ตอนที่ 97 ฝึกหนัก
ภายในป่า,เซียวเฉินราวกับว่าลอยหายไปในอากาศ เมื่อเซียวเฉินปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งทิวทัศน์ด้านหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
มีน้ำตกใหญ่ไหลทะลักเห็นอยู่ไกลๆ,ไหลลงสู่แม่น้ำสายยาวด้านล่าง ที่ฝั่งแม่น้ำที่พื้นที่กว้างขวาง เพียงแค่ยืนอยู่ก็ได้กลิ่นเย็นสดชื่นลอยมาปะทะจมูก
แม่น้ำสายนี้รู้จักกันในนามแม่น้ำจ้วง มีแม่น้ำหลายสายในป่าอำมหิตแห่งนี้,แม่น้ำสายนี้เป็นเพียงหนึ่งในนั้น ตอนนี้เซียวเฉินกำลังยืนอยู่ที่ต้นน้ำ
สถานที่นี้ไม่ง่ายนักที่จะสังเกตเห็นหากไม่รู้มาก่อน ตามปกติไม่มีใครมาสนใจสถานที่แห่งนี้อยู่แล้วแต่สัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินตรวจพบมันได้
ในถ้ำด้านหลังน้ำตกมีก้อนศิลาขนาดใหญ่ มีพลังวิญญาณบริเวณนี้หนาแน่น หากใครก็ตามที่ขึ้นไปนั่งบ่มเพาะพลังบนนั้นพวกเขาจะสามารถเร่งการบ่มเพาะพลังขึ้นมาได้อีกมากกว่าครึ่งจากปกติ
หลังจากที่เซียวเฉินค้นพบที่นี้โดยบังเอิญ,เขารีบวางค่ายกลลวงตาทันทีเพื่อซ่อนมันจากคนอื่นๆ โดยปกติบริเวณนี้มักไม่ค่อยมีคนผ่านมาแต่ในตอนที่เซียวเฉินกำลังจะวางค่ายกลเขาก็ยังตรวจสอบพื้นที่โดยรอบอย่างไม่รีบร้อน
ค่ายกลลวงตานี้เซียวเฉินใช้เวลาถึงสิบวันเต็มถึงจะเสร็จสมบูรณ์ ตราบใดที่ไม่มีระดับขอบเขตราชาผ่านมาแถวนี้,ไม่มีทางที่จะมีใครตรวจพบสถานที่แห่งนี้ แม้ว่าพวกเขาจะเดินผ่านมาโดยไม่ได้ตั้งใจ,พวกเขาก็ไม่อาจรู้สึกถึงมันได้
ในตอนนี้เซียวเฉินได้มาถึงที่นี้แล้ว,เขาปลอดภัยอย่างแน่นอน เขาพบแท่นหินเรียบๆก้อนนึงและขึ้นไปนั่งขัดสมาธิ เขาหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อย่างช้าๆและเข้าสู่สภาวะบ่มเพาะพลัง
ดวงอาทิตย์ลอยสูงสาดแสงไปทั่วแผ่นดิน,ค่ำคืนมืดมิดผ่านพ้นไป เซียวเฉินก็ลืมตาขึ้นสูดหายใจเข้าลึก เขาโดดลงจากแท่นหินและไปล้างหน้าที่แม่น้ำ
ในตอนเช้า,น้ำตกหยุดนิ่งสายน้ำนิ่งสงบราวกับกระจก เซียวเฉินยกเท้าขึ้นเหยียบไปบนพื้นน้ำ,ร่างของเขาหยุดนิ่งอย่างน่าอัศจรรย์พื้นน้ำ
จิตใจของเซียวเฉินสงบนิ่งราวกับน้ำใสพร้อมกับหมุนเวียนฝึกฝนศิลปะมังกรฟ้าเมฆาโผทะยาน เขาหลับตาลงและก้าวเดินไปบนพื้นน้ำอย่างช้าๆ ทุกย่างก้าวเกิดเป็นแรงกระเพือมบนผิวน้ำ
ตามตำนานโบราณ,มังกรนั้นเป็นเจ้าแห่งท้องฟ้าและมหาสมุทร มันสามารถดำดิ่งลงไปในหุบเหวลึกใต้สมุทรก้นแม่น้ำเรียกลมเรียกฝนได้ตามใจอยาก,ไม่มีอะไรที่มันไม่อาจทำได้ เมื่อมันทะยานขึ้นไปบนสวรรค์ทั้งเก้า,มันสามารถขี่เมฆสั่งฟ้าเรียกอัสนีลงมาได้ทันที,และบินไปไกลหลายพันลี้ได้ในพริบตา
ศิลปะมังกรฟ้าเมฆาโผทะยานเป็นทักษะเคลื่อนไหว เมื่อฝึกฝนมันได้สมบูรณ์,การขี่เมฆพลิกฟ้าคว่ำสมุทรในตำนานก็สามารถทำได้โดยง่าย
ในหลายวันที่ผ่านมา,เซียวเฉินฝึกฝนศิลปะมังกรฟ้าเมฆาโผทะยานอยู่กลางแม่น้ำจ้วง ในตอนแรกเขาแทบไม่มีความคืบหน้า,อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาก็ประสบความสำเร็จขั้นเล็กๆและสามารถเดินบนผืนน้ำได้
เซียวเฉินเดินไปบนผิวน้ำอย่างเชื่องช้า,เพื่อทำความเข้าใจต่อศิลปะมังกรฟ้าเมฆาโผทะยานให้ลึกซึ้ง เมื่อดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูง,เสียงน้ำตกก็ดังขึ้นมา
น้ำตกไหลทะลักลงมาอีกครั้ง ผิวน้ำที่นิ่งสงบกลับไปเป็นวุ่นวาย เซียวเฉินลืมตาขึ้นและเผยสายตาจริงจัง
จากตอนนี้เป็นต้นไป,ของทุกๆวัน,การฝึกฝนที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มขึ้น หากเซียวเฉินเลินเล่อแม้แต่นิด,เขาจะจมลงไปในแม้น้ำโดยทันที
น้ำในแม่น้ำไหลเชี่ยวรวดเร็ว เซียวเฉินยืนอยู่บนผิวน้ำ ทุกย่างก้าวที่เขาเดินไป,เขาก็สูญพลังปราณไปเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามร่างของเขาก็ยังแกว่งไปมาบนพื้นน้ำ
“ปุทง!”
เมื่อเซียวเฉินก้าวไปได้ประมาณหนึ่งร้อยก้าว,เขาไม่สามมารถประคับประคองได้อีกต่อไปและตกลงไปในแม่น้ำ สายน้ำเชี่ยวหลากพาร่างของเซียวเฉินลอยไปตามน้ำอย่างรวดเร็ว
แม้น้ำจ้วงที่เคยนิ่งสงบในตอนนี้เผยด้านโหดร้าย สายน้ำเชี่ยวหลากพร้อมพลังมหาศาล,มันผลักร่างของเซียวเฉินลอยออกไป,ทำให้ยากที่เชี่ยวเฉินจะทรงตัวได้ในขณะที่ลอยไปตามน้ำอย่างรวดเร็ว
นี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่เกิดขึ้น เซียวเฉินไม่ได้ตกอกตกใจและนิ่งสงบมาก กลั้นหายใจเอาไว้,ร่างของเขาค่อยๆจมลงไปที่ก้นแม่น้ำ
พลังปราณในร่างของเขาหมุนเวียนไปในขณะที่เขารอที่จะลงมือหลังจากที่สะสมพลังมาได้บางส่วน เขาผลักเท้ากระแทกไปที่ก้นแม่น้ำและร่างของเขาก็พุ่งขึ้นมาราวกับลูกศร,กระโดดขึ้นมาจากผิวน้ำ
เมื่อเขากำลังจะร่วงลงไปที่แม่น้ำอีกครั้งเขาก็ตีลังกากลางอากาศและลงจอดที่ฝั่งแม่น้ำอย่างสวยงาม
เมื่อมองไปที่แม้น้ำที่เชี่ยวหลาก หากนักบ่มเพาะพลังทั่วไปประมาทเลินเล่อ,พวกเขาอาจจะจบชีวิตลงที่ก้นแม่น้ำ
เซียวเฉินรู้สึกไม่สบายตัวเมื่อร่างของเขาชุ่มไปด้วยน้ำ เซียวเฉินปาดน้ำออกจากหน้าและถอดเสื้อผ้าออก จากนั้นเขาก็หยิบเสื้อผ้าสำรองจากแหวนห้วงจักรวาลออกมาเปลี่ยน
ในตอนนี้ไม่เหมาะที่จะฝึกฝนทักษะเคลื่อนไหวอีกต่อไป เซียวเฉินก็ไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่า หลังจากกินอาหารแห้งเสร็จแล้วเขาก็หยิบเสาไม้มาปักลงบนพื้น
เขาถือกระบี่เงาจันทร์ไว้ในมือและยืนอยู่ใต้แสงอาทิตย์สว่างจ้า,ฝึกฝนกระบวณท่าแรกของทักษะกระบี่สายฟ้าฟาด ในความคิดของเขา,เขาจะต้องฟันเสาไม้นี้ให้ได้ยี่สิบครั้งก่อนที่มันจะตกลงมาถึงจะจัดได้ว่าสมบูรณ์แบบ
ในตอนนี้เขาทำได้เพียงสี่ครั้ง,นั้นถือได้ว่าสำเร็จไปเพียงเล็กน้อย หนทางอีกยาวไกลกว่าจะถึงความสมบูรณ์แบบ
“ฉัวะ!ฉัวะ!ฉัวะ!ฉัวะ!ฉัวะ!”
หลังจากที่ฝึกฝนมาเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง,ในที่สุดเซียวเฉินก็สามารถฟันติดกันห้าครั้งได้สำเร็จ เสาไม้สั่นไหวไปมาครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ล้มลงมา
“ในที่สุดก็ก้าวหน้าขึ้นมาบ้าง! ข้าสามารถฟันห้าครั้งติดกันได้แล้ว!” เซียวเฉินพูดขึ้นอย่างมีความสุขขณะที่ปาดเม็ดเหงื่ออกจากหน้าผากและด้ามกระบี่
หลังจากที่ได้ออกมาจากเมืองม่อเหอ,เซียวเฉินก็ตระหนักได้ว่ายังมีอัจฉริยะอีกมากมายบนโลกใบนี้ เขาเป็นเพียงเศษเสี่ยวเล็กๆเท่านั้น
เพียงแค่ในเขตดงหมิง,ก่อนที่อายุจะย่างเข้า 16 หรือ 17 ปีเหล่าผู้สืบทอดจากสามมหาอำนาจก็ก้าวขึ้นสู่ระดับขอบเขตปรมจารย์เรียบร้อยแล้ว
นั้นเป็นระดับที่บางคนอาจก้าวขึ้นไปไม่ได้ตลอดชีวิตของพวกเขา อย่างไรก็ตามคนพวกนั้นกลับทำได้อย่างง่ายดายด้วยอายุเพียง 16 หรือ 17 ปี
เมื่อก้าวออกมาสู่โลกกว้าง,ที่ที่มีอัจฉริยะน่ากลัวนับไม่ถ้วน ระดับพลังในปัจจุบันของเซียวเฉินนั้นแสนธรรมดา,ไม่มีค่าพอที่จะกล่าวถึง เขาเป็นได้เพียงหยดน้ำหนึ่งหยดในมหาสมุทร,ไร้ความหมาย
นับตั้งแต่ที่เขาได้เข้ามาสู่โลกที่ความแข็งแกร่งเป็นใหญ่,เขาจะไม่ยอมถูกปกครองโดยผู้อื่น,ไม่ยอมเป็นเพียงแท่นหินให้ผู้อื่นเหยียบขึ้นไปและจางหายไปตามกาลเวลา
เมื่อไร้ซึ่งพรสวรรค์,เขาก็ต้องมุ่งมั่นใช้พรแสวง,เหมือนกับจักรพรรดิอัสนีเมื่อหนึ่งพันปีก่อน เขาเกิดในครอครัวที่ยากจน,แต่เขาพึ่งกำลังของตัวเองเหยียบย่ำเหล่าอัจฉริยะจากตระกูลชั้นสูงทั้งหลาย
เขาได้รับมรดกสืบทอดมาจากจักรพรรดิอัสนี,แม้ว่าเขาจะไม่ได้ภูมิใจกับมันแต่เขาก็ต้องใส่ใจกับชื่อเสียงในตำนานจักรพรรดิอัสนี เนื่องจากเขาไม่มีพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาด,เขาก็ต้องทุ่มเทลงแรงเพิ่มขึ้นหลายร้อยหรือหลายพันเท่า
เขาปักเสาไม้ลงอีกครั้งและตั้งสมาธิจดจ่อ เขายังคงฝึกฝนชักกระบี่ฟันต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ท่อนไม้ที่วางกองอยู่กับพื้นเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆนับไม่ถ้วน
หลังจากผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง,เซียวเฉินเก็บกระบี่เข้าฝักและพักลงครู่หนึ่ง เขาเดินไปที่ฝั่งแม่น้ำอย่างช้าๆและตามองไปที่น้ำตกที่ไกลออกไป, เขาเขาเหนื่อยล้าพอสมควร
“ฆ่า!”
เขาตะโกนออกมาเบาๆและกระโดดขึ้นไปที่ผืนน้ำอย่างรุนแรง,ก้าววิ่งไปอย่างรวดเร็วบนผิวน้ำ ทิ้งระลอกคลื่นสูงกว่าสองเมตรไว้ด้านหลัง
เซียวเฉินยังคงวิ่งต่อไป,ไม่หยุดพักแม้แต่เล็กน้อย เมื่อเขาเข้าใกล้น้ำตก,เขาตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมกับกระโดดสูงขึ้นไปในอากาศ
หอกที่สร้างขึ้นมาจากพลังฉีปรากฎขึ้นด้านหน้าของเขา พร้อมกับเสียง ‘ฉัวะ’ มันก็ผ่าน้ำตกแยกออกจากัน เซียวเฉินกระโดดไปที่ก้อนหินที่อยู่ด้านหลังน้ำตก นี่เป็นถ้ำที่ซ่อนอยู่ด้านหลังน้ำตก
มันลึกเพียงสองเมตรและอากาศก็อับชื่น น้ำตกไหลลงมาที่ปากถ้ำราวกับม่านที่สร้างขึ้นมาจากน้ำ มันคล้ายกับถ้ำม่านน้ำตกในชีวิตก่อนของเขา
ในถ้ำมีแผ่นหินที่เรียบแบนตั้งอยู่ เซียวเฉินเผยรอยยิ้มออกมาและค่อยๆนั่งลงข้างบน เขาเข้าสู่สภาวะบ่มเพาะพลังโดยทันที,ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์หมุนเวียนในร่างของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
พลังวิญญาณหนาแน่นในบริเวณโดยรอบไหลเข้าสู่ร่างของเซียวเฉินอย่างต่อเนื่อง พลังวิญญาณหนาแน่นราวกับม่านหมอกที่ดูเหมือนเกือบจะควบแน่นมาเป็นของเหลว
เซียวเฉินหมุนเวียนมันไปตามเส้นลมปราณทั่วร่างของเขา มีความเร่าร้อนออกมาจากจุดที่จิตวิญญาณยุทธของเขาสถิตอยู่
เซียวเฉินรู้ว่านี่เป็นสัญญาณของการพัฒนาระดับขอบเขตพลัง ตราบใดที่เขาต้องการ,เขาสามารถฟื้นฟูระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นต่ำของเขากลับมาได้โดยทันที
อย่างไรก็ตาม,เซียวเฉินไม่ทำเช่นนั้น หลังจากที่ใช้ค่ายกลอัสนีเก้าสวรรค์ออกไป,ระดับพลังของเขาตกลงมาอยู่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นสูง หลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับมันอย่างถี่ถ้วนและรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร กลับกัน,มันเป็นโอกาสให้เขาได้สร้างระดับพื้นฐานให้มั่นคง
เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก้าวจากระดับขอบเขตปรับแต่งวิญญาณมาถึงระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นต่ำ สำหรับผู้บ่มเพาะพลังทั่วไปมันเป็นสิ่งที่เกินจะเชื่อได้ลง เมื่อเป็นเช่นนั้นทำให้เขาไม่ได้สร้างพื้นฐานที่เหมาะสม
มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องสร้างฐานของอาคารสูงให้มั่นคง พื้นฐานที่มั่นคงจะไม่ทำให้อาคารสูงพังลงมา
เส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังนั้นก็มีรูปแบบคล้ายกัน หากเปรียบระดับขอบเขตปรับแต่งวิญญาณเป็นการฝังเสาเข็ม,เช่นนั้นระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดก็เป็นการก่อพื้นฐาน
เซียวเฉินใช้เวลามากกว่าคนอื่นๆในระดับขอบเขตปรับแต่งวิญญาณ,เขาใช้เวลาไปถึง 15 ปีเต็ม เสาเข็มที่เขาฝังลงไปนั้นลึกกว่าคนอื่นๆหลายเท่า ในตอนนี้,สิ่งที่เขาต้องทำก็คือเทพื้นฐานอีกครั้งและสร้างรากฐานที่ไม่มีวันแตกหัก
เพียงนึกคิด,เซียวเฉินซึมซับพลังวิญญาณมหาศาลลงไปในเลือดเนื้อและกระดูกของเขา, เสริมสร้างร่างกายของเขาอย่างช้าๆ
หลังจากที่พลังปราณไหลเวียนไปในร่างของเขาได้ครบเก้ารอบ,ดวงตาของเซียวเฉินก็ลืมขึ้นมา มีสารเหลวสีดำเหนี่ยวปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา เซียวเฉินกระโดดออกจากปากถ้ำไปที่น้ำตกเชี่ยวหลาก,ชำระล้างของเสียที่ถูกขับออกมาจากร่างของเขา
เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมาในทันตา,ไร้กังวลและผ่อนคลาย เขาตะโกนออกมาเสียงดังอย่างไม่อาจห้ามได้ กระแสพลังของเขาระเบิดออก หยดน้ำที่เกาะอยู่ตามร่างของเขาระเหยแห้งไปในทันที
“บูม!”
เซียวเฉินลงจอดบนผิวน้ำอย่างรุนแรง พลังมหาศาลกระจายออกไปจากใต้ฝ่าเท้าของเขา ในพริบตาต่อมา,เกิดเป็นคลื่นน้ำระเบิดสูงกว่าสามเมตรรอบตัวเขา
เซียวเฉินกดเท้าลงเบาๆส่งตัวลอยกลับมาที่ริมฝั่งแม่น้ำ ดวงอาทิตย์กำลังตกลงไปที่ขอบฟ้า,ค่ำคืนได้มาถึง หนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ร่างตัวเล็กสีขาววิ่งตรงมาจากด้านนอกของค่ายกลลวงตา เมื่อเซียวเฉินเห็นดังนั้น,เขาก็เผยรอยยิ้มออกมา ไม่ว่าการบ่มเพาะพลังในครั้งนี้จะน่าเบื่อหรือเปล่าเปลี่ยวถึงเพียง,เขาก็ยังมีเสี่ยวไป๋ค่อยอยู่ข้างๆ
หลังจากได้พักฟื้นหนึ่งคืน,เสี่ยวไป๋ก็กลับไปมีชีวิตชีวาตามเดิม มันกระโดดหนีออกจากหยกวิญญาณสีเลือดไปนานแล้ว
เซียวเฉินไม่เป็นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของมันนัก ความรวดเร็วของเสี่ยวไป๋นั้นเร็วอย่างไม่น่าเชื่อหลังจากที่ได้บ่มเพาะทักษะมายาเก้าสวรรค์ แม้แต่เซียวเฉินก็ถูกทิ้งไม่เห็นฝุ่น
เมื่อมันวิ่งมาทางเซียวเฉิน,พบว่ามันมีต้นสมุนไพรคาบมาในปาก มันวางสมุรไพรลงบนมือของเสี่ยวเฉินราวกับกำลังยื่นบรรณาการ เซียวเฉินไม่ได้แปลกใจนัก,สัมผัสของเซียวไป๋ไวต่อวิญญาณแห่งธรรมชาติ ทุกครั้งที่มันออกไปก็มักจะคาบอะไรกลับมาด้วยเสมอ
เซียวเฉินตรวจสอบสมุนไพรในมืออย่างระเอียด ดวงตาของเขาเป็นประกายพูดขึ้นอย่างมีความสุข “สมุนไพรวิญญาณระดับ 5 – กล้วยไม้ร่ำไห้! นี่คือสมุนไพรระดับสูงอายุมากกว่า 30 ปี มูลค่ามากกว่าหลายพันเหรียญทอง”
ได้ยินเซียวเฉินพูดอย่างเป็นสุข,เสี่ยวไป๋เผยรอยยิ้มแบบมนุษย์ เห็นได้ชัดว่ามันพึงพอใจมาก