ตอนที่ 104 หวาดกลัว
“ฟุ่ว!”
สายเลือดสายกระเซ็นไปในอากาศ บาดแผลน่ากลัวปรากฎขึ้นบนหน้าอกเหนือหัวใจของชายหน้าแผลเป็น เขาไม่เคยเห็นระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธคนไหนใช้กระบี่ได้รวดเร็วเช่นนี้มาก่อน
เขารู้สึเสียใจที่พาให้ทั้งตัวเขาและพี่น้องต้องมาตายเพราะความโลภต่อเงินหนึ่งพันเหรียญทอง อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรมารักษาความเสียใจได้ ในตอนที่เขาส่งน้องเก้าสะกดรอยตามเซียวเฉิน,ตอนนั้นชะตาของเขาก็ขาดสะบั้นไปแล้ว
เซียวเฉินเก็บกระบี่เข้าฝักและจมลงไปในจิตสำนึกของเขา เขาเห็นว่าพลังปราณของเขาเหลือเพียงครึ่งเดียว เขาถอดหายใจออกมา,ความสิ้นเปลืองพลังปราณจะสูงเกินไปแล้ว,ดูเหมือนข้าจะต้องเก็บท่านี้ไว้เป็นไพ่ตายเท่านั้น
ในสถานะปัจจุบัน,หากเขาใช้มันออกไปสองครั้ง,นั้นเท่ากับว่าใช้พลังปราณทั้งหมดในร่างของเขา นี่เป็นครั้งแรกของเซียวเฉินที่ใช้ไฟต้นกำเนิดของเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงเพื่อฆ่าคนสักคน ผลเป็นที่น่าพอใจแต่ความสิ้นเปลืองพลังปราณนั้นสูงเกินไป
ที่หลังของชายแผลเป็นมีกระเป๋าอยู่,นั้นเป็นผลเก็บเกี่ยวของคนกลุ่มนี้ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนในป่าอำมหิต เซียวเฉินเปิดมันดู,หลังจากเก็บเอาแก่นกลางวิญญาณระดับ 3 และสมุนไพรระดับ 4 อีกนิดหน่อย,เขาก็โยนที่เหลือทิ้งไป
ไม่นานนักหลังจากที่เซียวเฉินจากไป,คนของตระกูลเจียงก็มาพบ พวกเขาจึงรีบรายงานไปหาเจียงหยุ่นเสอ,เจีนงหยุ่นเสอรีบตรงเข้ามาทันที หลังจากมองเห็นบาดแผลบนหน้าอกของชายแผลเป็น,ก็มีความคิดวิเคราะห์ปรากฎขึ้นบนดวงตาของเขา
“ผู้อาวุโสหนึ่ง,ท่าคิดเช่นไร?เป็นฝีมือเจ้าหมอนั้น?” นักบ่มเพาะพลังตระกูลเจียงคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างถามขึ้น
หลังจากนั้นครู่ใหญ่,เจียงหยุ่นเสอก็พูดขึ้น “บาดแผลบนหน้าอกของเขาเหมือนกับของหนึ่งในพี่น้องของเราเมื่อหลายวันก่อน มันจะต้องเป็นคนคนเดียวกัน”
ผู้บ่มเพาะพลังตระกูลเจียงด้านข้างอุทานด้วยความยินดี “ในที่สุดมันก็เผยตัว จากอุณหภูมิของร่างกาย,เขายังไปไม่ได้ไกลนัก”
“ล่า!” เจียงหยุ่นเสอพูดด้วยเสียงลึกขณะที่สีหน้ามืดมัว
…..
ขณะที่เซียวเฉินมุ่งหน้าไปที่ทางออกของป่าอำมหิต,เขาก็พบกับผู้บ่มเพาะพลังสองสามกลุ่มที่เต็มไปด้วยความโลภ เขาจัดการกับพวกนั้นได้โดยปราศจากปัญหา บางคนในพวกนั้นจำเซียวเฉินได้,บางพวกก็แค่เห็นเขาเดินมาคนเดียวจึงเข้ามาปล้น
นกตายเพราะมองหาอาหาร,คนเราตายเพราะมองหาความมั่งคั่ง ภายในป่าอำมหิต,ผู้อ่อนแอกลายเป็นอาหารให้ผู้แข็งแกร่งเป็นเรื่องธรรมดา แม้แต่กับมนุษย์ก็ไม่มีข้อยกเว้น
น่าเสียดายสำหรับพวกเขา,แค่เพียงทักษะกระบี่สายฟ้าฟาดและศิลปะมังกรฟ้าเมฆาโผทะยาน,สามารถกล่าวได้ว่าไม่มีใครเทียบเซียวเฉินได้ในระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธเหมือนกัน นอกจากพวกเขาจะไม่ได้อะไรกลับไป,พวกเขายังต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่
ทางเข้าเมืองไป๋สุ่นใกล้เข้ามาแล้ว เซียวเฉินหรี่ตามองตรงไปกลังจากนั้นไม่นานเขาก็เร่งเท้าเดินออกจากป่าอำมหิต
ในทันทีที่เซียวเฉินก้าวเท้าออกมาจากป่าอำมหิต,เขาสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าส่งมาจากด้านหลังของเขา เขารีบหลบเข้าด้านข้าง
“จิ!”
ลูกศรบินผ่านเซียวเฉินไป เซียวเฉินตกตะลึง ลูกศรดอกนี้รวดเร็วมาก หากเขาไม่ได้เพิ่มระดับทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ไปที่ชั้นสาม,เช่นเดียวกับรับรู้เจตนาของคนยิงได้ล่วงหน้า,เขาคงโดนลูกศรไปแล้ว
เซียวเฉินถีบเท้าลงพื้นและพุ่งตัวขึ้นสูงไปในอากาศ เมื่อเขาลงจอด,เขารีบหันหลังไปมองโดยทันที
ข้างหลังเซียวเฉิน,เจียงหยุ่นเสอนำกำลังกลุ่มนักบ่มเพาะพลังตระกูลเจียงไล่ตามเขามา เมื่อเจียงหยุ่นเสอเห็นเซียวเฉินปรากฎตัวขึ้นเขาก็ตกใจเล็กน้อย,ผ่านไปเพียงหกวันรูปร่างหน้าตาของเซียวเฉินเปลี่ยนไปมาก
ที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่าคือเซียวเฉินยกระดับขอบเขตพลังขึ้นไปถึงสองขั้น,จากระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นสูงขึ้นไประดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นกลาง นอกจากนั้นยังใช้เวลาเพียงหกวัน
“เซียวเฉิน,ส่งแผนที่มาแล้วข้าจะให้เจ้าตายแบบง่ายๆ มิเช่นนั้นข้าจะทำให้แน่ใจว่าเจ้าอยากจะตายมากกว่าอยู่” เจียงหยุ่นเสอพูดด้วยน้ำเสียงมืดมน แม้ว่าเขาจะตกใจกับระดับพลังของเซียวเฉิน,เขาก็ไม่ได้ไปสนใจมากนักด้วยระดับขอบเขตปรมจารย์ยุทธของเขา
เซียวเฉินกวาดตามองไปที่ทุกคน,จากนั้นเขาก็ขยายสัมผัสวิญญาณออกไป ความคิดของเขารวดเร็วราวสายฟ้า,คิดหาทางอย่างรวดเร็ว,สู้,หรือหนี
มรทั้งหมด 31คน นอกจากเจียงหยุ่นเสอ,ผู้ที่อยู่ระดับขอบเขตปรมจารย์ยุทธ,พวกที่เหลือเป็นระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธ อย่างไรก็ตามส่วนมากอยู่ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นสูง
เซียวเฉินมองผ่านสัมผัสวิญญาณของเขาเห็นว่ามีนักบ่มเพาะพลังสองร้อยคนนำมาโดยสามระดับขอบเขตปรมจารย์กำลังตรงเข้ามา
หากเขาจบการต่อสู้ได้ก่อนที่สามระดับขอบเขตปรมจารย์จะมาถึง,เขาก็จะมีโอกาสหลบหนีไปได้
เซียวเฉินตัดสินใจ เขามองไปที่เจียงหยุ่นเสอและยิ้มขึ้นบางเบา “ยังไงข้าก็ต้องตายอยู่ดีไม่ว่าจะส่งแผนที่ให้เจ้าหรือไม่,ทำไมเจ้าถึงคิดว่าข้าจะส่งมันให้เจ้า?”
