Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2544

แบล๊คเฟรมที่บ้าไปแล้ว

อัศวินแห่งความมืดหญิงและผู้อาวุโสโกลด์นั้นต่างมึนงงเป็นเวลานาน หลังจากได้ยินข้อเสนอโต้แย้งของซือเฟิง และพวกเขาก็สงสัยว่าชายตรงหน้าของพวกเขากำลังล้อเล่นกับพวกเขา

ด้วยข้อเสนอเดิมของพวกเขาซึ่งดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ จะอ้างสิทเหนือพื้นที่ทรัพยากรของป่าใบไม้ผลิห้าสิบเปอเซ็นต์นั้น พลังที่เหลือของโลกแห่งความมืดก็จะต่อสู้กับสภาสิบแปดปีกเพื่อแย่งชิงส่วนที่เหลืออยู่ดี และต่อให้พวกเขาหลีกเลี่ยงกันในตอนแรกๆ แต่สุดท้ายแล้วยังไงมันก็จะต้องมีการขัดแย้งกันอยู่ดี เพราะท้ายที่สุดพื้นที่นั้นมีจำกัด และมันไม่เพียงพอสำหรับผู้เล่นจำนวนมหาศาล ดังนั้นการต่อสู้จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้เลย

แถมพูดกันตรงๆในตอนที่เข้ามาที่ทวีปหลักครั้งแรก ยังไงซะผู้เล่นจากโลกแห่งความมืดก็จะต้องพุ่งเป้ามาที่สถานที่ที่ประตูถูกเปิดขึ้นอยู่แล้ว ก่อนที่พวกเขาจะค่อยๆขยายอิทธิพลของตัวเองออกไปภายในทวีปหลัก

นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมมหาอำนาจต่างๆจึงหวาดกลัวรองหัวหน้ากิลของหัวใจปีศาจอย่างเฟรมมิ่งไลท์

แต่กระนั้นตอนนี้ซือเฟิงกับพึ่งเสนอทรัพยากรเพิ่มจากที่พวกเขาต้องการให้อีกยี่สิบเปอเซ็นต์ ซึ่งนี่มันจัดเป็นการกระทำที่บ้าคลั่งและฆ่าตัวตายชัดๆ

ข้อเสนอโต้แย้งของเขานั้นอาจดูฉลาดสำหรับคนทั่วไป เนื่องจากการทำเช่นนี้มันจะทำให้สภาสิบแปดปีกสามารถกระชับแนวป้องกันและควบคุมพื้นที่ทรัพยากรได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผู้เล่นจากโลกแห่งความมืดคนอื่นๆก็จะไม่มีทางเลือกนอกจากต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงพื้นที่เหล่านี้อยู่ดี และในด้านของพื้นที่ของดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้นั้นมันก็จะไม่มีผู้เล่นจากโลกแห่งความมืดคนไหนกล้าเข้ามายุ่งแน่นอน เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาล้วนรู้ถึงพลังของสองกิลนี้ดี ดังนั้นพวกเขาจึงจะยิ่งทุ่มกำลังเข้ามาแย่งชิงพื้นที่ทรัพยากรของสภาสิบแปดปีกมากขึ้นแน่นอน และการเอาชีวิตรอดในป่าใบไม้ผลิของสภาสิบแปดปีกก็จะเป็นไปได้ยากขึ้นมาก ไม่ต้องพูดถึงการรักษาพื้นที่ทรัพยากรเลย

นี่เขายอมแพ้เรื่องเมืองป่าหินแล้วงั้นหรอ ? ตอนนี้อัศวินแห่งความมืดหญิงคิดออกแค่ความเป็นไปได้เดียว
สภาสิบแปดปีกนั้นไม่ได้กำลังจะเผชิญหน้ากับมหาอำนาจหนึ่งหรือสองกลุ่ม แต่พวกเขากำลังจะต้องเผชิญหน้ากับโลกอื่นทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นโลกอื่นที่ว่านี้ยังมีประชากรผู้เล่นมากกว่าจักรวรรดิมังกรไฟด้วย มันไม่ควรจะมีมหาอำนาจที่จะสามารถต้านทานอะไรแบบนี้ได้เลย …..

ดังนั้นซือเฟิงจึงได้ตัดสินใจที่จะละทิ้งทรัพยากรของป่าใบไม้ผลิเพื่อแลกกับคริสตัลแห่งความมืดอันล้ำค่าของโลกแห่งความมืด ซึ่งมันก็นับเป็นธุรกรรมที่คุ้มค่า แต่อย่างไรก็ตามมันก็คงไม่มีคนปกติจะยอมทำธุรกรรมดังกล่าวหรอก เพราะการพัฒนาเมืองกิลนั้นต้องใช้ทั้งเวลาและทรัพยากรจำนวนมาก มันไม่มีใครที่จะสามารถละทิ้งเมืองกิลได้ดื้อๆโดยที่ไม่คิดอะไร

“นี่คุณจริงจังไหมหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ?” ผู้อาวุโสโกลด์ถาม เขาไม่สามารถคิดถึงเหตุผลที่ตัวเองจะปฎิเสธข้อเสนอของซือเฟิงได้เลย แม้ว่าคริสตัลแห่งความมืดห้าแสนชิ้นจะเป็นอะไรที่มีค่า แต่มันก็ไม่มีอะไรเลยเมื่อเทียบกับพื้นที่ทรัพยากรเจ็ดสิบเปอเซ็นต์ของป่าใบไม้ผลิ

“แน่นอน ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน เรามาเซ็นสัญญากันทันทีเลยก็ได้ …” ซือเฟิงตอบพลางหัวเราะเบาๆ

“ยอดเยี่ยม !!! ในนามของเดียตี้โซไซตี้ ฉันขอยอมรับข้อเสนอของคุณ !!!” ผู้อาวุโสโกลด์อุทานด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น มันมีเพียงแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะปฎิเสธ

ทั่วทั้งป่าใบไม้ผลินั้น มีเพียงสภาสิบแปดปีกเท่านั้นที่เป็นภัยคุกคามต่อเดียตี้โซไซตี้ ขณะที่มหาอำนาจอื่นๆยังไม่ควรค่าให้กล่าวถึง ซึ่งหากสภาสิบแปดปีกยินดีจะมอบพื้นที่ทรัพยากรเพิ่มขึ้นอีกยี่สิบเปอเซ็นต์ เดียตี้โซไซตี้ก็จะไม่มีปัญหาในการจัดการพื้นที่เลย

“แล้วดาร์ครัปโซดี้ล่ะ ?” ซือเฟิงถามขณะที่หันไปมองอัศวินแห่งความมืดหญิง

“ในนามของกิลฉัน ฉันสามารถรับข้อตกลงนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาเช่นกัน …” อัศวินแห่งความมืดหญิงตอบอย่างไม่ลังเล แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่านักดาบตรงหน้าของเธอคิดอย่างไร แต่พวกระดับสูงของเธอได้เอาเธอตายแน่ หากปฎิเสธข้อเสนอนี้

เมื่อผู้อาวุโสโกลด์ และอัศวินแห่งความมืดหญิงตกลงเรียบร้อย ทั้งสามก็ได้เซ็นสัญญากันโดยระบุว่าดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ นั้นจะเข้าครอบครองพื้นที่ทรัพยากรของป่าใบไม้ผลิเจ็ดสิบเปอเซ็นต์ ในขณะที่สภาสิบแปดปีกจะครอบครองส่วนที่เหลือ และจะไม่มีกิลใดในสามกิลนี้เข้าไปยุ่งเรื่องของกันและกัน และกิลสายความมืดทั้งสองจะจัดหาคริสตัลแห่งความมืดห้าแสนชิ้นให้กับสภาสิบแปดปีก

เมื่อการเจรจาเสร็จสิ้น อัศวินแห่งความมืดหญิงและผู้อาวุโสโกลด์ก็รีบเดินทางกลับไปยังโลกแห่งความมืดเพื่อแจ้งข่าวดีให้กับกิลของพวกเขาทราบ และให้เริ่มจัดการคริสตัลแห่งความมืดห้าแสนชิ้นให้กับสภาสิบแปดปีกตามข้อเรียกร้องของซือเฟิง และเมื่อประตูสู่โลกแห่งความมืดเปิดขึ้นในป่าใบไม้ผลิเมื่อไหร่ ทั้งดาร์ครัปโซดี้ และ เดียตี้โซไซตี้ ก็จะนำคริสตัลแห่งความมืดมามอบให้กับสภาสิบแปดปีกทันที

เมื่อข่าวไปถึงสำนักงานใหญ่หลักของดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้ พวกระดับสูงของทั้งสองกิลต่างก็ตกตะลึงมากๆ

“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะกล้ามากขนาดนี้ ดูเหมือว่าพวกเขาจะค่อนข้างมั่นใจในการปกป้องสามสิบเปอเซ็นต์ของแผนที่ ..!!”

“แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร ? ฉันว่าสภาสิบแปดปีกน่าจะตระหนักว่าตัวเองไม่สามารถหยุดความก้าวหน้าของโลกแห่งความมืดได้ และกิลน่าจะมีแผนสำหรับเป้าหมายถัดไปที่ดีกว่านี้รึปล่าว ?”

“ไม่แปลกใจเลย ด้วยลักษณะที่เด็ดขาดแบบนี้ของกิล มันจึงทำให้กิลประสบความสำเร็จมาได้ถึงทุกวันนี้ แต่สภาสิบแปดปีกเองก็ต้องไม่ลืมว่าศัตรูของพวกเขานั้นไม่ใช่แค่หัวใจปีศาจ มันยังมีผู้เล่นจากโลกแห่งความมืดด้วย พวกเขาไม่ควรจะสามารถยืนหยัดต่อต้านอะไรได้เลยนะ …”

การพูดคุยกันอย่างร้อนแรงได้ปะทุขึ้นท่ามกลางพวกระดับสูงของทั้งสองกิลเกี่ยวกับสัญญาใหม่ที่สภาสิบแปดปีกทำ ไม่มีใครคาดหวังกับผลลัพธ์นี้ แต่ไม่ว่าจะยังนี่ก็นับเป็นข่าวดีสำหรับทั้งสองกิล

ในขณะที่ดาร์ครัปโซดี้ และเดียตี้โซไซตี้กำลังพูดคุยกันเรื่องนี้ ข่าวนี้ก็ไปถึงหูของหัวใจปีศาจอย่างรวดเร็ว

“แบล๊คเฟรมนี่ค่อนข้างจะกล้ามากจริงๆ ผู้อาวุโสฮาร์ท … ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจที่จะสละทรัพยากรส่วนใหญ่ในป่าใบไม้ผลิ และมุ่งเน้นกองกำลังของเขาไปที่การปกปองเมืองป่าหิน” ปีศาจระดับวิสเค้าท์ ที่เป็นชิลวอริเออร์ เลเวลหนึ่งร้อยแปด ขั้นสามกล่าวแสดงความเห็นด้วยรอยยิ้มกับฟิวเรียสฮาร์ท

ซือเฟิงนั้นได้เข้ามาก่อเรื่องที่เมืองปีศาจ และก่อความเสียหายอย่างรุนแรง ด้วยท่าทีที่หยิ่งผยองและเย่อหยิ่งมากๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้ ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวของเฟรมมิ่งไลท์ ซือเฟิงก็ถูกบังคับให้ต้องสละพื้นที่ป่าใบไม้ผลิไปเจ็ดสิบเปอเซ็นต์ ดังนั้นนี่มันจึงเป็นผลลัพธ์ที่น่ายินดีมากสำหรับหัวใจปีศาจ

“อืมมม นี่เขาคิดว่าตัวเองจะสามารถหนีรอดไปได้หลังจากยั่วยุหัวใจปีศาจงั้นหรอ ?” ฟิวเรียสฮาร์ทกล่าวด้วยเสียงกร้าว “ถ้าเขาคิดว่าเขาจะสามารถปกป้องเมืองป่าหินไว้ได้ด้วยการสละพื้นที่ทรัพยากรเจ็ดสิบเปอเซ็นต์ของป่าใบไม้ผลิ เขาก็ควรคิดใหม่ เขาไม่ได้รู้เลยว่าการกระทำของตัวเองนั้นมันไร้ประโยชน์ขนาดไหน รองหัวหน้ากิลได้บรรลุข้อตกลงกับมหาอำนาจหลายกลุ่มแล้ว เมื่อถึงเวลาที่หัวใจปีศาจให้สัญญาณ มหาอำนาจต่างๆก็จะเริ่มโจมตีเมืองป่าหินจากทั้งภายในและภายนอก พวกเราจะทำลายเมืองป่าหิน และทำให้แน่ใจว่าสภาสิบแปดปีกจะไม่มีพื้นที่ในป่าใบไม้ผลิอีก !!”

ผู้อาวุโสคนอื่นๆของหัวใจปีศาจเองก็พยักหน้าด้วยความตื่นเต้นกับเรื่องนี้

สภาสิบแปดปีกอาจคิดว่าตัวเองต้องเผชิญหน้ากับโลกแห่งความมืดเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้ว พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับมหาอำนาจอีกหลายกลุ่ม

และภายใต้การร่วมมือกันแบบนี้ สภาสิบแปดปีกจะไม่มีอำนาจต่อต้านใดๆแน่นอน กิลจะไม่มีโอกาสรอด

เมืองป่าหิน สถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีก :

ในขณะที่มหาอำนาจหลายกลุ่มกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างสภาสิบแปดปีกกับดาร์ครัปโซดี้และเดียตี้โซไซตี้ เสวี่ยเหวินโหรวก็กำลังเดินตามซือเฟิงลงไปยังคลังของกิลซึ่งอยู่ในชั้นใต้ดินชั้นแรกของสถานที่พักกิลอย่างสับสน

“หัวหน้ากิลการเสนอพื้นที่ทรัพยากรของป่าใบไม้ผลิเพิ่มอีกยี่สิบเปอเซ็นต์ มันไม่ได้คุ้มค่ากับคริสตัลแห่งความมืดห้าแสนชิ้นเลยนะ น้ำใบไม้ผลิของป่าใบไม้ผลินั้นมันช่วยในการพัฒนาของผู้เล่นขั้นสองของเราได้อย่างมาก และมันก็เป็นเหตุผลหลักเลยที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสองของเราหลายคนทำงานในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยได้ ดังนั้นการยอมเสียพื้นที่ทรัพยากรไปจำนวนมากขนาดนี้ มันจะทำให้การพัฒนาของผู้เล่นขั้นสองของเราลดลงอย่างมาก” เสวี่ยเหวินโหรวบ่น เธอรู้สึกว่าซือเฟิงทำเกินไปหน่อยในตอนนี้

แม้แต่มหาอำนาจต่างๆของ God domain ก็ต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งเรื่องน้ำใบไม้ผลิ และเนื่องจากความหายากของมัน การแข่งขันมันจึงรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็โชคดีสำหรับสภาสิบแปดปีกที่พวกเขามีเมืองป่าหิน พวกเขาจึงมีข้อได้เปรียบอย่างมากในการแข่งขันแย่งชิงน้ำใบไม้ผลิ และมันก็ไม่มีมหาอำนาจกลุ่มใดที่กล้าจะสร้างปัญหาให้กับกิล

ซึ่งไอเทมชิ้นนี้นั้นมันก็ทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสองของสภาสิบแปดปีกสามารถเก็บเลเวลได้อย่างรวดเร็ว และไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าได้เร็วกว่าคนอื่นๆ และเมื่อพวกเขาไปถึงเลเวลนี้แล้ว พวกเขาก็จะสามารถทำการสวมใส่และใช้อาวุธกับอุปกรณ์ชั้นยอดเลเวลหนึ่งร้อยห้าได้ ซึ่งมันก็จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสองเหล่านี้สามารถท้าทายเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามของตัวเองได้ และน่าจะทำได้สำเร็จด้วยอัตราความสำเร็จที่สูงมาก ด้วยเหตุนี้สภาสิบแปดปีกจึงจะสามารถเลี้ยงดูผู้เล่นขั้นสามขึ้นมาได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หากพวกเขายอมมอบพื้นที่ทรัพยากรของป่าใบไม้ผลิเจ็ดสิบเปอเซ็นต์ไป แล้วพวกเขายังต้องมารับมือกับผู้เล่นจากโลกแห่งความมืด และมหาอำนาจต่างๆอีก ในช่วงเวลาที่เหลือ สภาสิบแปดปีกก็น่าจะต้องละทิ้งพื้นที่ป่าใบไม้ผลิทั้งหมดแน่นอน

ในขณะเดียวกันคริสตัลแห่งความมืดนั้นแม้ว่าพวกมันจะมีค่า แต่คุณค่าของมันจะใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ก็แค่สำหรับผู้เล่นสายความมืดเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดแล้วมันมีพลังแห่งความมืดอยู่ และมันก็ไม่ได้มีประโยชน์สำหรับผู้เล่นทั่วไปเลยแม้แต่น้อย ในความเป็นจริงคริสตัลแห่งความมืดห้าแสนชิ้น ไม่ได้มีมูลค่าเท่ากับคริสตัลเวทย์มนต์ห้าแสนชิ้นด้วยซ้ำในสายตาของผู้เล่นทั่วไป

“ฉันเข้าใจ แต่ป่าใบไม้ผลินั้นมีขนาดใหญ่มากๆ และสภาสิบแปดปีกก็มีขนาดไม่ใหญ่มากพอที่จะดูแลพื้นที่ทั้งหมด และแค่ดูแลพื้นที่ทรัพยากรสามสิบเปอเซ็นต์ยังตึงมือมากเลย ไม่ต้องพูดถึงห้าสิบเปอเซ็นต์ ดังนั้นแทนที่จะมามัวครอบครองอะไรที่ไร้ประโยชน์ เราเอาไปแลกกับสิ่งมีค่าไม่ดีกว่าหรอ ?” ซือเฟิงถามพลางหัวเราะเบาๆ

“แต่ผู้เล่นจากโลกแห่งความมืดเหล่านั้น …”

เสวี่ยเหวินโหรวเข้าใจถึงสิ่งที่ซือเฟิงพยายามจะพูด ณ จุดนี้ มันมีเพียงแต่ผู้เล่นขั้นสามเท่านั้นที่จะสามารถท่องไปในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยได้อย่างอิสระเป็นเวลานาน และผู้เล่นขั้นสองก็จะไม่สามารถอยู่ในแผนที่แบบนี้ได้นานนัก และกองกำลังในปัจจุบันที่สภาสิบแปดปีกมีนั้นมันก็ไม่เพียงพอที่จะเข้าครอบครองพื้นที่ทั้งหมดของป่าใบไม้ผลิ ดังนั้นการขายพื้นที่ไปบางส่วนมันจึงจะเป็นเรื่องที่ชาญฉลาด แต่ถ้าพวกเขาพิจารณาถึงทุกอย่างที่พวกเขาต้องเผชิญนั้น มันจะเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

“ผู้เล่นจากโลกแห่งความมืดนั้นเป็นตัวปัญหาจริงๆ แต่อย่าคิดว่าพวกเขาจะมาเป็นภัยคุกคามต่อสภาสิบแปดปีกในป่าใบไม้ผลิได้ง่ายๆ !!!!” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ

“หัวหน้ากิล เรากำลังพูดถึงโลกแห่งความมืดนะ ฉันได้พูดคุยกับแขกทั้งสองของเราก่อนหน้านี้แล้ว และทั้งสองก็ได้บอกฉันว่าโลกแห่งความมืดนั้นมีขนาดใหญ่เท่ากับจักรวรรดิทั่วไปสามจักรวรรดิเลย และมันมีผู้เล่นมากกว่าจักรวรรดิมังกรไฟด้วย และเราจะต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอย่างน้อยสองหมื่นคน ….” เสวี่ยเหวินโหรวกล่าวกับซือเฟิงด้วยรอยยิ้มขมขื่น

“แล้วถ้าเรามี NPC ขั้นสามติดอาวุธครบมือสักสองถึงสามพันคนล่ะ ?” ซือเฟิงถามด้วยรอยยิ้ม

“หัวหน้ากำลังพูดถึงกองอัศวินใช่ไหม ?” เสวี่ยเหวินโหรวเริ่มตระหนักได้ถึงสิ่งที่ซือเฟิงคิดอยู่ “แต่เรายังไม่มีเงินทุนเพียงพอในการอัพเกรด …”

“ใครบอกกัน ?” ซือเฟิงเหน็บ จากนั้นเขาก็เปิดกระเป๋าของเขาและเทมันออกมาในคลังของกิล

ภายในไม่กี่สิบวินาที ทั้งคลังก็เต็มไปด้วยวัสดุจำนวนมหาศาล และทุกชิ้นก็ล้วนหายากอย่างมาก และบางชิ้นเสวี่ยเหวินโหรวก็ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ ซึ่งในขณะที่สิ่งของเหล่านี้ค่อยๆไหลออกมาจากกระเป๋าของซือเฟิง ความหนาแน่นของมานาในคลังก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างมาก

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset