เมื่อมองบริกรเอาการ์ดสีดำออกไปจากห้อง ทุกคนก็ต่างตกตะลึง
พวกเขาไม่รู้ว่ามันคือการ์ดอะไรหรือมันใช้งานอย่างไร
‘ทำไมเธอถึงต้องนำมันไปให้ผู้จัดการดู’
สวี่เฟยขมวดคิ้วในขณะที่เขาสงสัยว่า ‘การ์ดสีดำมันมีอะไรพิเศษหรือเปล่า’
แต่สุดท้ายสวี่เฟยก็โยนความคิดนั้นออกไปจากหัว
เขาเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเย่เฟิงมาก่อน เขารู้ว่าเย่เฟิงนั้นเป็นลูกชายที่น่าอับอายของตระกูลเย่
และเขามีเงินสดไม่ถึง 100 หยวนด้วยซ้ำ ดังนั้นการ์ดสีดำนั่นจะมีอะไรพิเศษได้อย่างไร
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แม้กระทั่งเสี่ยวเหมย เจิ้งเฉิงบิน และจางลู่ ทุกคนต่างก็สงสัยในการ์ดสีดำเหมือนกัน
“เย่เฟิง การ์ดสีดำนั่น มันคืออะไร ? ” เสี่ยวเหมยถามเย่เฟิงด้วยความสับสน
เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวเหมยคนอื่น ๆ ต่างก็จับจ้องไปที่เย่เฟิง เพื่อรอฟังคำตอบของเขา
ทว่าเย่เฟิงส่ายหัวเบา ๆ และยักไหล่ พลางตอบกลับมาว่า “ฉันก็ไม่รู้”
‘อะไรนะ!’
‘ไอ้หมอนี่ไม่รู้เกี่ยวกับการ์ดของเขาเองเหรอ ?’
คนอื่น ๆ ทั้งหมดต่างพูดไม่ออก
สวี่เฟย เสี่ยวเหมย เจิ้งเฉิงบิน และจางลู่ต่างถอนหายใจอย่างหนักในเวลาเดียวกัน ‘เย่เฟิง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการ์ดใบนั้นคืออะไรดังนั้นมันคงไม่มีอะไรพิเศษ’
เสี่ยวเหมยจึงพูดอย่างประชดประชันว่า “เย่เฟิง นั่นคือบัตรส่วนลดหรือบัตรส่งเสริมการขายอะไรหรือเปล่า ? ฉันไม่คิดเลยว่านายจะเป็นคนประหยัดขนาดนี้!”
หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ สวี่เฟย เจิ้งเฉิงบิน และจางลู่ ก็ยิ่งแสดงสีหน้าผิดหวังกับเย่เฟิงมากยิ่งขึ้น
เมื่อเธอเห็นแบบนี้ ดวงตาของอันซีก็แดงและมีน้ำตาคลอเบ้า เธอรู้สึกเสียใจมากสำหรับเย่เฟิง
‘มันเป็นความผิดของฉันเอง! ฉันไม่ควรพาเย่เฟิงมาที่นี่ด้วยเลย! ฉันเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้เขาถูกคนอื่นเยาะเย้ย!’
อันซีรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่หัวใจของเธอ
ตอนนั้นเอง มือขนาดใหญ่ยื่นออกมาแล้วลูบหัวของอันซี
เมื่อเธอเงยใบหน้าที่งดงามของเธอขึ้น เธอเห็นถึงรอยยิ้มอันแสนอบอุ่น
“เด็กโง่ เธอควรหยุดร้องไห้ได้แล้ว น้ำตาจะลบเครื่องสำอางของเธอ เดี๋ยวเธอจะไม่สวยเอานะ!”
เย่เฟิงบอกกับอันซีด้วยรอยยิ้ม
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา อันซีก็ร้องไห้ออกมาทันทีขณะที่เธอทุบไปที่แขนของเย่เฟิง
ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นคนที่ดึงเขามาที่นี่และเป็นเธอที่ทำให้เขาถูกคนอื่นล้อเลียนแท้ ๆ
แต่เย่เฟิงยังคงปลอบโยนเธอ อันซีจะไม่หวั่นไหวกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร?
เขาคือเย่เฟิงของเธอ คนที่เธอรัก
เมื่อมองดูภาพบาดตานี้ สวี่เฟยกัดฟันแน่น ความเกลียดชังของเขาต่อเย่เฟิง ก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น
แต่ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าจำนวนมากที่รวดเร็วด้านนอกประตูห้อง ก็กระตุ้นความสนใจของพวกเขา
เมื่อได้ยินเสียงนั้นสวี่เฟย เสี่ยวเหมย เจิ้งเฉิงบิน และ จางลู่ต่างก็ตกใจกลัว
“สวี่… สวี่เฟย! พวกเขาจะมาทำให้เราพิการเพราะรู้ว่าเราไม่สามารถจ่ายเงินได้ ใช่หรือเปล่า ? ”
เสี่ยวเหมยถาม สวี่เฟย ด้วยตัวที่สั่นเทาจากความกลัว
ส่วนเจิ้งเฉิงบินและจางลู่นั้นเกือบปัสสาวะรดกางเกงไปแล้ว
“เฟย ฉันได้ยินมาว่าโรงแรมคราวน์มีอำนาจอย่างมากหนุนหลังอยู่! แม้แต่พวกนายน้อยของตระกูลกงก็ยังไม่กล้าสร้างปัญหาที่นี่ แต่เรา… “
“ใช่เฟย! ฉันเคยได้ยินมาว่ามีนายน้อยของตระกูลกงถูกทำให้พิการที่นี่และนำไปโยนที่หน้าประตูที่คฤหาสน์ตระกูลกง! แล้ว…เราจะเรียกคนในครอบครัวของเราให้มาช่วยเราได้ยังไง?”
พวกเขาทั้งสองคน เคยได้ยินข่าวซุบซิบมากมายเกี่ยวกับโรงแรมคราวน์
ข่าวซุบซิบนั้นทำให้พวกเขากระสับกระส่ายเหมือนกับว่านั่นเป็นชีวิตของเขาที่ถูกเขียนเอาไว้ล่วงหน้า
ขณะที่พวกเขากำลังวุ่นวายใจ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกจากด้านนอกในทันทีและมีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามา
ทุกคนอยู่ในชุดเครื่องแบบตะวันตก สวมสูทและรองเท้าหนัง พวกเขาทั้งหมดดูภูมิฐานอย่างมาก เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาก็คือกองกำลังทั้งหมดของโรงแรมคราวน์
‘พระเจ้า!‘
ทุกคนรู้สึกว่าเลือดในตัวของพวกเขาแข็งตัว และขาของเขาอ่อนแรงจนเกือบล้มลง
มีเพียงสวี่เฟยที่ยังสงบสติอารมณ์ เมื่อผู้คนเข้ามาในห้อง เขาก็รีบวิ่งไปข้างหน้าทันทีและชี้ไปที่เย่เฟิงพลางตะโกนว่า “ตั้งใจฟังนะ เหตุการณ์นี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเราเลย เขาคือคนที่สั่งเหล้ากับบริกร! และเขาเป็นคนดื่มมันจนหมด! จัดการเขาเลย ถ้าพวกคุณต้องการ! “
คำพูดของสวี่เฟย ทำให้ทุกคนตกตะลึง
เมื่อเสี่ยวเหมย เจิ้งเฉิงปิงและจางลู่ตระหนักถึงความตั้งใจของสวี่เฟยพวกเขาต่างก็ประหลาดใจ
พวกเขาไม่ได้นึกว่าในช่วงเวลาสั้น ๆ สวี่เฟยจะสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วโดยการโยนการกระทำทั้งหมดไปที่เย่เฟิง
ดังนั้นทั้งสามคนก็รีบพูดทันทีว่า “ใช่แล้ว! เราไม่ได้ดื่มคราวน์ว้อดก้าเลย ชายคนนั้นดื่มทั้งหมด! เขามีเงินสดแค่ 100 หยวนเท่านั้น และมันไม่เกี่ยวข้องกับเราแม้ว่าพวกคุณจะฆ่าเขาก็ตาม!”
“ใช่! เขาสั่งเหล้าแล้วก็ดื่มคนเดียว! โปรดปล่อยให้คนอื่นไป!”
‘…’
เสี่ยวเหมย เจิ้งเฉิงปิงและจางลู่ต่างโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้เย่เฟิงด้วยเช่นกัน
พวกเขาต้องการออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด และมันก็ไม่ใช่เรื่องของพวกเขา ถ้าคนพวกนั้นจะฆ่าเย่เฟิง หลังจากได้ยินคำพูดของพวกเขา ใบหน้าของอันซีก็เปลี่ยนไปทันที
“พวก…พวกนายกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน!
อันซีไม่เคยคิดเลยว่าเหล่าเพื่อนและเพื่อนร่วมชั้นที่ดีที่สุดของเธอ จะฆ่าเย่เฟิงอย่างไร้ยางอายเพื่อประโยชน์ของตัวเอง!
‘คนเหล่านี้ช่างโหดร้ายเหมือนซาตาน!‘
หลังจากได้ยินคำพูดของพวกเขา เหล่ากองกำลังทั้งหมดของโรงแรมคราวน์ก็มีสีหน้าเฉยเมย
หลังจากมองไปทางเย่เฟิงแล้วพวกเขาทั้งหมดก็เดินไปหาเขา
สวี่เฟย เสี่ยวเหมย เจิ้งเฉิงบิน และจางลู่กำลังดีใจอย่างมาก
พวกเขารู้ว่าคำพูดของพวกเขานั้นส่งผลอย่างดี เห็นได้ชัดว่าเหล่าพนักงานได้เปลี่ยนเป้าหมายของความโกรธของพวกเขาไปยังเย่เฟิง
‘จัดการเลย! ทุบตีเขาเลย! ยิ่งพวกเขารุนแรงมากเท่าไหร่ ความโกรธก็ยิ่งน้อยลงและพวกเราก็ปลอดภัยยิ่งขึ้น!’
กลุ่มทั้งสี่คน ยืนอยู่เฉย ๆ และมองดูมันอย่างมีความสุข
ใบหน้าอันซีเปลี่ยนไปด้วยความกลัว
เมื่อเห็นพวกเขาเข้าใกล้เย่เฟิง อันซีก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างฉับพลันและขวางเขาเอาไว้ ขณะที่เธอตะโกนเสียงดังว่า “พวกคุณต้องการอะไร นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย ฉันสั่งเหล้าทั้งหมดเอง ฆ่าฉันซะ! ถ้าคุณต้องการ! อย่าทำอะไรเย่เฟิงของฉัน! “
อันซียืนอยู่ตรงหน้าเย่เฟิงเหมือนนางสิงโตตัวน้อย!
‘หืมม?’
กองกำลังทั้งหมดของโรงแรมคราวน์ตกตะลึง แม้แต่เย่เฟิงก็ตกตะลึงเช่นกัน
เย่เฟิงไม่คิดว่าเด็กหญิงที่อ่อนแอและไร้เดียงสา กล้าที่จะปกป้องเขาซึ่งมีความเสี่ยงต่อชีวิตของเธอเอง
เย่เฟิงรู้สึกอบอุ่นในใจ เขาโอบไหล่เธอไว้ และมองตรงไปยังกองกำลังของโรงแรมคราวน์
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนั้นทำให้ทุกคนตกใจ!
กองกำลังทั้งหมดของโรงแรมคราวน์ ตั้งแถวที่ด้านหน้าพวกเขา และโค้งคำนับต่อเย่เฟิง แล้วตะโกนเสียงดัง “คุณเฟิง เราขอทำแสดงความเคารพต่อคุณ!