ตอนที่ 293 เธอหายไปแล้ว!
เธอตัวสั่นไปทั้งตัว
แล้วยื่นแก้วไวน์คืนใส่มือของเฉินจื่อซิน
“ช่วงนี้ฉันแพ้ค่ะ ดื่มไวน์ไม่ได้!”
“…”
“ฉันจะไปหยิบน้ำผลไม้ค่ะ!” เหนียนเสี่ยวมู่หมุนตัววิ่งไปยังเคาท์เตอร์เครื่องดื่ม
ทิ้งเฉินจื่อซินถือแก้วไวน์แดงพร้อมใบหน้างุนงงเอาไว้
อวี๋เยว่หานกระตุกมุมปาก ก่อนจะรับไวน์แดงมาจากมือของบริกรด้วยความพอใจ แล้วจิบอย่างช้าๆ
สายตาของเขามองไปที่ตัวของเหนียนเสี่ยวมู่อยู่ตลอด
เขามองเธอถือแก้วน้ำผลไม้วิ่งไปที่ส่วนอาหาร คีบอาหารกองโต จากนั้นก็ไปหาที่เงียบๆ นั่งลงกินอย่างเอร็ดอร่อย
ปากเล็กๆ เคี้ยวอย่างรวดเร็ว ราวกับหนูแฮมสเตอร์
ท่าทางการกินเหมือนเสี่ยวลิ่วลิ่วไม่มีผิดเพี้ยน
เธอเหมือนจะมีความสุขกับเวลาที่ไม่มีใครบกวนมาก จึงกินเยอะเป็นพิเศษ
กินอาหารจานหลักเสร็จแล้ว ยังมีของหวานอีกหลายชิ้น
มีเพื่อนร่วมงานถือแก้วไวน์มาหาเธอ แต่เธอเพียงยกไวน์แดงขึ้นมาจิบคำเล็กๆ
หลังจากนั้นก็ดื่มน้ำผลไม้อย่างว่าง่าย และหลบมุมกินของหวานต่อไป
เฉินจื่อซินคิดจะเข้าไปหาเธออยู่หลายครั้ง แต่ก็ถูกเพื่อนร่วมงานคนอื่นมาชวนดื่มไวน์อยู่เรื่อง
เขาเป็นผู้รับผิดชอบงานของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้า เพื่อนร่วมงานจากในโครงการทุกคนต่างกำลังต่อแถวขอดื่มไวน์กับเขา ถ้าดื่มแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาต้องเมาแน่นอน
สถานที่ที่มีอวี๋เยว่หานอยู่ด้วย เขาเป็นจุดสนใจของทุกคนเสมอ
แต่ถึงแม้จะมีใครหลายคนอยากเข้าใกล้เขา แต่ก็ถูกกลิ่นอายความสูงส่งและเย็นชาจากตัวเขาทำให้หวาดหวั่นจนไม่กล้าเข้าใกล้
ทำได้เพียงแอบมองเขาอยู่ไกลๆ เท่านั้น
ดังนั้น จึงมีภาพอันน่าประหลาดใจเกิดขึ้นในงานเลี้ยง
เงาร่างสูงส่งของอวี๋เยว่หานพิงอยู่ข้างหน้าต่าง พลางถือไวน์แดงอย่างสุขุม ลิ้มรสของเครื่องดื่มเพียงลำพัง
รอบข้างเต็มไปด้วยเพื่อนร่วมงานของโครงการในครั้งนี้ ทุกคนต่างก็ถือแก้วไวน์ อยากจะเข้ามาขอชนแก้วด้วย แต่ก็ไม่กล้า…
มีเพียงเหวินหย่าไต้ที่เดินเข้าไปหาเขาอย่างสง่างาม ท่ามกลางสายตาจับจ้องของทุกคน
เธออมยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย “คุณชายหาน ฉันดื่มเป็นเพื่อนคุณสักแก้วไหมคะ”
“…”
อวี๋เยว่หานเพิ่งเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ยกแก้วไวน์แดงขึ้น ท่าทางเหมือนกับแอบดื่มอย่างไรอย่างนั้น เขายังไม่ทันมองให้ชัด สายตาก็ถูกใครบางคนบังเอาไว้ จึงขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบใจ
เขาหลุบตาสีดำลง มองไปยังเหวินหย่าไต้ที่อยู่ข้างหน้า
จากนั้นเขาก็ยกแก้วไวน์ขึ้นมองผู้จัดการสาวเล็กน้อย แล้วดื่มไวน์แดงในแก้วจนหมดเกลี้ยงในคราวเดียว
เหวินหย่าไต้ยังไม่ทันได้พูดอะไร เขาก็เอ่ยถามอย่างเย็นชา “มีเรื่องอะไรอีกไหม”
ท่าทางเฉยชากีดกันคนอื่นแบบนี้ อยู่ห่างออกไปหลายเมตรก็รู้สึกได้
ความอึดอัดฉายผ่านใบหน้าของเหวินหย่าไต้ รอยยิ้มบนนั้นก็แข็งทื่อไปแล้ว
แต่ท่าทางเย็นชาของอวี๋เยว่หาน ไม่ได้ทำให้เธอสะทกสะท้าน
ผ่านไปนานทีเดียว เธอึงจะตั้งสติ และยิ้มให้เขาอีกครั้ง “คุณชายหานคอแข็งจังเลยนะคะ ฉันนับถือจริงๆ”
เธอพูดพลางดื่มไวน์แดงในแก้วจนหมดเกลี้ยงเช่นกัน
ท่าทางกล้าได้กล้าเสียช่วยลดความอึดอัดลงไปได้เล็กน้อย
เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานไม่ได้ไล่เธอไปอีก สายตาของเธอพลันวูบไหว ก่อนจะยกมือสั่งบริกรให้รินไวน์ให้พวกเขาอีก จากนั้นก็เอ่ยปาก
“คุณชายหาน คุณบอกว่าอยากให้รางวัลเพื่อนร่วมงานสำหรับผลงานในครั้งนี้ไม่ใช่เหรอคะ ดื่มกับทุกคนสักแก้วดีไหมคะ”
เสียงของเหวินหย่าไต้ไม่มีความกกดดันเลย
และมันก็ดังเข้าไปในหูของทุกคนอย่างชัดเจน
เพื่อนร่วมงานรอบข้างได้ยินเธอพูดแล้วก็ตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย
แม้แต่คนของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่ง ก็ล้อมเข้ามาอย่างเร็วรี่ หลังจากมอมเฉินจื่อซินไปแล้ว
“คุณชายหาน พวกเราก็อยากดื่มกับคุณสักแก้ว…”
“คุณชายหานเป็นคนของพวกเรา พวกคุณแย่งไปไม่ได้!”
เพื่อนร่วมงานทั้งสองฝั่งเริ่มหยอกล้อกัน บรรยากาศพลันครึกครื้นในทันใด
มีเพียงสายตาของอวี๋เยว่หาน ที่เสาะหาเงาร่างของเหนียนเสี่ยวมู่อยู่ตลอด
เมื่อพบว่าเธอหายไปแล้ว สายตาของเขาก็มืดมนลง!
ตอนที่ 294 รองประธานเฉิน ตื่น!
เธอถือแก้วไวน์แดงหายไปไหนแล้ว
แอบดื่มตอนที่เขาไม่ได้สังเกตเหรอเนี่ย
พอคิดถึงความเป็นไปได้ในข้อนี้ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็หมองขึ้นทันที
“คุณชายหาน ทุกคนกำลังรอคุณอยู่นะคะ” เหวินหย่าไต้ยืนอยู่ข้างๆ อวี๋เยว่หาน ครั้นเห็นเขากำลังจะจากไป เธอก็รีบยื่นมือไปดึงแขนของเขาเอาไว้
หลังจากอวี๋เยว่หานกวาดสายตามอง เธอก็รีบปล่อยมืออีก
และถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยความกลัว
เธอกลืนน้ำลายอย่างแรง ก่อนจะหันไปมองเพื่อนร่วมงานรอบๆ
ทุกคนไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่พอเห็นเหวินหย่าไต้มองมาทางพวกเขา จึงพากันคิดว่าอวี๋เยว่หานตอบรับให้พวกเขาชนแก้วแล้ว และต่างก็ถือแก้วไวน์มาข้างหน้า
ทำให้อวี๋เยว่หานถูกกลุ่มคนล้อมอยู่ในทันที!
ในมุมของร้านอาหาร
เหนียนเสี่ยวมู่กำลังถือแก้วไวน์แดงหลบอยู่ข้างโต๊ะอาหาร แอบดื่มอย่างอารมณ์ดี
ดื่มจนใบหน้าเล็กๆ เป็นสีแดงระเรื่อ
อยู่ๆ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมา
เฉินจื่อซินส่งข้อความมา บอกว่ามีเรื่องด่วนอยากให้เธอช่วย ให้เธอไปหาเขาที่ห้องพักผ่อน
งานเลี้ยงก็ต้องดื่มเหล้าสิ
เฉินจื่อซืนเอาใจใส่มาก เขาเปิดห้องพักผ่อนไว้สองสามห้องชั้นบนร้านอาหาร หากมีเพื่อนร่วมงานดื่มจนเมาก็ขึ้นไปพักผ่อนไป หลับสักตื่นหนึ่งค่อยกลับ
แต่เขามีเรื่องด่วนอะไร ถึงขอให้เธอไปหาให้ได้ในเวลานี้
เธอถือโอกาสตอนที่อวี๋เยว่หานไม่ได้จ้องมองเธอ จะได้แอบดื่มไวน์สักเล็กน้อย
แต่พอคิดถึงข้อความของเขา และน้ำเสียงร้อนรน เหนียนเสี่ยวมู่ก็วางแก้วไวน์ลง ก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบน
หญิงสาวเดินไปหน้าห้องพักผ่อน ตามตำแหน่งที่บอกในข้อความ
ประตูห้องเปิดอ้าไว้ครึ่งหนึ่ง ข้างในห้องค่อนข้างมืด ดูไม่ออกว่ามีใครอยู่หรือเปล่า
เหนียนเสี่ยวมู่มองภาพตรงหน้า พลางขมวดคิ้ว
และหยุดฝีเท้าลงในทันที
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากในกระเป๋า ขณะที่กำลังโทรศัพท์หาเฉินจื่อซิน อยู่ๆ ไหล่ของเธอก็ถูกดันอย่างแรง จนตัวทุ่มถลาไปข้างใน!
ทันใดนั้นประตูห้องก็ปิดลง!
หลังจากมีเสียงดัง ‘ปัง’ ก็มีเสียงล็อกประตูตามมาด้วย
เหนียนเสี่ยวมู่ถูกดันติดอยู่กับผนัง เพิ่งยืนได้มั่นคง ก็พบว่าเปิดประตูห้องไม่ได้เสียแล้ว
ครั้นหันกลับไปมองในห้อง ก็มีเพียงเฉินจื่อซินที่ดื่มจนเมามายเพียงคนเดียว!
เสื้อนอกบนตัวของเขาหายไปแล้ว ท่อนบนของเขาเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตบางๆ
เขานอนกางแข้งกางขาอยู่บนเตียง ข้างกายไม่มีโทรศัพท์มือถือ ดูท่าทางไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น…
เหนียนเสี่ยวมู่สงบสติอารมณ์ และรู้ทันทีว่ามีคนกำลังเล่นตลก
เธอเดินไปข้างหน้า ยกมือขึ้นตีหน้าของเฉินจื่อซิน
“รองประธานเฉิน ตื่น!”
เฉินจื่อซินดื่มมากไปแล้ว จึงนอนหลับสนิท อยู่ๆ ถูกตบแบบนี้ จึงเด้งตัวขึ้นจากบนเตียงด้วยความตกใจ
เมื่อเขาเห็นเธอ ก็ตะลึงไปหลายวินาที ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้เธออย่างโง่งม
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ผมฝันเห็นคุณด้วย!”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
เธอหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำ ถือน้ำแก้วหนึ่งออกมา แล้วสาดบนหน้าของเฉินจื่อซินอย่างไม่ไว้หน้า
“รีบตื่นเดี๋ยวนี้ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
ถูกน้ำเย็นเฉียบแก้วหนึ่งสาดลงบนหน้าในฤดูหนาวแบบนี้ ทำเอาเฉินจื่อซินหนาวจนตัวสั่นไปหมด!
เขากอดอก และหมุนตัวอยู่ที่เดิม
หลังจากเห็นเหนียนเสี่ยวมู่กำลังทำหน้าเคร่งอยู่ตรงหน้า เขาก็หันไปมองรอบๆ อีก ก่อนจะค่อยๆ ตื่นขึ้น ใช้เวลานานทีเดียว
เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้น และเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นครับ” ไม่นานเฉินจื่อซินก็ถอดเสื้อผ้าเปียก พันผ้าขนหนูเดินออกมาจากในห้องน้ำ
เหนียนเสี่ยวมู่หน้าดำคร่ำเครียด จากนั้นก็ยื่นข้อความที่ได้รับในโทรศัพท์มือถือให้เขาดู “คำถามนี้ฉันควรเป็นคนถามคุณมากกว่า”
เฉินจื่อซินหน้าเปลี่ยนสีทันที “ผมไม่ได้ส่งข้อความนี้”