ในเวลานี้ไม่มีใครอยู่ในห้องผู้ป่วยวีไอพีนอกจากเขา
ทันใดนั้นประตูก็ถูกผลักให้เปิดจากด้านนอก
ซังอวี้ซึ่งเดิมอยู่ในอารมณ์หงุดหงิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาของเขาแดงก่ำมองไปที่คนที่เข้ามา
เมื่อเขาเห็นหน้าของบุคคลนั้นเขาก็เก็บอารมณ์บนใบหน้าของเขาทันทีและพูดอย่างมีความสุข“พี่ มาเยี่ยมผมแล้ว”
คนที่มาคือซังอวิ๋น
เมื่อเขาออกจากหมู่บ้านเสี่ยวเหลียนเขาคาดไม่ถึงว่าแม้แต่เฉินเฉียวหน้ายังไม่ทันเห็นก็โดนซังหลินจวิ้นลากไปแล้ว
ต่อมาเขานั่งอยู่ในรถของเจียงอี้ฝานและออกไปด้วยกัน
หลังจากกลับไปที่เป่ยเฉิงคนเฝ้าประตูได้รับคำสั่งให้จับตาดูซังหลินจวินและเขาก็มาที่โรงพยาบาลเหรินหมิน
เขาไม่คาดคิดว่าครั้งนี้ซังหลินจวินจะโหดร้ายถึงขนาดที่ทำจนซังอวี้เข้าโรงบาล
ซังอวี้ถือได้ว่าแพ้ในครั้งนี้
“เป็นอย่างไรบ้าง?”ทันทีที่ซังอวิ๋นยกขาขึ้นเขานั่งลงอย่างสบาย ๆ
ดวงตาของเขาชั่วร้ายและมีเสน่ห์ตอนนี้จิตใจเขาเต็มไปด้วยความดื้อรั้น
ทันทีที่เขาพูดถึงบาดแผลซังอวี้ก็ยื่นมือที่ได้รับบาดเจ็บออกมาร้องไห้และพูดอย่างขมขื่น: “นิ้วกลางผมโดนตัด พี่ ผมอยากล้างแค้น”
ซังอวิ๋นหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อและเล่นกับมันในมือ
หลังจากฟังคำพูดของ ซังอวี้ แล้วเขาก็ยิ้ม
“รักษามือให้หายดีก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้เจ็บออดๆแอดๆแบบนี้เรื่องแก้แค้นอย่าเอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับมันอีกเลย”น้ำเสียงของเขาเรียบๆ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เอาคำพูดของซังอวี้ไว้ในใจ
“พี่ชาย ผมขอร้อง”สำหรับคนที่เขาเคารพซังอวี้ห่วงศักศรีดิ์ตัวเองเขาขอร้องตรงๆ
ไม่ซังอวิ๋นไม่ต้องการเปิดเผยตัวเองกับซังหลินจวินในตอนนี้
“พี่ ผมจะยกหุ้นทั้งหมดให้”คราวนี้ซังอวี้โกรธมากแม้ว่าเขาจะเสียทุกอย่างไป เขายอมตายไปกับซังหลินจวิน
ซังอวิ๋นก็เงยหน้าชำเลืองมองเขาซังอวี้โค้งตัวของเขาดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ดูเหมือนว่าลูกหมาป่ากำลังจะหมดหวังซึ่งน่าขำจริงๆ
ซังอวิ๋นยิ้ม: “โอเคฉันสัญญาเมื่อหย่วนเซิ้งล้มละลายซังหลินจวินจะเป็นแค่ของเล่นของแก”
เขาตบไหล่ซังอวี้และจับเขานอนลงบนเตียงผู้ป่วย
“โทษทีใช้แรงมากไปหน่อย”เขากำลังขอโทษ แต่น้ำเสียงของเขาไม่จริงใจเลย
ซังอวี้ไม่สนใจ : “พี่ รอผมหายดีก่อน พี่จะตียังไงก็ตี”
“เชื่อฟังดีจริงๆ”ซังอวิ๋นถอนหายใจ ลูบหัวเขา
รอวันออกจากโรงพยาบาล เขาก็จะกลับมาเหมือนเดิม
เขายืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดหลังจากออกคำสั่งให้ลูกน้องแล้วเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาคนที่เขารออยู่ตั้งนาน
“ ฮัลโหล เฉียวเฉียวหรอ ออกมาเจอกันได้ไหม? โอเค ที่ร้านกาแฟหมิงซิ้นนะ ”
หลังจากวางสายโทรศัพท์รอยยิ้มก็ค่อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“ เฉียวเฉียว ใครนัดคุณหรอ หนุ่มหล่อที่หมู่บ้านเล็กๆนั่นหรอ?”เจียงฉยงฉยงนั่งข้างๆเฉียวเฉียวเจียงฉยงฉยงได้ยินเสียงทั้งหมดในโทรศัพท์เธอจึงจงใจจับไหล่เฉียวเฉียวและแกล้งเธอ
เฉินเฉียวยักไหล่และจับมือที่วางอยู่บนไหล่ของเธอแล้วถาม: “ฉยงฉยง พี่ชายเธอตอนนี้ไม่ยุ่งวุ่นวายแล้ว ทำไมยังไม่หาแฟนอีก”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ใบหน้าของเจียงฉยงฉยงก็เปลี่ยนไปทันที
น้ำเสียงสั่นเครือ: “ผู้ชายหน่ะ เจอโดยพรหมลิขิตดีกว่านะ เฉียวเฉียวดูสิประธานซังกับคุณ ไม่ใช่เป็นคู่พรหรมลิขิตหรือไง? นอกซะจากว่าพวกเธอเจอกันช้าไป ”
ยิ่งเจียงฉยงฉยงพูดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นเท่านั้น
เธอพูดต่อ: “ถ้าอย่างนั้น ฉันต้องค่อยๆรอไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เนื้อคู่ฉันจะปรากฏตัว ตอนนี้ทำได้แค่ใช้ชีวิตโสดให้เต็มที่”
“เธอก็พูดถูก”เฉินเฉียวลูบหัวเธอ
หลังจากทำผมเจียงฉยงฉยงยุ่ง แล้วเฉินเฉียวก็เก็บเอกสารบนโต๊ะและส่งให้ฉยงฉยง
“อันนี้ซังหลินจวินให้ฉันเอาให้เธอ เธอดูก่อนเถอะ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ไปถามพี่เธอ”
หลังจากได้รับเอกสาร เห็นว่าเฉินเฉียวกำลังจะออกไป เลยถาม”เธอจะไปไหน”
“ ฉันไม่บอกหรอก”เฉินเฉียวพูดอย่างจงใจและยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเห็นท่าทางโกรธของฉยงฉยง
หลังจากแกล้งเจียงฉยงฉยงแล้วเฉินเฉียว ก็ออกจาก บริษัท ด้วยความสุข
เมื่อเขามาถึงร้านกาแฟหมิงซิ้น เฉินเฉียวพบว่า ซังอวิ๋นมานั่งรออยู่นานแล้ว
เขานั่งอยู่ที่มุมร้านและสามารถมองเห็นได้จากด้านนอกผ่านกระจกใส
เขากวักเมือเรียกพนักงาน
“ รอนานแล้วใช่ไหม”เฉินเฉียวเดินไปด้วยรอยยิ้มจากนั้นค่อยๆจัดกระโปรงของเธอก่อนจะนั่งลงตรงข้ามเขา
ซังอวิ๋นส่ายหัว
“ไม่นาน มาก่อนคุณไม่กี่นาที”
เฉินเฉียวไม่ได้ถามต่อ
ไหนๆเขาก็เป็นเพื่อนเก่า ถ้าพูดตรงๆคงรู้สึกผิด
“ คุณต้องการสั่งอะไรไหม?”พนักงานเห็นคนเดินเข้ามาเลยถือเมนูเข้ามาถามอย่างสุภาพ
“คาปูชิโน่หนึ่งแก้วค่ะ”เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ เฉินเฉียวตั้งหน้าตั้งตารอมาก
ยังไงซะร้านกาแฟหมิงซิ้นก็เป็นร้านกาแฟที่มีชื่อเสียง รสชาติละมุน
“ค่ะ รอสักครู่นะคะ”พนักงานจดรับออเดอร์และเดินไป
“อาอวิ๋น ฉันขอโทษจริงๆเมื่อวานไม่ได้กลับด้วยกัน”ดวงตาของ เฉินเฉียวเต็มคำขอโทษอย่างไรก็ตามเธอสัญญากับเขาหลายอย่าง แต่ก็ทำไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากได้เจออาอวิ๋น เฉินเฉียวก็จำได้ว่าภาพวาดที่เขามอบให้เธอดูเหมือนจะหายไป
เธอไม่รู้ว่าจะบอกเขาดีหรือเปล่า
ซังอวิ๋นยิ้มอย่างเข้าใจ: “คงเป็นเพราะคนของคุณขี้หึงมาก ไม่อยากเจอผม เฉียวเฉียวไม่ต้องพูดขอโทษแล้ว พูดจนผมท่องได้แล้ว ..”
เฉินเฉียวทำท่าทางปิดปาก
เฉินเฉียว ที่ซุกซนและมีชีวิตชีวาเช่นนี้ทำให้หัวใจของซังอวิ๋น อ่อนลงเมื่อนึกถึงจุดประสงค์ของการมาซังอวิ๋นขดนิ้วของเขาอย่างประหม่าและถามอย่างไม่แน่ใจ: “เฉียวเฉียว คุณเป็นนางแบบให้ผมสักครั้งได้ไหม?”
เฉินเฉียว ตกตะลึงคาดไม่ถึงเขาจะขอแบบนี้
“เหมือนครั้งที่แล้วหรือเปล่า? อาอวิ๋น ฉันอาจจะไม่ได้มีเวลามากนัก ”
หัวใจของซังอวิ๋นหดตัวลงและใบหน้าของเขาแข็งอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็เผยรอยยิ้มได้อย่างรวดเร็วส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ต้องทำเหมือนครั้งที่แล้วหรอก ผมแค่ต้องการถ่ายรูปคุณรูปนึง”
เมื่อเห็นว่าเขาแค่ขอรูปถ่ายเฉินเฉียวก็รู้สึกโล่งใจทันที
“แค่รูปไม่ใช่หรอ งั้นก็ได้ทุกเมื่อ “เธอยิ้มและยื่นมือไปทางเขา