ซังโย่วอียืนก้มหน้าลง เบะปากไม่พูด
เถียนเถียนนั่งยองๆพูดกับเด็กคนนั้นด้วยความอ่อนโยนและอดทน
เฉินเฉียวมองเธอจากระยะไกล
นี่คือผู้หญิงที่ไร้ที่ติ ความใจกว้างและความอ่อนโยนเหมือนน้ำ ใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวเป็นกระโปรงยาวเหนือเข่าสีส้มซึ่งมีลวดลายที่สวยงาม
เธอคบกับซังหลินจวินคงจะจินตนาการได้ว่าฉากนั้นน่าดึงดูดแค่ไหน
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังดีกับซังโย่วอีอีกด้วย
“ พี่ รู้จักหรอ”เฉินอินเห็นว่าเฉินเฉียว มองไปที่นั่นด้วยความงุนงงเลยแตะมือเธอ
เฉินเฉียวกลับมามีสติและมองไปที่ เฉินอิน”เธอนั่งอยู่นี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา”
อืมเฉินอินพยักหน้า
เฉินเฉียวเดินไปพร้อมกับลูกบอลในมือของเธอ
เธอมองไปที่ซังโย่วอีและฝืนพูด “นี่ของคุณใช่ไหม?”
เสียงนี้มัน …
เถียนเถียนซึ่งยืนอยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองเธอมากขึ้น
เห็นอีกฝ่ายใส่เสื้อเชิ้ตลายทางสีขาวกางเกงยีนส์ธรรมดาและรองเท้าส้นแบนสีดำ
ผมยาวสลวยของเธอพาดลงมาจากหลังใบหูสีขาวราวกับหิมะ
เถียนเถียนเจอผู้หญิงสวยๆมาเยอะ แต่ว่าเฉินเฉีนวคนที่ยืนอยู่หน้า ถึงแม้จะไม่ได้แต่งอะไรมาก แต่ว่าเธอก็รู้สึกว่าเป็นคนสวย
แต่ซังโย่วอีเกลียดรอยยิ้มของเธอมาก
พี่เฉียวดูไม่ออกหรอว่าเขากำลังโกรธอยู่ เขาไม่มีความสุขเลย เธอหัวเราะอย่างมีความสุขได้อย่างไร?
ตั้งนานแล้ว นึกไม่ถึงว่าเธอไม่มาหาเขาเลย คำอธิบายสักคำก็ไม่มี
ซังโย่วอียิ่งนึกถึงเรื่องนี้เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นและเขาเพิกเฉยต่อเฉินเฉียวและหันหน้าเดินหนีด้วยใบหน้าบึ้งตึง
เถียนเถียนกลับมามีสติและรีบสั่งคนขับรถที่อยู่ข้างๆเขาว่า “ติดตามคุณหนูด้วย อย่าให้เขาไปไหนไกล”
ครับผมคนขับตอบแล้วรีบเดินตาม
“ขอโทษด้วยนะคะ ที่จริงๆเขาไม่ได้เป็นเด็กแบบนั้น”เถียนเถียนอธิบายแล้วรับบอลจากมือเฉินเฉียว
เฉินเฉียวสะดุ้งเล็กน้อยปัดผมยาวๆไว้ข้างหลังหูและส่ายหัว “ไม่เป็นไรค่ะ”
หลังจากพูดจบเธอมองเด็กที่กำลังเดินจากไปอีกครั้งด้วยความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
นึกได้ว่าตอนที่เขาป่วย เธอไปดูแลเขาแต่ตอนนี้เขาคงอยู่ในอ้อมอกของคุณเถียนเถึยน
“วันนี้เป็นวันเกิดเด็กน้อยพอดี เลยอยากจะพามาดูเพนกวินที่ร้านอาหารนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะอาละวาดแบบนี้”เถียนเถียนดูเหมือนจะคุยไปเรื่อยกับเธอ น้ำเสียงเบื่อหน่ายนิดๆ แต่ก็ไม่ได้บ่น
เฉินเฉียวประหลาดใจและถามว่า “วันนี้เป็นวันเกิดของเขาเหรอ?”
เธอเพิ่งนึกออกว่า ปาร์ตี้วันนั้นเป็นเพียงแค่งานเลี้ยงวันเกิดล่วงหน้าเท่านั้น
อืมเถียนเถียนพยักหน้ามองเวลาและพูดอย่างเป็นกันเอง: “โทษทีนะคะ พวกเรานัดพ่อเด็กเอาไว้ จะไปหาคุณตาคุณยายของเด็กค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
อ๋อ ค่ะ รบกวนเวลาคุณแย่เลยค่ะ “เฉินเฉียว และ เถียนเถียนพยักหน้าและเดินไปยังที่นั่งตัวเอง
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่านี่คือครอบครัวที่แท้จริง
ฉลองวันเกิดกับลูกและพาลูกไปพบพ่อแม่ …
เธอเดินกลับมาอย่างไม่สดใจ เฉินอินเห็นว่าสีหน้าของเธอไม่ค่อยดี “พี่ เป็นอะไรหรือเปล่า”
ไม่เป็นไร
“ เด็กคนนั้นเป็นใคร? เกิดมาหน้าตาค่อนข้างดี แต่ทัศนคติของเขาที่มีต่อพี่ไม่เป็นมิตรจริงๆ ไม่มีมารยาท
“ อย่าพูดอย่างนั้นเขาเป็นเด็กดี”เฉินเฉียวไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเฉินอิน
เฉินอินพูดด้วยความรำคาญ “พี่พูดอย่างกับรู้จักเขา”
เฉินเฉียวมองไปด้านนอกของร้านอาหารเห็นเถียนเถียนอุ้มเขาขึ้นรถ
หัวเล็กๆหันมาทางเธอพอดี ระยะห่างกันพอประมาณ ผู้ใหญ่และเด็กน้อยสบตากัน เฉินเฉียวสามารถเห็นร่องรอยแห่งความเศร้าจากดวงตาของเด็กได้อย่างชัดเจน
เธอจำของขวัญวันเกิดที่เตรียมไว้ในกระเป๋าได้ก็ลุกขึ้นอีกครั้ง แต่รถก็ไม่หยุด แต่จากไปอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของเธอมืดลงและรู้สึกหดหู่
ช่างเถอะ
เขาแค่ขาดความรัก ตอนนั้นก็เลยมาพึ่งพิงเธอ ตอนนี้มีคุณเถียนอยู่แล้ว เธอคงเป็นส่วนเกิน
ในขณะที่อยู่ในรถ
ซังโย่วอียังคงรู้สึกหดหู่ใจและหันศีรษะไปด้านข้างและมองออกไปนอกหน้าต่าง
เถียนเถียนเอาขนมมาล่อเขาแต่เขาก็ไม่หันมา
“ โย่วอี คิดอะไรอยู่ในใจ บอกน้าเถียนเถียนได้ไหม”เถียนเถียนวางขนมและพูดคุยกับเขาอย่างจริงจัง
ซังโย่วอีค่อยๆหันหน้ามาและพูดอย่างเบื่อหน่าย “น้าเถียนเถียนว่าเธอลืมผมแล้วใช่ไหม”
ลืมได้ยังไงล่ะ? โย่วอีน่ารักขนาดนี้ เธอจะลืมได้ยังไง เมื่อกี้เธอเป็นคนทักทายหนูไม่ใช่หรอ”เถียนเถียนลูบหัวเล็ก ๆ ที่น่ารักของเด็ก
ซังโย่วอียังทำปากจู๋เล็ก ๆ “ ตอนแรกผมอยากให้เธอแต่งงานกับพ่อ แล้วมาเป็นแม่ผม ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เหมาะ ”
เถียนเถียนสะดุ้ง
รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอค่อนข้างไม่เต็มใจ
แต่ก็ยังอ่อนโยน“ คิดว่าไม่เหมาะก็ถูกแล้วล่ะ โย่วอี เธอไม่มีทางแต่งงานกับพ่อหนูได้หรอก ”
ทำไมล่ะครับ
“ เธอแต่งงานมีสามี มีครอบครัวของตัวเองแล้ว ในอนาคตเธอจะมีลูกกับสามีเธอและเธอจะเป็นแม่ของเด็กคนอื่น ๆ ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โย่วอีก็รู้สึกไม่พอใจอีกครั้งและโยนอมยิ้มที่เขาเพิ่งถือใส่ไปในกระเป๋านักเรียน
เถียนเถียนกล่าวต่อว่า “ด้วยสถานะปัจจุบันของพ่อหนูไม่มีทางอยู่กับเธอได้ แม้ว่าในอนาตตคุณน้าคนนั้นจะหย่า แต่พ่อของหนูก็จะแต่งงานกับคนที่ฐานะ และสถานภาพดีกว่าเธอ เข้าใจไหม
ซังโย่วอีงงไม่ค่อยเข้าใจ
เถียนเถียนลูบหัวน้อยๆ“ ช่างเถอะ หนูยังเด็ก ไม่เข้าใจโลกของผู้ใหญ่ที่ซับซ้อน”
——
หลังจากกินข้าวกับเฉินอินเสร็จ เฉินเฉียวก็กลับหย่าย่วน
คิดถึงเด็กน้อย ข้างในหัวใจก็เจ็บ
เธอหยิบโทรศัพท์กดหมายเลขและโทร แต่โทรศัพท์มือถือของเด็กปิดอยู่
ตอนนี้ พวกเขาคงมีความสุขกับครอบครัว
นอนอยู่บนเตียงเฉินเฉียวไม่สามารถนอนหลับได้ ในความคิดของเธอสักพักเป็นเด็กน้อยคนนั้น สักพักเป็นซังหลินจวิน สักพักก็คิดถึงคุณเถียนคนนั้น
ในที่สุดเธอก็แต่งตัวและลุกขึ้นพร้อมกระเป๋า
“ฉยงฉยง ฉันขอยืมรถหน่อยนะ”
“ ดึกขนาดนี้แล้วจะไปไหน”
“ ออกไปสูดอากาศ”
เฉินเฉียวตอบเท่านั้นหยิบกุญแจรถและออกไป ตอนที่เจียงฉยงฉยงตะโกนว่าให้เธอไปด้วย เธอก็เข้าลิฟไปแล้ว
เฉินเฉียวขับรถสปอร์ตขึ้นไปบนภูเขา
ตอนกลางคืนมีลมพัดทำให้เย็นสบาย
เธอคิดว่าเธอไม่มีจุดหมายและขับรถไปตามชายหาดเรื่อยๆ แต่เมื่อรถหยุดก็ตระหนักว่าแทนที่จะขับรถไปที่ชายหาดเธอกำลังขับรถไปที่จิ้งหย่วน
ขณะนี้ไฟในจิ้งหย่วนเปิดอยู่
เฉินเฉียวจอดรถไว้ข้างนอกและไม่ได้เข้าไป
คิดสักพักก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร
คนที่โทรหาที่เหล่าฟู่ ตอนที่ช่วยฉยงฉยงเติมน้ำมันตอนนั้นเหล่าฟู่ให้เบอร์ไว้ ตอนนี้ได้ใช้แล้ว
โทรศัพท์ดังสักพักก่อนจะมีคนรับ
“ฮัลโหล สวัสดีครับ ใครครับ”เสียงของเหล่าฟู่ดังออกมาจากโทรศัพท์
เขาที่อยู่ที่นั่นเงียบมาก