ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 74 ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูน

เธอไม่เพียงเจอกับซังอวี้ในตอนหน้าสิวหน้าขวาน แถมยังไปรับโทรศัพท์ของซังอวี้ แต่ปลายสายดันเป็นซังหลินจวินโทรมาพอดี

เฉินเฉียวถอนหายใจ

คนๆนี้ดูเหมือนว่าเธอจะพยายามหลบยังไงก็หลบไม่พ้น

ตอนเธอกำลังคิดอยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูห้องน้ำ

“ ออกมาเองได้ไหม”

เสียงของซังหลินจวินดังอยู่นอกประตู

เขายังไม่ไป

เฉินเฉียวไม่สนใจเขา

“ถ้าไม่ออกมา ผมจะเข้าไปแล้วนะ”

เฉินเฉียวโวยวาย “ฉันล็อคประตูไว้แล้ว”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย“ ในลิ้นชักของโรงแรมมีกุญแจสำหรับประตูทุกบาน”

เฉินเฉียวสบถในใจ โรงแรมบ้าอะไรเนี่ย

“ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ”เธอตอบกลับ เธอไม่กล้านอนต่อ กลัวเขาจะเข้ามาจริงๆ

เมื่อเธอหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นจะใส่เธอก็พบว่าไม่มีชุดที่ใส่ได้แล้ว

เมื่อคืนเละเทะมาก เสื้อผ้าพวกนั้นใส่ซ้ำไม่ได้แล้ว

“ ข้างๆมีเสื้อคลุมอยู่ ใส่ออกมาก่อน”เสียงของชายคนนั้นดังขึ้นจากข้างนอกอีกครั้ง

เฉินเฉียววเห็นเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวบนม้านั่งจึงลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวม

เฉินเฉียวรู้สึกสบายตัวขึ้นหลังจากอาบน้ำอุ่น แม้ว่าร่างกายจะยังคงอ่อนแรง แต่ก็ไม่ถึงกับเดินไม่ได้

เปิดประตูและออกจากห้องน้ำ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันน่าอายมากเธอจึงมักจะหลบสายตาและไม่มองเขา

่การแสดงออกของซังหลินจวินต่างจากเฉินเฉียวโดยสิ้นเชิง ราวกับว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาพูดกับเธอว่า: “มากินข้าวเช้าก่อนเถอะ”

เฉินเฉียวเดินไปและเห็นว่าโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารที่น่าอร่อย มันเยอะมาก

แต่มีจานคนเดียว.

ในที่สุดเฉินเฉียวก็เหลือบมองเขา“ คุณทานหรือยัง?”

อืม

เขาพยักหน้าเบา ๆ แล้ววางยาและแก้วน้ำไว้ข้างมือเธอ“ หลังอาหารเช้าอย่าลืมกินยา สามมื้อต่อวันครั้งละสองแคปซูล ถ้ายังไม่หายดีให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกทีนะ”

ขอบใจนะเฉินเฉียวขอบคุณเขา

ซังหลินจวินชี้ไปที่ถุงช้อปปิ้งบนโซฟา “เสื้อผ้านั้นเอาไปใส่ได้นะตอนกลับ”

เฉินเฉียวมองไปที่นั่นแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง

ในใจของเธอมีระลอกคลื่น

เมื่อนึกถึงคุณเถียนคนนั้น อดไม่ได้ที่จะถามเบาๆ“ คุณเอาใจใส่แบบนี้กับผู้หญิงทุกคนไหม?”

อะไรนะเสียงของเธอเบาเกินไปเบาราวกับว่าเธอกำลังพูดกับตัวเองซังหลินจวินได้ยินไม่ชัด

เฉินเฉียวตกใจที่ตัวเองถามอะไรออกไป โชคดีที่เขาไม่ได้ยิน

เธอส่ายหัว“ เปล่าไม่มีอะไร ครั้งนี้ ต้องขอโทษจริงๆค่ะที่ทำให้ประธานซังลำบาก จะไม่มีครั้งต่อไปอีก ”

คำพูดสองสามคำสุดท้ายของเธอดูห่างเหินและเกรงใจ

ดูเหมือนว่าจะพยายามเลี่ยงความสัมพันธ์กับเขา

ขัดหูมาก

เธอคงลืมไปแล้วว่าเมื่อคืนเธอยั่วเขายังไง!

ดวงตาที่มืดมนของซังหลินจวินจับจ้องเธอ

เฉินเฉียวรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับท่าทางนั้น

เธอเพียงแค่ดื่มน้ำและพูดเบาๆว่า: “คุณรีบไปเถอะค่ะ สายแล้ว”

เขาก้าวเข้าไป แต่ไม่ได้ออกไปในทันที

เขาเอนตัวเข้าหาเธอไปวางมือข้างหนึ่งไว้บนโต๊ะและอีกข้างวางบนเก้าอี้

เขาใกล้กับเธอมาก

ใกล้จนขนาดริมฝีปากเขาเกือบจะแตะที่ใบหูของเธอ“เฉินเฉียว ถ้าคุณไม่อยากจะเกี่ยวข้องกับผมจริงๆ ภาพที่คุณร้องไห้ขอร้องผมเมื่อคืน วันหลังอย่าทำอีกนะ”

เฉินเฉียวกัดริมฝีปาก คำพูดของผู้ชายคนหนึ่งทำให้เธอรู้สึกละอายใจ

“ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูน อย่าทำอีกนะ”

สี่คำสุดท้าย เตือนด้วยเสียงทุ้มๆ

เฉินเฉียวทนไม่ได้กับความร้อนของริมฝีปากของเธอกัดริมฝีปากตัวเองพยายามไม่มอง ขืนเขาพูดต่อ เธอคงได้อายจนมุดแผ่นดินหนีจริงๆ

ประตูถูกปิดลง

ซังหลินจวินออกไปแล้ว

เฉินเฉียวนั่งอยู่ที่นั่นหัวใจเต้นแรงมองไปที่โต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารเช้าจู่ๆก็กินไม่ลง

เธอกินยากับดื่มน้ำแล้วลุกขึ้นไปที่โซฟาเพื่อเอาเสื้อผ้าของเธอ ในกระเป๋าช้อปปิ้งนอกจากเสื้อผ้าแล้วก็มีโทรศัพท์มือถืออยู่

ไอโฟนแปดเครื่องใหม่ล่าสุด

เสื้อผ้าดิออร์ซีซั่นใหม่เช่นกัน

ผู้ชายคนนี้มีน้ำใจจริงๆ

เฉินเฉียวเหม่อไปชั่วขณะจากนั้นจึงซิมการ์ดโทรศัพท์ที่เขาทิ้งแล้วใส่ลงในโทรศัพท์เครื่องใหม่

โชคดีที่ซิมโทรศัพท์ยังสามารถใช้งานได้

ทันทีที่เปิดเครื่องสายโทรศัพท์จำนวนนับไม่ถ้วนที่โทรเข้ามา มีสายของเจียงฉยงฉยงกับปู้อี้เฉิน

เฉินเฉียวรู้ว่าเจียงฉยงฉยงเป็นห่วงเธอเธอจึงส่งข้อความกลับไปหาโดยบอกว่าเธอไม่เป็นไร

โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งและคำว่า ปู้อี้เฉิน ก็กระพริบบนหน้าจอ

เฉินเฉียวคิดสักพักแล้วตัดสาย เธอเดาว่าปู้อี้เฉินโทรหาเธอไม่มีเรื่องอื่นนอกจากเรื่องซังอวี้เมื่อคืน

——————

อีกด้าน

เฉินอินดื่มมากเกินไปเมื่อคืนเธอยังคงมีอาการซึมเล็กน้อย ประสิทธิภาพในการทำงานทั้งเช้าแย่มาก

ตอนนี้เธอมีความแค้นต่อซังอวี้เป็นอย่างมาก

เมื่อคืนนี้ซังอวี้นัดกับเธอผ่านไปด้วยความสุข ใครจะคิดว่าซังอวี้ไม่ใช่คนดีเธอถูกโยนเข้าไปในกลุ่มอันธพาลและเธอก็เมาจนเกือบอยู่กับฝันร้าย ในท้ายที่สุดเธอถูกบังคับให้โทรหาเฉินเฉียวก่อนที่จะปล่อยเธอไป

“ประธานซังมาแล้ว”ไม่รู้ใครพูด

เฉินอินนึกว่าคือซังอวี้ ในใจโกรธเป็นไฟ แต่เขาก็เป็นเจ้านายของเธอดังนั้นเธอจึงพูดอะไรไม่ได้

เฉินอิน เฉินอิน ประธานซังเรียกไปพบที่ห้อง “มีคนมาเคาะแผ่นกั้นข้างๆเธอ

เฉินอินโกรธ“ ไม่ไป! ฉันไม่มีงานที่ต้องรายงานเขา! ”

เพื่อนร่วมงานวางมือบนหน้าผากของเธอ“ วันนี้มีไข้หรอ ปกติเวลาที่ได้เจอประธานซังเธอจะระริกระรี้ไม่ใช่หรอ แต่วันนี้ประธานซังเรียกเธอไปพบกลับเล่นตัว

?”

ทันใดนั้นเฉินอินก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้และเงยหน้าขึ้น“ เธอพูดถึงประธานซังคนไหน”

“ ที่นี้พวกเรามีประธานซังกี่คนล่ะ โอ้ เธอคิดว่าฉันหมายถึงน้องของท่านประธานซังหรอ? น้องประธานซังไม่มาวันนี้แต่บอสใหญ่กำลังรอเธออยู่ในห้องตอนนี้ ”

เดิมทีเฉินอินเป็นคนเฉื่อยชา แต่เมื่อเธอได้ยินแบบนี้เธอก็กระโดดขึ้นทันที

รีบวิ่งแจ่นออกไป

ทันใดนั้นเธอรู้สึกแปลกๆ หันกลับมาถาม :“ตาฉันบวมไหม?”

“ นิดหน่อย”

เฉินอินอารมณ์เสีย“ เมื่อคืนฉันดื่มมากเกินไปหน่อย ท่าทางดูเหมือนคนเมาหรือเปล่า? อย่างนี้ประธานซังคงเข้าใจผิดว่าฉันประพฤติตัวไม่ดีแน่ ๆ … ”

“ โอเคแล้วหล่ะ เฉินอิน ประธานซังของเรายุ่งมากๆและกำลังถามหาเธอในเรื่องงานด้วยบางทีเขาอาจไม่สังเกตเห็นสิ่งเล็กน้อยๆของเธอหรอก ”

ใครบอกเฉินอินไม่พอใจ

แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาแต่งหน้าอีกแล้ว เธอกลัวว่าประธานซังจะรอไม่ไหวและกลับไปเสียก่อน

เธอรีบไปที่หน้าห้องทำงานของรองประธานหย่วนจิ้งจือจัดทรงผมนิดหน่อยและเคาะประตู

เข้ามามันเป็นเสียงของหย่วนจิ้งจือ

ในตอนนี้เขากำลังคุยเรื่องงานกับซังหลินจวิน หันมาเห็นเฉินอินก็ประหลาดใจเล็กน้อย “มีธุระอะไร”

ซังหลินจวินพูดอย่างเรียบๆ : “ผมเรียกเธอมาเองแหละ”

เขาเหลือบมองหย่วนจิ้งจือ “คุณออกไปก่อนผมมีเรื่องส่วนตัวจะคุยกับเธอ”

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset