“ยังไม่ไปอีก?!” เซียวเฉินพูดขึ้นพร้อมกับจ้องไปที่ถังเฟิงผู้ที่กำลังจมไปในความคิดของเขา
มือซ้ายของถังเฟิงที่กำลังถือธนูผลึกน้ำแข็งอยู่สั่นเทา รอยเปลวเพลิงกระจายไปทั่วทั้งพื้นผิวของคันธนูสีขาวหิมะ
“ไปกัน!” ถังเฟิงจ้องไปที่เซียวเฉินอย่างกินเลือดกินเนื้อ อารมณ์ของเขาสงบลงพร้อมกับเปลวไฟบนคันธนูจางหายไป
“เซียวเฉินความอับอายในครั้งนี้ข้าจะมาจ่ายคืนให้กับเจ้าในศึกสัญญาสิบปี เมื่อถึงเวลานั้นไม่เพียงแต่ตระกูลเซียวจะต้องเสียภูเขาชีเจี่ยวแต่ตระกูลเซียวจะต้องถูกลบหายไป นี่คือคำมั่นจะไม่มีใครสามารถหยุดมันได้”
“ยังไม่ยอมจบเพียงเท่านี้ใช่ไหม?” เซียวเฉินกระโดดขึ้นไปประเคนลูกเตะใส่ถังเฟิงจากนั้นก็เหยียบลงบนอกของเขาชี้กระบี่เงาจันทร์ไปที่คอ “เชื่อไหมว่าข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งเสียตั้งแต่ตอนนี้?”
“หากเจ้ากล้าก็ลองดู” ถังเฟิงยังดื้อรั้น
“ข้าคิดว่าข้าเปลี่ยนใจแล้ว” เซียวเฉินพูดอย่างไม่แยแส “เห็นได้ชัดว่าเจ้ายังมีไพ่ตายเก็บซ่อนเอาไว้ ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะฆ่าเจ้าซะ ทำไมข้าต้องรอจนถึงสัญญาสิบปีเพื่อให้เจ้ากลับมาล้างแค้น?”
“เจ้าคิดจะทำอะไร? ปล่อยนายน้อยสองซะ เจ้าไม่กลัวที่จะนำพาให้เกิดสงครามระหว่างตระกูลเซียวกับตระกูลถังใช่หรือไม่?” ทั้งสี่คนที่อยู่ด้านหลังถังเฟิงกล่าวออกมาอย่างเป็นกังวล
“หากว่าข้าฆ่าพวกเจ้าซะให้หมด?”
ในตอนนี้ถังเฟิงเริ่มหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆแล้ว เขาพูดเสียงอ่อน “นายน้อยเซียว ข้าเพียงพูดล้อเล่น ท่านเก็บไปคิดจริงจัง?”
เซียวเฉินเก็บกระบี่ของเขาและกล่าวอย่างไม่แยแส “ไสหัวไป!”
ว่ากันตามตรงเซียวเฉินอยากจะฆ่าพวกเขาทั้งห้าเสียโดยเฉพาะถังเฟิง เขาทำให้เซียวเฉินรู้สึกว่าเป็นตัวอันตราย อย่างไรก็ตามเขาคิดว่าห้าคนนี้น่าจะมีสัญญาณขอความช่วยเหลือติดตัวมาด้วย
หากว่าเขาโดนพวกมันถ่วงเวลาไว้และผู้อาวุโสของตระกูลถังมาถึงเขาจะตกที่นั่งลำบาก
ถังเฟิงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งพร้อมกับจากไป ลูกศรทั้งสามเมื่อครู่ผลาญพลังปราณของเขาไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้เขาเพิ่งจะได้รับธนูไฟน้ำแข็งนี่มาและยังไม่เข้าใจมันได้อย่างสมบูรณ์
ไม่เช่นนั้นด้วยลักษณะนิสัยของเขาเขาคงไม่จากมาโดยง่ายเช่นนี้
“พี่ใหญ่เฉินท่านสุดยอดมาก!” เมื่อกลุ่มของถังเฟิงจากไปไกล เซียวหลิงเอ๋อก็กระโดดเข้ามาเยินยอเขาทันที
เซียวเฉินจ้องไปที่เซียวหลิงเอ๋ออย่างช่วยไม่ได้และพูดขึ้น “ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้าทีหลัง ไปเก็บแก่นกลางปีศาจกันก่อน”
เซียวหลิงเอ๋อกลืนน้ำลายด้วยวิธีพิลึกๆของนางก่อนที่จะวิ่งขึ้นหน้าไป “ข้าจะจัดการแก่นกลางปีศาจนี่เอง อย่ามาแย่งงานข้า”
“ปัง!”
