Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 93 หมูพรสวรรค์

เมื่อเขาลงถึงพื้นท่อนล่างของเขายังวิ่งต่อไปอีกสองสามเมตร วินาทีต่อมาเขาก็ปรากฎสีหน้าหวาดกลัวมองดูท่อนล่างของตัวเองกำลังวิ่งออกไป

เขาหันหัวมองไปรอบๆในทันทีที่ประกายแสงสายฟ้าจางหายไปเขาก็เห็นสายตาของเซียวเฉินที่จ้องมองมาอย่างเย็นชา

เซียวเฉินยิงเปลวเพลิงสีม่วงออกไปเผาร่างของเขาเป็นเถ้าถ่าน หลังจากนั้นเขาก็กลับเข้าห้องไปเก็บของก่อนที่จะเผ่นออกไปทันที

ในเช้าวันต่อมาเซียวเฉินก็เดินออกมาจากโรงเตี๊ยมซอมซ่อแห่งหนึ่ง เขาสวมผ้าคลุมดำปกปิดร่างของเขาไว้ในเงามืดพร้อมกับเดินทางไปยังศาลาหลับไหล

การแต่งตัวแบบเซียวเฉินไม่ใช่เรื่องแปลกตาสำหรับนักบ่มเพาะพลัง ดังนั้นเมื่อเขาเดินเข้าไปในศาลาหลับไหลก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจอะไร

เขาเดินมาที่โต๊ะว่างตัวหนึ่งก่อนที่จะนั่งลง เซียวเฉินเรียกบริกรมา “โปรดแจ้งเจ้านายของเจ้าให้มาที่นี้ บอกเขาว่ามีธุรกิจมานำเสนอ”

บริกรมองมาที่เซียวเฉินและพบความตลกขบขัน,คิดว่าเจ้าของศาลาหลับไหลจะลงมาเจอใครก็ได้?

“ต้องขออภัย,ข้าคิดว่าท่านยังไม่เข้าใจกฎของเรา”

เซียวเฉินยิ้มขึ้นและหยิบตั๋วเงินออกมาห้าร้อยเหรียญเงินพร้อมกับรูปสลักไม้ เขายื่นมันไปหาบริกร “โปรดทำตามที่ข้าขอแล้วก็รับเงินนี้ไป เมื่อเจ้านายของเจ้าเห็นรูปสลักไม้อันนี้เขาจะไม่โทษเจ้าแน่นอน”

บริกรเปิดตากว้างเป็นประกายพร้อมกับรับตั๋วเงินมา “แขกผู้น่านับถือท่านช่างตรงไปตรงมา ข้าจะไปเดียวนี้ แต่ข้าไม่รับปากว่าเจ้านายจะยอมลงมาเจอท่าน”

เซียวเฉินหยิบถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นมาจิบเบาๆ เขายิ้มแล้วก็พูดขึ้น”ไม่เป็นไร,ได้ความเช่นไรให้มาแจ้งข้า จะสำเร็จหรือไม่ข้าก็จะไม่โทษเจ้า”

ไม่นานหลังจากที่บริกรจากไปเสียงเท้าอันหนักแน่นของจินต้าเป่าดังลงมาจากชั้นสอง มองเห็นการแต่งตัวของเซียวเฉินเขาก็งุนงงก่อนที่จะวิ่งตรงเข้ามาท่าทางระริกระรี้ “พี่น้องเวียวทำไมเจ้าแต่งตัวเช่นนั้น? เจ้ากำลังหนี? หากเป็นเช่นนั้นเจ้ามาเจอข้าได้ ข้าพอมีเส้นสาย เจ้าอยากจะไปที่ไหน?ขอแค่บอกมา”

เซียวเฉินไม่ได้กล่าวอะไร,มือขวาของเขาที่ถือถ้วยชาอยู่ทันใดนั้นก็ขยับออกไปเกิดเสียง ‘โซว’ เขาคว้ารูปสลักไม้ในมือของเจ้าหมูกลับมา เขาวางมันลงบนโต๊ะและจากนั้นก็ไปรับถ้วยชาที่กำลังร่วงลงมาอย่างช้าๆ

