ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 613 หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ผู้แข็งแกร่ง

เด็กผู้หญิงต่างมองหน้ากันอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร กระนั้นก็มีคนหนึ่งที่เห็นด้วย แล้วทุกคนก็ลุกขึ้นยืนเดินเข้าไปทางกำแพงป้องกัน 

 

 

พวกเธอทั้งหมดนั่งบนกำแพงเป็นแถว แล้วเสี่ยวอวี๋ก็หัวเราะออกมา “พวกเธอทั้งหมดไปพักเถอะ ฉันไม่เป็นไร” 

 

 

เด็กผู้หญิงอีกคนหัวเราะออกมา “เราปล่อยให้เธอนั่งคนเดียวแบบนี้ไม่ได้หรอก เธอพูดอย่างกับว่าเราไม่ดีพออย่างนั้นแหละ เสี่ยวอวี๋ ทำไมเธอถึงแข็งแกร่งแบบนี้เนี่ย เราทนไม่ได้กันหรอกนะ” 

 

 

เสี่ยวอวี๋ยิ้มตอบแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ 

 

 

ทุกคนรู้จักนิสัยเสี่ยวอวี๋ดี เมื่อมีกองพันข้างๆ มาคุยด้วยเรื่องที่อยากจะเป็นพันธมิตรกัน เธอก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับ เธอไม่ได้เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีอะไรขนาดนั้น ก็เลยไม่ค่อยอยากคุยกับคนแปลกหน้ามากเท่าไหร่ 

 

 

พวกผู้หญิงมักจะพูดกันว่าเสี่ยวอวี๋นั้นเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน ซึ่งนี่เกิดขึ้นหลังจากที่พวกเธอได้รู้จักกันมากขึ้น 

 

 

แต่ไม่ว่าพวกเธอจะรู้สึกสนิทสนมกับเสี่ยวอวี๋มากแค่ไหน ถ้าเสี่ยวอวี๋ไม่อยากจะคุยกับใครก็ไม่ควรบังคับเธอให้พูดออกมา 

 

 

เธออาจจะเป็นออทิสติกอ่อนๆ ก็ได้ ทั้งเสี่ยวอวี๋และหลี่ว์ซู่ไม่เคยพูดเรื่องนี้กันมาก่อน แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นความจริง 

 

 

เสี่ยวอวี๋และหลี่ว์ซู่นั้นต้องพึ่งกันและกันตลอด ทำพวกเขาจะเปิดใจให้กันและกันเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่หลี่ว์ซู่ไม่คิดว่าเสี่ยวอวี๋อาจะมีอาการออทิสติกอ่อนๆ เสี่ยวอวี๋ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่อยู่แล้ว 

 

 

เพราะสำหรับหลี่ว์ซู่แล้ว เสี่ยวอวี๋นั้นปกติ 

 

 

จู่ๆ ใครคนหนึ่งก็ถามขึ้นมา “เสี่ยวอวี๋ ถามหน่อยสิ เธอจะเอาหอกสามง่ามพวกนั้นไปทำอะไรเหรอ” 

 

 

“หลี่ว์ซู่คงจะชอบมันน่ะ” แล้วตาของเสี่ยวอวี๋ก็กลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว “เขาเป็นคนโลภมากเลยแหละ เพราะงั้นถ้าเขามาเห็นอาวุธพวกนี้แล้วก็คงมีความสุข” 

 

 

เสี่ยวอวี๋ไม่ได้แสดงฝีมือของเธอเท่าไหร่ในคราวนี้ แอนโธนี่เข้าไปซ่อนตามโขดหินและดินบนเกาะเพื่อความปลอดภัย ส่วนจอห์นสันเธอเก็บเอาไว้ในหลุมดำ 

 

 

เธอไม่ได้บอกใครเรื่องที่เขามีที่เก็บของแบบล่องหนเพราะหลี่ว์ซู่เคยห้ามเธอเอาไว้ 

 

 

“หลี่ว์ซู่ หลี่ว์ซู่ พูดถึงหลี่ว์ซู่ทั้งวัน” เด็กคนหนึ่งล้อเธอ “ทำไมเขายังไม่มาอีกล่ะ” 

 

 

สีหน้าของเสี่ยวอวี๋หม่นลง “ไม่รู้สิ เขาคงทำอย่างอื่นที่สำคัญอยู่มั้ง” 

 

 

แต่แล้วอยู่ๆ พวกเธอก็ได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากด้านหลัง “เสี่ยวอวี๋!” 

 

 

เสี่ยวอวี๋หันกลับไป แล้วเธอก็เจอเด็กหนุ่มคนหนึ่งยิ้มให้เธอท่ามกลางดวงดาวบนท้องฟ้า 

 

 

เสี่ยวอวี๋ที่ใครต่อใครต่างก็เอ่ยปากชมว่าเป็นคนแข็งแกร่งพลันร้องไห้ออกมาทันที “ช้าชะมัดกว่าจะมา! ไปทำอะไรมาเนี่ย! ฉันกลัวแทบตายแน่ะว่าจะออกไปจากที่นี่คนเดียวไม่ได้! ตอนแรกที่มาเนี่ยฉันโดนทหารจากทะเลทำบาดเจ็บด้วยนะ แผลเพิ่งหายเมื่อวานเอง เจ็บมากเลย! แล้วขนมของฉันก็หมดแล้วด้วย เอาขนมมาด้วยหรือเปล่า” 

 

 

เสี่ยวอวี๋ร้องไห้น้ำตาไหลเต็มหน้าเหมือนกับน้ำตก พวกเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ อึ้งไปเลย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย เสี่ยวอวี๋ผู้แข็งแกร่งกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง… 

 

 

หรือว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือ…หลี่ว์ซู่? 

 

 

พวกเด็กผู้หญิงมองหน้ากันด้วยความงงงวย พวกเธอไม่รู้ว่าหลี่ว์ซู่เป็นใคร แต่พวกเธอเบื่อที่จะฟังเรื่องหลี่ว์ซู่จากเสี่ยวอวี๋แล้ว 

 

 

สำหรับเสี่ยวอวี๋แล้ว หลี่ว์ซู่นั้นไม่มีใครจะเอาชนะได้ และไม่มีอะไรที่หลี่ว์ซู่จะทำไม่ได้ 

 

 

แล้วตอนนี้พวกเธอก็ได้เห็นหลี่ว์ซู่ตัวเป็นๆ สักที อืม…ก็ไม่แย่นะเนี่ย แต่ก็ไม่เหมือนกับที่คิดเท่าไหร่ 

 

 

พวกเธอเห็นหลี่ว์ซู่ยิ้มอย่างไร้เดียงสาราวกับไม่มีอะไรในโลกนี้ทำอันตรายเขาได้ เขาดูเป็นคนที่…แกล้งได้ง่ายๆ เลยนี่?! 

 

 

หลี่ว์ซู่รีบเช็ดน้ำตาบนหน้าเสี่ยวอวี๋ เขาไม่เคยรู้สึกว่าเสี่ยวอวี๋เป็นเด็กขี้แง มีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่เธอร้อง ตอนนั้นเสี่ยวอวี๋ต้องดูแลเขาตอนที่เขาไม่สบายเป็นไข้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอร้องไห้ไปต้มน้ำไป คอยเอาผ้าอุ่นมาเช็ดหน้าเขาให้ มีอีกครั้งหนึ่งที่เขาโรมรันอยู่กับการปะทุธาตุน้ำ แล้วก็มีตอนนี้แหละ 

 

 

เธอร้องไห้เพราะเขามาสองครั้ง แต่ครั้งนี้เธอร้องเพราะรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง เธอไม่อยากจะรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น แต่เธอก็ยังต้องมาปกป้องชีวิตคนอื่น เธอไม่กล้าไปอวดกับคอรัลเรื่องอยากจะเป็นราชันฟ้าเลย… 

 

 

พอพวกเด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เสี่ยวอวี๋เห็นเธอปล่อยโฮ พวกเธอก็เข้าใจ เสี่ยวอวี๋ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่พวกเธอคิด และเธอก็ไม่ยอมให้คนอื่นเห็นจุดอ่อนของเธอง่ายๆ 

 

 

เสี่ยวอวี๋ยอมลดกำแพงของตัวเองลงแค่กับหลี่ว์ซู่เท่านั้น 

 

 

แล้วทันใดนั้นหลี่ว์ซู่ก็คว้าเอาขนมออกมาจากตราแผ่นดินกองเป็นภูเขาวางไว้ตรงหน้าเสี่ยวอวี๋ เธอนั่งขัดสมาธิและแกะขนมออกมากิน “ช็อกโกแลตล่ะ เอามาด้วยไหม” 

 

 

“เอามาอยู่แล้ว” หลี่ว์ซู่ยื่นกล่องช็อกโกแลตสองสามกล่องให้… 

 

 

เกาะนี้ห้ามไม่ให้เอาอาหารเข้ามา พอเด็กผู้หญิงคนอื่นเห็นเสี่ยวอวี๋กินแล้วก็รู้สึกอิจฉาอยู่หน่อยๆ เสี่ยวอวี๋เลยผลักขนมบางส่วนแบ่งให้พวกเธอบ้าง “กินด้วยกันสิ” 

 

 

กลุ่มเด็กผู้หญิงดีใจกันอย่างมาก พวกเธอไม่ยั้งตัวเองและกินขนมกันคำใหญ่ คะแนนความชื่นชอบเสี่ยวอวี๋ของพวกเธอพุ่งทะลุกราฟไปแล้ว! 

 

 

ถึงพวกเธอจะรู้สึกอึ้งๆ ที่หลี่ว์ซู่มีที่เก็บของล่องหน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าในตอนนี้ก็คือการกิน 

 

 

หลี่ว์ซู่เห็นแบบนั้นก็อ้าปากค้าง เสี่ยวอวี๋คนนี้เป็นคนเดียวกับคนที่ยอมให้เฟรนช์ฟรายส์เขาแค่ครึ่งอันหรือเปล่าเนี่ย 

 

 

เสี่ยวอวี๋เหลือบมองหลี่ว์ซู่ “ฉันอยากเป็นราชันฟ้า เพราะงั้นนี่ก็เป็นเรื่องที่ฉันควรทำนี่” 

 

 

“เสี่ยวอวี๋ เธอฉลาดนะ” หลี่ว์ซู่หัวเราะออกมา เขาลืมไปเลยเรื่องราชันฟ้าอะไรนั่น แต่เสี่ยวอวี๋ยังคงจำได้ เขาไม่หวังให้เสี่ยวอวี๋จำได้เรื่องราชันฟ้าหรอก ตอนที่เสี่ยวอวี๋พูดถึงเรื่องราชันฟ้า หลี่ว์ซู่ก็คิดว่าเธอดูนารูโตะ [1] มากเกินไป เพราะอุซึมากิ นารูโตะใฝ่ฝันอยากเป็นโฮคาเงะ [2]  

 

 

แต่แล้วจู่ๆ ก็มีหอกสามง่ามสามเล่มพุ่งมาที่เสี่ยวอวี๋ ราวกับว่าพวกมันรอเสี่ยวอวี๋ลดกำแพงลงมาโดยตลอด พวกเขาพยายามจะกำจัดเธอทิ้ง! 

 

 

พวกเด็กผู้หญิงตะโกนออกมาด้วยความตระหนก “ระวัง!” 

 

 

ในขณะที่พวกเธอร้องนั้น หลี่ว์ซู่ก็ถลาออกไปข้างหน้าแล้วคว้าหอกสามง่ามสามเล่มนั้นไว้ จากนั้นก็ขว้างหอกกลับไปทีละเล่ม เกิดเป็นฝุ่นผงลอยขึ้นเหนือน้ำจางหายไป 

 

 

หอกสามเล่มอันนั้นกำจัดทหารทั้งสามคนไปทั้งหมด! 

 

 

หลี่ว์ซู่ที่ว่านี่ไม่ใช่เด็กหนุ่มไร้เดียงสาที่คิดว่าไม่มีอะไรในโลกจะมาทำร้ายอะไรเขาได้ แต่เขาเป็นยอดฝีมือที่มีคุณสมบัติจะเป็นราชันฟ้าได้เลยนี่! พวกเด็กผู้หญิงมองเขาด้วยความชื่นชม 

 

 

“นี่มัน…สุดยอดไปเลย!” 

 

 

ตอนที่พวกเธอพูดกัน จู่ๆ พวกเธอก็เห็นทะเลมีฟองฟอดขึ้นมา ตอนแรกพวกเธอคิดว่าอาจจะเป็นทหารจากทะเลที่กลับมาเพื่อโจมตีอีกครั้ง แต่พวกเธอกลับเห็นหอกสามง่ามทั้งสามเล่มกลับเข้ามาในมือของหลี่ว์ซู่ 

 

 

“พลังธาตุน้ำนี่!” 

 

 

 

 

 

—— 

 

 

[1] ตัวละครในการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง นารูโตะ 

 

 

[2] หัวหน้าของหมู่บ้านมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องนารูโตะ 

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset