ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 656 หลี่ว์ซู่จะกระโดดลงทะเลแล้วนะ

ตอนที่ 656 หลี่ว์ซู่จะกระโดดลงทะเลแล้วนะ  

 

 

หลี่ว์ซู่เดาว่านักบุญนั้นมาเพื่อต่อสู้กับหัวหน้าบาทหลวงของฝ่ายศรัทธาโดยเฉพาะ และยอดฝีมือระดับ A คนนี้ก็แข็งแกร่งสมกับเป็นตำนานจริงๆ แต่ทั้งหมดนี่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับหลี่ว์ซู่ สิ่งที่สำคัญคือนักบุญได้ช่วยชีวิตเขาไว้!  

 

 

เขาขอฉวยโอกาสนี้ตอนที่ฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ กลัวว่านักบุญจะเข้ามาขัดขวางการต่อสู้นี่แหละ พลังดวงดาวของเขาช่วยปลดแสงสว่างที่รัดรอบตัวเขาให้หายไป  

 

 

ฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ กลัวว่านักบุญนั้นจะเล็งเป้าหมายมาที่พวกเขา และพวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากมองดูหลี่ว์ซู่หนีไปอย่างช่วยไม่ได้  

 

 

หลี่ว์ซู่รู้สึกขอบคุณนักบุญเป็นอย่างมาก เขารู้สึกว่านักบุญนั้นเป็นคนจิตใจดีและชอบช่วยเหลือ ถ้าพวกเขาอยากจะสู้กันก็ปล่อยให้เป็นไปตามนั้นเถอะ อย่าเอาหลี่ว์ซู่เขาไปเกี่ยวด้วยเลย ถึงแม้ว่าเขาจะฆ่าฮาเวิร์ดไป แต่นักบุญก็ยังช่วยชีวิตเขาไว้อยู่ดี นักบุญน่ะใจดีที่สุดในโลกแล้ว  

 

 

แต่เดี๋ยวก่อนนะ…  

 

 

ขณะที่หลี่ว์ซู่วิ่งหนีไปในป่าอยู่นั่นเอง เขาก็เพิ่งนึกออกว่าเขายังเป็นฮาเวิร์ดอยู่นี่นา นักบุญช่วยชีวิตฮาเวิร์ดนี่…  

 

 

อะแฮ่ม เขาไม่สนใจอะไรขนาดนั้นหรอก แต่เขาก็ยังรู้สึกขอบคุณอยู่ดี เพราะถ้าไม่ได้นักบุญ เขาก็คงตายแน่ๆ  

 

 

แต่ถ้าเป็นแบบนี้หลี่ว์ซู่ก็ยืนยันได้เลยว่านักบุญใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงในการมาที่นี่แน่ๆ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงเห็นฮาเวิร์ดฆ่าฮาเวิร์ดแล้วล่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นหลี่ว์ซู่ได้ตายของจริงแน่  

 

 

แล้วนักบุญก็พูดขึ้นมาจากบนฟ้า “ไอ้ขี้ขลาด ในที่สุดวันนี้ฉันก็จับแกได้เสียที”  

 

 

เสียงนั้นราบเรียบมาก แต่ก็แฝงความมั่นใจที่ไม่ธรรมดาอยู่ในนั้นด้วย!  

 

 

หัวหน้าบาทหลวงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแหลมสูงแบบคนแก่ “พวกมั่นใจเกินเหตุมักจะถูกขยี้ในภายหลังเสมอแหละ”  

 

 

นักบุญได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “เกรงว่าคนที่จะขยี้ฉันได้ยังไม่เกิดเลยน่ะสิ”  

 

 

หัวหน้าบาทหลวงพูดอย่างเย็นชา “ฟรานเชสโก้ แกทำอะไรอยู่น่ะ รีบเข้าไปฆ่าฮาเวิร์ดเสียสิ!”  

 

 

ฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ เร่งตามหลี่ว์ซู่ไป จากนั้นนักบุญก็บินโฉบลงมา ทำให้กิ่งไม้ที่อยู่ข้างล่างแตกหักไปด้วยแรงมหาศาลจากตัวเขา  

 

 

หัวหน้าบาทหลวงพยายามจะขัดขวางไว้ แต่เขาไม่คิดว่าจู่ๆ นักบุญจะหยุดช่วยฮาเวิร์ดหลบหนี ที่เขาทำไปนั้นเป็นแค่การหลอกล่อความสนใจของหัวหน้าบาทหลวงเท่านั้นเอง  

 

 

นักบุญหันหลังกลับมาแล้วปล่อยหมัดออกไป หัวหน้าบาทหลวงรีบสร้างเกราะสีเงินมาป้องกันหมัดนั้นได้ แต่เขาก็บาดเจ็บเล็กน้อยอยู่ดี  

 

 

ทั้งสองคนบินขึ้นฟ้าไปอีกรอบ พวกเขาไม่สนใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นบนพื้นโลกอีกต่อไป  

 

 

หลี่ว์ซู่นั้นผิดหวังเล็กน้อย ถ้านักบุญปกป้องเขาต่ออีกหน่อย ตัวเขาในแอฟริกาก็คงปลอดภัยแล้ว!  

 

 

แต่เขาก็เข้าใจสถานการณ์แหละ นักบุญเข้ามาช่วยฮาเวิร์ดเพราะเผอิญว่าเขาอยู่ที่นี่พอดี แต่นักบุญมาที่นี่ก็เพื่อต่อสู้ไม่ได้จะมาช่วยเหลือใคร  

 

 

อันกั๋วนั้นเป็นส่วนสำคัญของแอฟริกา ในตอนนั้น EO เลือกตั้งสำนักงานใหญ่ที่นี่ไม่ใช่แค่เพราะมันเป็นแหล่งเหมืองแร่ แต่เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมการหมุนเวียนขนส่งสินค้าจากทะเลอีกด้วย หลี่ว์ซู่นั้นวิ่งอย่างบ้าคลั่งและคิดอย่างรอบคอบขณะเตรียมเปลี่ยนเส้นทางหนี  

 

 

เขาเจอทางหนีแล้ว ที่ที่เหมาะที่สุดก็คือสิ่งที่เขาคุ้นเคยดี นั่นก็คือในน้ำนั่นเอง! ไม่อย่างนั้นเขาก็คงถูกจับได้แน่ๆ คิดได้อย่างนี้ก็ไม่สวยเสียแล้ว เจ้าพวกนี้อยากจะซัดกับเขาจนเฮือกสุดท้ายจริงๆ!  

 

 

แต่หลี่ว์ซู่ก็เพิ่งสังเกตว่า ทิศที่เขาวิ่งออกไปนั้นเป็นทิศที่มุ่งออกจากทะเล เขากำลังวิ่งเข้าหาพื้นดิน…  

 

 

ไม่นะ! เขาต้องรีบเปลี่ยนเส้นทางเดี๋ยวนี้เลย!  

 

 

แต่สิบนาทีผ่านไปก็แล้ว ยี่สิบนาทีก็แล้ว สามสิบนาทีก็แล้ว…  

 

 

หลี่ว์ซู่มองไปข้างหลังแล้วก็เห็นว่าฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ ยังคงไล่ตามเขามาอยู่เลย ถึงแม้เขาจะมีพลังโจมตีที่เพียงพอกับการปะทะกับผู้มีพลังระดับ B ก็ตาม แต่ความแข็งแกร่งของร่างกายเขานั้นก็สู้ระดับ B ของจริงไม่ได้แน่ๆ โดยเฉพาะระดับ B ขั้นสูงแบบฟรานเชสโก้ด้วย  

 

 

ระยะห่างระหว่างทั้งสองกลุ่มนั้นเข้าใกล้มาเรื่อยๆ หลี่ว์ซู่เริ่มได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ มา หัวใจเขาเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง  

 

 

เขาไม่รู้ว่าทำไมเสียงฝีเท่านั้นถึงฟังดูแปลกๆ คล้ายกับม้าเหล็กโบราณผสานเสียงรัวกลองรบ พวกเขาอยากเข่นฆ่าเขากันแบบสุดๆ เลยสินะ  

 

 

ในขณะที่หลี่ว์ซู่วิ่งอยู่นั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงผู้มีพลังสายธาตุโลหะสองคนสู้กันอยู่เป็นระยะๆ จากนั้นก็มีเหล็กแหลมพุ่งผ่านลงมาใกล้ตำแหน่งเขาราวกับฝนดาวตก ถ้าไม่ระวังให้ดี มีหวังเขาได้บาดเจ็บหนักแน่ๆ  

 

 

ถึงแม้ว่าจะมีต้นไม้มากมายอยู่ในป่านี้ก็จริง แต่พื้นนั้นกลับแห้งผาก ดินทรายหนามาก หลี่ว์ซู่วิ่งอยู่ในผืนดินทรายนี้เหมือนกับวิ่งอยู่ในพายุทะเลทราย และยิ่งเขาวิ่งเร็วขนาดนี้ ก็ยิ่งทำให้เขาเตะดินฟุ้งเป็นฝุ่นควันอย่างไม่ตั้งใจ  

 

 

หลังจากนั้นไม่นานพวกลุ่มที่ตามหลังหลี่ว์ซู่มาก็เล็กลงเรื่อยๆ …  

 

 

ฟรานเชสโก้หงุดหงิดมาก ใครที่วิ่งนำหน้าอยู่ในสถานการณ์นี้ก็เสียเปรียบทั้งนั้นแหละ คนตามก็ตามฝุ่นตลบกบปากไปหมด เพราะอย่างนี้พวกเขาเลยตามหลี่ว์ซู่ไม่ทันไปพักหนึ่ง  

 

 

ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขายังรู้สึกอีกว่าหลี่ว์ซู่กำลังเล่นสนุกอยู่ ขณะที่วิ่งอยู่ หลี่ว์ซู่ก็เก็บกิ่งไม้ยาวจากไหนไม่รู้ขึ้นมาได้และถือมันลากไปกับพื้นในขณะที่ก้าววิ่ง กิ่งไม้นั้นไม่ได้หนักมากแต่ก็ทำให้ฝุ่นตลบไปทั่วพอควร ฟรานเชสโก้แทบไม่เห็นว่าหลี่ว์ซู่วิ่งหายไปไหน  

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากฟรานเชสโก้ รุสโซ่ +666!]  

 

 

หลี่ว์ซู่ใช้ทางอ้อมไกลมาก ตอนแรกฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ ก็ไม่ทันได้สังเกต แต่ทุกคนก็ค่อยๆ เห็นว่าที่จริงแล้วหลี่ว์ซู่กำลังวิ่งกลับไปอยู่ต่างหาก…  

 

 

ในถิ่นทุรกันดารแบบนี้ไม่มีตรงไหนที่จะเอาเป็นจุดสังเกตได้ อีกอย่างพวกเขาก็มองผ่านฝุ่นควันนี้ไม่เห็นด้วย ฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ ไม่ได้ดูทางเลยว่ากำลังวิ่งไปทางไหน แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนแรกนักบุญและหัวหน้าบาทหลวงกำลังสู้อยู่บนหัวพวกเขา ในตอนนี้พอมองขึ้นไปก็ยังเห็นทั้งสองสู้กันอยู่บนฟ้าเหมือนเดิม  

 

 

หลี่ว์ซู่ตะโกน “ช่วยด้วย!”  

 

 

ฟรานเชสโก้และคนอื่นได้ยินอย่างนั้นก็พูดไม่ออก หรือว่าเขาจะคิดว่าในเมื่อหนีไปไหนไม่ได้เลยร้องหาความช่วยเหลือกันเนี่ย!  

 

 

จากนั้นทุกคนก็ระวังกันมากขึ้น ไม่มีใครรู้ว่านักบุญจะเข้าไปช่วยฮาเวิร์ดอีกเมื่อไหร่ ยิ่งไปกว่านั้นหลี่ว์ซู่ก็ไม่ได้พูดประโยคยาวๆ ด้วย ครั้งนี้มันแตกต่างไปจริงๆ เพราะเมื่อก่อนนั้นเมื่อเขาโดนใครจับได้ว่าปลอมตัวเขาก็ฆ่าคนนั้นทิ้งเสีย  

 

 

แต่ถ้าเขาโดนจับได้ในครั้งนี้นักบุญคงจะฆ่าเขาภายในไม่กี่นาทีแน่ๆ เขาไม่รู้ว่าปกติแล้วฮาเวิร์ดคุยกับนักบุญอย่างไร เพราะอย่างนั้นพูดสั้นๆ ไว้จะดีกว่า  

 

 

แต่หลี่ว์ซู่สังเกตเห็นว่านักบุญกับหัวหน้าบาทหลวงนั้นกลับห่างไกลไปเรื่อยๆ …  

 

 

“อย่าไปนะ!” หลี่ว์ซู่ตะโกนอีก  

 

 

แล้วหลี่ว์ซู่ก็เห็นว่านักบุญนั้นไม่ได้สนใจจะมาช่วยเขาเลย!  

 

 

กลุ่มฟีนิกซ์นี่ไม่ได้สามัคคีกันเหมือนที่เขาคิดไว้ เขาอุตส่าห์ชมนักบุญไปด้วยใจจริงเลยนะ หลี่ว์ซู่คนนี้คิดผิดไปเสียแล้ว!  

 

 

ว่าแต่ทะเลอยู่ทิศไหนล่ะเนี่ย ในขณะที่วิ่งอยู่นั้นเขาก็รู้แล้วว่าทะเลอยู่ทางไหน หลี่ว์ซู่จะกระโดดลงทะเลแล้วนะ!  

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset