ตอนที่ 313 ถามว่าเขาชอบเธอหรือเปล่า
นายทุนผู้ชั่วร้าย กินคนไม่คายกระดูกจริงๆ!
พอคว้าโอกาสได้ ก็ใช้เธอเป็นทาส
แต่ทางฝั่งมิสเตอร์ลอมบาร์ดียังไม่มีข่าวคราวอะไร เธอต้องระมัดระวังปรนนิบัติ ‘เจ้าหนี้รายใหญ่’ ของเธออย่างดี
เหนียนเสี่ยวมู่พลันทำสายตาหวานเชื่อม ก่อนจะเดินไปข้างหลังเขา แต่เพิ่งจะยื่นมือไปนวดขมับให้เขา เขาก็คว้ามือของเธอไว้แล้ว
มือของเขาอุ่นอยู่นิดๆ
มือใหญ่กอบกุมมือเล็กของเธอไว้อย่างเบามือ มองจากมุมของเธอแล้ว นิ้วเรียวยาวเห็นกระดูกชัดเจนน่ามองจนทำให้ไม่อยากละสายตาไป
เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงไป
เอาแต่จับจ้องมือที่จับตนเองไว้อยู่เนิ่นนาน
ลำคอเริ่มตีบตัน อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
จนกระทั่งมองเห็นเขาวางมือของเธอไว้บนไหล่ของเขา
“เจ็บไหล่อยู่บ้าง นวดไหล่ให้ผมหน่อย”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
ต้องนวดไหล่และพูดกับเขาดีๆ
ไม่มีอะไรแล้วทำไมต้องจับมือของเธอด้วย!
มือนางฟ้า ลูบได้มั่วซั่วด้วยเหรอ
เมื่อครู่ทำเอาเธอเกือบจะทนไม่ไหว และเอ่ยปากถามเขาว่าชอบเธอหรือเปล่า!
เหนียนเสี่ยวมู่แอบแขวะอยู่ในใจ
ห้องหนังสือที่มีพวกเขาอยู่สองคนเงียบมากทีเดียว
ลมสดชื่นพัดผ่านขอบหน้าต่าง ทำให้ผ้าม่านเลิกขึ้นมา พร้อมทั้งมีแสงอาทิตย์ยามเย็นสาดเข้ามาด้วย
แสงสีส้มกระทบลงบนใบหน้าสมบูรณ์แบบของเขาพอดี ขับเน้นในมุมโค้งดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้น
เงาที่ทอดอยู่บนปลายจมูกทำให้เครื่องหน้าอันโดดเด่นของเขายิ่งสมส่วน
ขนอ่อนที่ปรากฏให้เห็นภายใต้แสงเงา ทำให้คนอยากจะยื่นมือไปลูบอย่างมาก…
เขาหลับตา รู้สึกสบายตัวเหลือเกิน
จนไม่สังเกตเลยสักนิด ว่ามีคนจ้องมองเขา จ้องจนกระทั่งลืมไปแล้วว่าตนเองทำอะไรอยู่
ในห้องเหลือเพียงเสียงหายใจของสองคน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดอวี๋เยว่หานก็รู้สึกถึงความผิดปกติ จึงลืมตาขึ้น แล้วหันหน้าไปมองข้างหลังของตนเอง
ดวงตาสองคู่ประสานกัน ในใจของเหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังลอบมองเขาวุ่นวายขึ้นมาในทันที!
เมื่อกังวลใจแบบนี้ มือยื่นออกไปแบบนั้นแล้ว จึงปิดตาของเขาเอาไว้!
พอรู้ตัวว่าคนเองทำอะไรอยู่ เธอก็รีบปล่อยมือ
ทำเอาเธอตกใจจนต้องถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
หญิงสาวยกมือขึ้นทั้งสองข้าง “คุณชาย ฉันไม่ได้ตั้งใจ…เมื่อกี้อยู่ๆ คุณหันมามองฉันอย่างนั้น ฉันก็เลยตกใจ…”
อวี๋เยว่หาน “…”
เขาแค่มองเธอเท่านั้น เธอทำอะไรลงไป ถึงได้ปอดแหกแบบนี้?
ชายหนุ่มมองเธอด้วยความสงสัย
“ครืดๆ…”
อยู่ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ขัดจังหวะบรรยากาศแปลกประหลาดระหว่างพวกเขาสองคน
เหนียนเสี่ยวมู่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง จึงเข้าไปใกล้ และกล่าวเตือน “คุณชาย ใช่ข่าวของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีหรือเปล่า”
“…”
อวี๋เยว่หานหลุบนัยน์ตาสีดำลง ก่อนจะยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปืดดู
คนที่โทรศัพท์มามีน้ำเสียงนอบน้อมมาก
“คุณชาย มีคนรายงานเรื่องที่สตูดิโอของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีแล้ว ที่ประตูโรงพยาบาลมีนักข่าวอยู่ไม่น้อย กว่าจะเจอพวกเขาก็ยากทีเดียว แต่ข่าวที่ได้มา บอกว่าเมื่อวานมิสเตอร์ลอมบาร์ดีให้คนติดต่อแผนกออกแบบของบริษัทตระกูลอวี๋ อธิบายเรื่องกะทันหันในครั้งนี้แล้ว”
เมื่อได้ยินดังนั้น นัยน์ตาของอวี๋เยว่หานพลันเคร่งขรึม แล้วมองเหนียนเสี่ยวมู่
หญิงสาวส่ายหน้าทันที “เป็นไปไม่ได้ พวกเราไม่ได้รับข่าวอะไรเลย!”
ถ้าแผนกออกแบบได้รับข่าว วันนี้ก็คงไม่รีบร้อนมาหาเธออย่างนั้น
เมื่อวานมิสเตอร์ลอมบาร์ดีให้คนติดต่อพวกเขา แต่ตอนนี้พวกเขายังไม่ได้รับข่าว ระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“อาการป่วยของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเป็นยังไงบ้าง ฉันขอพูดกับเขาหน่อยได้ไหม” เหนียนเสี่ยวมู่ร้อนรน จึงยื่นมือไปจับมือของอวี๋เยว่หาน ดึงโทรศัพท์มือถือในมือของเขามาตรงหน้าตนเอง
นิ้วมือเรียวจับมือของเขาเอาไว้แน่น…
ตอนที่ 314 เข้าใกล้ก่อน
มือของเธอเย็นนิดหน่อย
เธอสนใจแต่อาการของมิสเตอร์ลอมบาร์ดี จนไม่ได้สังเกตว่าเธอกำลังจับมือของเขาอยู่
นัยน์ตาสีดำของเขาวูบไหว แต่ไม่ได้ขยับตัว ปล่อยให้เธอจับอยู่อย่างนั้น
แม้กระทั่งเธอผ่านเขามาติดต่อกับอีกฝ่ายเองโดยตรง เขาก็ไม่ได้ห้าม
ในสายตาของเขานั้น มีความเอ็นดูและปล่อยให้เธอทำใจ โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัว
คนที่รับผิดชอบสืบข่าวคิดไม่ถึงว่าจะเปลี่ยนคนพูดคุยกับตน จึงลังเลอยู่หลายวินาที แต่อวี๋เยว่หานไม่ได้คัดค้าน จึงตอบ
“ตอนนี้ผมกำลังไปลองดู ว่าจะให้มิสเตอร์ลอมบาร์ดีรับสายเองได้หรือเปล่า”
“…ขอบคุณค่ะ”
เหนียนสี่ยวมู่เม้มปาก รอฟังข่าวอย่างร้อนรน
อยู่ๆ มือใหญ่ข้างหนึ่งก็กดลงบนหัวของเธอ
เธอตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาสีดำลุ่มลึกของอวี๋เยว่หาน อาการร้อนใจพลันสงบลงอย่างน่าประหลาด
“มิสเตอร์ลอมบาร์ดีต้องไม่เป็นอะไร ไม่ต้องกลัว”
เสียงมีเสน่ห์ของเขาดังเข้ามาในหูของเธออย่างชัดถ้อยชัดคำ
นอกจากการปลอบโยน ก็มีความมั่นคงด้วย
ราวกับขอแค่เขาพูด ก็ถูกต้องเสมอ
“อื้ม” เหนียนเสี่ยวมู่พยักหน้า จิตใจสงบลงเมื่อได้ยินเขาพูด
เธอรอฝั่งข่าวอยู่เงียบๆ
โชคดีที่ว่า ไม่นานนักมิสเตอร์ลอมบาร์ดีก็รับสาย
เขาพูดภาษาอิตาลีได้มาตรฐาน น้ำเสียงเหนื่อยอ่อนอยู่บ้าง “ขอโทษด้วยนะ ที่อยู่ๆ ก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นกะทันหันแบบนี้ ทำให้งานร่วมมือของพวกเราล่าช้า…”
“คุณโอเคไหมคะ” เหนียนเสี่ยวมู่ฟังเสียงของเขาออก จึงถามด้วยความร้อนใจอยู่บ้าง
เมื่อได้ยินดังนั้น มิสเตอร์ลอมบาร์ดีก็เงียบไปด้วยความประหลาดใจ
ผ่านไปนานทีเดียว ถึงจะยิ้มตอบว่า “ผมคิดว่าคุณจะกังวลเรื่องแผนงานที่ส่งไปให้พวกคุณไม่ทันก่อนเสียอีก”
“วางแผนก็เร่งด่วนค่ะ แต่ฉันเห็นคุณเป็นเพื่อน สุขภาพของเพื่อนสำคัญกว่าการร่วมมือของพวกเรา ดังนั้นคุณบอกอาการของคุณตอนนี้ให้ฉันฟังก่อนได้ไหมคะ” เหนียนเสี่ยวมู่พูดภาษาอิตาลีคล่องทีเดียว
เธอเงยหน้ามองอวี๋เยว่หานครั้งหนึ่ง แล้วพูดเสริมอีก
“ไม่ใช่แค่ฉัน ประธานบริษัทของพวกราก็เป็นคุณและทีมของคุณมาก คนที่ไปติดต่อคุณในครั้งนี้ เขาก็เป็นคนส่งไปด้วยตัวเอง ตอนนี้เขาอยู่ข้างๆ ฉันค่ะ”
มิสเตอร์ลอมบาร์ดียิ่งประหลาดใจเมื่อได้ยินเธอพูด
ในน้ำเสียงมีความซาบซึ้งเจืออยู่ด้วย
“ขอบคุณพวกคุณมากๆ ที่เป็นห่วง ดีที่ทุกคนรู้ตัวเร็ว ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว เมื่อวานกับวันนี้สตูดิโอวุ่นวายนิดหน่อย ผมให้ผู้ช่วยไปบอกพวกคุณทันที แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าทำไมพวกคุณถึงยังไม่ได้ข่าว เดี๋ยวผมจะให้คนไปถามให้แน่ชัด”
มิสเตอร์ลอมบาร์ดีพูดจบ ก็เหมือนจะหันหน้าไปพูดบางอย่างกับใครสักคน
ผ่านไปเกือบครึ่งนาที เขาถึงจะตอบเหนียนเสี่ยวมู่อีกครั้ง
“ขอโทษด้วยนะ เมื่อวานผู้ช่วยของฉันยุ่งอยู่กับการดูแลเพื่อนร่วมงานที่อาหารเป็นพิษคนอื่นๆ เลยลืมเรื่องที่ผมฝากฝังเขาไว้ เลยต้องทำให้พวกคุณกังวลใจ”
นั่นหมายความว่า ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ
ตอนนี้ติดต่อมิสเตอร์ลอมบาร์ดีได้แล้ว อย่างนั้นเรื่องการวางแผน…
เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันถาม มิสเตอร์ลอมบาร์ดีก็เอ่ยปากแสดงการขอโทษและความจริงใจ
“แผนงานใกล้จะเสร็จแล้ว ให้เวลาผมทำให้เสร็จอีกสักวันได้ไหม พรุ่งนี้ผมจะส่งไปที่อีเมลของคุณด้วยตัวเอง”
เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้ามองอวี๋เยว่หาน เห็นเขาไม่มีความเห็นอะไร จึงพยักหน้าทันที
“ได้ค่ะ”
ทั้งสองคนคุยกันอย่างมีความสุข หลังจากวางสายแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่พลันเงยหน้าขึ้น
“ในที่สุดก็แก้ปัญหาได้แล้ว คุณชาย ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณจริงๆ!”
เมื่อเธอพูดจบ ก็โผเข้าไปในอ้อมอกของอวี๋เยว่หาน กอดเขาด้วยความดีใจ!
อวี๋เยว่หาน “…”
คนในอกของเขายิ้มแป้น เหมือนเด็กที่กำลังมีความสุขคนหนึ่ง
บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา
กลิ่นหอมอ่อนๆ บนตัวเธอวนเวียนอยู่ที่ปลายจมูกของเขา