“นายจะต้องเป็นหมัน!“
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ไป๋กังตัวสั่นเทา ในที่สุดเขาก็ทรุดตัวลงไปบนพื้นเพราะได้ยินในสิ่งที่คาดไม่ถึง
“ไร้…สาระ! อะไรที่ทำให้คุณแน่ใจ! เป็นไปไม่ได้!”
ขณะที่นั่งอยู่บนพื้น ใบหน้าของไป๋กังนั้นดูซีดเซียวอย่างมาก
‘นี่คือแผลเป็นในใจส่วนลึกของเขา!’
ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรนอกจากคุณปู่และพ่อของเขาและพี่สาวของเขาไป๋ยี่
ทว่าเย่เฟิงได้เปิดเผยเรื่องราวนี้ให้กับคนอื่น ๆ นั้นนำความเศร้าโศกและเสียใจมาสู่ตัวของไป๋กัง
สีหน้าของชายชราและไป๋เจิงกัว เปลี่ยนเป็นสีขาวในเสี้ยววินาที
“ตระกูลไป๋จะมีบุตรยากในช่วงรุ่นที่ 6…”
ชายชราถอนหายใจเสียงดังออกมาขณะที่เขาพูดกับไป๋กัง “เริ่มต้นจากปู่ของฉัน ไป๋กังนั้นเป็นรุ่นที่ 5 นั่นหมายความว่าไป๋กังจะไม่มี… ตระกูลไป๋จะจบสิ้นจริงเหรอ ?”
หลังจากได้ยินคำพูดของชายชราบรรยากาศในห้องก็เย็นยะเยือก
‘จริง ๆ!’
‘มันเป็นความจริง!’
สมาชิกแต่ละคนของตระกูลไป๋ต่างก็หวาดกลัว
‘นั่น… ไม่น่าเชื่อ!’
ใบหน้าที่สวยงามของไป๋ยี่นั้นดูซีดเซียวลงอย่างน่ากลัว เพราะเธอไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าน้องชายของเธอจะเป็นหมัน
ถ้าหากเธอไม่ได้รับคำเตือนจากเย่เฟิงเธอก็คงจะยังไม่รู้เรื่องนี้
จากนั้นขณะที่มีเสียงพึมพำต่าง ๆ ทั่วห้อง ชายชราก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเย่เฟิงแล้วพูดว่า “สหายน้อย โปรดช่วยตระกูลไป๋ด้วย!”
การกระทำของชายชราทำให้ทุกคนในห้องตกใจมาก
หลังจากนั้นไม่นานใบหน้าของไป๋เจิงกัวก็เปลี่ยนเป็นมืดมน เขาคุกเข่าลงไปตรงหน้าเย่เฟิงโดยกล่าวว่า “ได้โปรดช่วยตระกูลไป๋ด้วย คุณเย่!”
ไม่นานสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลไป๋ก็ทำตาม พวกเขาคุกเข่าลงและขอร้องอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “ได้โปรดช่วยตระกูลไป๋ด้วย คุณเย่!”
ช่างเป็นภาพที่สวยงามมาก!
สมาชิกทุกคนในตระกูลที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นอันดับ 1 ในเมืองเจียงซีมานานกว่า 100 ปีได้คุกเข่าต่อหน้าคนคนหนึ่ง
ถ้าข่าวนั้นถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ มันคงจะกลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วทั้งเมืองอย่างรวดเร็ว
เมื่อดูฉากนี้ ซู่กวงก็กลืนน้ำลายของเขาอย่างแรงในขณะที่จ้องมองเย่เฟิงด้วยความชื่นชม
ในสายตาของเขา นายน้อยของเขาคือพระเจ้าผู้ทรงอำนาจ
เย่เฟิงโบกมือแล้วตะโกนว่า “ลุกขึ้น!
จากนั้นเย่เฟิงบอกหมอสูงวัยว่า “เอาอ่างใส่น้ำร้อนมาให้ฉัน!”
‘หืมม?’
ซู่กวงไม่เข้าใจคำขอของเย่เฟิง แต่กระนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างเคารพขณะที่เขารีบเดินออกจากห้อง
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับเข้าไปในห้องพร้อมอ่างน้ำร้อน
ชายชรา ไป๋เจิงกัว ไป๋กัง และไป๋ยี่ ต่างก็ดีใจเพราะพวกเขารู้ว่าเย่เฟิงกำลังจะคิดหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อปกป้อง ตระกูลไป๋อีกครั้ง
ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนั้น ทำให้ทุกคนตกใจ
หลังจากนั่งลงบนเก้าอี้ช้า ๆ เย่เฟิงถอดรองเท้าและถุงเท้าออก ทันใดนั้นกลิ่นเหม็นฉุนก็ลอยเต็มห้อง
“อะแฮ่ม อะแฮ่ม… มันเหม็นนิดหน่อย ขอโทษด้วยนะ!”
…
หลังจากได้ยินคำพูดของ เย่เฟิงสมาชิกทั้งหมดของตระกูลไป๋ก็รู้สึกแปลกใจ จากนั้นหลังจากที่ถอดรองเท้าและถุงเท้าออก เย่เฟิงก็เริ่มล้างเท้าทั้งสองข้างลงในน้ำอย่างช้า ๆ
เมื่อเย่เฟิงล้างเท้าเสร็จแล้วน้ำในอ่างทั้งหมดก็กลายเป็นสีดำ
‘แม่งอะไรกันเนี่ย!’
‘นี่เขาไม่ได้ล้างเท้านานแค่ไหนแล้ว’
สมาชิกทุกคนของตระกูลไป๋ ต่างคนต่างพูดไม่ออก
เย่เฟิงโบกมือไปหา ไป๋กังพร้อมด้วยรอยยิ้มพลางพูดว่า “มานี่สิ!”
สมาชิกทุกคนของตระกูลไป๋ ต่างก็สบตากันเมื่อรู้ว่าเย่เฟิงจะช่วยเหลือไป๋กัง
ไป๋กังเองก็ตื่นเต้นเช่นกัน
ไป๋กังได้เห็นว่าเย่เฟิงช่วยให้ปู่ของเขาได้รอดพ้นจากความตายได้ ดังนั้นเขาเชื่อว่าเย่เฟิงเป็นเทพเจ้า
เมื่อเขาตระหนักว่าอาการเป็นหมันของเขากำลังจะหายไปใบหน้าของไป๋กังก็ติดจะเขินอายเล็กน้อย
“คุณเย่!”
ไป๋กังตอบรับเขาพลางเดินไปโค้งคำนับเย่เฟิง
เย่เฟิงพยักหน้าขณะที่เขาชี้ไปที่แอ่งน้ำสีดำนั้นแล้วบอกว่า “ดื่มมันซะ!”
‘อะไรนะ?’
ไป๋กังกระพริบตารัว ๆ ในขณะที่เขามองดูน้ำสีดำโดยไม่เชื่อหูตัวเองพลางถามว่า “คุณ… คุณเย่พูดว่าอะไรนะครับ ?”
“ถ้านายมีอาการเป็นหมัน นายก็ดื่มมันซะ!”
เย่เฟิงยักไหล่ในขณะที่เขาตอบกลับอย่างสนุกสนาน
อึก!
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิงแล้ว ไป๋กัง ก็กลืนน้ำลายของเขาอย่างแรงด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น จากนั้นเขาก็จ้องมองครอบครัวของเขาอย่างรวดเร็วโดยหวังว่าจะมีคนช่วยเขาได้
ทว่าเขาพบว่าพวกเขาทุกคนหันไปทางอื่นแล้วโดยแกล้งทำเป็นไม่สังเกตเห็นสายตาของเขา
ไป๋กังเกือบจะร้องไห้ออกมา
แต่เมื่อเขาจำได้ว่าเย่เฟิง รักษาปู่ของเขาด้วยการตบหน้าเขาก็ตระหนักว่าการดื่มน้ำล้างเท้าสีดำนั่น อาจช่วยรักษาอาการเป็นหมันของเขาได้
ดวงตาของไป๋กังเปล่งประกายในทันที
เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ของการเป็นหมัน อ่างน้ำล้างเท้าสีดำก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
ไป๋กังยกอ่างน้ำสีดำแล้วก็ค่อย ๆ เริ่มดื่มมันลงไป
เมื่อเขาได้ลิ้มรสมันครั้งแรก ไป๋กังปิดปากเพราะมันมีรสเปรี้ยว แต่หลังจากกลื่นลงไปครั้งที่สองดวงตาของเขาก็เป็นประกายและมันกลิ่นหอมขณะที่มีรสชาติหวานอมขมเล็กน้อย
จากนั้นภายใต้สายตาที่จ้องมองอยู่ของคนอื่น ไป๋กังนั้นดื่มอย่างรวดเร็วราวกับว่าเขากระหายน้ำมา 3 วัน
จนกระทั่งเขาเรอออกมา เขาก็หยุดดื่มด้วยความพึงพอใจ
‘แม่งมันอะไรกันเนี่ย!’
สมาชิกทุกคนของตระกูลไป๋มองไป๋กังโดยไม่พูดอะไร เพราะพวกเขาพบว่าเขาเหมือนอยากจะดื่มน้ำสีดำนั่นอีก
“อืม…ส่งปากกามาให้ฉัน!”
หลังจากดูไป๋กังดื่มน้ำล้างเท้า เย่เฟิงก็เผยยิ้มมุมปากในขณะที่เขาหยิบปากกาจากหมอสูงวัยและเริ่มแก้ไขหนังสือมรดกของตระกูลไป๋
ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 นาที หนังสือมรดกต้นฉบับนั้นก็ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
เย่เฟิงมอบมันกลับไปให้ชายชราอีกครั้งแล้วบอกว่า “ตาแก่ ฉันได้แก้ไขวิธีการลับของหนังสือเล่มนี้แล้วตราบใดที่คุณสามารถฝึกฝนมันได้ตามที่ฉันเขียนไว้ จะไม่มีสมาชิกของตระกูลไป๋ที่จะตายเร็วเพราะมันอีก! “
หลังจากเย่เฟิงพูดแล้วเขาก็มองไปที่ไป๋กังและพูดว่า “ตราบใดที่ไป๋กังสามารถฝึกฝนมันได้ตามคำแนะนำของฉัน อาการเป็นหมันของเขาจะได้รับการรักษาแน่นอน
‘ว่าไงนะ!’
ไป๋กังตกตะลึงในทันที เขาถามเย่เฟิงด้วยความสับสน “คุณเย่ คุณหมายถึงอาการเป็นหมันของฉันไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้าฉันไม่ฝึกฝนตามหนังสือเล่มนี้ที่คุณได้แก้เอาไว้ ? แต่ทำไมคุณถึงบอกให้ฉันดื่มน้ำสีดำนั่น ?”
‘น้ำสีดำ’
หลังจากได้ยินคำพูดของเขาเย่เฟิงก็เกาหัวด้วยรอยยิ้มขี้เล่น “ที่จริงไม่มีเหตุผลอะไรเลย ฉันไม่ชอบหน้านาย ฉันถึงอยากให้นายลองชิมมัน!”
…
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ไป๋กังก็ซวนเซจนเกือบล้มลง
‘แม่ง ชายคนนี้แค่ชอบเล่นพิเรนทร์แล้วก็ก่อกวนจริง ๆ!’
‘มันเป็นแค่น้ำสกปรก แต่ฉันกลับคิดว่ามันเป็นน้ำวิเศษ’
‘ไอ้งั่งนี่มัน…’
ไป๋กังเกือบกระอักเลือดออกมา เมื่อเขาระลึกถึงตอนที่เขาดื่มน้ำล้างเท้าสีดำในอ่างนั่น
ไป๋ยี่และไป๋เจิงกัวก็พูดอะไรไม่ออก เพราะคิดว่า ‘ผู้ชายคนนี้ผิดแผกแหวกแนวจากคนทั่วไปจริง ๆ!’
‘เมื่อคุณคิดว่าเข้ากำลังดูถูกใครซักคนอยู่ แต่กลายเป็นเขากลับกำลังช่วยคนๆนั้น‘
‘แต่เมื่อคุณคิดว่าน้ำที่เขาใช้ในการล้างเท้าสามารถรักษาการเป็นหมัน… จริง ๆ แล้ว… เอ่อมัน… เป็นก็เป็นแค่สิ่งที่…’
ทุกคนในห้องเกือบน้ำตาไหล
จากนั้นชายชราก็กระตุ้นความสนใจของทุกคนในขณะที่เขาพูดว่า “เหลือเชื่อ! นั่นมันโคตร…เหลือเชื่อ!”