จินต้าเป่ารี่ตาลงและประเมินเซียวเฉินอย่างระเอียด เขานิ่งอึ้งในใจ เขาไม่คาดคิดว่าเซียวเฉินจะรวดเร็วได้ถึงเพียงนี้ในยามที่ลงมือ เขาประมาทและลดการป้องกันลง

เซียวเฉินวางถ้วยชาลงและพูดอย่างเฉยเมย “พี่น้องต้าเป่าเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องที่ข้ากำลังหลบหนี ข้ามาเพื่อคุยธุรกิจเท่านั้น ข้าเป็นคนตรงไปตรงมา ข้ามีเพียงคำถามเดียวจะถามเจ้า…. เจ้าเอาด้วยหรือไม่เอา?”

จินต้าเป่ามีรอยยิ้มกลับมาบนหน้าอีกครั้ง “แน่นอน!”

เซียวเฉินพูดขึ้น “เช่นนั้นเรามาคุยกันถึงรายละเอียด รูปสลักที่เจ้าเห็นเมื่อครั้งก่อน…ข้าจะไม่สร้างมันขึ้นมาอีก รูปสลักที่ข้าจะตกลงกับเจ้าคือรูปสลักที่เจ้าเพิ่งเห็นเมื่อครู่”

เจ้าหมูจินขมวดคิ้ว “ขอข้าพูดก่อนพี่น้องเซียว รูปสลักทั้งสองนั้นราคาของตัวที่มีเสื้อผ้ากับไม่มีเสื้อผ้ามันไม่ได้ต่างกันแค่เท่าหรือสองเท่า”

“เช่นนั้นดูเหมือนพวกเราจะเห็นไม่ตรงกันแล้ว ข้าก็มีเส้นที่ไม่อาจข้าม ข้าจะไม่ขายรูปสลักเจ้าหญิงหยิงเยว่ที่ทั้งตัวมีแต่ชุดชั้นใน ลาก่อน” เซียวเฉินลุกขึ้นและจากนั้นก็เดินไปที่ประตู

เจ้าหมูจินรีบลุกขึ้นดึงตัวของเซียวเฉินไว้ หน้ายิ้มปากพูด “พี่น้องเซียวไม่ต้องรีบร้อน ข้าตอบปฏิเสธไปตอนไหน? ข้าเพียงคำนวณราคาเท่านั้น โปรดนั่งก่อน,โปรดนั่งแล้วมาคุยกันก่อน”

เซียวเฉินยิ้มในใจเขาคาดเดาไว้แล้วว่าเจ้าหมูนี้ต้องการการซื้อขายครั้งนี้มาก เขาคิดไว้แล้วว่าจินต้าเป่าคงไม่ปล่อยให้เขาเดินออกไปเฉยๆเช่นนั้น เมื่อตกลงกับพวกชอบคิดคำนวณเช่นนี้เขาไม่อาจใช้จิตสำนึกไปคิดคำนวณได้ เขาต้องแสดงให้เห็นว่าเขาอยู่เหนือกว่าหรือมิเช่นนั้นจะเสียเปรียบร้ายแรง

เมื่อเห็นว่าเซียวเฉินกลับมานั่งอีกครั้งเจ้าหมูจินก็พูดขึ้น “พี่น้องเซียวเอาอย่างนี้เป็นเช่นไร? เจ้าก็เป็นคนตรงไปตรงมาข้าก็จะไม่มากความ ข้าจะเอาตามแผนเดิม เจ้าทำสินค้าข้าจัดการเรื่องขาย จากนั้นเราจะแบ่งกัน 30-70 “

เซียวเฉินคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ข้าไม่ชอบการแบ่งรายได้ มันช้าเกินไปกว่าเงินจะไหลเข้ามา แค่บอกราคามาว่าเจ้าจะยินดีซื้อรูปสลักด้วยราคาเท่าไหร?”

เจ้าหมูจินพึมพำกับตัวเองอย่างไม่แน่ใจก่อนที่จะพูดขึ้น “เอาเป็นหนึ่งร้อยเหรียญเงินต่อรูปสลักหนึ่งชิ้น?”

เซียวเฉินนิ่งอึ้ง พอคิดว่ามันจะขายได้ราคาสูงถึงเพียงนี้ หนึ่งร้อยเหรียญทองเทียบได้กับหนึ่งหมื่นเหรียญเงิน ราคาของไม้ที่นำมาแกะสลักแทบจะเป็น 0 กำไรที่ได้มันเกินที่เซียวเฉินคาดไว้ไปไกล

เหรียญเงินที่มีอยู่ในกระเป๋าของเขาที่ได้รับมาจากการขายเม็ดยาอดอาหารให้ศาลาหลินหลาง มันทั้งยุ่งยากและซับซ้อนกว่าจะสกัดเม็ดยาออกมาได้ เมื่อเทียบกันแล้วการแกะสลักมันง่ายกว่าเยอะ

ในหน้าแนะนำของคาถาสละชีวิตในตำราบ่มเพาะพลังมันมีบันทึกการสร้างรูปสลักไม้โดยเฉพาะ ทักษะการแกะสลักของเซียวเฉินก็ได้มาจากตรงนั้น

ในโลกใบนี้ในที่ที่พลังเป็นใหญ่ จึงมีเพียงไม่กี่คนที่สนใจจะมาค้นคว้าทักษะเช่นนี้ งานทำมือของเซียวเฉินจึงเป็นเอกลักษณ์เด่นในโลกนี้

แต่เดิมเขาจะปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหมูแต่หลังจากมีการลอบสังหารเมื่อคืนเขาก็รู้สึกร้อนใจ

ในเส้นทางการบ่มเพาะพลังมันจะต้องใช้เงินจำนวนมาก ไม่เพียงแค่เม็ดยา,ชุดเกราะดีๆและอาวุธวิญญาณเท่านั้นที่ต้องใช้จ่ายเงินมหาศาล

เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมสานุศิษย์ในตระกูลชั้นสูงถึงบ่มเพาะพลังได้รวดเร็วกว่าทั่วไปนั้นก็เป็นเพราะพวกเขาเข้าถึงเม็ดยาและอุปกรณ์ชั้นสูง

แม้ว่าตระกูลเซียวจะได้รับเงินจากการสกัดเม็ดยาแต่พวกเขาก็ยังไมาสามารถสกัดเม็ดยาระดับสูงออกมาได้ นอกจากนั้นกระบวณการสกัดเม็ดยายังต้องใช้เงินมหาศาล

เซียวเฉินที่ตั้งใจจะสร้างเครื่องใช้เพิ่มมาอีกในอนาคต นั้นก็ต้องใช้เงินมหาศาลเช่นกันดังนั้นเขาจึงต้องการเงินมหาศาลจริงๆ

เมื่อเจ้าหมูจินเห็นว่าเซียวเฉินไม่พูดอะไรออกมาเขาก็คิดว่าราคาคงจะต่ำเกินไป เขาพูดขึ้น “พี่น้องเซียวเจ้ายังไม่พอใจกับราคานี้? นี่เป็นราคาที่สูงที่สุดที่ข้าจะให้ได้ ข้าไม่เอารัดเอาเปรียบเจ้านี่เป็นราคาสูงสุดที่ข้าจะให้ได้แล้ว”

เซียวเฉินคืนสติกลับมาและยิ้มขึ้น “ไม่ใช่เช่นนั้น ข้าเพียงแค่ทึ้งนิดหน่อย เจ้าไปหาคนที่ไหนที่จะมาซื้อได้ราคาสูงถึงเพียงนี้?”

“โซว!”

พัดสีทองในมือของเจ้าหมูกางออกอย่างรวดเร็ว เซียวเฉินรู้ว่าเมื่อมาเช่นนี้มันจะเป็นเวลาที่เขาจะเริ่มคุยโม้แล้ว

แน่นอนหลังจากที่เขาพัดตัวเองอย่างจริงจัง เขาก็ยิ้มอย่างโอ้อวด “พี่น้องเซียวเจ้าจะต้องไม่รู้เรื่องนี้เป็นแน่ แต่เจ้าหญิงมีอิทธิพลแข็งแกร่งมากในราชวังและในเมืองหลวง มันก็ไม่เกินจริงนักที่จะเรียกนางว่าเทพธิดา ไม่เพียงแค่นางแข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นรูปลักษณ์ของนางก็ราวกับนางฟ้า”

“เจ้าหมูผู้นี้สังเกตเห็นมานานแล้ว ใช้โอกาสธุรกิจนี้ข้าให้คนเขียนหนังสือเกี่ยวกับนางออกมาสองสามเล่ม พูดได้ว่าผู้ชายทุกคนในเมืองหลวงมีสำเนาเก็บไว้ทุกคน”

“ด้วยอิทธิพลของหนังสือก็เกิดแรงแรงบรรดารใจอย่างอื่นขึ้นมา,ข้าคิดเรื่องรูปสลักไม้นี้มานานแล้ว ช่างน่าเสียดายข้าไม่อาจหาช่างแกะสลักที่เหมาะสำหรับงานนี้ได้ ดังนั้นเมื่อข้าพบพี่น้องเซียวข้าก็รู้สึกเหมือนได้พบพี่น้องที่ตามหากันมานาน”

เซียวเฉินนิ่งอึ้งในใจเจ้าหมูนี้เป็นหมูนักธุรกิจอย่างแท้จริงพอคิดว่าเขาสามารถคิดค้นของพวกนี้ออกมาทำตลาดได้

หลังจากนั้นเขาก็คิดอะไรบางอย่าง เขาถามขึ้น “พี่น้องต้าเป่าพวกหนังสือที่เจ้าว่า…พวกมันคงไม่ใช่นิยายลามกหรอกใช่ไหม?”

เจ้าหมูยิ้มอย่างเลิ่กลั่ก “พวกมัน..อืมม..มันก็ไม่เชิงเป็นนิยายลามก… ข้าบอกได้เพียงว่ามันเป็นนิยายรักและเหนือจินตนาการ”

เซียวเฉินรู้สึกละอายในใจ,ข้าว่าแล้ว เจ้าหมูนี้คงไม่ทำนิยายสายศีลธรรมอย่างแน่นอน เขาถามขึ้นอย่างเป็นกังวล “เจ้าไม่กลัวว่าทางราชวังจะพบว่าเจ้าทำเรื่องเช่นนี้?”

เจ้าหมูจินยิ้มอย่างหยาบคาย “นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปเป็นกังวลสักนิด เจ้าหน้าที่ผู้รับหน้าที่ตรวจสอบมีการตกลงกับข้าไว้แล้ว เรายังเคยถกเถียงกันเกี่ยวกับนิยายเป็นการส่วนตัว นิยายของเราเป็นตอนยาว หากเขากวาดล้างมันเขาก็จะไม่ได้อ่านตอนต่อไป”

เซียวเฉินชื่นชมเขาจากก้นบึ้งของหัวใจในครั้งนี้ เขาหยิบรูปสลักที่เขาสร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้และยื่นไปทางเจ้าหมูจิน “ข้าสร้างพวกมันขึ้นมาเป็นระยะเวลานาน มันน่าจะมีประมาณหนึ่งร้อยชิ้นได้ บอกราคาข้ามา!”

เจ้าหมูจินไม่ได้พูดอะไรรอยยิ้มตื่นเต้นปรากฎขึ้นบนหน้าของเขาพร้อมกับหยิบรูปสลักไปตรวจดูอย่างละเอียดทีละตัว เขาแลดูจริงจังมาก

บนชั้นสี่ของศาลาหลับไหล,เจียงหมิงเหิงและตวนมู่ฉิงนั่งอยู่ที่โต๊ะตามลำพัง

เจียงหมิงเหิงยิ้มเป็นประกาย “แม่นางตวนมู่ข้าได้ตกลงกับเจ้าของจิ้งจอกวิญญาณเรียบร้อยแล้ว คนรับใช้ของข้ากำลังจะไปรับมันมา เขาน่าจะนำมาส่งถึงเร็วๆนี้”

ตวนมู่ฉิงยิ้มกว้าง “เจ้าจ่ายไปเท่าไหร? ข้าจะให้เป็นสองเท่า ข้าจะไม่ให้เจ้าขาดทุนแม้แต่น้อย”

มองเห็นรอยยิ้มของตวนมู่ฉิงที่นานๆจะออกมาที เจียงหมิงเหิงรู้สึกเป็นสุข “ข้าไม่ได้จ่ายไปมากมาย แม่นางตวนมู่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ตราบใดที่เจ้ามีความสุข”

ตวนมู่ฉิงตะโกนอย่างนุ่มนวล “คนคนนั้นเมื่อวานต้องการอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์เพื่อแลกกับมัน นายน้อยเจียงเจ้าเล่นตุกติกอะไร?”

เจียงหมิงเหิงหัวใจแทบหยุดเต้น เขาพูดด้วยท่าทางจริงจัง “แม่นางตวนมู่แม้ว่าตระกูลของข้าจะพอมีอิทธิพลในเมืองไป๋สุ่ยโดยปกติข้าก็ไม่รังแกใครอยู่แล้ว นอกจากนั้นแม่นางตวนมู่ก็นั่งอยู่ตรงนี้หากข้าทำเรื่องเช่นนั้นไม่เท่ากับว่าข้าดูแคลนตระกูลตวนมู่?”

ตวนมู่ฉิงพบว่ามันตลกในใจเงียบๆแต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ทั้งสองยังคงนั่งรอแต่หลังจากนั่งรอมาเป็นเวลานานคนรับใช้ของเจียงหมิงเหิงก็ยังไม่มาสักที

“ข้าคิดว่าต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เอาไว้คุยกันเรื่องนี้ต่อกันวันหลัง ข้าต้องขอตัวก่อน” ตวนมู่ฉิงในที่สุดก็หมดความอดทนและตรงไปทางบันได

เจียงหมิงเหิงตะโกนด่าเจ้าคนรับใช้ในใจ ปาตั๋วเงินปึกหนึ่งลงบนโต๊ะก่อนที่จะรีบนามนางไป

เจียงหมิงเหิงวิ่งตามนางจนมาทันที่ชั้นสอง เขาตะโกนออกมาเสียงดัง “แม่นางตวนมู่ฟังข้าอธิบายก่อน”

ตวนมู่ฉิงหยุดฝีเท้าลงและพูดอย่างสุภาพ “นายน้อยเจียงไม่มีอะไรต้องอธิบาย นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเจ้าไม่ต้องเป็นกังวล”

มองดูสีหน้าของตวนมู่ฉิง,เจียงหมิงเหิงรู้ว่าแผนของเขาพังพินาศ เขารู้สึกเป็นกังวลอย่างช่วยไม่ได้

ในขณะนั้นเจ้าหมูจินก็นับรูปสลักครบทั้งร้อยตัว เขาวางพวกมันไว้ด้านข้างอย่างมีความสุขและหยิบปึกตั๋วเงินสีทองออกมา เขาพูดขึ้น “พี่น้องเซียว,โปรดนับ!”

เซียวเฉินเก็บมันเข้าไปทันทีและลุกขึ้น “ไม่จำเป็น ยินดีที่ได้ทำธุรกิจกับเจ้า เมื่อข้าทำออกมาอีกข้าจะมาหาเจ้า”

เมื่อเขาหันกลับไปก็สบตาเข้ากับเจียงหมิงเหิงพอดิบพอดี เมื่อเจียงหมิงเหิงเห็นเซียวเฉินผู้แจ่งชุดคลุมดำ,ความตกใจก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขา

“เซียวเฉิน!”

หลังจากความตกใจก็กลายเป็นความโหโมอันไร้ขอบเขต เจียงหมิงเหิงไม่คิดไม่ฝันว่าจะเดินมาเจอเซียวเฉินที่นี่ เขาเต็มไปด้วยความโกรธที่กลั่นมาจากความอัปยศพร้อมกับเดินตรงมาที่เซียวเฉิน

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset