ตอนที่ 614 เกราะทองแดง
“หลี่ว์ซู่ หายไปไหนมาเนี่ย ทำไมฉันถึงเสกร่างปลอมของเธอในโบราณสถานไม่ได้” หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ถามขณะเคี้ยวขนมตุ้ยๆ
“หา” หลี่ว์ซู่ประหลาดใจ “ฉันไม่เห็นจะได้สัญญาณอะไรเลยตอนเธอเสกร่างปลอม หรือว่าข้างในโบราณสถานนี้กับข้างนอกมันเป็นคนละโลกกัน”
หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ครุ่นคิด “ช่างเถอะ”
เธออยากจะโทษหลี่ว์ซู่ในเรื่องนั้น แต่ก็คิดได้ทีหลังว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของกฎในโบราณสถาน ไม่ใช่ความผิดของหลี่ว์ซู่
พวกเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ถอนใจออกมาด้วยความเขินอายเมื่อมองหลี่ว์ซู่ก็หลี่ว์เสี่ยวอวี๋อยู่ด้วยกัน “น่ารักจัง เด็กผู้หญิงก็ต้องแบบนี้ละนะ”
“ถึงว่าแหละ เธอถึงพูดถึงแต่หลี่ว์ซู่ทั้งวัน”
“จริงๆ แล้วหลี่ว์ซู่ก็น่ารักนะ พวกเธอไม่คิดบ้างเหรอ” มีใครบางคนถามขึ้นมาอย่างขวยเขิน
“น่ารักเหรอ ก็ธรรมดาๆ แหละ แต่ฉันว่าเขาเก่งมากเลย ดูจากที่เขาฆ่าทหารทะเลไปตั้งสามคนเมื่อกี้ ไม่ต้องพยายามอะไรเลยนี่! เจ๋งชะมัด! พวกเธอว่าใครเก่งกว่ากันระหว่างเขากับพวกหัวกะทิระดับ A”
“ฉันว่าเขาเก่งกว่านะ ตอนที่เฉิงชิวเฉี่ยวพูดอะไรกับหลี่ว์เสี่ยวอวี๋เป็นครั้งแรกน่ะ เขาถามว่าเธอเคยเห็น ‘พี่หลี่ว์ซู่’ หรือเปล่า ดูสิว่าชิงเฉียวเคารพเขามากแค่ไหน” การวิเคราะห์นี้ดูฟังเข้าท่า
“ก็จริงนะ งั้นฉันขอยกให้หลี่ว์ซู่เป็นไอดอลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!”
และในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนดุดันดังมาจากกลุ่มที่เฝ้ายามอยู่ตามแนวป้องกัน “ศัตรูบุก!”
ทว่าทะเลตรงหน้าหลี่ว์ซู่และหลี่ว์เสี่ยวอวี๋นั้นกลับนิ่งสงบเป็นปกติ…
หลี่ว์ซู่พุ่งตัวขึ้นไปประมาณสิบเมตรบนฟ้าเพื่อมองเกาะที่ปลอดภัยจากข้างบน เขาเห็นว่ามีการโจมตีไปทั่วทั้งเกาะยกเว้นบริเวณที่หลี่ว์ซู่และหลี่ว์เสี่ยวอวี๋อยู่
เขาร่อนลงมาบนพื้นและพูดว่า “เสี่ยวอวี๋ เฝ้าที่นี่ไว้กับพวกเขานะ ฉันต้องกลับไปกองพัน 42 ก่อน”
หลี่ว์เสี่ยวอวี๋เองก็ไม่ได้จะบังคับให้หลี่ว์ซู่อยู่ต่อ “ได้ เจอกันหลังสู้เสร็จนะ”
…
ในขณะนั้น มั่วเฉิงคงและทีมก็ถอยกลับเข้ามา เขาพยายามมองหาหลี่ว์ซู่ “ยอดฝีมือคนเก่งของเราสัญญาว่าเขาจะกลับมานี่ ทำไมเขาถึงทิ้งเราไว้แบบนี้”
“มั่นใจในตัวเขาเถอะน่า” เฉินจู่อานต่อสู้อย่างดุเดือดด้วยหอกสามง่ามในมือ “เขากลับมาแน่ถ้าเขาสัญญาอย่างนั้นแล้ว ก่อนที่เขาจะมา พวกนายมาหลบอยู่หลังฉันแล้วต่อสู้กับพวกศัตรูไปด้วยกัน!”
ทันใดนั้นหอกสามง่ามก็พุ่งเข้ามาจากด้านหลังพวกเขาราวกับสายฟ้าฟาด และลอยข้ามกองพัน 42 ไปปักอยู่ที่ร่างของทหารทะเลอย่างจัง ร่างนั้นปลิวไปด้านหลังด้วยแรงมหาศาลนั้น พาให้ทหารแถวๆ นั้นล้มตามลงไปด้วย ขบวนรบของพวกศัตรูแตกออกทันที!
มั่วเฉิงคงร้องตะโกนอย่างดีใจ “ยอดฝีมือคนเก่งของเรากลับมาแล้ว!”
หลี่ว์ซู่หยิบเอาหอกสามง่ามสองเล่มออกมาจากตราแผ่นดินในเวลาไม่กี่วินาทีแล้วกระโจนขึ้นจากพื้นจนทำให้พื้นและรองเท้าของเขาระเบิดออกด้วยแรงอันทรงพลังนั้น เขาร่อนลงตรงกลางโดยมีศัตรูล้อมรอบ!
ในขณะที่พวกเขากำลังรอให้หลี่ว์ซู่ฆ่าพวกศัตรูอย่างบ้าคลั่งอยู่นั้น อยู่ๆ เขาก็ตะโกนขึ้นมา “อย่าฆ่ามันตรงๆ ฉันจะซัดมันให้อ่อนแรงก่อนแล้วพวกนายก็ถอดเกราะมันออกมา จากนั้นค่อยฆ่าทิ้ง! อย่าลืมเก็บเกราะไว้นะ!”
มั่วเฉิงคงไม่เข้าใจ
เฉินจู่อานเองก็พูดไม่ออก
ว่าไงนะ!
แต่พวกเขาก็ทำตามที่บอก หลี่ว์ซู่ปัดป่ายหอกสามง่ามในอากาศ ในขณะที่คนอื่นๆ นั้นลากพวกทหารจากทะเลเข้ามาในฝูงชนและทุบตีเพื่อถอดเอาเกราะพวกมันออกมาก่อน
และแล้วเด็กนักเรียนห้องเต้าหยวนผู้เชื่อฟังก็กลายเป็นคนทะลึ่งผีทะเลกันหมด…
พวกเขาเพิ่งตระหนักได้ว่าพอถอดเกราะออกและปลิดชีพพวกมันแล้ว มันจะยังคงเหลือซากเอาไว้อยู่!
“ใช้ได้ซะงั้น!” มั่วเฉิงคงประหลาดใจ
“เออแฮะ ใช้ได้จริงๆ ด้วย” เฉินจู่อานร้องอุทาน “พี่ซู่นี่เก่งเรื่องขโมยของจริงๆ ผมล่ะอายแทน”
แต่นั่นก็ทำให้ทุกคนฮึกเหิมขึ้นมา
หลี่ว์ซู่ตะโกนออกไป “ถอดเกราะออกมาแล้วสู้ต่อไป!”
ไว้พวกเขาค่อยไปคุยกันทีหลังว่าจะเอายังไงกับเกราะทองแดงพวกนี้ดี ตอนนี้ต้องใช้ประโยชน์จากมันให้ได้มากที่สุด จะได้บาดเจ็บกันน้อยลง
กระนั้นเกราะที่ถอดออกมาก็ไม่ได้ติดกันเป็นชุดเดียว เพราะฉะนั้นจึงมีทั้งคนที่ใส่เฉพาะปลอกแขน หมวกนิรภัย ที่รัดคาง และเกราะขา แม้ว่าการสวมเกราะจะไม่ได้ทำพวกเขาเคลื่อนไหวลำบากอะไร แต่พอใส่แล้วก็ดูแปลกๆ เหมือนกัน!
สีหน้าหลี่ว์ซู่มืดคล้ำเมื่อได้เห็นว่าสมาชิกในทีมเชื่อฟัง ‘ดี’ ขนาดไหน แต่ก็ไม่มีเวลามาจ้ำจี้จ้ำไชอะไรแล้ว ตอนนี้ต้องหยุดการเคลื่อนไหวของฝ่ายศัตรูก่อน
แล้วในขณะนั้นพวกเขาก็ตั้งแถวเรียงกันเป็นระเบียบด้านหลัง
ตอนแรกหลี่ว์ซู่คิดว่าสถานการณ์คงวุ่นวายมาก แต่ที่จริงแล้วพวกนักเรียนกลับขยันขันแข็งและทำงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ
และในตอนที่กำลังต่อสู้กันนั้น หลี่ว์ซู่ก็ได้ยินใครบางคนตะโกนมาจากทางด้านหลัง “ฉันไม่มีเกราะส่วนอกเหลืออยู่เลย ใครมีบ้าง”
“ขอหมวกนิรภัยหน่อย ใครมีบ้าง”
“มีที่รัดคางเหลือ ใครจะเอาไหม”
หลี่ว์ซู่นิ่งอึ้งไป ก่อนร้องถาม “นี่ทำบ้าอะไรกันอยู่”
นี่ชักไปกันใหญ่ ไม่ใช่อย่างที่เขาต้องการแล้ว! มั่วเฉิงคงและคนที่เหลือดึงสติกลับมาทันที แต่แล้วก็มีใครบางคนพึมพำเบาๆ จากข้างหลัง “เอ่อ… อยากได้ที่รัดคางอ่ะ เมื่อกี้ใครบอกว่ามีนะ…”
“เลิกเสียเวลาได้แล้ว! เดี๋ยวก็จะได้ทุกอย่างที่อยากได้เองนั่นแหละถ้าไปฆ่าพวกศัตรูน่ะ!” หลี่ว์ซู่คำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
“ได้ๆ เข้าใจแล้ว” ตอนนี้สิ่งเดียวที่พวกเขาคิดก็คือทำให้หลี่ว์ซู่เย็นลง เพราะฉะนั้นพวกเขาจะทำตามหลี่ว์ซู่สั่งทุกอย่างเพื่อไม่ให้เขาอารมณ์เสียไปมากกว่านี้
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง กองพัน 42 จำนวนกว่าร้อยคนก็อยู่ในสภาพสวมเกราะทองแดงกันอย่างครบครันเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีบางส่วนที่ยังประกอบเกราะไม่ครบเพราะศัตรูที่เข้ามาเริ่มบางตาลง
หลี่ว์ซู่มองไปยังกองพัน 43 และคิดไปถึงที่หวังซูบอก เขาบอกไว้ว่าอะไรนะ ระดมทุนใช่ไหม!
“พี่ชาย ไปช่วยกองพัน 43 กันเถอะ!” หลี่ว์ซู่นำหน้าไปและพุ่งไปสู่แนวป้องกัน แต่หลี่ว์ซู่ดูจะลืมอะไรไปบางอย่าง!
หวังซูเกือบจะฉี่แตกใส่กางเกงเมื่อเห็นว่ามีกองทัพชุดเกราะทองแดงมุ่งหน้ามาทางพวกเขา “กองพันที่ 42 โดนเก็บไปหมดแล้ว! กองกำลังช่วยเหลือของศัตรูกำลังมุ่งหน้ามา ถอย! ทุกคนถอย!”
[ได้แต้มอารมณ์จากหวังซู +999]
[ได้แต้มอารมณ์จาก…]