หลี่ว์ซู่มองดูแต้มอารมณ์ที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ได้รับ หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปหลบในห้องของตัวเองและไปเอาผลไม้ให้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ เธออยู่ระดับ C แล้ว แต่เธอก็ยังได้แต้มอารมณ์จากคนจำนวนกว่าเจ็ดหมื่นคน ในวิทยาลัยผู้บำเพ็ญอีก
หลี่ว์ซู่ไม่เคยเจอเหตุการณ์นี้มาก่อน ถ้าเขาได้แต้มอารมณ์มาจากคนหลายคนก่อนหน้านี้ เขาก็คงจะเลื่อนขั้นเป็นระดับ B ตั้งนานแล้วน่ะสิ
แล้วหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ก็เคาะประตูห้อง “หลี่ว์ซู่ ทำไมความแข็งแกร่งฉันถึงได้เพิ่มขึ้นมาเร็วขนาดนี้ล่ะ”
หลี่ว์เสี่ยวอวี๋รู้ว่ามีรูปแบบบางอย่างที่อยู่เบื้องหลังในการเพิ่มความแข็งแกร่งของเธอ เธอรู้เพราะหลี่ว์ซู่เอาผลไม้ให้เธอ แต่หลี่ว์ซู่ไม่เคยอธิบายว่าไปเอาผลไม้มาได้อย่างไร หลี่ว์เสี่ยวอวี๋รู้สึกว่ามีบางอย่างน่าสงสัยจริงๆ
แต่หลี่ว์ซู่ไม่บอกเธอหรอก ถ้าเขาบอกแล้วเรื่องที่เขาได้แต้มอารมณ์โดยใช้เธอก็ความแตกแน่ๆ
ทันใดนั้นหลี่ว์ซู่ก็คิดอะไรแปลกๆ ออก เขาเดินออกไปและเลี้ยวขวาไปตรงอพาร์ทเมนต์ที่เฉินจู่อานและเฉิงชิวเฉี่ยวอยู่ พวกเขากำลังกินอาหารที่สั่งมาจากข้างนอกตอนหลี่ว์ซู่เดินเข้าไป พอเห็นอย่างนั้นพวกเขาก็ประหลาดใจมาก “พี่ซู่มาทำไมเนี่ย”
หลี่ว์ซู่เงียบไปสองวินาที “เคยคิดจะเขียนทำเนียบหนุ่มหล่อบ้างไหม แล้วก็เขียนให้ฉันเป็นที่หนึ่ง”
เฉินจู่อานและเฉิงชิวเฉี่ยวอึ้ง “พี่ซู่เราทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก! เราโดนสาวๆ ทิ้งไปตั้งหลายคนแล้ว ถ้าพวกนักศึกษาชายมาเป็นศัตรูกับเราอีกล่ะก็เราก็คงอยู่ไม่ได้กันแล้วล่ะ!“
เฉิงชิวเฉียวพูด “เราจะทำเองแบบนั้นไม่ได้นะพี่ซู่ รายชื่อมันต้องออกมาอย่างเป็นทางการ…”
หลี่ว์ซู่มองเฉิงชิวเฉี่ยว “แลกกับผลปะทุพลังผลหนึ่ง!”
เฉิงชิวเฉี่ยวตอบ “ได้เลยฮะพี่ซู่ เดี๋ยวผมทำให้คืนนี้เลย”
เฉิงชิวเฉี่ยวรักษาคำพูดของเขา หลี่ว์ซู่จะเป็นที่หนึ่ง เฉินจู่อานจะเป็นที่สอง และเฉิงชิวเฉี่ยวจะตามมาในที่สาม…
แต่หลี่ว์ซู่กลับไม่ได้แต้มอารมณ์เลย เมื่อรายชื่อทำเนียบหนุ่มหล่อได้ถูกโพสต์ลงกระทู้วิทยาลัยนักบำเพ็ญแล้วก็ไม่มีคนสนใจเท่าไหร่…ทุกคนรู้ว่าเฉินจู่อานน่ารำคาญแค่ไหน ถ้ามีชื่อเฉินจู่อานอยู่ในรายชื่อแล้วมันจะเชื่อถือได้ได้อย่างไร
เฉิงชิวเฉี่ยวล้อหลี่ว์ซู่ “พี่ซู่ครับ ถึงแม้ว่ารายชื่อจะเชื่อถือไม่ได้ แต่เราก็ทำมันแล้วนะครับ เราพยายามกันมากเลย! แล้วผลปะทุพลังที่สัญญากันไว้ล่ะครับ”
หลี่ว์ซู่เดินออกไปจากบ้านและเอาลูกพีชออกมาจากตู้เย็นผลหนึ่ง เขาวางลูกพีชนั้นไว้บนมือของเฉิงชิวเฉี่ยว เฉิงชิวเฉี่ยวงงไปเลย “ถึงผมไม่เคยกินผลปะทุพลังมาก่อน แต่ผมก็รู้ว่ามันมีหน้าตาเป็นยังไงนะครับพี่ซู่”
“ลูกพีชผลนี้ผ่านการปะทุพลังมาแล้ว มันก็เลยถูกเรียกสั้นๆ ว่าผลปะทุพลังยังไงล่ะ” หลี่ว์ซู่ตอบเสียงเรียบ
[ได้รับแต้มจากเฉิงชิวเฉี่ยว +666]
“งั้นพี่ก็ไม่ได้คิดจะให้ผลปะทุพลังผมตั้งแต่แรกอยู่แล้วสินะ” เฉิงชิวเฉี่ยวพูดอย่างขมขื่น
เอาจริงๆ หลี่ว์ซู่คิดอยากจะให้ผลปะทุพลังกับเฉิงชิวเฉี่ยวนั่นแหละ เขามีเอาไว้เองก็ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ เขาจะเอาไปขายก็ไม่ได้ด้วย เพราะฉะนั้นเขาก็รู้สึกว่าเอาผลพวกนี้มาเพื่อซื้อแต้มอารมณ์จะดีกว่า และนี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่บุ่มบ่าม หลี่ว์ซู่รู้ถึงค่าของผลปะทุพลังอย่างแจ่มแจ้ง แต่เฉิงชิวเฉี่ยวไม่ได้มีศักยภาพในการฝึกฝนเพื่อปะทุพลัง ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนั้นหลี่ว์ซู่ก็กลัวว่าเฉิงชิวเฉี่ยวที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองจะกดตัวเองให้ต่ำไปอีก
เฉิงชิวเฉี่ยวปกป้องหลี่ว์ซู่มาตลอด เขายังเข้าไปมีส่วนร่วมกับปัญหายุ่งยากในวิทยาลัยผู้บำเพ็ญเพราะมีคนให้ร้ายหลี่ว์ซู่อีกต่างหาก
หลี่ว์ซู่บอกว่าภูเขาคุนหลุนอันตราย แต่เขาก็ตัดสินไปอยู่ดี ทุกๆ คนตามเขาไปโดยไม่ห่วงอะไรทั้งนั้น ตอนนั้นเฉิงชิวเฉี่ยวเคยถามหลี่ว์ซู่ว่าเขาสมัครสาขาอะไรไป และหลี่ว์ซู่ก็ตอบว่าสาขาการวิจัยสายพันธุ์ เฉิงชิวเฉี่ยวก็ตามเขามาด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนักเรียนหัวกะทิที่มีศักยภาพการฝึกฝนระดับ A ก็ตาม
หลี่ว์ซู่เป็นคนขี้เหนียว แต่เขาใจกว้างกับหลี่ว์เสี่ยวอวี๋มาก เมื่อเฉิงชิวเฉี่ยวและเฉินจู่อานมาเล่นเกมกันที่บ้านเขา เขาก็รู้สึกว่าคนพวกนี้นับเป็นเพื่อนได้ หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าโลกนี้เย็นชามาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวนี่นา
เพราะฉะนั้นหลี่ว์ซู่ก็เลยคิดแล้วคิดอีกเรื่องการแลกผลปะทุพลังเพื่อแต้มอารมณ์ และมันก็ดูไม่มากเกินไป ในแง่หนึ่งเขาสามารถหาแต้มอารมณ์ได้ และอีกแง่หนึ่งเขาก็สามารถให้ผลพวกนี้ไปฟรีๆ ได้เหมือนกัน
แต่ติดที่ว่ารายชื่อทำเนียบหนุ่มหล่อมันไร้ประโยชน์น่ะสิ!
เฉิงชิวเฉี่ยวเดินหนีไปและรู้สึกว่าตัวเองโดนปฏิเสธ หลี่ว์ซู่เลยหยุดเขา “ทำรายชื่อดีๆ มา แล้วเอาชื่อเฉินจู่อานออกไปด้วย”
เฉิงชิวเฉี่ยวหันมามองเขาด้วยความตกใจ อยู่ๆ ก็มีผลสีขาวลอยมาข้างหน้าเขา และเขาก็รับมันไว้ เขาดีใจมาก ในขณะนั้นหลี่ว์ซู่ก็เดินกลับไปในห้องของเขา
ตอนที่พวกเขาเข้าไปในโบราณสถานลบนัวร์ หลี่ว์ซู่และเฉินจู่อานไปเจอต้นไม้สีเงินเข้า หลี่ว์ซู่เก็บทั้งต้นนั้นเอาไว้ในตราแผ่นดิน เขาเจอผลไม้สี่ผลอยู่บนต้นเหมือนกัน เขาไปยืนยันกับเสี่ยวซยงสวี่แล้วว่ามันเป็นผลปะทุพลัง ไม่ใช่ผลไม้มีพิษ
เสี่ยวซยงสวี่เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการประเมินค่า มันบอกได้ทั้งของสิ่งนั้นเป็นของมีพิษหรือไม่ และบอกได้อีกว่าเมื่อปะทุพลังแล้วจะได้เป็นพลังแบบไหน
หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าเขาควรเอาผลปะทุพลังให้เฉิงชิวเฉี่ยวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และไม่ใช่ให้ตอนที่เขาเป็นระดับ B เพราะมันจะเกิดความเสี่ยงในการทำให้องค์ประกอบปนเปกันไปหมด
หลี่ว์ซู่เดินกลับมาที่ห้องของตัวเองและอ่านบางอย่างในกระทู้มูลนิธิ ทันใดนั้นก็มีเรื่องหนึ่งติดเทรนด์ขึ้นมา [มีสมบัติของเผ่าโบราณอี๋ในภูเขาจั่งไป๋!]
หลี่ว์ซู่งงมาก ใครเป็นคนปล่อยเรื่องนี้เนี่ย
ตอนแรกเขาก็อยากจะตอบข้อความนั้นกลับเพื่อใช้แต้มอารมณ์เป็นตัวบอกชื่อจริงของคนโพสต์ แต่ข้อความนั้นค่อนข้างดูลึกลับ และไม่มีทางที่จะตอบกลับไปได้ เขาไม่สามารถโทรหาว่าคนโพสต์เป็นใครด้วย เหมือนกับว่าคนคนนั้นไม่อยากจะติดต่อกับเขา
แต่ข้อมูลที่เขาได้รับก็เป็นความลับของเผ่าโบราณอี๋ในภูเขาจั่งไป๋ ทำไมตอนนี้กลับกลายเป็นสมบัติเสียได้ล่ะ
นี่อย่างกับเป็นเรื่องละครกำลังภายในที่หลี่ว์ซู่เคยดูเลย มีคัมภีร์ลับในตำนานโผล่ขึ้นมา และผู้คนก็เริ่มเข่นฆ่าแย่งชิงกัน
หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าเรื่องนี้จะไมได้ง่ายอย่างที่คิดแล้ว พวกเขาเป็นผู้ใหญ่กันหมด คงจะยากที่จะหลอกพวกเขา พวกเขาก็คงจะทำตามที่หลี่ว์ซู่ทำนี่แหละ ก็คือจะไม่ไปตามข้อมูลนี้…
แต่เมื่อเขาเห็นเสียงตอบรับในกระทู้มูลนิธิแล้วเขาก็ตกใจ เพราะมีแต่คนพูดคุยถึงเรื่องการไปภูเขาจั่งไป๋ด้วยกัน!
“ไม่กลัวตายกันหรือไงเนี่ย” หลี่ว์ซู่อึ้ง “เนี่ยถิงก็ไปที่นั่นด้วย สงสัยจะไม่กลัวตายกันจริงๆ”
แต่เขารู้ว่าพวกเขาแค่พูดคุยกันเฉยๆ ไม่มีใครจะมุ่งไปที่นั่นเพราะเห็นข้อมูลนี้อย่างเดียวหรอก แต่หลี่ว์ซู่กลับรู้สึกว่ามันจะไม่ง่ายอย่างนั้น เขาเคยเจอเรื่องแบบนี้มากับตัวแล้ว และข้อความนี้ก็ดูลึกลับแปลกๆ
หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าความปั่นป่วนนี้จะทวีขึ้นเรื่อยๆ และคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็จะถูกเปิดเผยตัวอย่างช้าๆ