ตอนที่ 309 ความเป็นสุภาพบุรุษที่พูดไว้ล่ะ
“ขาดการติดต่อ?” นัยน์ตาสีดำของอวี๋เยว่หานพลันวูบไหว ก่อนจะมองเธอด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
“คุณก็เคยเจอมิสเตอร์ลอมบาร์ดีแล้วยี่ เขาเป็นคนดีขนาดนั้น ถ้ามีเรื่องอะไรก็จะบอกล่วงหน้าก่อน ไม่มีทางหายไปโดยไม่มีเหตุผล ฉันเป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“คุณเลยอยากให้ผมช่วยเหรอ” อวี๋เยว่หานตอบเธอ นัยน์ตาสีดำลุ่มลึกขึ้น
เหนียนเสี่ยวมู่ยิ้มสวยเหมือนดอกไม้ทันที ก่อนจะเข้าไปถูไถข้างตัวเขาอย่างเอาใจ
เลียนแบบท่าทางแอ๊บแบ๊วของเสี่ยวลิ่วลิ่ว
“คุณชาย ฉันรู้ว่าเรื่องแบบนี้เล็กเกินไปที่คุณจะลงมือทำ เหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน ทีแรกฉันจะบินไปอิตาลีด้วยตัวเอง แต่ถ้าหาคนช่วยไปสอบถามข่าวคราวสักหน่อย ติดต่อมิสเตอร์ลอมบาร์ดี ก็ไม่ต้องลำบากแล้วใช่ไหมล่ะ”
“…”
“ตอนนี้น่ะ ไม่ใช่แค่แผนกประชาสัมพันธ์ที่กำลังรอข่าว เพื่อนร่วมงานแผนกออกแบบก็รออยู่เหมือนกัน ทุกคนต่างก็ทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อบริษัทตระกูลอวี๋ เพื่อคุณชายหาน คุณทนเห็นทุกคนเป็นกังวลได้เหรอ”
เหนียนเสี่ยวมู่พูดจบก็มองเขาตาปริบๆ
มีเหตุผล แล้วก็ใช้อารมณ์ด้วย
เขาควรจะตอบตกลงใช่ไหม
อวี๋เยว่หานเลื่อนสายตาขึ้นชำเลืองมองเธอ
“นี่คืองานของพวกคุณ”
“…”
“พูดให้ถูกต้อง นี่เป็นงานของคุณด้วย คุณอยากให้ผมช่วยคุณโดยเร็วที่สุด ตามคำพูดเมื่อกี้ใช่ไหม”
“…”
ผู้ชายอบอุ่นใส่ใจ สุภาพบุรุษที่พูดไว้ล่ะ
เจ้าก้อนน้ำแข็งใจดำจริงๆ!
เหนียนเสี่ยวมู่กำหมัด เงยหน้ามองเขาทันใด “งั้นคุณจะให้ทำยังไง ถึงจะยอมช่วยฉัน”
เธอตามออกมาโต้งๆ แบบนี้ กลับทำให้อวี๋เยว่หานตะลึงไป
เมื่อเห็นดวงตาใสซื่อของเธอ เขาก็หลุบตาสีดำลง และขยับริมฝีปากบาง “ยังไม่ได้คิด คิดได้แล้วจะบอกคุณ”
“…”
ความหมายในคำพูดของเขา คือรับปากจะช่วยเธอแล้วใช่ไหม
แต่ถ้าเงื่อนไขหลังจากนี้เป็นเรื่องที่เธอทำไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไร
เรื่องแบบนี้ควรจะพูดให้ชัดเจนก่อนหรือเปล่า
เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะเตือนเยว่หาน เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ไม่รู้ว่าต่อสายหาใคร และบอกให้คนคนนั้นช่วยตรวจสอบที่อยู่ของมิสเตอร์ลอมบาร์ดี
เธอกลืนคำพูดที่อยู่ข้างปากลงไปอย่างเงียบๆ
ความจริงแล้วพูดให้ชัดเจนหรือไม่ เหมือนจะไม่ได้สำคัญขนาดนั้นแล้ว
กลับเป็นเธอที่ติดหนี้เขา
ไม่แน่ว่าผ่านไปนานแล้ว เขาอาจจะลืมไปแล้ว
หรือเธออาจจะปล่อยเลยผ่านเลยไปได้…
พูดอย่างไร สิทธิ์การกระทำก็อยู่ในมือของเธอ!
ความเจ้าเล่ห์ฉายชัดผ่านผ่านแววตาของเหนียนเสี่ยวมู่ พร้อมกับยิ้มเหมือนจิ้งจอกตัวหนึ่ง
เมื่อเงยหน้าขึ้น เธอก็ได้สบสายตากับดวงตาสีดำเฉียบคม
สายตาแหลมคมนั้น เหมือนมองทะลุความคิดของเธอได้ในทันที
ทำเอาเธอรีบนั่งตัวตรง “คุณชาย สีหน้าของคุณไม่ค่อยดีเลย เหนื่อยหรือเปล่า ฉันไม่พูดแล้ว ให้คุณพักสักหน่อยดีกว่า”
อวี๋เยว่หานยื่นมือไปนวดหว่างคิ้ว “เมื่อยนิดหน่อย คุณนวดให้ผมหน่อย”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
เธอทำปากจู๋ ขณะกำลังจะยื่นมือไปนวดขมับของอวี๋เยว่หาน ร่างกายของเขาก็เอนมาหาเธอ
ทันใดนั้นก็นอนลงบนตักของเธออย่างไม่ขัดขืน
และหลับตาลงเล็กน้อย
เสียงทุ้มต่ำของเขาเจือความเหนื่อยล้าอยู่บ้าง
“นวดอย่างนี้แล้วกัน แบบนี้สบายกว่า”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
เขาสบาย แต่เอาเปรียบเธอไปหมดแล้ว!
และเมื่อเช้าเธอเพิ่งมีความคิดลามก ตอนนี้เขานอนลงบนตักของเธอ จะไม่ยิ่งทำให้คนอยากทำผิดเหรอ
ตอนที่ 310 คุณนายอวี๋โชคดีจริงๆ!
ถ้าอีกเดี๋ยวเขาหลับไป เธออดใจไม่ไหว ลงมือทำอะไรเขาขึ้นมาจะทำอย่างไร!
“หืม?” อวี๋เยว่หานเห็นเธอนิ่งไป จึงลืมตาเหลือบมองเธอ
เหนียนเสี่ยวมู่รีบข่มหัวใจของตนเองที่กำลังเต้นโครมคราม แล้วนวดขมับให้เขาอย่างอ่อนโยน ค่อยๆ นวดให้เขาอย่างเบามือ
“ทำงานหนักมาเป็นเวลานาน ตอนนวดอาจจะไม่ค่อยสบาย คุณทนหน่อยนะ”
เธอแขวะกลับ ตอนที่นวดให้เขาจริงๆ เธอเห็นเขาเป็นคนไข้ที่ต้องการการดูแลของตนเองไปแล้ว
ท่าทางเป็นมืออาชีพ น้ำเสียงอ่อนโยนมาก
อวี๋เยว่หานก็ให้ความร่วมมือมาก ไม่ว่าเธอจะนวดอย่างไร เขาก็ไม่มีความเห็นทั้งนั้น
เขาหลับตา ราวกับหลับไปแล้ว
ใบหน้าหล่อเหลาล่มเมือง ท่าทางนอนหลับแบบนี้ แผ่ความน่าลุ่มหลงออกมาอย่างเงียบๆ ด้วย
แต่นอนหลับนิ่งๆ ก็ทำให้คนไม่อาจละสายตาแล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่นวดต่อไป พลางจ้องมองเขาโดยไม่รู้ตัว นิ้วมือเลื่อนจากขมับ ไปที่หว่างคิ้วของเขา…
“ขนคิ้วสวยจริงๆ”
“ตาก็สวยมาก”
“จมูกยังสวย”
“ปาก…” ขณะที่พูดนั้น นิ้วมือของเธอก็ลูบผ่านริมฝีปากบางของเขาโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกอ่อนนุ่มใต้ปลายนิ้วเหมอนมีกระแสไฟฟ้าระลอกหนึ่ง ส่งมาที่หัวใจของเธอ
เมื่อนึกได้ว่าพวกเขาเคยจูบกันโดยอุบัติเหตุอยู่หลายครั้ง เธอพลันรู้สึกใจหวิว
และอึ้งงันไป
ครั้นดึงสติกลับมาได้ เธอรู้ตัวทันทีว่าตนเองทำอะไรลงไป รู้สึกเพียงลำคอแห้งผาก
เธอเงยหน้ามองรอบข้างด้วยความไม่มั่นใจ เมื่อแน่ใจว่าคนขับรถไม่เห็นว่าเธอทำอะไร ถึงจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ
จากนั้นก็ตบหน้าอกอย่างยินดี
แต่เมื่อก้มหน้าลง เธอก็ได้สบสายตาจากดวงตาสีดำสนิทคู่หนึ่ง…
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
เขาตื่นเมื่อไหร่เนี่ย
ทำไมไม่มีเสียงเลย!
เมื่อครู่เธอลงไม้ลงมือกับเขา เขาเห็นหรือเปล่า
ในหัวของเหนียนเสี่ยวมู่เกิดคำทำเป็นพันเป็นหมื่นขึ้นมาภายในหนึ่งวินาที
ทุกคำถามทำให้เธอตกใจจนแทบจะผุดลุกขึ้นจากที่นั่ง
แต่สุดท้ายเธอก็เค้นคำพูดออกมาจากปากแค่คำเดียว “คะ คุณชาย คุณตื่นแล้ว บังเอิญจัง!”
หลังจากพูดจบ เธอก็อยากหยิกหูของตนเองสักครั้ง
พูดบ้าอะไรเนี่ย
นี่เหมือนกับทำผิดแล้วถูกจับได้ แต่ยังถามอีกฝ่ายว่ามาได้อย่างไรไม่มีผิด
อึดอัด
อึดอัดไปถึงบนฟ้าแล้ว
“เอี๊ยด” รถจอดแล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่หันหน้าไปมองนอกหน้าต่างครั้งหนึ่ง พบโรงเรียนอนุบาลที่พวกเขามาสำรวจครั้งก่อน
หญิงสาวยื่นมือไปเปิดประตูรถโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
และลงจากรถไปทันที!
“แหย่แล้วหนี ไม่รับผิดชอบอีกแล้วเหรอ” อวี๋เยว่หานลุกขึ้นนั่งตัวตรงจากบนที่นั่ง ก่อนจะยื่นมือไปจัดเสื้อผ้าบนตัวเล็กน้อย
นิ้วเรียวยาวลูบริมฝีปากบางที่เมื่อครู่เธออาลัยอาวรณ์…
ในนัยน์ตาสีดำตกตะกอนความรู้สึกที่ดูไม่ออก
พร้อมทั้งแสดงความอันตรายออกมาด้วย
ผ่านไปเนิ่นนาน เขาถึงจะข่มไฟที่ถูกเธอจุดขึ้นได้ และลงจากรถ
เขาก้าวเท้าเดินเข้าไปในโรงเรียนอนุบาล
แต่เพิ่งไปถึงประตูโรงเรียนอนุบาล เหนียนเสี่ยวมู่ก็อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วออกมาแล้ว
ข้างหลังยังมีคุณครูตามออกมาส่งพวกเขาด้วย
“คุณนายอวี๋วางใจเถอะค่ะ เสี่ยวลิ่วลิ่วเป็นเด็กดีมาก แล้วก็น่ารักมากด้วย เพื่อนร่วมชั้นชอบเธอกันทุกคน…” คุณครูพูด พลางหันไปเห็นอวี๋เยว่หานเดินเข้ามา รอยยิ้มจึงยิ่งชัดเจนกว่าเดิม
“คุณอวี๋รักคุณนายอวี๋ขนาดนี้ รับลูกก็ยังมาด้วยกัน คุณนายอวี๋โชคดีมากเลยค่ะ”
เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงไปเล็กน้อย “ไม่ใช่หรอกค่ะ ที่จริงฉันเป็นแค่…”
“ไปได้หรือยัง” เสียงเฉยชาดังขัดคำพูดของเธอทันใด
หญิงสาวเพิ่งเงยหน้าขึ้น อวี๋เยว่หานก็เดินมาตรงหน้าเธอแล้ว
จากนั้นก็รับเสี่ยวลิ่วลิ่วมาจากในอกของเธออย่างเป็นธรรมชาติ
เขายืนหันข้างหาเธอเล็กน้อย
ดูท่าทางเหมือนผู้ชายรักครอบครัวที่รักภรรยาและลูกสาวคนหนึ่ง!