ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 687 สายเลือดบริสุทธิ์

การต่อสู้นี้มีความแตกต่างด้านจำนวนมาก กลุ่มคาร์เทลกว่าห้าสิบคนล้อมกลุ่มแก่นความเชื่อและกลุ่มหัตถ์ดำแค่หกคน พวกหกคนนี้ไม่สามารถจะเปิดการต่อสู้กลับก่อนโดนอัดเสียด้วยซ้ำ

 

 

แต่พวกเขาไม่ต้องกังวลว่าจะโดนฆ่าหรอก พวกชาวบ้านที่มามุงดูก็รู้ด้วยว่าคาร์เทลจะไม่ฆ่าคนที่นี่ อย่างมากก็แค่ลูกอัณฑะแตกเท่านั้นแหละ

 

 

หลี่ว์ซู่และคอรัลยืนประจันหน้ากันอยู่ข้างๆ การต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นนั้น คอรัลสวมกระโปรงสีเขียวอ่อนที่สะบัดพลิ้วเหมือนสายลมในตอนกลางคืน

 

 

เธอไม่อยากจะฟังคำแนะนำของหลี่ว์ซู่ว่าให้กินผลไม้เข้าไป แต่เธอก็เอามันเข้าปากไปบางส่วนจากนั้นก็ร้องไห้ออกมา เราทำอะไรกันอยู่นะ แล้วเราจะคุยกันอยู่ใช่ไหม

 

 

พอเป็นแบบนี้เธอจึงรู้สึกโมโหขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ปาดน้ำตาออกไป “ถ้าจะไม่ตอบก็ไม่ต้องตอบ ถึงนายไม่สนใจแต่ฉันก็จะพูดมันออกไปอยู่ดี แล้วถ้าฉันไม่เคยมีตัวตนในโลกของนายเลยฉันก็คงโทษอะไรไม่ได้”

 

 

พอเธอพูดจบก็เดินออกไปทันที แต่หลี่ว์ซู่ก็พูดขึ้นมาก่อนเธอเดินออกไป “พวกแก่นความเชื่อกำลังจับตาดูเธออยู่ พวกมันต้องมีอะไรปิดบังแน่ๆ คนหกคนที่โดนอัดอยู่ตรงนั้นน่ะ สามคนมากจากแก่นความเชื่อ พวกมันนอนโรงแรมเดียวกับฉัน จากแถวๆ ห้องฉันน่ะเห็นโรงแรมเธอได้ชัดเชียว เพราะฉะนั้นระวังตัวไว้ด้วยล่ะ”

 

 

คอรัลหยุดเดิน แต่เธอก็ไม่ได้หันหลังกลับ แล้วความเศร้าเมื่อกี้ก็จางลงไปเล็กน้อย คงเป็นเพราะหลี่ว์ซู่พูดอะไรที่ทำให้เธอคิดได้

 

 

คอรัลไม่ได้มาที่นี่เพราะหลี่ว์ซู่ แต่เธอแค่ออกมาเดินเล่น หลี่ว์ซู่เองก็ไม่ได้ปลอมตัวเป็นหลี่เถิงด้วย เขามาด้วยหน้าจริงเลย

 

 

เพราะรูปร่างหน้าตาของหลี่เถิงถูกจับได้ไปตั้งแต่คราว EO แล้ว

 

 

ที่คอรัลจำเขาได้ไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตา แต่แผ่นหลังของเขาดูคุ้นๆ เธอถึงขนาดกับจำหลังของหลี่ว์ซู่ได้ เหมือนกับว่าถ้าเขาปะปนอยู่ในผู้คนจำนวนมาก เธอก็ยังจะหาเขาเจอได้ในทันทีอยู่ดี เพราะเธอลืมคนคนนั้นไม่ได้น่ะสิ

 

 

คอรัลเดินกลับไปที่โรงแรม และพวกเทวากำลังจะลุกเป็นไฟอยู่แล้ว หัวหน้าของเหล่าเทพหายตัวแบบนี้ได้อย่างไร แต่พอทุกคนเห็นว่าคอรัลเดินกลับมาตาแดงๆ ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำ

 

 

พวกเขารู้ดีว่าทำไมคอรัลถึงเป็นแบบนี้ แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง พวกเขาจะไปที่เครือข่ายฟ้าดินแล้วไปอัดเจ้าหมอนั่นก็ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะกลัวเนี่ยถิงห้ามหรอก แต่คอรัลเองก็คงไม่อยากเห็นฉากอะไรแบบนั้นต่างหาก

 

 

คอรัลเข้ามานั่งในห้องของตัวเอง เธอเปิดมือออกมาแล้วจ้องผลล้างไขกระดูกที่ส่องประกายเหมือนคริสตัลอย่างเลื่อนลอย

 

 

ไม่ว่าผลไม้พวกนี้จะเป็นผลล้างไขกระดูก ผลดวงดาว หรือว่าผลชี่ไห่ มันก็มีความแตกต่างจากผลไม้ทั่วไปทั้งนั้น และของพวกนี้เป็นของหายาก ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้ดูให้ดีๆ เพราะมันมืดเกินไป แต่พอเห็นถนัดตาแบบนี้แล้วเธอก็อยากกินผลไม้นี้เข้าไปมากๆ เพียงแค่มองมันไปเล็กน้อยเท่านั้น

 

 

เมื่อก่อนตอนที่หลี่ว์ซู่ หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ และเสี่ยวซยงสวี่เห็นผลล้างไขกระดูกแล้วพวกเขาก็มีอาการเดียวกัน ความดึงดูดของผลล้างไขกระดูกนี้ทำให้เฉินไป่หลี่ปฏิเสธผลไม้ไปเมื่อครั้งก่อน

 

 

คอรัลกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลี่ว์ซู่บอกว่ากลุ่มแก่นความเชื่อและกลุ่มหัตถ์ดำก็ต่างมาอยู่ในโรงแรมเดียวกันเพื่อสอดส่องเธอ เธอไม่สนใจพวกกลุ่มพวกนั้นด้วยซ้ำ แต่หลี่ว์ซู่ล่ะ ทำไมหลี่ว์ซู่ถึงมาอยู่ในซาร์ดิเนียได้

 

 

แล้วหลี่ว์ซู่ไปอยู่ที่โรงแรมนั้นทำไม คำตอบที่เธอคิดได้ก็ทำให้เธอมีความสุขขึ้นมา หลี่ว์ซู่มาปกป้องเธออย่างไรล่ะ!

 

 

ไม่ว่าคนอื่นๆ จะพูดถึงหลี่ว์ซู่อย่างไรแต่คอรัลก็เชื่อในการตัดสินใจของตัวเองเพราะว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอเอง

 

 

คอรัลหยิบผลล้างไขกระดูกเข้าปาก แล้วผลไม้นั่นก็ละลายเป็นของเหลวแล้วไหลลงไปที่แขนขาและกระดูกของเธอ เธอไม่เคยรู้สึกถึงความอุ่นแบบนี้มาก่อนเลย

 

 

คอรัลมีศักยภาพสูง และกลุ่มเทวาก็จับตามองดูเธออย่างใกล้ชิดตั้งแต่ตอนแธอเป็นระดับ D แล้ว

 

 

หลี่ว์ซู่เองก็เพิ่งคิดออกไม่นานก่อนหน้านี้ว่าคนธรรมดาจะฝืนพลังศักยภาพของตัวเองยากมากๆ ยกเว้นว่าคนคนนั้นจะเป็นหัวกะทิ เพราะฉะนั้นก็จะไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับตัวทดสอบเลือดเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเกินศักยภาพของคนระดับ A ไปหรอก

 

 

คอรัลเป็นคนที่มีศักยภาพของระดับ A อย่างธรรมชาติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อเลือดของเธอสัมผัสกับโลหะผสมโซเดียม-โพแทสเซียมแล้ว โลหะสีเงินนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นสีดำทันที

 

 

คอรัลอาจจะไม่รู้ว่าหลี่ว์ซู่ใจกว้างกับเธอแบบสุดๆ เลย

 

 

หลี่ว์ซู่กินผลนั้นเข้าไปแปดผล และเอาให้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋อีกแปดผล เขาให้หลี่เสียนอีและเฉินไป่หลี่ไปคนละผล

 

 

ทั้งให้หลี่เสียนอีและเฉินไป่หลี่ก็เลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็วเพราะพวกเขาใกล้จะเลื่อนเป็นระดับ A ได้เต็มทีแล้ว แต่ฐานพลังจิตวิญญาณที่ถูกทำลายไปทำให้พวกเขาไม่สามารถเลื่อนระดับได้ก่อนหน้านี้

 

 

เมื่อฐานพลังจิตวิญญาณถูกซ่อมแซมแล้ว พลังที่พวกเขาสะสมมานานกว่าสิบปีก็พรั่งพรูออกมา นั่นก็คงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงเลื่อนขั้นได้ ไม่ใช่เป็นเพราะผลล้างไขกระดูกโดยตรงหรอก

 

 

แต่พวกเทวาน่ะต่างออกไป

 

 

คอรัลรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของตัวเองขึ้นมาทันที เหมือนกับว่าแม่น้ำสามารถไหลผ่านได้อย่างสะดวกโดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น สิ่งสกปรกต่างๆ ภายในร่างกายของเธอก็ได้ถูกกำจัดออกไปสิ้น

 

 

แล้วเธอก็รู้สึกว่าขีดจำกัดที่ตัวเองมีได้ถูกทำลายไป สายเลือดของเธอถูกปลุกขึ้นและขยายออก มันเริ่มจะดูดซับคลื่นพลังจิตวิญญาณจากรอบตัวเพื่อมาหล่อเลี้ยงสายเลือดอันแข็งแกร่งของโอดินที่อยู่ในร่างของคอรัล

 

 

พวกเทวาแตกต่างไปจากคนอื่นๆ เพราะพลังสายเลือดที่ตื่นขึ้นมานี่แหละ สิ่งสกปรกต่างๆ ในสายเลือดของพวกเขาไปหยุดยั้งศักยภาพและความสามารของพวกเขาเอาไว้ แต่เมื่อคอรัลที่มีศักยภาพของระดับ A อยู่แล้ว เธอก็ยิ่งได้รับสายเลือดของโอดินที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่า

 

 

เธอรู้แล้วว่าผลที่หลี่ว์ซู่ให้มานั้นมอบสิ่งที่มีค่ากว่าที่เธอคิดไว้ เธอไม่อยากจะกินผลไม้นี้ให้หมดไปเลย เพราะหลี่ว์ซู่อาจจะให้ผลไม้ทั้งหมดที่เขามีมาก็ได้

 

 

เมื่อความบิรสุทธิ์ในสายเลือดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สายเลือดนั้นก็จะมีอิทธิพลต่อโลกภายนอกด้วย กลุ่มคนพวกนี้เป็นกลุ่มพิเศษ เพราะเลือดของเทพไหลเวียนอยู่ในเลือดของพวกเขา ความสามารถของคอรัลเพิ่มขึ้นจากระดับ B ขั้นกลางเป็นระดับ B ขั้นสูงแล้ว ทันใดนั้นมันก็หยุดลงอย่างช้าๆ!

 

 

หลังจากที่หอกกุงเนียร์มีรอยแตก มันก็ดูดซับพลังของคอรัลเพื่อรักษาสมดุลของตัวเองไว้จากความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังจากคอรัลมีพลังเพิ่มขึ้นมาแล้ว เธอก็ดูดซับพลังมามากเสียจนเธอบรรเทาความกดดันบางอย่างไปได้

 

 

ถึงนี่จะเป็นวิธีที่ใช้แบบชั่วคราวแต่ก็ดีพอแล้วล่ะนะ

 

 

แล้วคอรัลก็คิดอะไรออกขึ้นมา หรือที่หลี่ว์ซู่ไม่ติดต่อกลับมาเป็นเพราะเขาออกมาเสาะหาผลไม้พวกนี้มากันนะ

 

 

เขาเอาของมีค่าพวกนี้ให้เธอแบบไม่คิดมากเลย คอรัลรู้สึกซึ้งที่หลี่ว์ซู่เป็นคนละเอียดอ่อนอย่างนี้ และเธอก็จะเก็บผลไม้ที่เหลือเอาไว้ให้หลี่ว์ซู่

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset