตั๋วที่ยับยู่ยี่ในมือ หดหู่จนแทบจะกระอักเลือดออกมา

หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง เย้นหว่านก็เปลี่ยนชุดราตรีเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาจากห้องลองชุด

นี่เป็นชุดกระโปรงยาวสีฟ้าอ่อน งดงามและละเอียดอ่อน ดูสวยหรูแบบเรียบๆ น่าสนใจมาก สง่างาม แต่ก็ไม่ได้แย่งบทบาทของเจ้าภาพ เหมาะเป็นแขกเข้าร่วมแฟชั่นโชว์เป็นอย่างมาก

เย้นหว่านเปลี่ยนเสื้อผ้า ยืนอยู่หน้ากระจก ดูพึงพอใจมาก

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset