ตอนที่ 431 ข่าวปลอม
ในคฤหาสน์ตระกูลอวี๋
เหนียนเสี่ยวมู่รู้ข่าวแล้วตะลึงงันอยู่ที่เดิมทันที ก่อนจะมองพ่อบ้านด้วยความงุนงง
“คุณพูดว่าอะไรนะคะ? ถังหยวนซือจะหมั้นแล้ว…”
เธอเพิ่งแยกกับซ่างซินได้ไม่นาน ในเวลาสั้นๆ แค่นี้ ซ่างซินได้เจอกับถังหยวนซือหรือเปล่าก็พูดยาก
คนที่จะหมั้นกับถังหยวนซือใช่ซ่างซินหรือเปล่า
หญิงสาวรีบควานหาโทรศัพท์มือถือ เพื่อเปิดข่าวอ่านดู
รูปภาพบนอินเทอร์เน็ตชัดเจนแจ่มแจ้ง ทำเอาเหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงลานในทันที!
“คนที่ถังหยวนซือประกาศหมั้นด้วยไม่ใช่ซ่างซิน แย่แล้ว ตอนนี้ซ่างซินไปหาถังหยวนซือ จะต้องเกิดเรื่องแน่…” เหนียนเสี่ยวมู่ถือกระเป๋าขึ้นอย่างลนลาน แล้วหมุนตัววิ่งไปข้างนอก
ทว่าอวี๋เยว่หานยื่นมือไปดึงเธอไว้ก่อน เขาขมวดคิ้วเป็นปมเลยทีเดียว “คุณใจเย็นๆ หน่อยสิ!”
“คุณปล่อยฉันก่อน คุณไม่เห็นท่าทางของซ่างซินในวันนี้ แค่ถังหยวนซือไปนัดบอดเธอยังมีปฏิกิริยาขนาดนั้น ถ้าให้เธอเห็นข่าวนี้…ฉันจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้!”
หญิงสาวพูด พลางพยายามดิ้นจากการเกาะกุมของเขา ทว่าอวี๋เยว่หานกลับออกแรงดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด
“อวี๋เยว่หาน…”
เหนียนเสี่ยวมู่ร้อนใจอยากจะผลักเขาออก แต่เสียงที่เจือไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัวของเขา พลันดังขึ้นข้างหูของเธอ
“มันเป็นข่าวปลอม”
“…” เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงไปอีกครั้ง
เธอกะพริบตา ก่อนจะซบลงในหน้าอกของชายหนุ่ม ลืมไปแล้วว่าควรมีปฏิกิริยาอะไร
ผ่านนานทีเดียว เธอถึงจะเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ แล้วจ้องมองเขาด้วยความงงงัน
สื่อประกาศข่าวหมั้นไปแล้ว เขารู้ได้อย่างไรว่าเป็นข่าวปลอม
เขาคงไม่ได้กำลังปลอบใจเธอใช่ไหม…
“ถังหยวนซือรู้จักนิสัยของซ่างซินดีกว่าคุณอีก ถ้าไม่จนปัญญาจริงๆ เขาคงไม่ใช่วิธีนี้บีบบังคับให้ซ่างซินปล่อยวางหรอก!” อวี๋เยว่หานมองความสงสัยของเธอออก จึงเอ่ยปากอย่างเย็นชา
ชายหนุ่มพ่เธอกลับไปที่โซฟา ให้เธอนั่งเรียบร้อย
เหนียนเสี่ยวมู่ขัดสมาธิทันที ก่อนจะถามอย่างไม่สบายใจ “ถ้าตอนนี้เป็นเวลาที่เขาจนปัญญาแล้วจริงๆ ล่ะ”
ครั้นเธอพูดจบ อวี๋เยว่หานก็ชำเลืองมองเธอทันใด
เขาหยิบโทรศัพท์ในมือของเธอมากวาดตาอ่านข่าว
“ตระกูลถังไม่ใช่ตระกูลธรรมดา ถ้าประธานบริษัทตระกูลถังจะประกาศหมั้น คงไม่เลือกลงข่าวในนิตยสารซุบซิบที่ไม่มีชื่อเสียงแบบนี้หรอก” เขามองไปทางพ่อบ้านหลังจากพูดจบแล้ว
“ให้คนไปสืบหน่อย ว่าข่าวถูกปล่อยมาจากไหน ประเด็นสำคัญคือไปสืบเรื่องของผู้หญิงคนที่ไปนัดบอดกับถังหยวนซือด้วย”
เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว หัวสมองของเหนียนเสี่ยวมู่ก็เข้าใจสิ่งต่างๆ ในพริบตา
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองมา แล้วอ่านข่าวนั้นอีกครั้งหนึ่ง
เป็นไปตามคาด เป็นสำนักพิมพ์นิตยสารเล็กๆ ไม่แตะตาที่ลงข่าวนี้
ถ้าข่าวนี้ไม่ได้น่าตกใจมากพอ ก็คงดึงดูดความสนใจใครหลายๆ คนไม่ได้โดยสิ้นเชิง
แถมรูปภาพในข่าวนี้ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เป็นการแอบถ่ายอย่างเห็นได้ชัด!
หากตระกูลถังต้องการประกาศงานหมั้น ทำไมถึงได้ใช้รูปภาพแบบนี้…
หลังจากพ่อบ้านออกไปแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ก็โผเข้าไปในอ้อมกอดของอวี๋เยว่หาน แล้วถามด้วยความร้อนใจ
“พวกเราเป็นผู้สัตงเกตการณ์ ยังเกือบจะเข้าใจผิดแล้ว ถ้าให้ซ่างซินเห็นข่าวนี้ เธออาจจะไม่ทันคิดให้ละเอียดก็ได้!”
ยากที่ซ่างซินจะรวบรวมความกล้าไปหาถังหยวนซือ แต่ถ้าให้เธอเห็นข่าวแบบนี้ในเวลานี้ ผลลัพธ์จะไม่เท่ากับเกิดอาเภทเลยเหรอ
ถ้าถังหยวนซือยอมอธิบายก็ดี แต่ถ้าเขาไม่ยอมอธิบาย กลับยอมรับข่าวหมั้นนี้ อย่างนั้นจะทำอย่างไร
ไม่ได้การแล้ว เธอต้องโทรศัพท์หาซ่างซิน!
อย่างน้อยก็ให้อีกฝ่ายยืนยันสักหน่อย ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
เหนียนเสี่ยวมู่คว้าโทรศัพท์มือถือมาต่อสายหาซ่างซิน
ฝ่ายอวี๋เยว่หานกอดหญิงสาวเอาไว้ เห็นท่าทางร้อนใจของเธอแล้ว เขาจึงไม่ได้ห้ามอะไร
ไม่นานก็ต่อสายติด
ในสายส่งเสียงอยู่นานแล้ว ถึงจะมีคนรับสาย
เธอรีบถามโดยไม่สนใจอะไร “ซ่างซิน คุณอยู่ที่ไหน ฉันจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้…”
ตอนที่ 432 พวกเขาคืนดีกันแล้วเหรอ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันอยู่กับถังหยวนซือ ถ้ามีธุระอะไร วันหลังค่อยว่ากันนะคะ” ซ่างซินพูดจบแล้วก็วางสายไป
เสียงของเธอเรียบนิ่งมาก ท่าทางไม่เหมือนว่ากำลังเสียใจอยู่
ครั้นได้ยินเสียง ‘ตู๊ดๆ’ ดังมาจากปลายสาย เหนียนเสี่ยวมู่กลับเป็นฝ่ายอึ้งงันไป ทว่ามือก็ยังถือโทรศัพท์มือถืออยู่
ซ่างซินเจอถังหยวนซือแล้วเหรอ
แล้วข่าวงานหมั้นนั่นเกิดขึ้นได้อย่างไร
อวี๋เยว่หานใจเย็นมาก เขารับโทรศัพท์มือถือมาจากเหนียนเสี่ยวมู่ ก่อนจะโอบไหล่เธอเดินขึ้นไปชั้นบน
“บนโลกนี้คงม่มีใครเป็นห่วงซ่างซินไปมากกว่าถังหยวนซือแล้ว เธอไม่เป็นไรหรอก”
“แต่ว่า…” เหนียนเสี่ยวมู่ยังอยากพูดต่อ ทว่าพอเงยหน้าขึ้น อยู่ๆ เธอก็พบว่าตัวเองถูกเขาพากลับมาที่ห้องแล้ว ทำเอาเธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว!
หญิงสาวหมุนตัวเตรียมจะวิ่งหนี แต่ประตูห้องกลับปิดลงเสียแล้ว
อวี๋เยว่หานกอดอก พลางพิงอยู่ข้างประตู แถมยังเลิกคิ้วมองเธอด้วย
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
อีกด้านหนึ่ง
ซ่างซินวางสายไปแล้ว ก่อนจะเก็บโทรศัพท์มือถือเย็นเฉียบเข้าไปในกระเป๋า
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองถังหยวนซือที่อยู่ตรงหน้า
ตั้งแต่เธอพูดประโยคนั้นจบ เขาก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรมาโดยตลอด
เขาเอาแต่จ้องมองเธอด้วยสายตาเฉยชา ราวกับอยากจะมองร่างกายเธอให้ทะลุปรุโปร่ง เพื่อดูว่าในใจของเธอคิดอะไรอยู่กันแน่…
แม้แต่ตอนที่เธอก้มลงเก็บโทรศัพท์มือถือขึ้นมารับสายของเหนียนเสี่ยวมู่ สีหน้าของเขาก็ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด
มีแต่ดวงตาของเขาที่เย็นชายิ่งขึ้น พร้อมทั้งฉายแววอันมืดมนที่ไม่เคยมีมาก่อน
ไม่รู้ว่าทั้งสองคนหยั่งเชิงกันนานเท่าไหร่แล้ว
เมื่อแน่ใจว่าคำพูดของซ่างซินเมื่อใครไม่ใช่การยั่วโมโห และไม่ใช่การล้อเล่น สายตาของเขาพลันมีความโมโหคุกรุ่นอยู่ข้างใน พร้อมกับกัดฟันอย่างแรง
“เธอโวยวายพอหรือยัง”
ทำไมเขาจะไม่ต้องการเธอ แถมยังไม่สนใจเธออีก
สำหรับเขาแล้ว เธอเป็นคนเดียวที่เขาอยากจะโอบอุ้ม และทุ่มเททุกอย่างเพื่อปกป้องไปตลอดชีวิต
“คุณไม่ยอมก็ช่างเถอะ งั้นฉันจะไปหาคนอื่น” ซ่างซินทำปากจู๋ ก่อนจะชำเลืองมองเขาครั้งหนึ่ง แล้วหมุนตัวเตรียมจะจากไป
ทันทีที่หญิงสาวก้าวขาออกไป ถังหยวนซือก็ยื่นมือไปคว้าเธอไว้
“เมื่อกี้เธอว่ายังไงนะ”
อะไรคือการที่บอกว่าจะไปหาคนอื่น เธอคิดจะทำอะไรกันแน่!
ถังหยวนซือรู้ว่าตัวเองไม่เหมือนเด็กทั่วไปมาตั้งแต่เล็ก เขาไม่มีพ่อแม่ เป็นแค่เด็กกำพร้าคนหนึ่ง
ในสถานรับเลี้ยงเด็กมีคนที่น่าสงสารเหมือนกับเขาเยอะแยะมากมาย
ขอเพียงใช้ชีวิตต่อไปได้ ก็ไม่มีใครสนใจความสุขหรือทุกข์ของเขา ดังนั้นเขาจึงโดดเดี่ยวยิ่งกว่าใครๆ
จะสุขหรือทุกข์อาจไม่ใช่เรื่องสำคัญ
มีเพียงเธอ ทุกการกระทำของเธอสร้างสีสันให้เขาได้
และทำให้เขาโมโหได้ง่ายๆ ด้วย!
เมื่อซ่างซินได้ยินคพูดของเขา เธอพลันแค่นหัวเราะออกมาเสียงหนึ่ง “ไม่อยากให้ฉันเกาะแกะคุณแล้วไม่ใช่เหรอ คุณสนใจด้วยเหรอว่าฉันคิดจะทำอะไร”
เธอสะบัดมือเขาทิ้ง แล้วก้าวขาที่หนาวจนแข็งทื่ออยู่บ้าง หญิงสาวเดินไปยังริมทางอย่างยากเย็น ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถของตัวเอง
จากนั้นเธอก็ขับรถออกจากคฤหาสน์ตระกูลถังไป
ถังหยวนซือมองมือของตัวเองค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ พร้อมทั้งมองเงาร่างของเธอที่ค่อยๆ ลับสายตาไป ในหัวของเขามีคำพูดเมื่อครู่ของเธอฉายซ้ำอย่างไม่หยุดหย่อน…
ให้ตายเถอะ!
เขากำหมัดอย่างเงียบๆ ก่อนจะหมุนตัวไปที่รถ เพื่อขับรถตามเธอไปทันที!
หลังจากเห็นรถของซ่างซินจอกอยู่หน้าบาร์แห่งหนึ่ง คิ้วของถังหยวนซินพลัดเกี่ยวกันขึ้นมาทันใด
ชายหนุ่มจอดรถ แล้วเดินเข้าไปข้างในโดยไม่พูดพร่พทำเพลง
แต่เพิ่งเดินไปถึงหน้าบาร์ เสียงดนตรีดังโครมครามก็ดังลอดออกมาจากข้างใน
เสียงดังจนหูแทบบอด
แสงไฟส่ายไปทั่วบาร์ เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง บรรยากาศดูสนุกสนานมากทีเดียว
รัศมีความสูงส่งทั่วกาย และใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่นของถังหยวนซือ ดึงดูดสายตาใครหลายคนให้มองมาทางเขา
เขาไม่สนใจทำตัวเงียบๆ อีกต่อไป ชายหนุ่มเดินตรงเจ้าไปข้างใน เพื่อหาซ่างซินที่เข้าไปก่อนเขา