ด้วยเสียงของอะไรบางอย่างแตกหักดังเข้ามาในหู!
หมาป่าคลั่งหลับตาลงขณะที่กำลังรอความตาย!
เมื่อเขาได้ยินเสียงแตกหักดังขึ้นมา ตัวเขาก็สั่นอย่างหนักในทีเดียว
‘ฉันตายแล้วเหรอ?’
หมาป่าคลั่งไม่คิดว่าเขาจะถูกฆ่าตายในการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว เพราะเขานั้นแทบจะไม่มีคนที่เทียบฝีมือได้ในเมืองเจียงซีมานานกว่า 3 ปีแล้ว
หมาป่าคลั่งทำได้แค่เผยรอยยิ้มอันขมขื่นและยอมรับชะตากรรม
แต่หลังจากนั้นเขาก็แปลกใจ เพราะเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลย
‘มันเกิดอะไรขึ้น…’
หมาป่าคลั่งค่อย ๆ ลืมตา เขารู้สึกเสียวสันหลังอย่างเต็มกลืนจากสิ่งที่เขาเห็น
กรงเล็บอันแหลมคมของอสรพิษหกดัชนีนั้น อยู่ห่างจากคอของเขาเพียงแค่ 3 ซ.ม.
แต่ว่ามันถูกจับไว้ด้วยมือของใครบางคน!
ยิ่งกว่านั้นนิ้วทั้งหกของอสรพิษหกดัชนีต่างแตกหักจนดูเหมือนพิการ!
ทันใดนั้นหมาป่าคลั่งก็ได้ยินเสียงโหยหวน!
“อ๊าก อั๊ก โอ้ย! มือของฉัน!”
ใบหน้าอสรพิษหกดัชนีเปลี่ยนเป็นสีซีดขณะที่เขาถอยหลังด้วยความเร็วเต็มกำลัง
นิ้วทั้งหกของเขาล้วนหักหมดแล้ว!
เขาแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง!
‘ไม่น่าเชื่อ! นิ้ว…นิ้วของฉันหักเหรอ?’
อสรพิษหกดัชนีไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเขารู้ว่านิ้วและกรงเล็บของเขานั้นทรงพลังขนาดไหน การตวัดมือเพียงครั้งเดียวของเขาสามารถทำลายแม้กระทั่งเหล็กได้!
ทว่าในกำมือของเย่เฟิง กรงเล็บของเขาก็เหมือนขอนไม้ผุ ๆ เท่านั้น
‘เป็น…เป็นไปไม่ได้!’
ไม่เพียงแต่อสรพิษหกดัชนีเท่านั้นแม้แต่หมาป่าคลั่งก็ตัวแข็งทื่อ
หลังจากได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจากอสรพิษหกดัชนี หมาป่าคลั่งรู้ชัดเจนว่ากรงเล็บแหลมของอสรพิษหกดัชนีพวกมันล้วนแข็งแกร่งราวกับดาบเหล็ก!
แต่…
เมื่อมองดูร่างผอมบางของเย่เฟิง หมาป่าคลั่งก็ตกอยู่ในความหวาดกลัวราวกับว่าชายคนนี้นั้นไม่ใช่มนุษย์จริง ๆ
“ไม่! มันเป็นไปไม่ได้! ไอ้คนไร้ค่านั่นจัดการอสรพิษหกดัชนีได้ยังไง?” กงหวู่คำรามลั่นขณะที่ตาของเขาเกือบทะลุออกมาจากเบ้าตา
อสรพิษหกดัชนีเป็นยักษ์ที่แข็งแกร่งในสายตาของเขา แต่ในขณะที่เย่เฟิงนั้นเป็นแค่มดแมลงที่อ่อนแอ
แต่มดกลับทำลายนิ้วของยักษ์ด้วยการจับเพียงครั้งเดียว
“แม่ง! นี่มันบ้าไปแล้ว! โธ่เว้ย!”
อสรพิษหกดัชนีโมโหจนคลั่งขณะที่จ้องมองเย่เฟิงด้วยตาสีแดงก่ำและตะโกนว่า “ไอ้สารเลวตัวน้อยแกนี่มันไม่รู้จักเกรงกลัวซะเลย! แกกล้าดียังไงมาหักนิ้วฉัน! รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ? ฉันเป็นปีศาจที่ร้ายกาจที่สุดในเมือง! หากแกกล้าทำให้ฉันโกรธ ฉันจะฆ่าแกแน่! ฉันจะกินเนื้อและดื่มเลือดของแก! และฉันจะฉีกแกออกเป็นชิ้น ๆ ! “
อสรพิษหกดัชนีเกลียดเย่เฟิงอย่างมาก แต่เย่เฟิงนั้นก็ไม่ได้สนใจ
เย่เฟิงจ้องมองอสรพิษหกดัชนีด้วยสายตาที่แข็งกร้าว ขณะที่เขาเดินเข้ามาอย่างช้าๆ “ปีศาจเหรอ?”
ใบหน้าของเย่เฟิงเผยความดุร้ายด้วยนัยน์ตาเปล่งประกายวาวโรจน์ “แกรู้ไหมว่าปีศาจคืออะไร? ปีศาจนั้นใช้พวกเทวดาเป็นทาส เทพเจ้าก็เป็นแค่ข้ารับใช้ของพวกเขา! ปีศาจฆ่าทุกคนในโลกที่สมควรตาย! จัดการกับเรื่องราวที่ไม่เป็นชอบธรรมในจักรวาล แม้ว่าพวกเขาจะต้องฆ่าเหล่าเทพและพวกมนุษย์หรือต่อต้านกับกฎของสวรรค์ก็ตาม! “
หลังจากพูดจบแต่ละประโยค พลังฉีของเย่เฟิงก็รุนแรงขึ้น และเมื่อเขาก้าวมาถึงก้าวสุดท้ายของเขาทั้งโรงงานเหล็กก็สั่นสะเทือนไปทั้งหลัง
“และตอนนี้ฉันจะบอกแกให้ ว่าปีศาจคืออะไร!”
เมื่อจบคำพูดของเขา เย่เฟิงปล่อยพลังฉีสีดำราวกับหมอกออกมา!
ทันใดนั้นทั้งโรงงานเหล็กร้างสั่นไหวเหมือนถูกลมพายุซัดอย่างแรง!
ในเสี้ยววินาทีนั้นเย่เฟิงหายตัวไปราวกับปีศาจ
ภายในการกระพริบตาเพียงครั้งเดียวของอสรพิษหกดัชนี ร่างของเย่เฟิงนั้นก็มาอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว!
“ไม่!”
เสี้ยววินาทีนั้นดวงตาอสรพิษหกดัชนีนั้นเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกอย่างมาก ขณะที่เขาเกือบจะสูญเสียจิตวิญญาณของเขาไป!
เขาตั้งใจจะวิ่งหนีให้เร็วที่สุด!
อย่างไรก็ตามมันสายเกินไป!
เย่เฟิงยื่นมือของเขาออกมาแล้วบีบคอของอสรพิษหกดัชนีไว้ จากนั้นเขาก็ยกอสรพิษหกดัชนีขึ้นเล็กน้อย
“กะ…แก”
ขนทั่วร่างของอสรพิษหกดัชนีลุกอย่างไม่มีสาเหตุ เขาไม่เคยเห็นใครที่น่ากลัวเท่านี้มาก่อน
ในสายตาของเขา ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นมนุษย์อีกต่อไป
“ไม่…เป็นไปไม่ได้! แกเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้ยังไง … “
อสรพิษหกดัชนีนั้นมีชื่อเสียงในเรื่องกรงเล็บและการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเขา!
แต่เขาพบว่าความเร็วของเย่เฟิง นั้นมันมากกว่าของเขาอย่างมาก
“ปีศาจ! เขา… เขาเป็นปีศาจของจริง!”
ขณะนี้อสรพิษหกดัชนีกลัวลนลานอย่างมาก แต่ความพยายามทั้งหมดของเขามันไร้ประโยชน์
ฝ่ามือเย่เฟิงเป็นเสมือนคีมเหล็กขนาดใหญ่ซึ่งอสรพิษหกดัชนีไม่สามารถขัดขืนได้
ภาพเบื้องหน้าทำให้ทุกคนในโรงงานเหล็กร้างแห่งนี้งุนงง
การมองดูเย่เฟิงบีบคอและยกตัวอสรพิษหกดัชนีเหมือนเขาถือขวดพลาสติกเปล่า พวกเขา แทบไม่มีใครเชื่อในสายตาของตัวเอง
‘นั่นคืออสรพิษหกดัชนีนักฆ่ากลุ่มเศียรพยัคฆ์ทั้งหมด!‘
‘เขาไม่เพียงแต่จะจัดการกลุ่มเศียรพยัคฆ์ทั้งหมดในชั่วข้ามคืน แต่ยังสามารถฆ่าหมาป่าคลั่งได้ในการเคลื่อนไหวครั้งเดียว‘
‘แต่เย่เฟิงกลับบีบคอของปีศาจร้ายคนนี้และยกเขาลอยจากพื้น นี่มันโคตรเหลือเชื่อ!‘
และยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้มันน่าตกใจยิ่งกว่า
ในทันใดนั้นหมอกสีดำที่ลอยรอบตัวของเย่เฟิงก็เจาะเข้าไปในร่างของอสรพิษหกดัชนีเหมือนปลาไหลกำลังว่ายไปทั่วทั้งผิวหนังของเขา
อสรพิษหกดัชนีทำได้แค่เปล่งเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดจากหมอกสีดำนั่น
“อั๊ก อ๊าก…”
อสรพิษหกดัชนีประสบกับความเจ็บปวดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา เขากรีดร้องลั่นด้วยเสียงแห่งความทรมาน เหล่าคนที่กำลังมองอยู่รู้สึกว่าขนทั่วหนังศีรษะของพวกเขากำลังตั้งชัน
ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างมากด้วยความกลัวราวกับว่าเขานั้นเห็นผีตัวเป็น ๆ
ไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงร้องโหยหวนก็เงียบลงในทันที!
จากนั้นร่างกายของอสรพิษหกดัชนีก็กลายเป็นเถ้าถ่านและลอยปลิวไป
…
ภายในเสี้ยววินาทีนั้นโรงงานเหล็กร้างทั้งหมดก็เงียบสนิทเหมือนป่าช้า!
กงหวู่ตกตะลึง เขาทรุดตัวลงด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้
เจ้าอ้วนนั้นก็ตกตะลึง ขณะที่เขาก็สงสัยในสิ่งที่เขาเห็นเช่นกัน
หมาป่าคลั่งตบหน้าของตัวเองเบา ๆ เขาไม่เชื่อว่าอสรพิษหกดัชนีนั้นเพิ่งจะกลายเป็นฝุ่นละอองลอยไป
ความเงียบที่น่าอึดอัด!
ทั้งโรงงานเหล็กตกอยู่ในความเงียบ จากการตายของอสรพิษหกดัชนี
ไม่มีใครจะเชื่อได้ว่าบุคคลที่ชั่วร้ายและโหดเหี้ยมอย่างนั้น จะกลายเป็นเถ้าถ่านในไม่กี่วินาที!
อึก!
กงหวู่กลืนน้ำลายของเขาอึกใหญ่ ขณะที่มองดูเศษขี้เถ้าบนพื้น
‘ปีศาจ‘
‘ผู้ชายคนนี้เป็นปีศาจ!‘
ในที่สุดกงหวู่ก็เข้าใจว่า เย่เฟิงนั้นไม่ใช่มนุษย์ตั้งแต่ต้น แต่เป็นปีศาจ ปีศาจที่แม้แต่ตระกูลกงก็ไม่สามารถต้านทานได้!
“แม่งเอ้ย! มันไม่ใช่มนุษย์! ฉัน… ฉันจะต้องบอกคนของเรา ว่าเราไม่ควรหาเรื่องคน ๆ นี้!
กงหวู่รู้สึกเสียใจอย่างมาก!
หากกงหวู่รู้ว่าเย่เฟิงเป็นปีศาจเขาคงไม่กล้าที่จะทำให้เขาไม่พอใจ
และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปเกือบจะทำให้กงหวู่กลัวจนอุจจาระราดกางเกง
เย่เฟิงปล่อยหมอกสีดำลอยล้อมกำลังคนทั้งหมดของตระกูลกงเหมือนปีศาจร้าย
ด้วยลมที่พัดผ่านทำให้แต่ละคนถูกล้อมกรอบไปด้วยหมอกสีดำ จากนั้นพวกเขาก็ร้องโหยหวนขึ้นมา
และในพริบตาเดียวลูกน้องของกงหวู่ทุกคนก็สลาย กลายเป็นเถ้าถ่าน!