“เฉียง! นายจะไม่แก้แค้นมันเลยงั้นเหรอ พวกเราไม่เคยเจอกับความสูญเสียครั้งใหญ่แบบนี้มาก่อน!”
“ใช่แล้ว เฉียง แขนของนายไม่สามารถกลับไปต่อให้เป็นแบบเดิมได้อีกแล้ว ฉันเกรงว่ามัน…”
สมุนทั้ง 2 คนถามจงเฉียงในขณะที่พวกเขาทั้งหมดกำลังนั่งอยู่ในรถเก๋งคันหนึ่งที่จอดอยู่
แขนข้างหนึ่งของจงเฉียงยังคงมีเลือดไหลออกจากบาดแผล ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัวและซีดเผือด ขณะที่เหงื่อเม็ดโตกำลังผุดออกขึ้นมาบนหน้าของเขาอย่างมาก
จงเฉียงตะโกนออกมา ด้วยสายตาที่ยังคงมีความโมโหผสมความกลัวฉายชัดอยู่ในนัยน์ตาทั้งคู่ของเขา “แก้แค้นมันงั้นเหรอ ? แน่นอน ฉันทำแน่!”
จงเฉียงเกลียดชังเย่เฟิงอย่างไม่มีวันจะลดลง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นโหดเหี้ยมพลางพูดต่อว่า “ในเมื่อไอ้สารเลวเฮงซวยนี่ทำให้ฉันพิการ ฉันก็ต้องการให้มันชดใช้ด้วยชีวิต!”
จงเฉียงพูดด้วยท่าทางที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม “นอกจากนี้แล้วอันซีเองก็ควรต้องตาย ในเมื่อเธอกล้าที่จะปฏิเสธนายน้อยซื่อ!”
หลังจากพูดแล้วจงเฉียงก็บอกลูกสมุนคนหนึ่งของเขา “โทรหาลุงของฉัน ว่าเริ่มแผนสองของนายน้อยซื่อได้เลย!”
‘แผนสอง!’
หลังจากได้ยินคำพูดของจงเฉียงแล้ว สมุนทั้งสองคนก็รู้สึกตื่นเต้นในทันที
“ได้เลย เฉียง!”
สมุนคนนั้นตอบพร้อมกับพลางยิ้มเยาะ ขณะที่เขาโทรออกไปยังเบอร์โทรศัพท์หนึ่งในทันที
เมื่อมองดูย่านชุมชนแออัดของเมืองผ่านทางหน้าต่าง จงเฉียงก็แสยะยิ้มโหดร้ายออกมา
“เย่เฟิง แกจะได้เรียนรู้ผลลัพธ์ของการทำให้ฉันเกลียดชังก็ในวันนี้แหละ! มาจัดการกับความแค้นทั้งเก่าและใหม่ด้วยกันซะเถอะ!”
จงเฉียงแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด เมื่อเขานึกถึงผลลัพธ์ที่น่าสมเพชของเย่เฟิง!
อย่างไรก็ดี เขานั้นไม่ได้สังเกตว่าพลังฉีปีศาจสีดำ แอบแฝงตัวไปในรถของเขา
หลังจากนั้นก็เข้าสู่ผิวหนังของเขา
จงเฉียงรู้สึกเย็นวาบ ราวกับว่ามีสิ่งชั่วร้ายเข้ามาในร่างกายของเขา เขาพยายามที่จะหาถึงตำแหน่งของมัน ทว่าเขาก็ไม่สามารถหามันได้พบ
จงเฉียงส่ายหัว พยายามที่จะไม่คิดอะไรอีก ขณะที่เขาพูดว่า “สตาร์ทรถ! ไปที่คฤหาสน์ตระกูลซื่อ!”
…
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง!
อันซีพาเย่เฟิงไปที่บ้านของเธอ
ทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปในประตู พ่อและแม่ของอันซีก็ออกมาทักทายเย่เฟิง
พวกเขาทั้งคู่รู้ว่าตัวเองอาจจะต้องเสียชีวิตในโรงพยาบาลไปแล้วถ้าไม่ใช่เพราะได้เย่เฟิงช่วยเอาไว้
ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิบัติต่อเย่เฟิงอย่างเต็มอกเต็มใจ โดยเฉพาะแม่ของอันซีที่มองดูเย่เฟิงราวกับว่าเขานั้นเป็นลูกเขยของเธอ ซึ่งนั่นทำให้อันซีเขินอายอย่างมาก
จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้ง
แม่ของอันซีเดินไปเปิดประตูในทันที!
เพียงเสี้ยววินาที กลุ่มคนในชุดเครื่องแบบตำรวจก็ปรี่เข้ามาด้านใน
“คนไหนคือเย่เฟิง ?”
ชายคนหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าของกลุ่มถาม ขณะเหลือบมองทั่วทั้งห้องก่อนที่เขาจะจ้องมองไปที่เย่เฟิง ในเสี้ยววินาที ประกายอันรุนแรงก็ฉายวาบออกมาจากดวงตาของเขา
“ผมเอง!” เย่เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่เขายืนขึ้นมา
เมื่อเห็นเย่เฟิง ใบหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นก็เปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมในทันที เขาพูดว่า “เย่เฟิงในฐานะที่นายเป็นผู้ต้องสงสัยรายใหญ่ในคดีอาชญากรรม นายจะถูกควบคุมตัว!”
‘อะไรนะ!’
หลังจากได้ยินคำพูดของเขาแล้ว อันซีและพ่อแม่ของเธอก็ตกตะลึงอย่างมาก
เมื่อเธอเห็นพวกตำรวจเข้ามาล้อมรอบตัวเย่เฟิง อันซีก็รีบเดินไปขวางไว้ข้างหน้าพวกเขา แม้ใบหน้าของเธอจะหวาดกลัวก็ตาม
เย่เฟิงจับมือเล็ก ๆ ของเธอ
“พี่เฟิง!”
ปากที่งามได้รูปของเธอพูดชื่อเขาด้วยความกังวลใจอย่างมาก
แน่นอนว่าเธอสังเกตเห็นว่าตำรวจกำลังออกคำสั่ง
พวกเขาน่าจะอยู่ข้างเดียวกันกับจงเฉียง!
เย่เฟิงเปิดเผยรอยยิ้มจาง ๆ ขณะที่เขาไม่ได้สนใจตำรวจเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้เขายังอยู่ในบ้านของอันซีดังนั้นเขาไม่ต้องการจะทำให้พ่อแม่ของเธอต้องหวาดกลัว
“อันซี ไม่ต้องกังวลไปหรอก ทุกอย่างปกติดี ฉันจะไปกับพวกเขาเอง!”
เย่เฟิงกล่าวเสริมว่า “ดูแลพ่อแม่ของเธอให้ดีนะ! ฉันจะรีบกลับมาเร็ว ๆ นี้!”
หลังจากพูดเบา ๆ เย่เฟิงก็ตามพวกตำรวจออกไปจากห้อง
เมื่อประตูถูกปิด ตำรวจที่มีท่าทางโหดร้ายคนนั้นก็แสยะยิ้มออกมา ขณะที่เขาพูดพึมพำว่า “กลับมาเร็ว ๆ นี้ ? ฮึ ฉันคิดว่าแกคงจะไม่กลับมาอีกแล้ว!”
เสียงของเขาเบาจนคนที่อยู่ข้างเขานั้นไม่ได้ยินคำพูดของเขาแม้แต่น้อย
ทว่าเย่เฟิงกลับหันหน้ามาและจ้องมองเขาอย่างท้าทาย ด้วยท่าทางขี้เล่นพลางถามว่า “นายต้องการจะฆ่าฉันงั้นเหรอ ?”
‘ว่าไงนะ!’
หัวใจของตำรวจที่มีท่าทางโหดร้ายคนนั้นเต้นโครมคราม เขาเผยสีหน้าตื่นตะลึง
‘มันได้ยินงั้นเหรอ ?’
‘เป็น…เป็นไปไม่ได้!’
ตำรวจที่มีท่าทางโหดร้ายไม่เชื่อว่าเย่เฟิงได้ยินคำพูดของเขา เพราะเสียงของเขานั้นเบามาก ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เย่เฟิงก็ยังคงจ้องมองตำรวจที่มีท่าทางโหดร้าย พร้อมกับยิ้มเยาะเย้ยแล้วอธิบายต่อว่า “ดวงตาของนายกำลังกะพริบถี่ ๆ ซึ่งหมายความว่านายกำลังมีความคิดชั่วร้าย! ตัวของนายเต็มไปด้วยพลังฉีที่โหดเหี้ยม ซึ่งก็แปลว่านายกำลังจะทำอะไรที่โหดเหี้ยม! และการที่นายทำเหมือนไม่เห็นฉันในสายตาแม้แต่น้อย บ่งบอกว่าฉันเป็นคนที่จะต้องตายแน่ ๆ ในความคิดของนาย!”
เย่เฟิงแสยะยิ้มกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนั่นทำให้เขาดูเป็นคนที่ชั่วร้ายอย่างมาก แล้วเขาก็สรุปว่า “ดังนั้นนายต้องการจะฆ่าฉันสินะ!”
…
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ตำรวจที่มีท่าทางโหดร้ายก็ตัวแข็งทื่อ
เขามองเย่เฟิงราวกับว่าเขากำลังมองสัตว์ประหลาด!
‘มัน…มันรับรู้ได้ทุกอย่างได้ยังไงกัน!’
‘นั่น…ไม่น่าเชื่อ’
ตำรวจที่มีท่าทางโหดร้ายคนนั้นกลับถูกเย่เฟิงทำให้ตกใจกลัว
ทว่าเมื่อเขาใจเย็นลง ทันใดนั้นเขาก็โกรธมาก แล้วตะคอกใส่เย่เฟิงว่า “ไอ้หนู แกกำลังพูดเรื่องอะไร! ฉันจงเหว่ยเป็นตำรวจนะ มันเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องกำจัดคนที่ชั่วร้าย!”
‘จงเหว่ย ?’
‘เขาพูดว่าอะไรนะ ?’
เย่เฟิงยิ้มมุมปากของเขาเล็กน้อย ขณะที่เขาโพล่งออกมาอย่างขำขันว่า “ฉันเพิ่งเจอผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในตระกูลจงและนายก็เป็นคนที่สอง! น่าสนใจ! น่าสนใจมาก ๆ !”
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ใบหน้าจงเหว่ยก็มืดมนยิ่งกว่าเดิม เพราะเขาไม่ได้คิดว่าเย่เฟิงจะกล้าอวดดีต่อหน้าเขาแบบนี้ แม้ว่าเขากำลังถูกจับกุม แต่เขาก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย!
“ฮึ! ไอ้หนู แกมันจะแน่สักแค่ไหน! มารอดูกันว่าแกจะยืนอยู่ได้นานแค่ไหน!”
จากนั้นจงเหว่ยก็ผลักเย่เฟิงเข้าไปในรถตํารวจทันที
เมื่อรถสตาร์ทเครื่อง จงเหว่ยก็บอกคนขับว่า “จาง ไปที่เรือนจำประชาชนเมืองเจียงซี!”
‘อะไรนะ ?’
ตำรวจทุกคนต่างตกตะลึง พวกเขาแต่ละคนถามจงเหว่ยด้วยความสับสน “เจ้านายครับ เราจะไม่ไปทัณฑสถานเด็กเหรอครับ ? เขายังไม่ถูกให้การเลยในชั้นศาลเลย ตามกฎของเรา เขาไม่สามารถถูกส่งตัวเข้าเรือนจำได้ ถ้าเขายังไม่ผ่านการตัดสินในชั้นศาลนะครับ”
แต่จงเหว่ยนั้นต้องการที่จะนำตัวเย่เฟิงเข้าเรือนจำไปเลยโดยตรง!
…
หลังจากสบสายตากันอย่างรวดเร็วตำรวจคนอื่น ๆ ก็รู้สึกได้ว่ามีการทำเรื่องสกปรกอยู่เบื้องหลังคดีนี้
จงเหว่ยขมวดคิ้วขณะที่เขาพูด “คนนี้เป็นพวกอันธพาล! มันอันตรายเกินไปที่เราจะขังเขาไว้ในทัณฑสถานเด็ก!”
จงเหว่ยสะบัดมือพลางออกคำสั่งเพิ่ม “ทำตามคำสั่งของฉัน ไปที่เรือนจำประชาชนเมืองเจียงซี!”
หลังจากได้รับคำสั่ง พลขับก็ทำได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ กลับรถและมุ่งหน้าสู่เรือนจำประชาชนเมืองเจียงซี
อย่างไรก็ตาม ตำรวจพวกนั้นไม่ทันได้สังเกตเห็นว่า จงเหว่ยได้พิมพ์ข้อความสั้น ๆ แล้วส่งออกไปในทันทีหลังจากรถสตาร์ทแล้ว ‘ขุดหลุมพร้อมแล้ว ถึงเวลาที่จะฝังมันซะ!’
…
เวลาเดียวกันนั้น!
ในบ้านของอันซี!
พ่อแม่ของอันซีเป็นกังวลอย่างมาก
อันซีเองก็หน้าซีดเซียวจนน่ากลัว ในท้ายที่สุดเธอล้วงกระเป๋าของเธอและพบนามบัตร
เหวยฝ่านผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมคราวน์!
อันซีกดหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุตามนามบัตรนั่น
โดยไม่คาดคิด การโทรศัพท์ครั้งนั้น จะทำให้เกิดความตกใจต่อผู้มีอิทธิพลหลายคนในเมืองเจียงซี ราวกับเกิดแผ่นดินไหวไปทั่วทั้งเมือง!