บทที่ 30: รุ่งอรุณ
ฉีมี่ตอนนี้สวยงามอย่างมาก การปรากฏตัวของมันควรอยู่ในอันดับต้นๆแม้กระทั่งในกลุ่ม นกชั้นสูง
ฉีมี่มองไปที่ขนนกสีฟ้าของมันและจ้องมองอย่างว่างเปล่าเป็นเวลานานก่อนที่มันจะกระโดดขึ้นไปที่หูของหลินหยวนและเริ่มร้องเพลงอย่างมีความสุข
เสียงร้องของฉีมี่ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เสียงร้องเพลงของฉีมี่อยู่ในระดับมาตรฐานของคอนเสิร์ตฮอลล์ในอดีต แต่ตอนนี้เสียงร้องของมันเหมือนกับเพลงของ ทอร์นเบิร์ดในตำนาน (***สาระน่ารู้คู่คนไทย Thorn Bird คือชื่อนกชนิดหนึ่ง ที่มีเสียงร้องอันไพเราะเพราะพริ้งที่สุดในโลก เป็นนกที่ชอบเอาหนามของต้นไม้มาทิ่มแทงตัวเองจนตาย…ชอบความเจ็บปวด ยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งเปล่งเสียงของความเจ็บปวดอันไพเราะออกมา)
การเปลี่ยนแปลงโทนเสียงทุกครั้งเป็นเหมือนการสรรเสริญชีวิต เสียงใสเหมือนไซเรน เหมือนบทกวีของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ในจักรวาล (****สาระน่ารู้อีกแล้ววว ไซเรน ตามตำนานเป็นนางเงือกที่ร้องเพลงได้ไพเราะมากและนางจะล่อลวงกะลาสีเรือด้วยเสียงอันไพเราะเพื่อนำไปกินจุ้บจิ้บเหลือแต่กระดูกค่ะ )
นี่คือความสามารถในการใช้เสียงร้องเพลงขั้นสุดยอด
นี่อาจเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะของฉีมี่ในฐานะซาวนด์เบิร์ดเนื่องจากเป็นซาวน์เบิร์ดชั้นสูงเพียงตัวเดียวในประวัติศาสตร์
เมื่อเทียบกับการร้องเพลง หลินหยวนให้ความสำคัญกับประเภทของฉีมี่
ฉีมี่ไม่ได้เป็นเพียงประเภทเสียงเพียงอย่างเดียวหลังจากถึงระดับชั้นสูงเท่านั้นเนื่องจากตอนนี้มีสองประเภทคือ เสียงและฉี
หลินหยวนค่อนข้างกังวลว่าฉีมี่อาจเดินต่อไปตามเส้นทางเสียงและมันจะทำให้เส้นทางแคบลงเท่านั้น
ตอนนี้ได้พัฒนาเป็นประเภทเสียงและประเภทฉีแล้วมันจะขยายเส้นทางในอนาคตของ ฉีมี่ให้กว้างขึ้นอย่างแน่นอน
หลินหยวนเดินไปที่ทางเข้าและหยิบไม้กระดานที่เคยใช้ทดสอบพลังโจมตีของฉีมี่ออกมา เขากล่าวว่า “ ฉีมี่ใช้ทักษะเทอร์บูแลนซ์ทีสิ ”
เมื่อฉีมี่รับคำสั่งของหลินหยวนมันก็กระพือปีกทันทีและพลังงานที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยก็พุ่งออกมาจากร่างเล็กๆของมัน ทำให้เกิดการไหลเวียนของอากาศที่ปั่นป่วนและขยายออกจากร่างกายของฉีมี่
ทันทีหลังจากนั้น ฉีมี่ก็ควบคุมทักษะเทอร์บูแลนซ์และทุบมันที่กระดานไม้หนาหนึ่งเซนติเมตร
กระดานไม้ส่งเสียง ” หึ่ง ” ราวกับว่ามีบางสิ่งที่แหลมคมกำลังขูดมัน การไหลเวียนของอากาศที่ปั่นป่วนทำให้ขนาดของกระดานไม้หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ในที่สุดเมื่อมันหดลงเหลือหนึ่งในสามของขนาดขอบของกระดานไม้ก็กลายเป็นเศษไม้เพราะทักษะเทอร์บูแลนซ์
พลังโจมตีระดับชั้นสูงของฉีมี่นั้นไกลเกินกว่าพลังโจมตีระดับธรรมดา
หลินหยวนมองไปที่ฉีมี่อย่างพอใจและหยิบกระดานโลหะที่ใช้สำหรับชั้นวาง เขาเดินเข้าไปในลานและวางกระดานโลหะลงบนพื้น
“ ฉีมี่ใช้เทอร์บูแลนซ์อีกครั้งแล้วโจมตีกระดานโลหะนี้ ”
มันก็เหมือนเดิม แต่กระดานโลหะเพียงปล่อยเสียง ” ครึงง” หลังจากโดนเทอร์บูแลนซ์ โจมตี ไม่มีความเสียหายใดๆ
ในขณะนั้นฉีมี่ส่งเสียงร้องจิ๊บอย่างชัดเจนและมีการเจาะรูเล็กๆในกระดานโลหะ
จากนั้นเทอร์บูแลนซ์ก็พบเป้าหมายและพุ่งเข้าหารูเล็ก ๆ นั้นอย่างบ้าคลั่ง
กระดานโลหะถูกฉีกออกจากกันอย่างรวดเร็วด้วยเทอร์บูแลนซ์ เมื่อทักษะเทอร์บูแลนซ์สิ้นสุดลงหลินหยวนมองไปที่กระดานโลหะที่ถูกทำลายและยกนิ้วโป้งให้ฉีมี่
การผสมผสานระหว่างซาวนด์ทรัสและเทอร์บูแลนซ์เข้ากันได้ดีอย่างน่าประหลาดใจ
ซาวนด์ทรัสเป็นเหมือนอาวุธที่ซ่อนอยู่ซึ่งสามารถลอบโจมตีได้ในขณะที่เทอร์บูแลนซ์ส่วนใหญ่สร้างความเสียหายและผลการควบคุมที่สม่ำเสมอ
เมื่อฉีมี่ใช้ทักษะเทอร์บูแลนซ์มันจะไหลไปรอบๆตัวของฉีมี่ก่อนซึ่งมันใช้เป็นวิธีการป้องกันได้เช่นกัน มันสามารถช่วยฉีมี่ในการป้องกันการโจมตีที่ไม่สามารถหลบได้ทันเวลา
หลังจากได้รับคำชมจากหลินหยวนแล้วมันก็บินไปรอบๆสนามอย่างมีความสุขก่อนจะร่อนลงบนศีรษะของจีเนียสและกระโดดไปรอบๆดูเหมือนว่ามันกำลังบอกจีเนียสว่ามันยอดเยี่ยมแค่ไหน
วิวัฒนาการของจีเนียสและฉีมี่ทำให้หลินหยวนมีความมั่นใจมากขึ้น
ทันใดนั้นหลินหยวนก็นึกถึงบางสิ่งและพูดอย่างเงียบ ๆ “ แย่แล้ว ! ”
ตลอดเวลานี้เขาลืมเรื่องแมงมุมพ่นใยสองตัวไปแล้ว แมงมุมพ่นใยสองตัวน่าจะยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม !?
หลินหยวนรีบกลับเข้าไปในบ้านเปิดกล่องเก็บวิญญาณระดับชั้นสูงสองกล่องและพบว่าพวกเขานอนนิ่งอยู่ที่นั่น
หลินหยวนมีความคิดที่จะรักษาเฟย์ที่ตายแล้วราวกับว่ามันยังเป็นเฟย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาวางมือข้างหนึ่งบนแมงมุมพ่นใยแต่ละตัวและถ่ายโอนจิตวิญญาณ
ไม่กี่นาทีต่อมาแมงมุมพ่นใยทั้งสองก็ขยับขาเล็กน้อย หลินหยวนรู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าพวกเขายังไม่ตาย
อย่างไรก็ตามหากเขาช้าไปกว่านั้นพวกเขาอาจเสียชีวิตไปแล้ว
หลินหยวนไม่รีบร้อนที่จะพัฒนาระดับของแมงมุมพ่นใยทั้งสองตัว เขาได้ตัดเถาวัลย์ของอัสเนียร์ชั้นสูงออกไปสองสามต้นและป้อนพวกมันให้กับแมงมุมพ่นใย
แมงมุมที่พ่นใยนั้นกินไม่ได้ทุกอย่าง พวกเขาอาจไม่ชอบกินเถาวัลย์อัสเนียร์แต่สารอาหารที่อุดมสมบูรณ์ในพวกมันนั้นดีที่สุดสำหรับการเติมเต็มความแข็งแกร่งของแมงมุมพ่นใยทั้งสองตัวในตอนนี้
แมงมุมพ่นใยสองตัวกินเถาวัลย์อัสเนียร์ชั้นสูงห้าอันก่อนที่จะฟื้นคืนความแข็งแรง เมื่อพวกเขาฟื้นตัวหลินหยวนก็เริ่มพัฒนาพวกเขาจาก ชั้นสูง 10 / ชั้นเลิศ เป็น บรอนซ์ / ธรรมดา
หลินหยวนวางแผนที่จะพัฒนาให้เป็นระดับบรอนซ์ก่อนที่จะวางขายบนเคลือข่ายดวงดาวเขาไม่ได้วางแผนที่จะเพิ่มคุณภาพให้เป็นมหากาพย์
แม้ว่าพวกเขาจะพัฒนาขึ้นด้วยคุณภาพระดับมหากาพย์ แต่พวกเขาก็สามารถเลือกทักษะพิเศษเฉพาะที่ดีขึ้นได้หลังจากไปถึงระดับบรอนซ์ อย่างไรก็ตามเวลาและต้นทุนที่ลงทุนจะไม่คุ้ม
โดยปกติปรมาจารณ์นักสร้างจะผลักดันคุณภาพของเฟย์ชั้นสูงให้เป็นมหากาพย์เมื่อเป็นคำสั่งซื้อที่กำหนดมาเท่านั้น
หลังจากบรรลุคุณภาพระดับมหากาพย์แล้วลูกค้าจะนำเฟย์กลับไปและเสี่ยงโชคว่าทักษะพิเศษทั้งสามอย่างใดเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ
แม้ว่าคุณภาพของเฟย์ชั้นสูงจะเป็นระดับมหากาพย์เมื่อถึงระดับบรอนซ์ แต่ก็อาจไม่มีทักษะพิเศษที่น่าทึ่งในสามทักษะพิเศษนี้
เมื่อเทียบกับเฟย์ที่ถึงระดับบรอนซ์ที่มีคุณภาพชั้นเลิศโอกาสนั้นดีกว่าเพียงสามเท่า
สองชั่วโมงต่อมา แมงมุมพ่นใยสองตัวส่งเสียงคำรามที่น่ากลัวก่อนที่จะพัฒนาเป็นระดับบรอนซ์ พวกเขามีรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน
ขาหลังตัวหนึ่งของแมงมุมพ่นใยยาวขึ้นและหน้าท้องก็ใหญ่ขึ้น ขาหลังสองข้างที่ยาวขึ้นเรียกอีกอย่างว่าขาทอ ทิศทางการวิวัฒนาการของแมงมุมพ่นใยนี้มุ่งไปสู่รูปแบบทางจิตวิญญาณ ขนาดของมันไม่ได้ใหญ่ขึ้น แต่ความสามารถในการพ่นและสานใยก็ดีขึ้น ทักษะพิเศษคือกาวใยแมงมุม ช่วยเพิ่มการยึดเกาะของใยแมงมุมและให้ความสามารถในการควบคุมที่ดีขึ้น
แมงมุมพ่นใยอีกตัวมีขนาดเพิ่มขึ้น 2 เท่าและสีเหลืองอมน้ำตาลเดิมมีสีเขียวจาง ๆ เห็นได้ชัดว่าทิศทางการวิวัฒนาการเป็นไปในเส้นทางบรรพบุรุษ แมงมุมพ่นใยตัวนี้ปลุกทักษะพิเศษ ไวโอเรนท์ เวน่อม มันให้พิษรุนแรงต่อร่างกายและใยแมงมุมด้วย มันเป็นทักษะเฉพาะตัวที่ค่อนข้างดีและแม้ว่ามันจะไม่ได้เพิ่มพลังในการควบคุม แต่มันก็เพิ่มความสามารถในการโจมตีของพิษ
หลินหยวนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจเนื่องจากแมงมุมพ่นใยทั้งสองนี้ควรจะขายได้ในราคาที่ดีบนเคลือข่ายดวงดาวทักษะพิเศษของแมงมุมพ่นใยทั้งสองนี้อาจไม่ได้ยอดเยี่ยม แต่ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ย
หลินหยวนพยายามที่จะพัฒนาแมงมุมพ่นใยที่คล้ายกันสองตัวให้เป็นระดับบรอนซ์ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงบอกว่าความหลากหลายของคุณสมบัติจะเพิ่มขึ้นหลังจากถึงระดับบรอนซ์
ทิศทางการวิวัฒนาการที่แตกต่างกันและทักษะพิเศษที่แตกต่างกันจะสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างเฟย์ชนิดเดียวกัน
ความหลากหลายดังกล่าวระหว่างการวิวัฒนาการทำให้หลินหยวนรู้สึกว่าวิวัฒนาการของเฟย์เป็นกระบวนการที่ยอดเยี่ยม ให้ความรู้สึกเหมือนการสร้างสรรค์และนวัตกรรมของชีวิต
วิวัฒนาการของแมงมุมพ่นใยทั้งสองทำให้หลินหยวนมีประสบการณ์และเข้าใจถึงความสำคัญของชีวิต
แสงแดดจากนอกหน้าต่างส่องเข้ามาในร้านเล็กๆและส่องมาที่ใบหน้าของหลินหยวน มันอาบร่างกายของหลินหยวนด้วยแสงอันอบอุ่น
การฉายแสงบนหลินหยวนทำให้ แมงมุมพ่นใยทั้งสองที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งสองรู้สึกว่ามันเป็นเหมือนรุ่งอรุณ