เจียงหยุ่นเสอยิ้มขึ้น “คิดว่าเจ้าจะมีทางเลือก? ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา,คนที่กล้ามาแหยมกับตระกูลเจียงแห่งเมืองไป๋สุ่ยล้วนมีจุดจบน่าอนาททั้งนั้น”
เจียงหยุ่นเสอถือกระบี่เหล็กของเขาไว้ในมือและเดินนำหลุ่มผู้บ่มเพาะพลังตรงเข้ามาหาเซียวเฉิน,ทีละก้าว เขาเผยรอยยิ้มชั่วร้าย ในสายตาของเขา,เซียวเฉินไร้ทางต่อต้าน
สิบก้าว..เก้าก้าว..แปดก้าว…สีหน้าของเซียวเฉินไม่เปลี่ยนพร้อมทั้งนับระยะห่างระหว่างตัวเขากับคนกลุ่มนั้น เมื่อคนพวกนั้นเข้ามาในระยะห้าก้าวห่างออกไปจากเซียวเฉิน,เขาก็เริ่มลงมือ
“อัสนีหลบเลี่ยง!”
มีสายฟ้าวูบผ่านและร่างของเซียวเฉินก็หายไปจากจุดเดิม ต่อหน้าต่อตาพวกเขาทุกคน,เขาปรากฎตัวขึ้นท่ามกลางกลุ่มคนของตระกูลเจียง
“สยายปีกร่ายรำพันปี!”
เซียวเฉินตะโกนขึ้นมาเบาๆและกระโดดขึ้นไปในอากาศ ร่างของเขาเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆกลางอากาศ แสงกระบี่วูบผ่านไปทีละร่าง,ทำให้เกิดเสียงกรีดร้องขึ้นมาซ้ำๆอย่างน่าเวทนา
“ถอยเร็ว!” เจียงหยุ่นเสอตะโกนออกมาเสียงดัง เซียวเฉิน,ผู้ที่เปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครสามารถจับตัวเขาได้ทัน
ผู้บ่มเพาะพลังตระกูลเจียงรีบถอยห่างออกมา อย่างไรก็ตามแสงกระบี่นั้นรวดเร็วเกินไป,ทุกครั้งที่มีแสงกระบี่วูบผ่านมา,จะต้องมีใครสักคนได้เลือด เลือดและแขนขาสาดกระเซ็นลงพื้นอย่างต่อเนื่อง
สยายปีกร่ายรำพันปีเป็นทักษะต่อสู้ที่อันตรายและกินพื้นที่กว้าง ยิ่งมีคนกระจุกอยู่รวมกันมากเท่าไหร,มันก็จะทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น แสงกระบี่วูบผ่านออกมาอย่างต่อเนื่อง,เซียวเฉินยิงออกมามากกว่าหนึ่งพันกระบี่ในเสี้ยววินาที
หลังจากที่เซียวเฉินลงมาถึงพื้น,ผู้บ่มเพาะพลังตระกูลเจียงที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมีเพียงประมาณสิบคน ที่เหลือถูกซัดด้วยแสงกระบี่,ศพของพวกเขาถูกฉีกกระชากเป็นหลายชิ้นเกลื่อนพื้น
เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากร่างไร้วิญญาณอย่างต่อเนื่อง แขนขาและเครื่องในกระจายเต็มพื้น,ทุกที่เต็มไปด้วยกองเลือด
ที่เหลืออีกสิบคนกลายเป็นหน้าซีด แม้ว่าพวกเขาจะเคยฆ่าคนมาก่อน,แต่จำนวนก็ห่างจากที่ตายในวันนี้วันเดียว,พวกเขาไม่เคยเห็นฉากฆ่าล้างที่โหดเหี้ยมเช่นนี้มาก่อน
หากพวกเขาไม่เร็วพอ,พวกเขาคงเป็นหนึ่งในศพที่อยู่บนพื้น เมื่อคิดได้เช่นนั้น,หัวใจของผู้บ่มเพาะพลังตระกูลเจียงที่เหลืออยู่ก็บีบรัด พวกเขารู้สึกได้ถึงเม็ดเหงื่อเย็นเฉียบที่หลังของพวกเขา
เจียงหยุ่นเสอปรากฎสีหน้าไม่น่าดู เขามองดูเหล่าศิษย์ตระกูลเจียงที่กองอยู่กับพื้น,คนที่ยังยืนอยู่เมื่อครู่กลายเป็นกองซากศพในพริบตา เขาตะโกนขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด “ข้าจะฆ่าเจ้า!”
เขากวัดแกว่งกระบี่และกระโดดขึ้นไปในอากาศ,ฟันลงไปที่หัวของเซียวเฉิน มีแสงรวมตัวกันที่คมกระบี่ นี้เป็นทักษะที่ระดับขอบเขตปรมจารย์ขึ้นไปเท่านั้นที่จะใช้ได้,รวมพลังปราณใส่ลงไปในคมกระบี่
แสงกระบี่ที่เจียงหยุนเสอสร้างขึ้นนั้นยาว 3.3 เมตร,มันช่างดูทรงพลัง เซียวเฉินไม่กล้าเข้าไปรับตรงๆ เขาถีบเท้ากระโดดขึ้นไปใช้ศิลปะมังกรฟ้าเมฆาโผทะยาน,ลอยตัวถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
“บูม!”
แสงกระบี่ซัดลงพื้นไปอย่างรุนแรง ฝุ่นลอยขึ้นไปทั่วทิศทางและปรากฎรอยแยกขึ้นบนพื้น เจียงหยุ่นเสอชักกระบี่กลับอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขายังคงเพิ่มพลังของกระบี่เรืองแสงรุ่งโรจน์ออกมา
“ตาย!”
เจียงหยุ่นเสอตะโกนเสียงดังพร้อมกับยกกระบี่ขึ้น พลังฉีพลุ่งพล่านรวมกันที่ตัวกระบี่,ยิงเข้าใส่เซียวเฉินผู้ที่ยังคงลอยอยู่กลางอากาศ
เซียวเฉินประหลาดใจ,เจียงหยุ่นเสอผู้นี้สามารถใช้กระบี่พลังฉีได้ แม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถใช้งานได้ดั่งใจ,แต่พลังของมันก็อยู่ในระดับขอบเขตเซียน
นอกจากนั้น,มุมที่กระบี่พลังฉีพุ่งมายังยากที่จะรับมือ ปราศจากพื้นให้เหยียบกลางอากาศ,มันยากที่เซียวเฉินจะหลบ
“สยายปีกเชือดเฉือน!”
มีแสงเงาปรากฎขึ้นที่ตัวกระบี่เงาจันทร์ กระบี่เล่มนี้อาจจะดูธรรมดาแต่แฝงไปด้วยพลังมหาศาล
“ปัง!”
กระบี่เงาจันทร์ฟันลงไปที่กระบี่พลังฉีส่งเสียงดังออกมา เซียวเฉินไม่ได้ถูกผลักลอยไปไหน,ลงจอดที่พื้นอย่างมั่นคง
“ฮ่ะ!” ทันใดนั้นลมพายุก็ปรากฎขึ้นบนพื้น ไม่รู้ว่าเจียงหยุ่นเสอใช้ทักษะต่อสู้อะไรออกมา ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นก่อนที่จะมาถึงตัวเซียวเฉินในทันที
แสงกระบี่ปรากฎขึ้นบนตัวกระบี่และไล่ตามเซียวเฉิน,ผู้ที่ยังไม่ได้ตั้งตัว
“วาดกระบี่!”
กระบี่วูบผ่านและกระบี่เงาจันทร์ก็เข้าปะทะกับแสงกระบี่ของเจียงหยุ่นเสอ กระบี่ของเซียวเฉินออกทีหลังแต่มาถึงก่อน เป็นฝ่ายซัดเข้ากับกระบี่ของเจียงหยุ่นเสอ
“ปัง!”
พลังมหาศาลออกมาจากกระบี่,ทำให้เซียวเฉินถูกผลักถอยกลับไปห้าก้าว เจียงหยุ่นเสอพยายามทรงตัวแต่พลังที่ออกมาจากตัวกระบี่ผลักเขาต้องถอยกลับไปสองก้าว
“เป็นเซียวเฉินคนนั้นจริงรึ? พอคิดว่าเขาไม่ได้เสียเปรียบอะไรมากมายในตอนที่เข้าปะทะกับเจียงหยุ่นเสอ!”
“เขาสามารถสังหารผู้บ่มเพาะพลังของตระกูลเจียงได้มากกว่าสิบคนในกระบวณท่าเดียว นั้นจะต้องเป็นทักษะระดับปฐพีขั้นสูง เบื้องหลังของคนคนนี้ไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน”
“ดูเหมือนครั้งนี้ตระกูลเจียงจะเสียหน้าแล้ว,ไม่ว่าพวกเขาจะคลี่คลายสถานการณ์ลงเช่นไร คนมากมายก็ตายลงเพื่อจับตัวระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นกลางเพียงคนเดียว”
“ข้าได้ยินมาว่าแผนที่ที่หลุดมาจากตระกูลเจียงก็อยู่กับเขา เขาสามารถเอาชนะศิษย์คนสุดท้ายของนิกายดาบเงาหมอกฉู่เฉาหยุ่น,ฮวาหยุ่นเฟยจากตระกูลฮวา,และราชินีในอนาคตของตระกูลตวนมู่,ตวนมู่ฉิง จากที่เห็นในตอนนี้ดูเหมือนข่าวลือจะเป็นจริง”
เนื่องจากที่แห่งนี้คือป่าอำมหิต,เป็นเรื่องปกติที่จะมีนักบ่มเพาะพลังผ่านไปมา การต่อสู้ระหว่างทั้งสองคนดึงความสนใจของคนนับไม่ถ้วน ทั้งหมดต่างพูดคุยถกเถียงเกี่ยวกับการต่อสู้ด้านหน้าของเขา
คำพูดของพวกเขาลอยมาเข้าหูเจียงหยุ่นเสอ ความโกรธในใจของเขาถูกราดด้วยน้ำมันถังใหญ่ เขาก้าวไปข้างหน้าและแสงกระบี่รุ่งโรจน์มารวมกันที่ตัวกระบี่อีกครั้ง
“บูม!”
เซียวเฉิน,ผู้ที่ประมือกับเขา,ไม่ลังเลที่จะใช้กระบวณท่าเดิม ผลก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม,เซียวเฉินถอยหลังกลับมาห้าก้าว
เจียงหยุ่นเสอไม่อยากที่จะถูกซัดถอยหลังต่อหน้าทุกคน เขาฝืนระงับพลังที่ถูกส่งออกมาจากกระบี่และพุ่งขึ้นหน้าไปหาเซียวเฉิน
การระงับพลังในกระบี่ของเขาเป็นเรื่องที่อันตรายมากแล้วยิ่งทำในการต่อสู้ หากเขาไม่สามารถจัดการคู่ต่อสู้ได้ก่อนที่พลังจะตีกลับ,เขาจะได้รับผลย้อนกลับ ในตอนนี้พลังที่เขาระงับเอาไว้จะดีดกลับด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า
“บูม!บูม!บูม!บูม!บูม!”
เจียงหยุ่นเสอฟันห้าจังหวะ เซียวเฉินถอยกลับไปและมาถึงชายแดนของป่าอำมหิต มือขวาของเขา,ที่ถือกระบี่เงาจันทร์เอาไว้ถูกซัดจนชา เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่หน้าอก
ดวงตาของเซียวเฉินสงบนิ่ง,ปราศจากร่องรอยของความตื่นตกใจ เขายืนหยัดอดทนรวบรวมพลัง เขาไม่เชื่อว่าเจียงหยุ่นเสอจะทำเช่นนี้ต่อไปได้อีกนาน ตอนนี้เป็นการแข่งว่าใครจะทนกว่ากัน
“บูม!บูม!บูม!บูม!”
เจียงหยุ่นเสอก้าวเข้ามาอย่างหนักแน่นและตะโกนออกมาเสียงดัง แสงกระบี่สี่เส้นถูกยิงออกมาจากกระบี่ของเขา นั้นทำให้เซียวเฉินถูกซัดลอยกลับไปในป่าอำมหิต
อย่างไรก็ตาม,พลังที่เจียงหยุ่นเสอระงับเอาไว้ก็มาถึงขีดจำกัด เจียงหยุ่นเสอคิดจะหยุดมือลงแค่นี้แต่,เมื่อเขาเห็นใบหน้าซีดขาวและเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากของเซียวเฉิน,เขาตัดสินใจละทิ้งความคิดนั้นไป
ไอ้เด็กเหลือขอนี้เป็นเพียงระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นกลาง,มันไม่มีทางทนความแข็งแกร่งของข้าได้ ข้าคิดว่ามันก็ทำแบบเดียวกับข้า,ฝืนระงับพลังในร่างเอาไว้ มาวัดกันว่าใครจะยืนได้ถึงตอนจบ,ข้าจะไม่มีวันถอย
เมื่อคิดได้ดังนั้น,เจียงหยุ่นเสอตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมกับเตรียมตัวลงมือครั้งสุดท้าย,เพื่อสังหารเซียวเฉิน
สายตาของเซียวเฉินนิ่งสงบราวกับสายน้ำ เขาสังเกตเห็นรอยแตกเล็กๆบนกระบี่ของเจียงหยุ่นเสอ นอกจากนั้น,เขายังสังเกตเห็นว่าเจียงหยุ่นเสอดูผิดปกติเล็กน้อย เขารู้ว่ามันได้เวลาแล้ว..
“อัสนีฟาดฟัน!”
เขาตะโกนออกมาเบาๆและกระบี่เงาจันทร์ก็ปลดปล่อยประกายสายฟ้านับไม่ถ้วนออกมา แก่นกลางปีศาจระดับ 6 ถูกรีดพลังออกมาถึงขีดสุด พลังงานที่เขาสะสมมาทั้งหมดใช้ไปกับทักษะกระบี่อัสนีฟาดฟัน
เสียงระเบิดดังขึ้นด้านหลังเซียวเฉิน เขาพุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศอย่างสง่างาม,ทิ้งไว้ข้างหลังเพียงเงา เขาพุ่งฝ่าอากาศและเกิดเป็นคลื่นกระแทก,กระทบเข้ากับแสงกระบี่ของเจียงหยุ่นเสอ
“ปัง!”
กระบี่ทั้งสองปะทะกันและมีบางอย่างไม่คาดคิดเกิดขึ้น กระบี่ระดับลึกซึ้งขั้นสูงในมือของเจียงหยุ่นเสอแตกสะบั้น
“เบี่ยงร่างกระแทก!”
ใช้ความได้เปรียบในตอนที่เจียงหยุ่นเสอกำลังตกใจ,เซียวเฉินเอี่ยงตัวไปด้านข้างและจอจ่อพลังทั้งหมดในร่างของเขาไปที่หัวไหล่ พุ่งไปข้างหน้าอย่างรุนแรง,ร่างของเขา,ที่ถูกเสริมพลังมาจนถึงระดับที่น่ากลัว,กระแทกไปที่หน้าอกของเจียงหยุ่นเสอ
“ฟุ่!”
เจียงหยุ่นเสอกระอักเลือดออกมาเต็มปากในทันทีและลอยสูงขึ้นไปในอากาศ จากนั้นเขาก็ตกลงที่พื้นอย่างรุนแรง,พลังที่เขาระงับเอาไว้ระเบิดออกมา
หลังจากที่เขาลงถึงพื้น,เขาก็กระอักเลือดออกมาเก้าคำอย่างต่อเนื่องใบหน้าของเขาซีดขาว เขามองไปที่เซียวเฉินที่กำลังเดินตรงเข้ามาอย่างช้าๆและพึมพำขึ้น “เป็นไปได้อย่างไร? มันเป็นเพียงแค่ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธ…… มันสามารถเอาชนะข้าในเรื่องความแข็งแกร่งได้จริง?”