ตอนที่ 191 บอกนัยๆ
ยังมีงานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำหนดไว้สัปดาห์หน้าอีก…
หากคิดแบบนี้ เธอยังมีงานอีกเยอะทีเดียว
“คุณชาย ฉันยุ่งมากนะ!” เหนียนเสี่ยวมู่นึกอะไรขึ้นได้ จึงมองชายหนุ่มตรงหน้าตาปริบๆ ราวกับได้ความดีความชอบ
เธอลืมไปได้อย่างไร
การร่วมมือที่เธอเจรจาให้ซ่างซินตกลงได้ แม้จะมีอวี๋เยว่หานช่วยเหลือ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ก็ต้องยกความดีให้บริษัทตระกูลอวี๋ ทำให้เขาได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย
หรือว่าจะไม่มีของรางวัลอะไร
หญิงสาวกลัวว่าอวี๋เยว่หานจะฟังไม่รู้เรื่อง เธอจึงแสร้งทำหน้าตาน่าสงสาร “ไม่ใช่แค่ยุ่งมากนะ แต่ยังเหนื่อยมากด้วย คุณก็เห็นนี่นา ว่าฉันต้องทำงานในวันหยุดด้วย น่าสงสารมากเลย”
บอกเป็นนัยๆ แบบนี้น่าจะชัดเจนแล้วมั้ง?
ถ้าเขาใจดี ก็ควรจะเห็นอกเห็นใจพนักงานใหม่อย่างเธอด้วย
เธอไม่ต้องการคำปลอบโยนอะไร แค่ให้เงินสักหน่อยก็พอแล้ว…
เหนียนเสี่ยวมู่คิดพลางยิ้มกริ่ม ดวงตาสดใสขึ้นมา แถมยังนั่งเรียบร้อยเหมือนลูกสุนัขที่กำลังรอเจ้าของมาให้อาหาร
แล้วอวี๋เยว่หานก็ให้อาหารเธอจริงๆ
เขาคีบเนื้อชิ้นหนึ่งให้เธอ เหมือนกับที่ทำให้เสี่ยวลิ่วลิ่วเมื่อครู่ “กินเยอะๆ หน่อย กินอิ่มถึงจะมีแรงทำงาน”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
แค่นี้เหรอ
แค่เนื้อชิ้นเดียว ก็ปล่อยเธอไปแล้วเหรอ
เนื้อชิ้นของเสี่ยวลิ่วลิ่วใหญ่กว่าของเธออีก…เหอะ! เธอจะเทียบอะไรกับเสี่ยวลิ่วลิ่วได้
แถมเธอก็ไม่ใช่เด็ก ที่เขาต้องเอาของกินมาล่อนะ!
“คุณชาย…”
“เปลี่ยนใจแล้วเหรอ อยากไปกับพวกผมแล้วล่ะสิ?” อวี๋เยว่หานอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วขึ้น ก่อนจะเหลือบมองเธอครั้งหนึ่ง
เหนียนเสี่ยวมู่กลืนคำพูดที่กำลังจะออกจากปากในทันใด
จากนั้นก็โบกมือน้อยๆ “คุณชายค่อยๆ เดินนะ!”
เมื่อเห็นเงาร่างของสองพ่อลูกหายไปจากประตู เธอถึงจะคว้ามือของตัวเองมาใช้มีดตัดให้ขาด
จบกัน
แค่ถูกมองครั้งเดียวก็กลัวเสียแล้ว
อุตส่าห์พูดไว้ดิบดี ว่ากล้าหาญอุทิศตนได้เพื่อเงินไม่ใช่เหรอ
ตอนนี้จบกันแล้ว ทำงานนอกเวลาแล้วยังไม่ได้ค่าล่วงเวลาอัก น่าเวทนาเสียเหลือเกิน!
เหนียนเสี่ยวมู่กินดื่มจนอิ่ม ความอึดอัดภายในใจถึงจะบรรเทาลงมาได้บ้าง เธอกลับไปที่ห้อง ถึงเวลาที่นัดไว้กับซ่างซินแล้ว
หลังจากเปิดคอมพิวเตอร์ ต่ออินเทอร์เน็ต เธอก็เปิดขั้นตอนของงานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ซ่างซินดู
“เนื่องจากเราเริ่มดำเนินตามประกาศช่วงก่อนไปแล้ว ตอนนี้เหลือแต่รองานปล่อยผลิตภัณฑ์ และประกาศพรีเซ็นเตอร์ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าอย่างเป็นทางการค่ะ” เหนียนเสี่ยวมู่อธิบายให้ซ่าวซินฟังอย่างเป็นมืออาชีพ เมื่อพบว่าอีกฝ่ายอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก เธอก็อดถามขึ้นมาไม่ได้
“มีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่าคะ”
“เขาไม่ติดต่อฉันมาเลย…” ได้ยินเหนียนเสี่ยวมู่ถามแล้ว สีหน้าของซ่างซินยิ่งแย่กว่าเดิมอีก เธอกำลังกัดริมฝีปาก พร้อมกับก้มหน้า
ข่าวที่เธอรับง่ายพรีเซ็นเตอร์แพร่สะพัดออกไปแล้ว
ด้วยเครือข่ายข่าวสารของถังหยวนซือ เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่รู้
เดิมทีนางแบบสาวคิดว่า เขาได้ยินข่าวนี้แล้วจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และอาจจะใจร้อนมาหาเธอ และพาเธอกลับไปขังไว้ด้วยซ้ำ
แต่ผ่านไปตั้งหลายวันแล้ว เขากลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยสักนิด
ราวกับว่า…เขาไม่สนใจเธอเลย
“คุณว่าเขาจะไม่ติดต่อฉันมาอีกเลยหรือเปล่าคะ” ซ่างซินพูดถึงตรงนี้ ขอบตาของเธอก็แดงก่ำขึ้นมาทันที
ทำเอาเหนียนเสี่ยวมู่รู้สึกเจ็บหัวใจไปหมด
คนสวยขนาดนี้ กำลังร้องไห้อยู่ต่อหน้าเธอ
อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย เธอก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน
“คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไปนะคะ โทรศัพท์มือถือที่บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าทำขึ้นมาเป็นพิเศษ จะถูกส่งไปที่บริษัทตระกูลถังในวันงานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ ถึงตอนนั้นก็คงจะรู้คำตอบแล้วค่ะ”
เหนียนเสี่ยวมู่ปลอบใจอีกฝ่าย ครั้นเห็นซ่างซินอารมณ์ดีขึ้น ถึงจะพูดเรื่องงานต่อ
ขณะที่ยืนยันแผนงานวันปล่อยผลิตภัณฑ์กับนางแบบสาวและผู้จัดการของเธอเสร็จแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ก็เตรียมตัวจะออฟไลน์
“เสี่ยวมู่มู่ คุณมีคนที่ชอบไหมคะ”
ตอนที่ 192 คนที่เธอชอบ
คำถามนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เหนียนเสี่ยวมู่จึงอึ้งงันไปทันที
“ฉันได้ยินเรื่องเกี่ยวกับคุณและคุณชายหานอยู่บ้าง เลยอดซุบซิบไม่ได้…” ซ่างซินยังพูดไม่จบ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ตกใจจนต้องเด้งตัวขึ้นจากเก้าอี้แล้ว
“ก้อนน้ำแข็งนั่นเหรอคะ คุณอย่าล้อเล่นกับฉันเลยค่ะ! ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่อีกหลายปี”
ซ่างซินหัวเราะกับปฏิกิริยาโอเวอร์ของเธอ “ขนาดนั้นเลยเหรอคะ คุณชายหานเป็นคุณชายอันดับหนึ่งของเมืองเอช แถมยังหล่อเหลาสง่างาม ผู้หญิงที่อยากแต่งงานกับเขาต่อแถวกันตั้งแต่หัวถนน ยาวไปถึงท้ายถนนแล้วล่ะค่ะ”
“พวกที่ต่อแถวต้องไม่คิดว่าเขาจะมีนิสัยขี้โมโหแน่ๆ เลยค่ะ นอกจากหน้าตาแล้ว ทั้งตัวเขาไม่เห็นมีอะไรดีเลย ใครเคยลองก็รู้ค่ะ…” เหนียนเสี่ยวมู่พูดถึงอวี๋เยว่หานแล้ว ก็พูดจ้อไม่ยอมหยุด
ขณะที่กำลังพูดอย่างออกรสออกชาติ อยู่ๆ เธอก็หนาวสันหลังวาบขึ้นมา
จากนั้นเธอก็พบว่าสีหน้าของซ่างซินผิดปกติไปบ้าง
แต่เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันได้ถามอะไร ซ่างซินก็พูดกับเธอเร็วๆ ว่า “ไว้คุยกันวันหลังนะคะ” แล้วก็ออฟไลน์ไปในทันที
เห็นผีเหรอ ถึงได้รีบร้อนขนาดนี้
หลังจากเธอปิดคอมพิวเตอร์และกลับหลังหันไป เธอก็ได้เห็นอวี๋เยว่หานอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วด้วยสีหน้าดำคล้ำอยู่ข้างหลังเธอ
ท่าทางเตรียมลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ของหญิงสาวแข็งทื่อไปในทันที!
นับว่าเธอเข้าใจแล้ว แววตาสุดท้ายก่อนที่ซ่างซินจะปิดวิดีโอคอลไปหมายความว่าอะไร
นั่นหมายความว่าขอให้เธอโชคดีอย่างไรล่ะ!
พูดจาให้ร้ายประธานบริษัทลับหลัง แถมยังถูกจับได้คาหนังคาเขาอีก เธอจะทำอย่างไรดี
แต่เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันคิดได้ว่าตัวเองควรมีปฏิกิริยาอย่างไร อวี๋เยว่หานก็หมุนตัวจากไป พร้อมกับใบหน้าคร่ำเคร่ง
“คุณชาย…” เธอดึงสติกลับมา แล้วรีบร้อนตามไป อยากจะอธิบายให้เขาเข้าใจ
ทว่าเพิ่งเดินมาถึงห้องรับแขก ก็เห็นเขาส่งเสี่ยวลิ่วลิ่วให้พ่อบ้าน แล้วหมุนตัวเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ข้างนอก
ดูท่าทางเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก
เหนียนเสี่ยวมู่วิ่งไปข้างหน้า ขณะกำลังสับสนอยู่ว่าต้องเอ่ยปากขอโทษอย่างไรดี สายตาของก็กวาดมองมาที่เธอ จากนั้นก็สั่งคนขับรถให้ออกรถไปพร้อมกับใบหน้าไร้อารมณ์
จากไปต่อหน้าต่อตาเธอ…
สองสามวันหลังจากนั้น เหนียนเสี่ยวมู่เหมือนมีชีวิตอยู่ในโลกน้ำแข็ง
เธอคิดหาโอกาสขอโทษอวี๋เยว่หานอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ถูกเมินเฉน
หลังจากซ่างซินตกลงเป็นพรีเซ็นเตอร์ แผนงานของบริษัทแทคโนโลยีเซิ่งต้าก็เริ่มอย่างเป็นทางการ
เหนียนเสี่ยวมู่วุ่นวายอยู่กับแผนงานในมือ จึงไม่ได้สนใจเรื่องอื่นเลย
“ยืนยันรายชื่อแขกผู้มีเกียรติอีกครั้ง ดูว่ามาครบหรือยัง”
“คนหนึ่งไปดูหน่อย ที่นั่งของนักข่าวจัดเตรียมไว้หรือยัง ข่าวงานปล่อยผลิตภัณฑ์ต้องดังเปรี้ยงนะ…”
“ต้องมีคนคอยจับตาดูในงานด้วย มีอะไรเกิดขึ้นให้มารายงานฉันทันที…”
งานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าในวันนี้ เหนียนเสี่ยวมู่ยุ่งหัวหมุนเหมือนลูกข่างตั้งแต่เช้าตรู่
เมื่อเห็นแขกผู้มีเกียรติทยอยมาถึงสถานที่จัดงานอย่างต่อเนื่อง เธอก็อดมองหาอวี๋เยว่หานในกลุ่มคนเหล่านั้นไม่ได้
แต่ลองหาดูแล้วกลับไม่พบเขาเลย
น่าจะยังมาไม่ถึง
เหนียนเสี่ยวมู่ทำปากจู๋ แล้วเดินกลับไปยังหลังเวที อันเป็นสถานที่พักผ่อนของพนักงาน ก่อนจะรินน้ำให้ตัวเอง
หญิงสาวเพิ่งจะเตรียมดื่มน้ำ ก็เห็นเพื่อนร่วมงานทีมดูแลแขกพุ่งเข้ามา “ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนคะ จนถึงตอนนี้แล้วซ่างซินยังมาไม่ถึงเลย ฉันติดต่อผู้จัดการของเธอแล้ว แต่โทรไม่ติดเลยค่ะ”
“อาจจะรถติดระหว่างทางก็ได้ อย่าเพิ่งร้อนใจไป ฉันมีเบอร์มือถือของซ่างซิน เดี๋ยวฉันจะถามให้นะ”
เหนียนเสี่ยวมู่รีบวางแก้วลง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
เธอต่อสายได้อย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่มีคนรับสาย
แต่ยังไม่ทันโทรศัพท์ไปเป็นรอบที่สอง ผู้จัดการของซ่างงซินก็โทรศัพท์กลับมาแล้ว
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน แย่แล้วค่ะ ซ่างซินหายตัวไป!”