บรรยากาศภายในเห้องไม้เล็ก ๆ เคร่มขรึมมาก ถึงขั้นที่ถังเฉาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ตึงเครียด
ความรู้สึกตึงเครียดนี้มาจากเจียงไป๋เสว่ ดวงตางดงามทั้งคู่ของเธอจ้องไปที่ท่านเจ้ามังกรอย่างแน่วแน่ ในดวงตามีความโกรธ มีความไม่เชื่อถือ จากนั้นสายตาทั้งหมดเหล่านี้ก็เปลี่ยนเป็นการซักถาม
ถังเฉารู้เหตุผลที่เจียงไป๋เสว่หวั่นไหวขนาดนี้
หลี่เห้าเป็นคู่หมั้นของเธอ หายสาบสูญไปจากการไปปฏิบัติภารกิจเมื่อสามปีก่อน
ใคร ๆ ก็ล้วนแต่รู้ว่าถูกฝ่ายศัตรูจับไปเป็นเชลย แต่ว่าผู้บังคับบัญชากลับไม่ได้ส่งคนเข้าไปสืบค้น กลับบอกว่าตายในหน้าที่เพื่อปิดคดี
การตอบแทนด้วยความอยุติธรรมเช่นนี้ทำให้ใจของเจียงไป๋เสว่เดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง
นี่ก็เป็นเหตุผลที่เธอเลียนแบบถังเฉา ออกจากกองทัพปราณมังกร
ท่านเจ้ามังกรเงียบไปพักหนึ่ง จากนั้นก็มองตาของเจียงไป๋เสว่ด้วยสายตาใสกระจ่าง เอ่ยว่า “เธอยังเกลียดฉันอยู่”
เจียงไป๋เสว่หายใจติดขัด จากนั้นก็ช้อนตาขึ้นมองอย่างกล้าหาญ ประสานสายตากับท่านเจ้ามังกร
“ใช่ ฉันเกลียดคุณ”
“ไป๋เสว่…”
สีหน้าของถังเฉาเปลี่ยนไปเล็กน้อย บอกใบ้เจียงไป๋เสว่ไม่ให้พูดอะไรแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าเจียงไป๋เสว่จะสะบัดมือเขาทิ้ง แล้วมองท่านเจ้ามังกรต่อ
“ฉันกับถังเฉาเป็นลูกของคุณ หลี่เห้าเองก็เป็นลูกของคุณ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ตายไป กลับถูกประกาศคำตัดสินว่าตายไปแล้ว ท่านก็ไม่ได้โต้แย้ง นี่ไม่ได้เป็นการยอมรับผลการตายของหลี่เห้าแล้วหรอกหรือคะ?”
คำพูดวรรคนี้เป็นคำพูดที่ต้องการความกล้าหาญ
พูดจบดวงตาของเจียงไป๋เสว่ก็แดงก่ำ เล็บมือจิกเข้าไปในเนื้อ
มีแต่ความเจ็บแสบเท่านั้นที่สามารถทำให้สมองของเธอมีสติอยู่
เธอหวังว่าท่านเจ้ามังกรจะสามารถให้คำอธิบายกับเธอได้… นี่เป็นเป้าหมายสำคัญที่เธอมาที่นี่
ถังเฉาจนปัญญาจะพูดไกล่เกลี่ย เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นหนามยอกอกของเจียงไป๋เสว่ มันยังเป็นหนามในอกของเขาอีกเช่นกัน
เขาพูดโน้มน้าวไม่ได้ และก็ไม่มีสิทธิ์จะไปพูดโน้มน้าวเจียงไป๋เสว่
ท่านเจ้ามังกรเงียบไปเป็นเวลานาน บนใบหน้าชราภาพปรากฏรอยยิ้มและความอ่อนโยน ตบบ่าของเจียงไป๋เสว่
“ไป๋เสว่ เสี่ยวเฉา พวกเธอโตกันแล้วนะ”
นี่เป็นคำตอบที่ไม่เข้ากันเลยประโยคหนึ่ง
ถังเฉากับเจียงไป๋เสว่กลับฟังออกถึงความระทมทุกข์ที่ไม่มีทางเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง
ท่านเจ้ามังกรเงยหน้ามา มองไปยังท้องฟ้าที่ปกคลุมผืนดินที่ลมและฝนกำลังย่างกรายเข้ามาที่ด้านนอกหน้าต่าง ลมแรง ๆ พัดผมยาว ๆ ทั้งศีรษะของเขา ดูแสบตาขนาดนั้น
“เมื่อก่อนตอนที่เกิดเรื่องกับพวกเธอ ก็ล้วนแต่มาหาฉัน ตอนนี้พวกเธอไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว แต่กลับเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหาและค้นหาความจริงด้วยตัวเอง”
ถังเฉากับเจียงไป๋เสว่อ้าปากพะงาบ ๆ ดูเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็กลืนมันลงไปโต้ง ๆ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยากมากที่จะยอมรับ แต่ว่าท่านเจ้ามังกรแก่แล้วจริง ๆ
จอนผมของเขาหงอกแล้ว หางตาของเขาก็ค่อย ๆ ปรากฏริ้วรอย สันหลังของเขาเองก็ถูกอายุกดจนงองุ้ม
เมื่อก่อนไม่ยอมแก่ เพราะว่าเขาต้องฝึกอบรมลูกมังกรฝูงหนึ่ง
และในบรรดาของลูกมังกรกลุ่มนี้ ก็ทำอย่างที่สุดเพื่อถังเฉากับหลี่เห้า
ตามจากการที่หลี่เห้าหายสาบสูญไป ถูกตัดสินว่าตายไปแล้ว ก็เหลือเพียงถังเฉาคนเดียว
ถังเฉาเองก็ไม่ทำให้ท่านเจ้ามังกรผิดหวัง รับการถ่ายทอดจากท่านเจ้ามังกรอย่างราบรื่น
ในตอนนี้ท่านเจ้ามังกรถึงได้รู้ตัวว่าตนเองแก่แล้ว ยังอยู่ได้อีกไม่กี่ปีแล้ว
“ท่านเจ้ามังกร… ขอโทษค่ะ…”
เจียงไป๋เสว่ได้รู้ตัวแล้วว่าตนเองยั้งสติไม่อยู่ รีบก้มหน้าก้มตาขอโทษทันที
ในพริบตาที่เธอก้มหน้านั้นเอง ในที่สุดน้ำตาก็อดที่จะร่วงลงมาไม่ได้
เธอกัดริมฝีปากของตัวเองแน่น ไม่ให้ตนเองส่งเสียงร้องไห้ออกมา
ท่านเจ้ามังกรมองดูเจียงไป๋เสว่ ออกเสียงเอ่ยถามว่า “ไป๋เสว่ คนที่เธอเห็น เป็นหลี่เห้าจริง ๆ หรือ?”
พอคำนี้ลั่นออกมา ทั้งร่างของเจียงไป๋เสว่ก็สั่นสะท้าน แม้แต่ถังเฉาก็ยังเงยหน้าขึ้นมา
“หมายความว่าอย่างไรคะ?”
เสียงของท่านเจ้ามังกรทุ้มต่ำ “คนที่เธอเห็นเป็นแค่ร่างกายของหลี่เห้าหรือเปล่า แต่ท่าทีที่เขามีต่อเธอกลับดูเหมือนเป็นคนอีกคนหนึ่ง?”
ดวงตาของเจียงไป๋เสว่เบิกกว้างยิ่งกว่าเดิม ฉับพลัน เธอก็ไม่รู้ควรจะพูดอย่างไรโดยไม่ได้คาดคิด
“หลี่เห้าตายแล้วจริง ๆ คนที่พวกเธอเห็นเป็นคนอื่น”
ท่านเจ้ามังกรพูดด้วยน้ำเสียงอ่อน ๆ “มีบางคนที่มีชีวิตอยู่ เขาได้ตายไปแล้ว และมีคนบางคนที่ตายไปแล้ว เขายังคงมีชีวิตอยู่”
ถังเฉากับเจียงไป๋เสว่ได้ยินอย่างนั้นต่างก็จมอยู่ท่ามกลางความเงียบ
เห็นได้ชัดว่าวาทประโยคนี้ของจางเค่อเจียได้อธิบายสถานการณ์ของหลี่เห้าไปแล้ว
หลี่เห้าจะเป็นหรือตาย ยังสำคัญอยู่หรือ
ต่อให้มีชีวิตอยู่เขาก็กลับมาเป็นเหมือนในอดีตไม่ได้
น้ำตาใส ๆ สองสายไหลลงมาจากดวงตาของเจียงไป๋เสว่ ร้องไห้ออกมาอย่างเงียบงัน ในดวงตาทั้งคู่ นอกจากความรู้สึกสิ้นหวังแล้วยังมีความอาฆาตแค้นอยู่อีก
“ฉันจะแก้แค้น”
เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
ครั้งนี้ท่านเจ้ามังกรไม่ได้ขัดขวางเอาไว้ เอ่ยด้วยนัยน์ตาโศกเศร้าว่า “ไปทำเรื่องที่พวกเราคิดว่าถูกต้องเถอะ แต่พวกเธอจะต้องจำเอาไว้ว่าในเส้นทางสู่หายนะนี้ ศัตรูของพวกเธอยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งมาก”
ถังเฉาตาแข็ง “เป็นใครครับ?”
ถังเฉารู้แจ้งดีว่าศัตรูของพวกเขาก็คือองค์กร ‘หว่างเหลี่ยง’ แต่องค์กรนี้ลึกลับเกินไป จนกระทั่งตอนนี้ยังคงเป็นปริศนา
และคำพูดของท่านเจ้ามังกร ดูเหมือนว่าเขาจะรู้อะไรมาบ้าง
และยังมีหนึ่งจุดที่ถังเฉาสามารถยืนยันได้ว่า เบื้องหลังการตายและหายสาบสูญไปของหลี่เห้ายังมีคนในสำนักเมี่ยวถังที่ให้การส่งเสริมอยู่
‘เป็นใคร’ คำถามนี้ ที่ถามคือหว่างเหลี่ยง และก็เป็นศัตรูในสำนักเมี่ยวถังด้วยเช่นกัน
ระหว่างกำลังของทั้งสองฝ่าย ถังเฉาและเจียงไป๋เสว่เล็กกระจ้อยร่อยจนเหมือนเป็นสัตว์เลื้อยคลานสองตัวที่พร้อมถูกบีบตายเบา ๆ ได้ตลอดเวลา
ท่านเจ้ามังกรไม่ได้ตอบ เพียงแค่มองไปยังนอกหน้าต่าง
จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นมา ชี้ไปที่เทือกเขาที่ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตา เอ่ยถามว่า “ฉันถามพวกเธอว่าจุดสิ้นสุดของเทือกเขาคืออะไร?”
สีหน้าของถังเฉากับเจียงไป๋เสว่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ทันใดนั้นก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรอย่างคาดไม่ถึง
ควรจะตอบอย่างไร?
ภูเขา หมายถึงภูเขาจริง ๆ น่ะหรือ?
หลังจากเรื่องลึกลับซับซ้อนนี้ถูกเปิดเผย ความจริงจะถูกเปิดเผยได้จริง ๆ ใช่ไหม?
หรือว่าจะซับซ้อนยิ่งขึ้น?
คำถามนี้ได้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่มีคำตอบ
“ถ้ามีเวลาว่างไปกลับไปดูที่กองทัพปราณมังกรหน่อยเถอะ ถ้าหากไม่กลับไปอีกกองทัพปราณมังกรอาจจะต้องเลิกล้มแล้ว”
ท่านเจ้ามังกรเอ่ยขึ้นอีก
คำพูดประโยคนี้ก็ยิ่งทำให้รูม่านตาของถังเฉากับเจียงไป๋เสว่หดลง
“ใครจะล้มเลิกกองทัพปราณมังกร?”
เจียงไป๋เสว่รู้สึกตัวก็เอ่ยถามขึ้น แต่กลับถูกถังเฉาดึงเอาไว้
ดูเหมือนบนใบหน้าของถังเฉาจะปกคลุมด้วยเมฆครึ้ม ส่ายศีรษะให้กับเธอ บอกเธอเป็นนัย ๆ ว่าอย่าถามอีกต่อไป
จากนั้นถังเฉาก็เอ่ยขอบคุณต่อท่านเจ้ามังกร “ขอบคุณท่านเจ้ามังกรที่คลายข้อสงสัยครับ”
ท่านเจ้ามังกรพยักหน้า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว เช่นนั้นก็ไปเถอะ ฉันแก่แล้ว ยิ่งแก่ตัวไป เวลาทำธุระก็ยิ่งพะว้าพะวัง พวกเธอยังอายุน้อย ทั้งยังปลดประจำการกันหมดแล้ว ไม่ต้องแบกภาระอะไร”
ถังเฉากับเจียงไป๋เสว่เดินออกจากเรือนไม้ ค้อมกายน้อย ๆ ให้กับท่านเจ้ามังกร
ในตอนนี้หลินชิงเสว่ก็ซื้อเหล้ากลับมาแล้ว มองเห็นถังเฉากับเจียงไป๋เสว่ที่ทำท่าจะจากไปแล้วก็ตกตะลึงในทันที “ทำไมเหรอ? ฉันเพิ่งจะไปซื้อเหล้ากลับมา ทำไมถึงจะไปแล้วล่ะ?”
ถังเฉายิ้มแล้วเอาเหล้าเหล่านี้ส่งให้กับท่านเจ้ามังกร ยิ้มพลางเอ่ยว่า “เจ้ามังกร เหล้าพวกนี้ ค่อย ๆ ดื่มนะครับ”
“ได้… ได้…”
ท่านเจ้ามังกรยิ้มไม่หุบ “เจียเจียไม่ให้ฉันดื่มเหล้ามาโดยตลอด แทบทำฉันอดอยากปากแห้งแล้ว”
นิ่งอยู่พักหนึ่ง ท่านเจ้ามังกรก็กวักมือให้กับถังเฉา
“เสี่ยวเฉาเอ๋ย จะบอกความลับให้นายอีกข้อนะ…”
ถังเฉามาอยู่ข้าง ๆ ของท่านเจ้ามังกร เอาหูเข้าไปรับฟังใกล้ ๆ
เห็นเพียงท่านเจ้ามังกรเอ่ยเสียงเบาข้าง ๆ หูของเขา
“ฉันรู้ว่าค้างคาวคือใคร ชื่อของเขาก็คือ…”