ตอนที่ 108 หมูน่าสงสัย
“ฮ่าฮ่า ,เจ้าทำตัวเองขายหน้าแล้ว ผู้สืบทอดของตระกูลชั้นสูงผู้มีสายเลือดต้นกำเนิดและได้รับจิตวิญญาณยุทธที่สืบทอดกันมาตั้งแต่เกิด, คิดว่าเป็นคนที่เจ้าจะยื่นมือเข้าไปช่วยได้? เจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่? เขาชอบคลานเหมือนหมามากกว่า!”
“ถึงอย่างนั้น,นายน้อยเยี่ยง,การหมอบคลานของท่านช่างดูสง่างาม,แขนขาทั้งสี่ข้างอยู่บนพื้น กดพื้นดินไว้จนมันขยับไปไหนไม่ได้,ช่างสมกับเป็นผู้สืบทอดของตระกูลชั้นสูง เขาแตกต่างจากพวกเราจริงๆ”
มีบางคนในฝูงชนเย้ยหยันเยี่ยงเชียงหยุ่นเมื่อเห็นเขา ทำให้ฝูงคนเขตตงหมิงได้ระบายอารมณ์ออกมา
“เจ้ารออยู่ตรงนั้น,สาปด่าต่อไป..เมื่อข้ากลับออกไปได้,พวกเจ้าทุกคน…”
“บูม!”
ก่อนที่เยี่ยงเชียงหยุ่นจะพูดได้จบประโยค,มีสายฟ้าฟาดลงมาจากสวรรค์ มันซัดเข้ากลางหลังของเขาอย่างไร้ความปราณี,ทำให้เขาต้องหน้าเสีย
“บูม!บูม!”
มีสายฟ้าอีกสองเส้นผ่าลงมาซัดเข้าที่ร่างของเยี่ยงเชียงหยุ่น ร่างของเขาดำเป็นถ่านและหมดสติไป
บนศาลาหลับไหล,เซียวเฉินใช้อัสนีร่วงหล่นออกมาสามครั้งก่อนที่โทสะของเขาจะจางหายไป เผชิญหน้ากับศิษย์ตระกูลชั้นสูงที่อวดดีหยิ่งผยอง,เซียวเฉินไม่เคยคิดจะใส่ใจใช้เหตุผลพูดคุย
เมื่อมีหมาวิ่งมากัด,อย่าได้ไปกัดกับหมา ให้หาไม้มาไล่ตีมันจนตาย
เมื่อซู่เสี่ยวเสี่ยวเห็นว่าเซียวเฉินไม่ได้เก็บคำของนางไปใส่ใจเลยแม้แต่น้อย,ยังคงทุบตีเยี่ยงเชียงหยุ่นต่อไป,สีหน้านางเปลี่ยน “เซี่ยวเฉิน,ทำไมเจ้าช่างน่ารังเกียจเช่นนี้? เขากล่าวออกมาแล้วว่าจะยอมถอยกลับไป”
เซียวเฉินหันหลังกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มไม่แยแส “ข้าสงสัยว่าเจ้าคงหูตาบอด,แกล้งเป็นไม่ได้ยิน,หรือปัญญานิ่มเกินกว่าที่จะเข้าใจภาษามนุษย์”
“เขากล่าวว่าจะปล่อยให้ข้ามีชีวิตต่อไปอีกสักสองสามวันและจะกลับมาฆ่าข้าทีหลัง เป็นเช่นนั้น,ทำไมข้าต้องไปเห็นอกเห็นใจเขา? ข้าไม่ได้โง่”
ซู่เสี่ยวเสี่ยวหน้าซีดโหโมสุดขีดและไม่อาจเปิดปากตอบอะไรกลับไปได้ เซียวเฉินหันหน้าไปกล่าวกับจินต้าเป่า “พี่น้องต้าเป่า,โปรดอย่าพาข้ามาแนะนำกับใครเช่นนี้,ข้าเกรงว่าสติปัญญาของพวกเขาจะต่ำเกินไป ข้าคงต้องขอตัวก่อน”เซียวเฉินพูดจบเขาก็กระโดดออกไปจากชั้นห้า
“โคตรเท่ห์, เขาเกือบจะได้สักสิบส่วนของท่านหมูผู้นี้ในอดีต” จินต้าเป่าถอนหายใจ,มองดูเซียวเฉินที่จากไป
ใบหน้าของซู่เสี่ยวเสี่ยวซีดหนัก นางเคยท่องไปทั่วอาณาจักรต้าฉินแห่งนี้,มีทั้งศิษย์ตระกูลชั้นสูงและเชื้อพระวงศ์มามายวิ่งมาต่อแถวเพื่ออยากจะเข้าพบนาง ดังนั้น,นางจึงไม่เคยพบเจอผู้ใดไร้มารยาทกับนางเช่นนี้มาก่อน
นางมองดูร่างของเซียวเฉินหายลับไป,กระทืบเท้าลงพื้นด้วยความโมโห นางหยิบพิณของนางขึ้นมามุ่งหน้าลงบันไดไป
หลังจากที่ซู่เสี่ยวเสี่ยวจากไป,เจ้าหมูก็คืนสติ เขากวาดตามองไปที่รูบนพื้นกำแพงและความเสียหายโดยรอบบนชั้นห้า
เขารู้สึกถึงหัวใจที่ถูกทิ่มแทงและสบตออกมา “ให้ตายเถอะ! ต้องจ่ายอีกกี่ตังซ่อมแซมของพวกนี้”
จินต้าเป่ายืนอยู่ตรงหน้ารูบนกำแพง เขามองลงไปเห็นเยี่งเชี่ยงหยุ่นที่หมดสติแน่นิ่งอยู่ ดวงตาของเขาเบิกกว้างไปด้วยความสุขพร้อมกับได้ความคิดดีๆขึ้นมา
เขารีบเรียกคนรับใช้เข้ามาที่ชั้นห้า “เจ้าหมอนั้น,เยี่ยงเชียงหยุ่นจ่ายเงินหรือยัง?”
“ข้าคิดว่ายัง ข้าเห็นว่าแม่นางเสี่ยวเสี่ยวยังอยู่และคิดว่านางจะเป็นคนจ่าย เมื่อครู่,แม่นางเสี่ยวเสี่ยวเดินออกไปหน้าซื่อ,ดูเหมือนว่านางจะลืมจ่ายเงินเสียสนิท” คนรับใช้พูดขึ้นอย่างเลิ่กลั่ก
จินต้าเป่าตอบกลับอย่างเกรี้ยวกราด “เจ้าคนระยำ,พอคิดว่าเขาจะให้ผู้หญิงจ่ายเงินแทน? ส่งคนลงไปหาเขาถ้าเห็นของอะไรมีค่าโด้มาให้หมด”
เมื่อคนรับใช้ได้ยินดังนั้น,เขาถามขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “แล้วจะให้พวกเราเหลือชุดชั้นในไว้ให้เขาไหม??”
เจ้าหมูจินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบกลับ “หากมันไม่มีราคาก็ทิ้งไป,เอามาแต่ของที่มีค่า อะไรก็ตามที่มีค่าเอามาให้หมด ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมชั้นห้าจะให้เขาเป็นคนจัดการ”
ด้านล่างศาลาหลับไหล,ฝูงชนรู้สึกเหมือนได้ระบายอารมณ์เมื่อมองไปเห็นเยี่ยงเชียงหยุ่นที่หมดสติอยู่ สมควรแล้วที่ถูกสายฟ้าฟาดใส่
“ข้าทางหน่อย,ขอทางหน่อย พวกเราคือคนเก็บหนี้ของศาลาหลับไหล,โปรดเปิดทาง”
คนรับใช้ของศาลาหลับไหลสามคนฝ่าฝูงชนเข้ามาถึงหน้าเยี่ยงเชียงหยุ่น ต่อหน้าฝูงชนที่ตกตะลึง,พวกเขาเปลืองผ้าถอดชุดของเยี่ยงเชียงหยุ่นออก
“เสื้อผ้าหรูหราจากหมู่บ้านภูษาฟีนิกซ์,แต่พวกมันขาดรุ่งริ่งหมดแล้วไร้ราคา โยนทิ้งไป” หนึ่งในคนรับใช้โยนเสื้อผ้าของเยี่ยงเชียงหยุ่นทิ้งไปเมื่อเห็นว่ากลายเป็นเศษผ้า
“สายคาดทองคำ,ไม่เลวๆ,ยังพอทำเงินได้บ้าง”
“รองเท้าพวกนี้ทำมาจากหนังอ่อนของสัตว์อสูรวิญญาณ พวกมันน่าจะได้ราคา โอ้,มีตั๋วทองซ่อนอยู่ข้างในด้วย”
“กางเกงนี้มันของอะไร? มาช่วยข้าดูหน่อย”
“แม่ง!ชุดเกราะศึกระดับปฐพีขั้นสูง! มีรวยเละกันแล้ว เหเหะ…ข้าสงสัยว่าจะได้ราคาสักเท่าไหร?”
ในพริบตา,พวกเขาก็เปลืองผ้าเยี่ยงเชียงหยุ่นเหลือแต่กางเกงใน ผู้ชมรอบๆต่างนิ่งอึ้ง พวกเขาหันไปซุบซิบกัน,ในอนาคต,คงไม่มีใครกล้ากินแล้วชักดาบที่ศาลาหลับไหลอีกแล้ว
แม้แต่เยี่ยงเชียงหยุ่นยังโดนรูดทรัพย์เหลือเพียงกางเกงใน ในหมู่พวกเขา,ไม่มีใครเส้นใหญ่ไปกว่าเยี่ยงเชียงหยุ่นอีกแล้ว คิดได้ดังนี้,พวกเขาก็ตัวสั่นอย่างช่วยไม่ได้
“เฮ้,กางเกงในตัวนี้เหมือนจะลิ่มด้วยทอง ควรเอาไปด้วยไหม?” หนึ่งในคนรับใช้ถามขึ้นอย่างลังเล
แม่ง! เดิมทีเหล่าจีนมุงทั้งหลายต่างสะใจ ในตอนนี้พวกเขาเริ่มสงสารเยี่ยงเชียงหยุ่น เจ้าหมอนี้มันจะน่าสงสารเกินไปแล้ว ในครั้งแรกที่เขามาเยือนเขตตงหมิง,เขาถูกใครบางคนเตะ
งมาจากศลาหลับไหลราวกับหมา ยิ่งไปกว่านั้น,คนจากศาลาหลับไหลยังจะรูดเอาไปแม้แต่กางเกงในของเขา
“ถอดมา,นายน้อยบอกว่าอะไรทำเงินได้หยิบไปให้หมด เขาต้องโทษรสนิยมการแต่งตัวของเขาเองแล้วล่ะ ทำอะไรไม่ทำเอาทองไปฝังใส่กางเกงใน” คนรับใช้คนนั้นพูดขึ้นขณะดึงสายคาดของเยี่ยงเชียงหยุ่นออกมา
“จะน่ากลัวเกินไปแล้ว,พวกเขาถอดมันออกมาจริงๆ ให้ตายเถอะ,ถ้าให้เลือก,ข้ายอมไปแหย่ตระกูลเจียงดีกว่าไปท้าทายศาลาหลับไหล จะน่ากลัวเกินไปแล้ว” บางคนในฝูงชนพูดขึ้นด้วยความตกใจ
หลังจากพวกเขาถอดกางเกงในออกมา,คนรับใช้คนนึงมองไปที่ท่อนล่างของเยี่งเชียงหยุ่น เขาพูดขึ้นด้วยความตกใจ “เฮ้,ผมล่างของเขาดูเหมือนจะชุบทองด้วย,พวกเขาควรโกนมันกลับไปด้วย?”
หลังจากคนรับใช้พูดเช่นนั้น,ผู้ชมทั้งหลายเหงื่อแตกเต็มหน้าผาก พวกเขารู้สึกเหมือนมีสายลมเย็นยะเยือกพัดผ่านเป้ากางเกงของพวกเขา,ราวกับมีอะไรหัก
“ให้ตายเถอะ,มันจะเกินไปแล้ว ตาข้าแทบบอด” คนรับใช้คนนึงบ่นออกมาหลังจากผ่านไปครู่ใหญ่
เช้าวันต่อมา,แสงอาทิตย์ส่องสว่างไสว มีผู้คนมามายเข้ามาที่ศาลาหลับไหล
เซียวเฉินในชุดคลุมดำเดินเข้ามาข้างในอย่างช้าๆ ชั้นหนึ่งของศาลาหลับไหลเต็มไปด้วยผู้คน เซียวเฉินพบว่าแค่จะเดินไปข้างหน้ายังทำได้ยาก
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมศาลาหลับไหลในวันนี้ถึงกิจการรุ่งเรืองนัก?” เซียวเฉินจับผู้บ่มเพาะพลังไว้คนนึงแล้วถามขึ้น
ผู้บ่มเพาะพลังที่เซียวเฉินจับตัวไว้,เผยสีหน้าไม่พอใจ เขาเกือบจะเสียการควบคุมเมื่อจู่ๆเขาก็สัมผัสได้ถึงเตนาฆ่าอันไร้ขอบเขตที่เซียวเฉินปล่อยออกมา
สีหน้าของเขากลายเป็นอบอุ่นและชี้ไปที่กำแพงไม้ เขามีรอยยิ้มบนใบหน้าพร้อมกับพูดขึ้น “ดูตรงนั้น,มีป้ายแปะอยู่บนกำแพงไม้อยู่ เจ้าไปดูแล้วจะเข้าใจเอง
มีผู้คนมากมาย,เผวียงเฉินต้องใช้พลังปราณของเขาแทรกผ่าฝูงชนเข้าไป หลังจากที่เขาเห็นหัวเรื่องของป้าย,เขาหัวเราะลั่นอย่างช่วยไม่ได้
“แจ้งให้ทราบ:ไม่นานมานี้,ภายในเมืองไป๋สุ่ย,มีสำเนาปลอมของซากโบราณระบาด ยังมีคำว่า ‘โง่บัดซบ’ เขียนอยู่บนแผนที่,หลอกขายเอาเงินจากทุกคน
“ข้าไม่อาจทนเห็นเช่นนี้ได้ ช่างเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ ด้วยเหตุนี้,ข้าขอรับรอง,ด้วยชื่อเสียงกว่าหนึ่งร้อยปีของศาลาหลับไหล,ข้าจะแจกสำเนาแผนที่ของซากโบราณของจริง”
“ตราบใดที่มาใช้บริการครบหนึ่งพันเหรียญเงิน,ศาลาหลับไหลจะให้แผนที่ซากโบราณครึ่งแรกแบบฟรีๆ เมื่อจ่ายอีกหนึ่งพันเหรียญเงิน,เราจะมอบแผนที่อีกครึ่งที่เหลือให้ทันที -พวกเราทำการค้ารักษาสัตย์ด้วยใจจริงและเป็นธรรมทั้งผู้เยาว์และผู้ใหญ่ ขอแสดงความนับถือ,จินต้าเป่า”
เซียวเฉินใช้ศิลปะมังกรฟ้าเมฆาโผทะยาน,พุ่งขึ้นบันไดไปราวกับปลาแหลกว่ายในสายน้ำ ตลอดทาง,เสียงผู้คนไหลผ่านหูของเซียวเฉิน
“เจ้าหมูนั้นช่างเป็นคนดีเสียจริง พอรู้ว่าพวกเราถูกโกง,เขาก็ยกแผนที่ให้เราตราบใดที่มาใช้บริการที่นี้”
“แน่นอน,เพื่อซื้อไอ้แผนที่ ‘โง่บัดซบ’ นั้นข้าต้องจ่ายเงินไปหนึ่งพันเหรียญเงิน ที่ข้าต้องทำที่นี่ก็มีเพียงกินดื่มให้ครบหนึ่งพันเหรียญเงินก็จะได้แผนที่มาฟรีๆ ข้าอารมณ์เสียทุกครั้งที่เห็นเจ้าหมูนั้น ในตอนนี้,ในที่สุดเขาก็ทำอะไรดีๆเป็นบ้าง”
“หยุดพูดแล้วกินเข้าไปเร็ว! เจ้ากินไปได้เท่าไหรแล้ว?”
“ข้ากินหมั่นโถวไปเป็นร้อยก้อนแล้ว,อีกยังเหลืออีก 900 เหรียญเงิน ก็จะครบหนึ่งพันเหรียญเงิน”
เมื่อเซียวเฉินได้ยินเช่นนั้น,พลังปราณของเขาหยุดชะงัก,เกือบจะหลุดจากศิลปะมังกรฟ้าเมฆาโผทะยานล้มหัวทิ่ม เขาตะโกนด่าในใจ,เจ้าหมูตัวนั้นมันไม่ใช่มนุษย์ หลังจากไปหลอกเอาเงินชาวบ้านแล้วยังลากพวกเขาให้เอาเงินมาถมเพิ่มอีก
เมื่อเขาขึ้นมาถึงชั้นสาม,เซียวเฉินแสดงบัตรผ่าน
“บริกร,เอาชาดีๆมาหนึ่งหม้อแล้วก็ของกินสักสองสามอย่าง” เซียวเฉินตะโกนสั่งทันทีที่หาที่นั่งได้ บริกรของศาลาหลับไหลคล่องแคล่วว่องไว,ไม่นานหลังจากที่เขาสั่งอาหารเสร็จ,อาหารและชาของเซียวเฉินก็มาถึงโต๊ะในทันที
“เจ้าเห็นสีหน้าของเยี่ยงเชียงหยุ่นตอนที่ยามลากเขาออกไปเมื่อเช้าไหม?”
“ข้าเห็นแล้ว,น่าสมเพชเป็นที่สุด เขาแทบจะร้องไห้ออกมา ร่างของเขาสะอาดหมดจด,ของทุกอย่างโดนถอดไปเรียบ”
เมื่อเซียวเฉินได้ยินดังนั้น,เขาก็สนใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาจำได้ว่าเยี่ยงเชียงหยุ่นหมดสติไปที่ข้างถนน ทำไมถึงมีใครมารูดของของเขาไปหมด?”
“ฮ่าฮ่า, ถ้าข้าเป็นเขา,ข้าก็ร้องเช่นกัน ข้าได้ยินมาว่าเจ้าหมูตามไปเก็บหนี้กับเขาและไถขนทุกเส้นของเขาไม่เหลือ คนจริงแค่ไหนก็ร้อง”
“เจ้าหมูนั้นช่างน่ากลัว คงไม่มีใครกล้าท้าทายศาลาหลับไหลอีกในอนาคต เขาโกนขนทุกเส้นบนร่างของเขา,ไม่ทิ้งอะไรเหลือไว้สักอย่าง!”
“พรืด!”
เซียวเฉินพ่นชาที่เขาเพิ่งจิบเข้าปากอย่างช่วยไม่ได้
หลังจากนั้นครู่ใหญ่,เซียวเฉินจัดการอาหารบนโต๊ะไม่มีเหลือ คนรับใช้ตรงเข้ามาหาเขาและนำทางเขาไปที่ห้อง ภายในห้อง,เจ้าหมูกำลังหัวเราะคิกคักขณะที่นั่งทำบัญชี เมื่อเขาเห็นเซียวเฉิน,เขารีบยืนขึ้นต้อนรับ
เซียวเฉินตัดเข้าเรื่องในทันทีและถามขึ้น “เจ้าพบสถานที่แล้วใช่ไหม?ไม่เช่นนั้นคงไม่เอาแผนที่ไปขาย”