บทที่ 18 เงินหมื่นล้าน ว่าจะไม่เอาก็ไม่เอาง่ายๆเลยเหรอ
ถึงเขาจะให้เวลาเธออีกสองวัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับงานใหญ่แบบนี้ เธอเลยตั้งใจทำงานเต็มที่จนเลิกงาน
เธอยืดเส้นยืดสายนั่งอยู่กับที่ แล้วลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ เธอเดินไปถึงห้องน้ำ ก็เจอกับเสิ่นโป๋เม๋ยพอดี
เย้นหว่านไม่ชอบหน้าเธอ และไม่ได้กะจะท้าทายเธอด้วย เธอก็ได้เดินตรงเข้าไปเลยโดยไม่สนใจเธอ เสิ่นโป๋เม๋ยเห็น
หน้า เย้นหว่านที่เดินเข้ามาแล้ว แววตาที่เธอมอง เย้นหว่านทั้งอิจฉาและดุร้ายจ้องเธอไว้ เธอได้ขว้างเธอไว้ ผลักไหล่
ของ เย้นหว่านไปทีนึงแบบไม่เกรงใจ
“ วันนี้ที่เธอได้ออกหน้าออกตาตอนอยู่ที่ห้องประชุม รู้สึกได้ใจมากเลยสินะ ? ”
เสิ่นโป๋เม๋ยใช้แรงมาก เย้นหว่านรู้สึกเจ็บที่ไหล่ เลยได้ถ้วยหลังไปสองก้าว เธอขมวดคิ้วขึ้น
เตือนเธอด้วยความโกรธ
“ เสิ่นโป๋เม๋ย ที่นี่มันบริษัทนะ เธออยากมาแตะเนื้อต้องตัวฉัน”
กฎของบริษัทได้เขียนไว้อย่างชัดเจน ว่าห้ามพนักงานทะเลาะและต่อยตีกัน พฤติกรรมแบบนี้มันทำลายภาพพจน์
ของบริษัทอย่างหนัก กับชื่อเสียงของนักออกแบบแล้วยิ่งกระทบกระเทือนอย่างหนัก
เสิ่นโป๋เม๋ยก็รู้ดี แต่เธอถูก เย้นหว่านยั่วจนโมโห
ถ้าไม่ใช่เพราะ เย้นหว่าน ผลงานของเธอก็อาจจะได้ที่หนึ่งในครั้งนี้ เธอก็จะมีโอกาสได้ออกแบบชุดให้กับ
โห้หลีเฉิน
ตำแหน่งเธอก็จะได้เลื่อนขึ้นอีกขั้น และเมื่อวันเหตุการณ์ที่เธอเห็นในห้องของท่านประธานนั่น ผู้หญิงที่
โห้หลีเฉินกอดอยู่ก็คงจะเป็นเธอ ทั้งหมดนี่ควรเป็นของเธอตั้งแต่แรก แต่ถูก เย้นหว่านแย่งไปหมด
“ เย้นหว่านถ้าฉันไม่สบาย เธอก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่สบายเลย ”
เสิ่นโป๋เม๋ยเดินหน้าไปก้าวนึง แย่งมือถือที่อยู่ในมือของ เย้นหว่านมา หันหน้าแล้วโยนเข้าไปในโถส้วม เย้นหว่าน
เห็นมือถือที่ตกลงแช่อยู่ในน้ำโถส้วม เธอโกรธจนย่ำเท้า
“ นี่เธอบ้าไปแล้วเหรอ ! ”
“ เรื่องวันนี้แค่ตักเตือน เย้นหว่าน ถ้าเธอไม่ลาออกจากบริษัทเองแล้วละก็ ฉันจะไม่ออมมือให้แน่
และฉันจะเล่นงานเธอให้ตายไปเลย ”
เสิ่นโป๋เม๋ยขู่เธออย่างดุร้าย แล้วเดินออกไป เธอเดินออกไป แล้วปิดประตูอย่างแรง
เย้นหว่านโกรธจนขมวดคิ้วขึ้น ในใจรู้สึกโมโหมาก
ถ้าบริษัทไม่มีเสิ่นโป๋เม๋ยสักคนคงดี ได้เป็นเพื่อนร่วมงานของเธอแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียนตัวเองทุกวินาที
เย้นหว่านเอากระดาษไปหยิบมือถือขึ้นจากโถ แล้วเช็ดให้แห้ง แต่มือถือก็พังเปิดไม่ออก
เธอทำอะไรไม่ได้เลยเก็บมือถือไว้ แล้วจึงจะเดินออกไป
แต่พอไปถึงประตู เธอดึงที่จับปรากฏว่าประตูเปิดไม่ออก
ประตูถูกล็อกจากด้านนอก ?
ต้องเป็นเสิ่นโป๋เม๋ยแน่เลย
เธอโกรธจนพูดไม่ออก เธอคงว่างมากเลยสินะ ที่ขังเธอไว้ในห้องน้ำ เรื่องแบบนี้เธอก็ยังทำออกมาได้
เธอตบประตูอย่างแรง และเรียกชื่อเธออยู่ “ เสิ่นโป๋เม๋ย เธอรีบเปิดประตูนะ ! ”
“ เปิดประตู ! เธออย่าเล่นเป็นเด็กได้มั้ย ?”
“ เสิ่นโป๋เม๋ย ถ้าเธอยังไม่ยอมเปิดประตูให้ฉัน ฉันก็จะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้จัดการ และท่านประธานด้วย !
ฉันจะดูว่าเธอจะทำยังไง”
………..
เธอตะโกนดังจนเสียงแหบ แต่เสิ่นโป๋เม๋ยก็ไม่ตอบเธอ และก็ไม่เปิดประตูให้เธอด้วย
เวลานี้บริษัทก็เพิ่งเลิกงาน ตามหลักแล้วต้องมีคนมาเข้าห้องน้ำสิ แต่นี่มันแปลกๆ ทำไมถึงไม่มีใครมาเลย
เย้นหว่านไม่รู้ว่าเสิ่นโป๋เม๋ยไปทำอะไรที่ข้างนอกห้องน้ำอีก และตอนนี้ในใจเธอก็เริ่มกังวล
นี่เสิ่นโป๋เม๋ยเธอตั้งใจจะขังเธอไว้ในห้องน้ำทั้งคืนนี่จริงเหรอ ?
นึกถึงตรงนี้ เธอรู้ขนลุกทันที เธอหันหลังติดกับประตู มองไปที่โถส้วมที่แบ่งเป็นห้องๆ รู้สึกน่ากลัวจนตื่นตกใจ
เวลาสามทุ่ม
โรงแรมนานาชาติหย่าย่วน ในตอนนี้ไม่มีแขกคนนอกสักคน
เห็นชัดเจนว่าถูกคนสั่งเหมาทั้งโรงแรม สาวสวยต้อนรับที่ใส่ชุดกระโปรงสั้นยืนเป็นสองแถวอยู่หน้าประตู
ทุกคนก้มหน้าพร้อมกันเป็นระเบียบ น้ำเสียงหวานนุ่มพูดขึ้นพร้อมกัน
“ ยินดีต้อนรับค่ะ คุณโห้”
“ คุณครับ คุณเจมส์มาถึงแล้วครับ คุณเชิญทางนี้เลยครับ”ผู้จัดการโรงแรมนำทางอยู่ข้างหน้า
อย่างมีมารยาท
ใบหน้าอันหล่อเหลาของโห้หลีเฉินสีหน้าดูเรียบเฉยเหมือนเคย
สายตามองไปด้านหน้าแล้วเดินไปข้างในอย่างสูงสง่า
เว่ยชีเดินตามหลังเขา นิ้วกดอยู่ที่หูฟัง จากนั้นได้เดินไปข้างเขาพูดขึ้นเสียงเบา “ ท่านครับ เมื่อกี้คุณท่านได้
โทรศัพท์มา บอกว่าให้ท่านบอกกับคุณ เย้นหว่าน สุดสัปดาห์นี้ให้เธอไปทานข้าวที่บ้านครับ”
“ นายไปจัดการแล้วกัน”
โห้หลีเฉินพูดขึ้นเหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องนี้
เว่ยชีตะลึงเล็กน้อย เขาสังเกตเมื่อเทียบกับเมื่อวานแล้ว ท่าทีที่ท่านมีกับคุณ เย้นหว่านรู้สึกจะจืดชื่นและเย็นชาไป
นะ
หรือว่าท่านจะเบื่อคุณ เย้นหว่านเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ ?
ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย เขาตามหลังโห้หลีเฉินเดินออกจากลิฟต์
การตกแต่งของทั้งชั้นดูหรูหราและอลังการมาก ในเวลานี้ทั้งชั้นดูเงียบสบง ไม่มีคนนอกสักคน
ที่ริมหน้าต่าง มีผู้ชายชาวต่างชาติหน้าตาหล่อเหลากำลังนั่งอยู่ ดูแล้วอายุราวๆสามสิบได้
ดวงตาคู่ฟ้านั้นส่องแววฉลาด
เขาเห็นโห้หลีเฉิน แล้วยิ้มอย่างสุภาพ เขาใช้ภาษาอังกฤษท้าทาย “ คุณโห้ คุณมาตรงเวลามาก”
เวลาที่นัดหมาย เขามาได้ไม่เร็วและไม่ชาไป
“ คุณเจมส์ ขอโทษที่ให้คุณรอนาน”
โห้หลีเฉินได้นั่งลงที่ตรงข้ามของคุณเจมส์ พูดท้าทายอยู่สักพัก จากนั้นก็คุยถึงเรื่องงาน
นี่เป็นโครงการที่ใหญ่มาก ทั้งสองฝ่ายต่างก็ให้ความสําคัญมาก
และทั้งสองคนก็เป็นนักธุรกิจที่มีความสามารถในการค้าอย่างมาก และเนื้อหาที่คุยกันก็เป็นความลับของบริษัท
ทั้งสองคนคุยกันอย่างราบรื่น
เจมส์ยิ่งอยู่ยิ่งชื่นชมโห้หลีเฉิน ชนแก้วกับเขา “ คุณโห้ คุณเป็นคนเก่งมากเลยครับ
ผมดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับคุณ “ cheers ! ”
โห้หลีเฉินยกแก้วชน สีหน้าเรียบเฉย สุขุมและสง่า
หลังจากนั้นก็ถึงขั้นตอนที่ตกลงลายละเอียดข้อสัญญา ถึงไม่ใช่เรื่องหลัก
แต่กันร่วมงานในครั้งนี้ ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก
อีกฝั่ง ในมือเว่ยชีได้ถือโทรศัพท์ไว้ เดินเข้ามาอย่างสีหน้าเคร่งเครียด เขาเดินไปข้างโห้หลีเฉิน
ยืนใกล้กับข้าง
กายของเขา พูดเบาเสียง
“ ท่านครับ คุณ เย้นหว่านเกิดเรื่องแล้วครับ”
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วขึ้น “ เกิดอะไรขึ้น ?”
“ เมื่อกี้ ผมโทรศัพท์หาคุณเย้นหว่านแล้วโทรไม่ติดครับ คนที่บ้านของเธอก็บอกเธอยังไม่ได้กลับบ้าน ผมตรวจดู
การตอกบัตรเลิกงานของบริษัท ปรากฏว่าเธอยังไม่ได้ตอกบัตรเลิกงานเลยครับ แต่รปภของบริษัทบอกว่า
พนักงานของแต่ละแผนกก็ออกไปกันหมดแล้ว”
ถ้าแค่ตามคนไม่เจอ ก็คงนึกว่าเป็นแค่ความบังเอิญ แต่นี่เธอยังไม่ได้ตอกบัตรเลิกงาน มันไม่ปกติแน่นอน
โห้หลีเฉินจู่ๆก็ลุกขึ้น แล้วเดินก้าวเท้าใหญ่ออกไปเลย ในใจไม่เคยรู้สึกตื่นตะโกนแบบนี้มาก่อน เป็นความรู้สึกที่
เหนือการควบคุม หวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะมีอันตราย
เจมส์ก็รีบลุกขึ้นทันที สีหน้าที่มองโห้หลีเฉินเหมือนจะไม่พอใจ
“ คุณโห้ เรื่องสัญญาของเรายังคุยไม่จบ นี่คุณจะไปไหน ?”
“ ผมมีเรื่องด่วน เอาไว้คราวหน้าเราค่อยคุยกัน “โห้หลีเฉินได้เดินออกไปโดยไม่หันมามองเขา
ในตอนนี้สีหน้าของเจมส์ยิ่งดูไม่ได้กันใหญ่ เขาให้ความสําคัญกับการร่วมงานครั้งนี้มาก เขาเลยเลือกที่จะ
บินมาจากฝรั่งเศสด้วยตัวเอง
แต่ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้
“ คุณโห้ นี่เป็นท่าทีของทางคุณที่ต้อนรับการร่วมงานครั้งนี้กับเราเหรอ ? ถ้าคุณเดินจากไปแบบนี้
จะทำให้ผมสงสัยประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทคุณ”
เท้าของเขาได้หยุดลง เงาหลังที่สูงสง่าดูจะเยือกเย็น
น้ำเสียงเย็นชาและสุขุม “ ถ้าเป็นอย่างงั้น ก็ยกเลิกการร่วมงานครั้งนี้”พูดจบ เขาก็เดินออกไปอย่างไม่ลังเล
เจมส์มองเขาอย่างตกตะลึง โกรธจนหน้าซีด
เว่ยชีก็ตกตะลึงมากเหมือนกัน นี่เป็นโครงการใหญ่ที่บริษัทได้เตรียมการ อยากทำสัญญามานาน
ไม่งั้นก็คงไม่ให้ท่านมาคุยด้วยตนเอง
แต่ตอนนี้ท่านถึงกับเพื่อคุณ เย้นหว่านแล้ว ทิ้งโครงการหมื่นล้านไปง่ายๆแบบนี้ ……..