Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2754

ตอนที่ 2754 ดินแดนต้องห้ามสำหรับมนุษย์

“ทุกคนมาพร้อมกันแล้วงั้นหรอ ?”

อิลูซะรี่เวิร์ดและอันยีลดิ้งฮาร์ท หันไปมองซือเฟิงด้วยความประหลาดใจ

“เป็นพวกเขางั้นหรอ ?”

ทีมนักผจญภัยอาชูร่านั้นไม่เพียงแต่จะมีชื่อเสียงในทวีปด้านตะวันออกของ God domain มากเท่านั้น แต่ตามข่าวลือดูเหมือนว่าทีมนักผจญภัยทีมนี้จะครอบครองโลกคริสตัลน้ำแข็งไว้มากกว่าครึ่งหนึ่งด้วย แกนหลักทั้งหมดของทีมนักผจญภัยทีมนี้ก็ล้วนลึกลับมากๆ และในบางครั้งมันก็มีอัจฉริยะที่ทรงพลังปรากฎตัวขึ้นในทีมนักผจญภัยเช่นกัน

นอกจากนี้มันยังมีเรื่องของผู้บัญชาการทีมนักผจญภัยอาชูร่าที่มีชื่อเสียงอีก แม้ว่าตัวตนของผู้บัญชาการทีมนักผจญภัยอาชูร่าจะยังคงลึกลับและไม่มีใครรู้ แต่มันก็มีข่าวลือว่าแม้แต่ไลฟ์เลสธอร์นก็ยังไม่สามารถจะรอดจากการโจมตีของผู้บัญชาการคนนี้ได้แม้แต่ครั้งเดียว และที่ไลฟ์เลสธอร์นทำการท้าทายผู้เชี่ยวชาญของมหาอำนาจต่างๆอย่างบ้าคลั่งก็เป็นเพราะว่าเขาต้องการฝึกฝนตัวเองเพื่อที่จะได้ไปท้าทายผู้บัญชาการของทีมนักผจญภัยอาชูร่าอีกครั้ง

ซึ่งสถานการณ์นี้ มันก็ได้ปลูกฝังความกลัวให้กับมหาอำนาจต่างๆ ….

ด้วยเหตุนี้มหาอำนาจต่างๆใน God domain จึงล้วนสงสัยว่าทีมนักผจญภัยอาชูร่านั้นได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังลึกลับและทรงพลังอย่างแท้จริง อันที่จริงพวกเขายังสงสัยว่าผู้สนับสนุนลึกลับนี้นี้น่าจะเป็นคนจากชั้นบนสุดของ Upper Zone

ทีมนักผจญภัยอาชูร่านั้นได้ปฎิเสธมหาอำนาจมากมายที่ต้องการจะรับสมัครทีมอย่างหยิ่งผยอง ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลให้เกิดการปะทะกันระหว่างทีมอาชูร่า และมหาอำนาจต่างๆมากมาย และยิ่งทีมอาชูร่าต่อสู้มากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้นเท่านั้น

อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาพึ่งจะได้รู้ว่าทีมนักผจญภัยอาชูร่านั้นมีความสัมพันธ์อันดีกับสภาสิบแปดปีกจริงๆ

“อืม พวกเขาจะไปกับเราด้วย ….” ซือเฟิงกล่าว จากนั้นเขาก็พยักหน้าให้กับไลฟ์เลสธอร์นอื่นๆเพื่อทักทาย

ที่จริงแล้วแม้แต่ซือเฟิงก็ยังค่อนข้างจะประหลาดใจเมื่อได้เห็นไลฟ์เลสธอร์นและคนอื่นๆ เขาไม่เคยคิดเลยว่าทุกคนจะพัฒนาไปมาก หลังจากเขาไม่ได้เจอมาพักหนึ่ง

ตอนนี้ไลฟ์เลสธอร์นและคนอื่นๆแซงหน้าไฟเออร์แดนซ์และสมาชิกกองกำลังหลักของสภาสิบแปดปีกคนอื่นๆไปแล้วในแง่ของเลเวล ยิ่งไปกว่านั้นจากกลิ่นอายของไลฟ์เลสธอร์น ซือเฟิงก็สามารถบอกได้เลยว่าเขาอยู่ในขอบเขตครึ่งก้าวก่อนเข้าสู่ขอบเขตโดเมนแล้ว ซือเฟิงต้องยอมรับเลยว่าชายคนนี้นั้นเป็นนักสู้ที่บ้าคลั่งอย่างแท้จริง เขาได้ทำการท้าทายผู้เชี่ยวชาญมากมายใน God domain และสร้างศัตรูขึ้นมามากมาย แต่กระนั้นด้วยเรื่องนี้มันก็ทำให้เขาพัฒนาไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

สำหรับโซริทารี่ไนน์ หยานย่า คลีนซิ่งวิสเซิล และคนอื่นๆที่ยืนอยู่ข้างๆไลฟ์เลสธอร์น พวกเขาก็ปรับปรุงตัวเองไปค่อนข้างมากเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยู่ในขอบเขตรวดเร็วดั่งสายน้ำแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทุกคนก็ยังดูเหมือนจะอยู่ไม่ห่างจากขอบเขตอนันต์เท่าไหร่นัก หากในระหว่างทางพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจบางอย่างขึ้นมา พวกเขาก็จะสามารถทะลุเข้าสู่ขอบเขตอนันต์ได้ทันทีแน่นอน ในขณะเดียวกันเมื่อซือเฟิงทำการแนะนำฝ่ายต่างๆให้รู้จักกัน สิ่งที่พวกเขาทำก็คือพยักหน้าให้กันเท่านั้น โดยเฉพาะกับไลฟ์เลสธอร์นที่ไม่ได้คิดจะพูดคุยใดๆเพิ่มเติมกับอิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ทเลย ….

ในตอนนี้โซริทารี่ไนน์ก็พูดกับซือเฟิงผ่านแชทส่วนตัวว่า “ผู้บัญชาการ คุณคิดยังไงกับคนที่เราพามาในครั้งนี้ ? พลังการต่อสู้ของทุกคนนั้นเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดเลย เราไม่ได้ทำคุณอับอายใช่ไหม ?”

“อันที่จริง ฉันไม่คิดเลยว่าพวกคุณจะรับสมัครผู้มีความสามารถเข้ามาได้มากมายขนาดนี้” ซือเฟิงกล่าวด้วยความประหลาดใจ ขณะที่เขากวาดตามองสมาชิกของทีมอาชูร่าทั้งหมดอย่างพินิจพิเคราะห์

สมาชิกทีมอาชูร่าที่มาในวันนี้นั้น มีแค่จำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ซือเฟิงคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว ขณะที่บางส่วนเขาก็รู้จักชื่อเสียงของคนเหล่านี้จากชีวิตที่ผ่านมาของเขา โดยสองคนในนี้ที่เป็นสมาชิกหน้าใหม่นั้นเป็นคนที่สามารถไปถึงขั้นห้าได้ แม้ว่าพวกเขาจะอ่อนแอกว่าไลฟ์เลสธอร์นซึ่งไปถึงสถานะร่างครึ่งเทพได้ก็ตาม

ซือเฟิงไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าไลฟ์เลสธอร์นและคนอื่นๆจะสามารถรับสมัครคนเหล่านี้เข้าทีมนักผจญภัยอาชูร่าได้

หลังจากนั้นโซริทารี่ไนน์ก็ได้เล่าถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่พวกเขาไปเจอมาให้ซือเฟิงฟัง โดยเขากล่าวว่า พวกเขาบังเอิญหลงเข้าไปในสถานที่มหัศจรรย์ซึ่งเวลาไหลผ่านไปในอัตราที่แตกต่างกับโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง และผู้เล่นที่อาศัยอยู่ที่นั่นก็แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ ในสถานที่มหัศจรรย์แห่งนั้นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการปรับแต่งนั้นได้รับการพิจารณาว่าเหนือกว่าคนปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และมีอยู่แทบจะทั่วไป

ขณะเดียวกันผู้เล่นที่อาศัยอยู่ที่นั่นก็มีเลวลสูงมากเช่นกัน โดยบางคนไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบแล้ว เมื่อโซริทารี่ไนน์และคนอื่นๆได้ไปเยี่ยมชมสถานที่นี้ พวกเขาก็รู้สึกพูดไม่ออกกันมากๆ

ระหว่างที่พวกเขาพักอยู่ในสถานที่มหัศจรรย์นี้ พวกเขาก็ได้ต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญของสถานที่นี้บ่อยครั้ง ซึ่งมันทำให้พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจและการปรับปรุงมากมาย แต่น่าเสียดายที่ระบบนำพวกเขากลับมายังทวีปหลักอย่างกระทันหันด้วยเหตุผลบางประการ และเมื่อเป็นแบบนี้พอพวกเขากลับมา พวกเขาจึงมีเลเวลเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ของมหาอำนาจต่างๆอย่างมาก

เรื่องราวของโซริทารี่ไนน์นั้นทำให้ซือเฟิงประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดเลยว่า God domain มันจะมีสถานที่แบบที่โซริทารี่ไนน์พูดจริงๆ

อย่างไรก็ตามเมื่อเขานึกถึงเสวี่ยเหวินโหรวและอควาโรสที่ได้เข้าไปต่อสู้โดยตลอดในโลกที่แตกต่างออกไปเป็นเวลาแปดสิบปี เขาก็สรุปได้ว่าสถานการณ์ที่ไลฟ์เลส
ธอร์นและคนอื่นๆเผชิญมานั้น มันไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอะไร

ในขณะเดียวกันสมาชิกของจักรพรรดิคริมสัน และอันยีลดิ้งโซลก็เสร็จสิ้นการเตรียมการเพื่อออกเดินทางแล้ว หลังจากนั้นทุกคนก็ได้ขึ้นอะเม้าท์บินได้ และบินไปยังเทือกเขาที่ถูกทำลายทันที

เทือกเขาที่ถูกทำลายนั้นครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่มากๆใน God domain

ตามการคาดการณ์ของผู้เล่น เทือกเขาที่ถูกทำลายนั้นน่าจะมีพื้นที่เทียบเท่ากับห้าถึงหกจักรวรรดิรวมกันเลย และพวกมันก็เป็นเส้นทางเชื่อมต่อสถานที่ต่างๆมากมาย แผนที่เป็นกลางเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบที่พวกเขาจะไปนั้นก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของพื้นที่ชั้นนอกของมันเท่านั้น หากพวกเขาต้องการจะอยู่รอดในพื้นที่ชั้นในจริงๆ พวกเขาจะต้องมีเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบเป็นอย่างน้อย

สำหรับพื้นที่หลักของเทือกเขาที่ถูกทำลาย มันมีเพียงแต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าที่มีเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบหรือสูงกว่าเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปได้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่เลเวลสองร้อยก็จะไม่รอดหากเข้าไปในพื้นที่นี้

หลังจากบินตรงมาเป็นเวลาประมาณเจ็ดชั่วโมง ในที่สุดซือเฟิงและคนอื่นๆก็มองเห็นเทือกเขาสูงปรากฎขึ้นที่ขอบฟ้า

โดยเทือกเขานี้นั้นมีความสูงมากกว่าสามหมื่นเมตร และท้องฟ้าของเทือกเขานั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆฝนฟ้าคะนอง และสายฟ้าสีม่วงก็ผ่าลงมาถล่มในพื้นที่แบบสุ่มบ้างเป็นพักๆ

ผู้ที่ได้เห็นเทือกเขาที่ถูกทำลายเป็นครั้งแรกจะต้องตกตะลึงกับฉากอันงดงามแห่งการทำลายล้างตรงหน้าของพวกเขาแน่นอน

“พวกเราจะร่อนลงกันตรงนี้แหละ !!!” ซือเฟิงออกคำสั่งกับทุกคน หลังจากเขามองไปยังเทือกเขาที่อยู่ด้านหน้า

อะเม้าท์บินได้ไม่สามารถจะบินเข้าไปในเทือกเขาที่ถูกทำลายได้ หากผู้เล่นต้องการจะเข้าสู่แผนที่เป็นกลางแบบนี้ พวกเขาจะต้องพึ่งพาสองเท้าของตัวเอง

นั่นเป็นเพราะ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าก็ไม่สามารถจะต้านทานสายฟ้าสีม่วงนี้ แม้แต่การ์เดี้ยนไนท์ขั้นห้า เลเวลสองร้อยก็จะตายลง หลังจากรับการโจมตีจากสายฟ้านี้ราวสามถึงห้าครั้ง ใครก็ตามที่ต้องการจะบินเข้าไปในเทือกเขาที่ถูกทำลายอย่างน้ยอจะต้องอยู่ในขั้นหก และมีค่าความทนทานสายฟ้าที่สูงมาก

หลังจากนั้นไม่นานซือเฟิงและคนอื่นๆก็มาร่อนลงบริเวณป่าใกล้กับเทือกเขาที่ถูกทำลาย ก่อนที่พวกเขาจะทยอยเก็บอะเม้าท์บินได้ของตัวเองไปทีละตัว ….

“เมื่อเราเข้าสู่เทือกเขาที่ถูกทำลาย ทุกคนจะต้องเกาะติดทีมไว้ให้ใกล้ชิดที่สุด คุณจะต้องไม่แยกตัวออกจากทีมไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่งั้นคุณจะต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาด้วยตัวเอง” ซือเฟิงกล่าว หลังจากที่เห็นทุกคนจัดระเบียนตัวเองเสร็จแล้ว “แล้วจำไว้ว่าแม้ว่าจะมีใครมาขอความช่วยเหลือหรือฉันบอกให้คุณวิ่งหนีให้สุดชีวิตเพื่อชีวิตคุณเองก็ให้เพิกเฉยต่อมันไปซะ !!! คุณจะต้องเกาะติดกับทีมไว้ต่อไป !!! และก้าวไปข้างหน้า เราจะเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุด !!!”

เมื่อได้ยินคำสั่งของซือเฟิง ทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและงงงวย ….

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม นี่มันหมายความว่าคุณให้เราเพิกเฉยต่อคำสั่งของคุณหลังจากเข้าสู่แผนที่งั้นหรอ ?” บลูเกาน์ถามด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความงุนงง ขณะที่มองไปยังซือเฟิง

ซือเฟิงได้ระบุไว้อย่างชัดเจนก่อนหน้านี้ว่าพวกเขาจำเป็นจะต้องเชื่อฟังทุกคำสั่งของเขา แต่ตอนนี้เขากับกำลังบอกให้พวกเขาเพิกเฉยต่อคำสั่งของเขา เมื่อพวกเขาเข้าสู่เทือกเขาที่ถูกทำลาย ตอนนี้คำพูดของเขามันดูค่อนข้างจะขัดแย้งกันพิกล ….

“ใช่แล้ว เมื่อคุณเข้าไปคุณจะสามารถเพิกเฉยต่อคำสั่งใดๆของฉันได้ชั่วคราว นอกจากนี้คุณก็ต้องเพิกเฉยต่อทุกคำสั่ง ทุกคำพูดของคนรอบตัวคุณทั้งหมดจนกว่าทั้งทีมจะหยุด” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า

“ทำไมกัน ?” อิลูซะรี่เวิร์ดเต็มไปด้วยความสับสน “มันมีภาพลวงตาอยู่ด้านในงั้นหรอ ?”

“ฉันไม่ชัวว่าควรจะบอกว่ายังไง แต่ไม่ว่าจะยังไงสภาพแวดล้อมภายในมันจะค่อนข้างพิเศษมากๆ คุณจะต้องเจอกับภาพหลอนจำนวนมากเมื่อคุณเข้าไป อย่างไรก็ตามแม้มันจะเป็นภาพหลอน แต่ทุกสิ่งที่คุณเห็นก็ไม่ใช่ภาพลวงตา มันจะเป็นเรื่องจริงทั้งหมด มันไม่มีใครสามารถบอกได้เลยว่าอะไรภายในคือของจริงหรือปลอม คุณสามารถจะปฎิบัติกับทุกสิ่งเหมือนของจริงและปลอมได้ทั้งคู่ ….” ซือเฟิงกล่าวอย่างใจเย็น “สิ่งเดียวที่ฉันมั่นใจคือการหยุดอยู่ด้านในหมายถึงความตาย”

นี่เป็นสาเหตุที่เขาออกคำสั่งให้จักรพรรดิคริมสันและอันยีลดิ้งโซลส่งเฉพาะผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้นเท่านั้นมาเข้าร่วมงานนี้ เพราะใครก็ตามที่สามารถขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับนี้ได้จะมีความคิดที่แน่วแน่

“มันมีสภาพแวดล้อมแบบนี้ด้วยงั้นหรอ ?!” บลูเกาน์ตกใจกับคำอธิบายของซือเฟิง

เท่าที่เธอรู้ ดินแดนต้องห้ามเป็นเพียงสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่รุนแรงและมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งเท่านั้น กระนั้นเทือกเขาทีถูกทำลายกับเป็นสถานที่ที่ทำให้ผู้เล่นเจอกับภาพหลอนเนี่ยนะ ?

ในตอนนี้นับประสาอะไรกับบลูเกาน์ แม้แต่อิลูซะรี่เวิร์ดกับอันยีลดิ้งฮาร์ทก็ยังมีสีหน้าเคร่งขรึม ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญของมหาอำนาจต่างๆถึงตายลงแบบไม่รู้ตัวในเทือกเขาที่ถูกทำลาย

อันที่จริงมันก็คงจะต้องบอกว่าแปลก ถ้าพวกเขารู้ว่าพวกเขาตายอย่างไร !!!

ในโลกนี้สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือสิ่งที่ไม่รู้จัก

ในขณะเดียวกันเทือกเขาที่ถูกทำลายก็บรรลุเงื่อนไขนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่ามีมอนสเตอร์แบบไหนรอพวกเขาอยู่ภายในเทือกเขาที่ถูกทำลาย แต่แค่สภาพแวดล้อมที่พิเศษนี้เพียงอย่างเดียว มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่น่ากลัวมากๆ อันที่จริงมันคงไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยหากจะบอกว่าที่นี่คือสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดที่พวกเขาเคยไปมาใน God domain

เทือกเขาที่ถูกทำลายสมควรได้รับชื่อเสียงในฐานะดินแดนต้องห้ามสำหรับมนุษย์อย่างแท้จริง !!!

“เอาล่ะ เข้าไปข้างในกันเถอะ !!!” ซือเฟิงพูด หลังจากที่เห็นว่าทุกคนประมวลผลคำพูดของเขาเรียบร้อยแล้ว “จำไว้ !! เกาะติดกับทีมเอาไว้ !!!”

หลังจากนั้นซือเฟิงก็นำทีมเข้าสู่เส้นทางของภูเขาหนึ่งที่นำไปสู่เทือกเขาที่ถูกทำลาย

ซึ่งเส้นทางนี้มันก็ค่อนข้างใกล้ และผู้เล่นขั้นสามก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการเดินทางผ่านระยะทางนี้

ไม่ถึงสิบนาทีต่อมา ทีมผู้เล่นมากกว่าหนึ่งร้อยคนก็เข้าสู่เขตของเทือกเขาที่ถูกทำลาย ในขณะที่ทุกคนก้าวเข้าสู่ที่นี่ อารมณ์ของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจังมากขึ้น พวกเขาปฎิบัติตามคำสั่งของซือเฟิงและเกาะติดทีมไปอย่างใกล้ชิด

ทั้งทีมนั้นค่อยๆเดินหน้าไปอย่างช้าๆและระมัดระวัง อย่างไรก็ตามมันก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจนั่นก็คือสภาพแวดล้อมที่นี่ไม่ได้รุนแรงอย่างที่พวกเขาคิด มันไม่ได้ผลาญค่าสตามิน่า และค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของพวกเขาไปในปริมาณสูงเท่าที่อื่นๆ และมันก็มีพลังงานแปลกปลอมไหลเข้าสู่ร่างของพวกเขาน้อยมาก

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งทีมก็ยังไม่พบกับมอนสเตอร์เลยแม้แต่ตัวเดียว เทือกเขาบริเวณนี้มันดูปลอดภัยและสงบจนน่าประหลาดใจ ซึ่งมันต่างจากที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้มาก

“ดูเหมือนว่าเทือกเขาที่ถูกทำลายจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อย่างที่คิดแหะ ….” บลูเกาน์กล่าว ขณะที่เธอสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบของเธอ ตอนนี้ความระวังตัวที่เธอมีมากในตอนแรกเริ่มหายไปอย่างสิ้นเชิง

เมื่อได้ยินคำพูดของบลูเกาน์ ทุกคนก็มีท่าทีผ่อนคลายลง ทุกคนรู้สึกว่าซือเฟิงพูดถึงเทือกเขาที่ถูกทำลายแบบโอเว่อร์เกินไปหน่อย

“บลู ฉันจะต้องพึ่งพาคุณแล้วล่ะ เมื่อมีมอนสเตอร์ปรากฎตัวขึ้นในภายหลัง ….” ซัมมอนเนอร์หญิง เลเวลหนึ่งร้อยสิบเก้ากล่าวกับบลูเกาน์

“แน่นอนไม่มีปัญหา ฉันจะทำให้แน่ใจเลยว่าไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนสามารถเข้าใกล้คุณได้ …” บลูเกาน์กล่าวตอบอย่างมั่นใจ

ซัมมอนเนอร์หญิงรู้สึกโล่งใจ เมื่อได้รับคำรับรองจากบลูเกาน์

Ci !!!

วินาทีต่อมาเสียงของบางอย่างก็สาดเข้ามาในหูของทุกคน และทันใดนั้นกลิ่นของเลือดก็กระจายไปรอบๆอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันทุกคนในทีมก็จ้องมองไปยังซัมมอนเนอร์หญิง และบลูเกาน์ด้วยความตกใจ

“คุณ …. ทำไม ?” ซัมมอนเนอร์หญิงจ้องมองไปที่บลูเกาน์ด้วยความหวาดกลัว ก่อนที่ใครจะทันได้รู้ตัว บลูเกาน์ก็ได้แทงซัมมอนเนอร์หญิงด้วยดาบยาวของเธอและทำให้ซัมมอนเนอร์หญิงสูญเสีย HP ไปเรื่อยๆ

เมื่อได้รับคำถามบลูเกาน์ก็ยิ้มอย่างสดใส พลางจ้องมองไปยังซัมมอนเนอร์หญิง และตอบว่า “ทำไมต้องถามด้วย ?”

หลังจากพูดจบ บลูเกาน์ก็ทำการเชือดคอซัมมอนเนอร์หญิง และฆ่าเธอ

“มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?”

ทันใดนั้นผู้คนที่ยืนอยู่ด้านหลังของบลูเกาน์ก็จ้องมองมายังเธอด้วยความตกตะลึงและสับสน พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมบลูเกาน์ถึงโจมตีเพื่อนร่วมทีม

ยิ่งไปกว่านั้นรอยยิ้มที่เธอยิ้มออกมาในระหว่างกระทำการฆ่านั้น มันก็ดูประหลาดมากๆ ราวกับว่าเธอไม่ได้มองมายังมนุษย์

“พวกคุณมีอะไรกัน ?” บลูเกาน์ถามด้วยความสับสน เมื่อเธอเห็นทุกคนมองมาที่เธอ “ทำไมถึงมองฉันแบบนั้น ?”

อย่างไรก็ตามแม้จะพูดแบบนี้ แต่บลูเกาน์ก็ยังคงมีสีหน้าสงบ และมีความสุขอย่างสุดจะพรรณนา ซึ่งมันราวกับว่าเธอพึ่งจะไปเหยียบมดมาตัวหนึ่งมาเท่านั้น ไม่ใช่เธอพึ่งฆ่าเพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งไป ….

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset