หลินซินเหยียนปลดกระดุมเสื้อผ้า พลางพูดว่า ” คุณเอาเสื้อผ้าฉันมาสิ “
จงจิ่งห้าวเงยหน้าขึ้นมองเธอ นอกจากชุดผู้ป่วยแล้วข้างในก็ไม่ได้ใส่อะไรเลย หลังจากที่ปลดกระดุมเสื้อออกแล้วก็เผยให้เห็นผิวที่ดูเนียนขาวราวกับก็เนย
พอรู้ว่าเขากำลังมองตัวเองอยู่ หลินซินเหยียนก็รีบปิดหน้าอกตัวเอง ” คุณมองอะไรอ่ะ? “
จงจิ่งห้าวกลับทำทีนิ่งเฉย ” คุณไง “
หลินซินเหยียนหลุบตาลงแล้วบ่นอุบอิบว่าน่าเกลียด จงจิ่งห้าวฟังไม่ชัดก็ถามเธอ ” คุณพูดอะไรนะ? “
” ฉันไม่ได้พูดอะไรเลย ” หลินซินเหยียนพูดเร่งเขา ” คุณรีบไปหยิบเสื้อผ้ามาสิ “
จงจิ่งห้าวจึงเดินไปหยิบเสื้อผ้ามา
หลินซินเหยียนให้เขาวางเสื้อผ้าลงบนเตียง ” คุณออกไปก่อน ฉันจะเช็ดตัวเอง “
จงจิ่งห้าวทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่เธอพูด ก่อนจะเอาผ้าขนหนูที่จุ่มน้ำบิดจนเกือบแห้งโดยไม่หืออือ แล้วพูดขึ้นมาว่า ” ถ้าคุณไม่ถอด ผมจะช่วยคุณถอดเอง “
จริงๆ แล้วหลินซินเหยียนได้ปลดกระดุมเสื้อออกทั้งหมดแล้ว แต่แค่ไม่ได้ถอดมันออกต่อหน้าจงจิ่งห้าวก็เท่านั้นเอง เธอไม่ได้อาย แต่แค่ไม่อยากให้เขาเห็นสภาพของตัวเองในตอนนี้
” คุณไม่รังเกียจที่ตัวฉันเหม็นเหรอ? ” หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้น ดูเหมือนผมดำนั้นจะยุ่งเหยิงเล็กน้อย จงจิ่งห้าวจึงยกมือขึ้นเอาผมทัดไว้ข้างหูของเธอ ” ในสายตาของผม คุณหอมตลอดแหละ “
หลินซินเหยียนพูด ” คนโกหก “
เป็นเพราะเธอคัดเต้ามาก ทำให้น้ำนมไหลออกมา บนเสื้อผ้าก็เต็มไปด้วยกินนม มันจะหอมได้ยังไง?
จงจิ่งห้าวโน้มตัวเข้าหาเธอ ” ถ้าคนยังยืดยาดอยู่ เดี๋ยวก็มีคนกลับมาพอดี ” พูดจบเขาก็ยกมือขึ้นถอดเสื้อผ้าของเธอ หลินซินเหยียนจึงเบือนหน้าหนีไม่มองเขา
จงจิ่งห้าวก้มหน้าลงแล้วกระซิบข้างหูเธอ ด้วยเสียงต่ำ ” บนตัวคนมีแต่เป็นนม หอมจะตาย “
หลินซินเหยียน ” …… “
เธอผลักเขาออก ” น่าเกลียด “
จงจิ่งห้าวยิ้มอ่อนๆ จากนั้นก็หยิบผ้าขนหนูหมาดๆ ที่มีน้ำอยู่นิดหน่อยขึ้นมาเช็กร่างกายของเธอ
เป็นเพราะน้ำนมมาก หน้าอกของเธอในเต่งขึ้นมาเป็นพิเศษ ดูราวกับภูเขาน้อยๆ สองลูก จงจิ่งห้าวระวังมือมาก พอไม่ระวังแล้วเผลอไปกระทบเข้าเธอก็ร้องซี๊ด ตกลงเธอไม่สามารถโดนได้ แม้จะสัมผัสเบาๆ ก็ทำให้รู้สึกเจ็บได้ทั้งนั้น
จงจิ่งห้าวเก็บมือ ไม่กล้าโดนตัวเธอ
หลินซินเหยียนจับผ้าขนหนูในมือเขา ” เดี๋ยวฉันทำเอง “
จงจิ่งห้าวพูด ” เดี๋ยวผมเบามือหน่อยก็ได้ เพราะว่าคุณคงเช็คหลังตัวเองไม่ได้หรอก เดี๋ยวผมช่วย “
หลินซินเหยียนมองเขา ” ฉันทำเองดีกว่า คุณออกไปสูดอากาศเถอะ “
พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานแล้ว เขาจึงมีท่าทีดูกระสับกระส่าย นี่เป็นปฏิกิริยาทางร่างกายโดยปกติ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ร่างกายของเธอจะไม่อนุญาต
คุณหมอเคยกำชับเอาไว้ว่า ในระยะสามเดือนนี้ไม่อนุญาตให้มีกิจกรรมทางเพศกัน
จงจิ่งห้าวยืนไม่ขยับ เขาเอาแต่มองไปที่เธอ
หลินซินเหยียนกำลังลากผ้าห่มเตรียมที่จะปิดบังร่างกายที่เปลือยเปล่าของตัวเอง แต่จงจิ่งห้าวก็ยื้อผ้าเอาไว้ ไม่ให้เธอปิด
” คุณจะทำอะไร? ” หลินซินเหยียนพูดเตือนไม่ให้เขารุ่มร่าม
จงจิ่งห้าวพูด ” คุณก็รู้ว่าผมอยากทำอะไร “
” แต่ว่าฉัน…… “
เธอยังไม่ทันได้พูดจบ จงจิ่งห้าวก็เอามือของเธอวางไว้ที่จุดสำคัญของเขา หลินซินเหยียนสมองแทบระเบิด ไม่หัวว่างเปล่าไปหมด ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว
” คุณ…… “
จงจิ่งห้าวจูบไปที่ริมฝีปากของเธอ แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนละมุน” ผมรู้ แต่ผมคิดถึงคุณมาก คุณใช้มือช่วยผมหน่อยได้ไหม “
หลินซินเหยียน “……… “
นี่มันเหลวไหลไปใหญ่แล้ว ที่นี่คือโรงพยาบาลนะ
” นี่คือโรงพยาบาล แถมยังเป็นตอนกลางวันอีก แม่อยู่ข้างนอก…… “
จงจิ่งห้าวเอามือของเธอ ใส่เข้าไปข้างในกางเกง
เธอตื่นเต้นจนแทบบ้า รู้สึกนี้มันบ้าเกินไปแล้ว นี่มันอะไรกันเนี่ย!
จงจิ่งห้าวจับมือของเธอแน่น จุมพิตลงที่ปลายจมูกและปากของเธอ ” แม่ไม่เข้ามาหรอก “
หลินซินเหยียนกัดปากและเร่งเขา ” คุณรีบหน่อยสิ! “
จงจิ่งห้าวไม่พูดอะไร เธอได้ยินเพียงแค่เสียงลมหายใจที่กระฟึดกระฟัดไม่คงที่ของเขา นายยังทำสีหน้าฟินจนแทบขาดใจ
เธอพยายามที่จะไม่มองตรงๆ แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นท้าทายแปลกๆ สุดท้ายก็ถูกดึงเข้ามาสู่ขอบเขตที่เธอไม่สามารถควบคุมได้ เธอปลีกตัวออกมาไม่ได้ ก่อนจะพูด” คุณ…..เร็วหน่อยสิ “
จงจิ่งห้าวยิ้มน้อยๆ งับไปที่ติ่งหูของเธอ ” คุณหน้าแดงแล้ว “
หลินซินเหยียนถลึงตามองเขา ” คุณมันหน้าไม่อาย “
เขาขำเบาลง
ขณะนั้นจวงจื่อจิ่นก็เคาะประตูถาม ” เหยียนเหยียน เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จหรือยังจ๊ะ? เสื้อผ้าสกปรกเอา มาให้แม่ซักไหม? “
หลินซินเหยียนผลักเขาออก จงจิ่งห้าวกุมมือเธอให้กำแน่นกว่าเดิม เธอรีบจนเหงื่อเต็มหัวไปหมด
จวงจื่อจิ่นก็เคาะประตูอีกครั้ง ” เหยียนเหยียน….. “
หลินซินเหยียนลนมากกว่าเดิม ” ยัง….. ยังไม่เสร็จค่ะ….. “
จวงจื่อจิ่นคงจะได้ยินแล้วก็เลยไม่เคาะต่อ
เธอจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แก้มทั้งสองข้างแดงราวกับถูกไฟแผดเผา ในใจทั้งโกรธและโมโห เลยตะคอกใส่เขาเสียงต่ำ” จงจิ่งห้าว! “
” เรียกให้มันนุ่มนวลกว่านี้สิ ” เขายิ้ม
หลินซินเหยียนกัดปาก แต่ก็อย่าลำบากใจ จึงยอมเขา แค่หวังว่าเขาคงจะเสร็จเร็วสักหน่อย แต่การกระทำของเธอทำให้เขาเสียจังหวะ
เธอก็ได้ยินเสียงเขาคว่ำหน้าลงข้างหูเธอแล้วร้องครางออกมา จากนั้นเธอก็รู้สึกได้ถึงของแล้วพรั่งพรูออกมาจนเต็มมือ เป็นระยะๆ นานถึงสิบกว่าวินาที
หลินซินเหยียนผลักเขาออก จากนั้นก็คว้ากระดาษทิชชูมา จงจิ่งห้าวจับมือของเธอไว้แล้วพูดว่า ” เดี๋ยวผมเช็ดให้ “
เขาลุกขึ้นมาแล้วจัดการตัวเองจะสะอาด จากนั้นก็นั่งลงข้างเตียงแล้วใช้กระดาษเช็ดมือเธอ เช็ดทุกซอกทุกมุมบนนิ้วเธอ ตั้งแต่ข้อต่อนิ้ว มือดีขาวเนียนนั้น ขออ่อนโยนมาก หลังจากเช็ดมือเธอจนสะอาดแล้ว เขาก็จูบลงบนมือของเธอ ” ลำบากก็เธอเลยนะ “
หลินซินเหยียนชักมือกลับ จงจิ่งห้าวก็ยิ้ม แล้วออกไปเปลี่ยนน้ำมาใหม่ เพื่อที่จะเช็ดกลิ่นเหงื่อบนร่างกายของเธอ เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดใหม่แล้ว เขาก็เอาน้ำไปเท แล้วเปิดผ้าม่านให้เหมือนเดิม
ตอนนี้ห้องก็สว่างไสวขึ้นในพริบตา
เขาจึงไปเปิดประตู จวงจื่อจิ่นที่กำลังเก็บกวาดนอก เมื่อเห็นว่าประตูเปิดแล้วก็ยิ้มแล้วถาม ” เหยียนเหยียนเปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้วเหรอจ๊ะ? “
จงจิ่งห้าวตอบอืมไปสั้นๆ ” ถ้างั้นก็เปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่เถอะ “
จวงจื่อจิ่นตอบรับ ” ได้สิ คุณอุ้มเธอขึ้นแล้วกัน “
จงจิ่งห้าวกลับเข้าไปในห้องแล้วพอจะอุ้มเธอ เธอก็ไม่ยอมให้อุ้ม ” คุณประคองฉันก็พอแล้ว “
จวงจื่อจิ่นเอาผ้าปูที่นอนกับปลอกผ้าห่มสะอาดออกมา แล้วพูดว่า ” แผลยังไม่หายดีทั้งหมดไม่ใช่เหรอ? “
” หมอบอกว่าให้เดินเยอะๆ ค่ะ ” เมื่อเท้าทั้งสองของหลินซินเหยียนลงพื้น จงจิ่งห้าวก็คงตัวถอดรองเท้าวางไว้ข้างเท้าเธอ ” ผมพยุงคุณเอง “
หลินซินเหยียนโกรธก็เลยถีบเขา แต่มือเขาไวกว่าเลยจับข้อเท้าเธอไว้ได้ ” รอให้ร่างกายดีขึ้นก่อน ค่อยอัดผม แต่ตอนนี้เชื่อฟังหน่อยสิ “
จวงจื่อจิ่นที่ยืนอยู่อีกฝั่งไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดเรื่องอะไร ก็พูดขึ้นมาว่า ” เหยียนเหยียน จิ่งห้าวดีกับเธอมากแล้วนะ อย่าเอาแต่ใจนักเลย”