ดาบของเซียวหลิงเอ๋อทุบลงบนกิ้งก่าเพลิงที่กลายเป็นน้ำแข็งแตกกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ควานหาสมองของกิ้งก่าเพลิง นางตัดแยกมันออกด้วยดาบของนางและแก่นกลางปีศาจสีดำก็ปรากฎออกมา
เซียวหลิงเอ๋อหยิบมันขึ้นมาอย่างร่าเริงจากนั้นก็มองไปรอบๆก่อนที่จะวิ่งไปหาเซียวเฉินและพูดขึ้นอย่างร่าเริง “ข้าสุดยอดไหม? ข้าดึงแก่นกลางปีศาจออกมาได้อย่างรวดเร็ว”
เซียวเฉินรับแก่นกลางปีศาจมาและพูดขึ้น “แก่นกลางปีศาจก้อนนี้เป็นของพวกเขาส่วนเจ้าไม่ได้ส่วนแบ่ง”
เซียวหลิงเอ๋อบุ้ยปากพร้อมกับบ่นอุบอิบด้วยความไม่พอใจ “พี่ใหญ่เฉินนี่มันไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว”
“เจ้าเกือบจะส่งหัวหน้ากลุ่มของเจ้าไปตายแล้วยังกล้าพูด?” เซียวเฉินกล่าว “พวกเราจะไปกันต่อ พวกเจ้าคงไม่อยากจะแพ้พวกตระกูลถังหรอกใช่ไหม?”
ภายใต้การนำของเซียวเฉินกลุ่มพวกเขาก็ไล่ล่าอสูรปีศาจกันต่อไป เซียวเฉินขยายสัมผัสวิญญาณจนถึงขีดสุด เมื่อเขาเห็นอสูรปีศาจเป็นกลุ่มใหญ่เขาจะหลบเลี่ยงพวกมันไป
เซียวเฉินเพียงแค่ล่อพวกอสูรปีศาจออกมาไม่ได้ลงมือฆ่าพวกมัน ความแข็งแกร่งของอสูรปีศาจระดับ 2 เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นต่ำแต่นั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากจะเปลืองมือเข้าไปสู้ด้วย
แม้ว่าเซียวเฉินจะไม่ได้พูดอะไรออกมาทุกคนก็เข้าใจถึงเหตุผลที่เซียวเฉินไม่ลงมาสู้ด้วย นั้นก็เพื่อให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น นั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะต้องไปงอแง
เซียวเฉินหยุดการล่าลงเมื่อเห็นว่ามันใกล้ค่ำ ในวันนี้พวกเขาได้แก่นกลางปีศาจมา 18 ก้อน นอกจากนั้นยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรง พวกเขาทั้งหมดรู้สึกผ่อนคลาย
เมื่อพวกเขามุ่งกลับไปที่ค่ายพักก็พบว่ากลุ่มของเซียวอวี่หลันและคนอื่นๆได้กลับมาถึงเรียบร้อยแล้ว มีควันสีขาวลอยออกมาจากห้องครัวมีกลิ่นหอมลอยตามออกมา
“แก่นแกลางปีศาจ 13 ก้อนและไม่มีบาดเจ็บร้ายแรง” เซียวอวี่หลันยื่นแก่นกลางปีศาจให้กับเซียวเฉินและรายงานสถานการณ์ระหว่างการออกล่า
“พวกเราเจอกับกลุ่มของตระกูลจางระหว่างการล่า จางเจ๋อหยางเป็นผู้นำกลุ่ม อย่างไรก็ตามเมื่อพวกมันเห็นพวกเรามันก็ตกใจและถอยหนีไปอย่างรวดเร็ว”
เซียวเฉินยิ้มขึ้น “พวกเราก็เจอคนของตระกูลถัง เมื่อพวกมันเห็นพวกเรามันก็ตกใจขั้นสุด”
เซียวอวี่หลันสั่นกลัว “ดูเหมือนสองศพที่พบในค่ายพักของเราจะไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แท้จริงแล้วเจ้าเจอกับอะไรตอนออกไปเมื่อวาน?”
บังเอิญที่อาหารเย็นเตรียมการเสร็จพอดีเซียวเฉินจึงใช้มันเปลี่ยนหัวข้อคุย เขาไม่อยากที่จะตอบคำถามของเซียวอวี่หลัน เซียวอวี่หลันไม่มีทางเลือกนอกจากยอมแพ้
พวกเขาจุดกองไฟขึ้นในค่ายพักอีกครั้งหลังเสร็จจากอาหารเย็น พวกเขาเกาะกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เจอในวันนี้อย่างตื่นเต้น เซียวเฉินแปลกใจที่เซียวเจี้ยนเลือกที่จะไปฝึกฝนคนเดียวไม่มรวมตัวกับคนอื่น
เมื่อมันมืดสนิทป่าทมิฬจะหนาวเย็นลงอย่างเหลือเชื่อ ป่าทมิฬในตอนกลางคืนจะอันตรายยิ่งกว่าในตอนกลางวัน เซียวเฉินไม่อยากเสี่ยงอะไรทั้งนั้น หลังจากที่เขาจัดยามกลางคืนเสร็จเขาก็ไล่พวกที่เหลือไปพักผ่อน
ถึงอย่างนั้นเซียวเฉินก็แอบลุกออกไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่ทุกคนหลับหมดแล้ว
อสูรปีศาจที่พวกเขาสู้ด้วยในตอนกลางวันเป็นเพียงแค่ระดับ 2 เท่านั้น นั่นมันไม่ท้าทายเท่าไหรสำหรับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ลงมือ การทดสอบของจริงเพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น
ก่อนที่เขาจะออกไปได้ไกล ด้วยสัมผัสวิญญาณของเขาเขาตรวจพบบางคนที่ตามเขาออกมาอย่างระมัดระวัง เขาพบว่านั้นคือเซียวเจี้ยน เซียวเฉินมองไปที่เส้นทางที่เขากำลังจะไปและรู้ได้ว่ามันเป็นทางใต้ของค่ายพักดังนั้นจึงไม่ไปกังวลกับเขามาก
ด้วยความแข็งแกร่งของเซียวเจี้ยนไม่เป็นปัญหาที่เขาจะเข้าไปฝึกคนเดียวในป่าทมิฬ นอกจากนั้นเซียวเฉินก็ไม่รู้ว่าจะไปหยุดเขาได้ยังไง
เซียวเฉินกลับมาสนใจเรื่องของตัวเองและมุ่งหน้าไปยังทางตะวันออกของค่ายพัก ก่อนที่เขาจะออกไปได้ไกล เสือปีศาจลายดำปรากฎขึ้นในสัมผัสวิญญาณของเขา เสือปีศาจลายดำนี่เป็นอสูรปีศาจระดับ 3 ความแข็งแกร่งของมันเทียบได้กับระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นสูงสุด เป็นเป้าหมายที่เหมาะเจาะสำหรับเซียวเฉินในการทดสอบครั้งนี้
เซียวเฉินดันเท้าลงไปที่พื้นอย่างเงียบเบากระโดดขึ้นไปและลงจอดบนกิ่งไม้กิ่งนึง เขาสังเกตการณ์เสือปีศาจลายดำที่อยู่บนพื้น
เสือปีศาจลายดำตัวนี้ตัวยาวมากกว่าสองเมตรและทั่วทั้งตัวเป็นสีดำ มันดูเหมือนเสือดำจากโลกก่อนแต่ดวงตาของมันเป็นสีแดงเลือด นั้นเป็นลักษณะเฉพาะของอสูรปีศาจ
เซียวเฉินสัมผัสได้ถึงความพรุ่งพล่านกระแสพลังดุร้ายที่ออกมาจากเสือปีศาจลายดำแม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจากมันกว่าสิบเมตร มันก็ทำให้เขาตัวสั่นแม้ว่าอากาศจะไม่หนาว
“แคร๊ก!”
เซียวเฉินทำกิ่งไม้เล็กๆหักโดยไม่ได้ตั้งใจ หูของเสือปีศาจลายดำกระตุกและได้ยินเสียงเล็กๆนั้น ดวงตาสีเลือดของมันหันมาทางเซียวเฉิน
มันสามารถมองเห็นผ่านความมืดดังนั้นมันจึงพบเซียวเฉินในทันที มันคำรามออกมาและเคลื่อนเสียงน่ากลัวก็จู่มโจมมาทางเซียวเฉิน
“กาโอ!”
พลังงานมหาศาลมาพร้อมกับคลื่นเสียงเคลื่อนตัวมาทางเซียวเฉิน ในพื้นที่ที่มันผ่านมาต้นไม้ใหญ่ของป่าทมิฬสั่นไหวและใบไม้นับไม่ถ้วนร่วงหล่นลงพื้น
เซียวเฉินตกตะลึง การจู่มโจมด้วยเสียงช่างทรงพลังและกินพื้นที่กว้างมันแทบไม่มีจุดออน
เซียวเฉินใช้อัสนีหลบเลี่ยงและร่างของเขาก็ไปปรากฎตัวที่ด้านหลังของเสือปีศาจลายดำหลบพลังคลื่นเสียงออกมา ด้วยอัสนีหลับเลี่ยงการจู่โจมด้วยคลื่นเสียงไม่เป็นอันตรายต่อเซียเฉินนัก
เสือปีศาจลายดำรู้ตำแหน่งของเซียวเฉินได้อย่างรวดเร็วมันจึงหันกลับมาพุ่งกระโจนใส่เขา พลังฉีสีดำรวมตัวที่อุ้งเท้าขวาของมันก่อนที่จะตะปบไปที่เซียวเฉินอย่างไร้ความปราณี
“สยายปีกเชือดเฉือน”
เซียวเฉินไม่กล้าที่จะประมาทและใช้ทักษะต่อสู้ออกไปปะทะกับมัน นี่เป็นเพราะว่าเขาสัมผัสได้ถึงพลังอันน่ากลัวภายในอุ้งเท้า หากเขาประมาทเขาได้สาหัสเป็นแน่
“ฟุ่ว!”
พลังจากอุ้งเท้าจากเสือปีศาจลายดำทำให้เซียวเฉินถอยกลับไปหลายก้าว อย่างไรก็ตามเมื่อมันถูกสวนไปด้วยเชือดเฉือนก็ดูเหมือนว่ามันเองก็ไม่ได้สบายนัก
ในขณะที่เซียวเฉินถูกผลักถอยไปเสือปีศาจลายดำก็ตามมาอย่างใกล้ชิดไม่เปล่อยให้โอกาสหลุดไป รูปร่างสูงใหญ่กว่าสองเมตรและดวงตาสีแดงก่ำจ้องลงมาที่เซียวเฉินจากด้านบน แรงกดดันมหาศาลทับลงมาที่เซียวเฉิน
เปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริง ยิง!
เซียวเฉินยิงเปลวเพลิงสีม่วงออกไป เปลวเพลิงลอยไปเป็นสายจู่โจมเข้าไปที่ร่างของเสือปีศาจลายดำ สายเลือดสีม่วงไหลออกมาจากร่างของสัตว์ร้าย
เสือปีศาจลายดำร้องออกมาอย่างเจ็บปวดแต่พลังฉีสีม่วงก็ดันเปลวเพลิงสีม่วงออกมาได้อย่างรวดเร็ว มันเปิดปากกว้างและคำรามออกมาเสียงดังคลื่นเสียงน่าสะพรึงกลัวกวาดผ่านบริเวณนี้อีกครั้ง
โล่อัสนีสวรรค์!
รู้สึกได้ถึงอันตรายที่เข้ามาเซียวเฉินใช้โล่อัสนีสวรรค์ อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เป็นผลมากนักเมื่อถูกโจมตีด้วยคลื่นเสียงประหลาด มันทะลุผ่านโลอัสนีสวรรค์ของเซียวเฉินได้
มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเซียวเฉินและหูกลายเป็นหนวกชั่วคราว เซียวเฉินเช็ดเลือดที่มุมปากและสลายโล่อัสนีสวรรค์ออกไป ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน
สัตว์ร้ายตนนี้มันดิบเถื่อนเกินไปแม้แต่ถังเฟิงยังไม่สามารถทำร้ายเขาได้ถึงเพียงนี้
“สยายปีกร่ายรำ!”
เซียวเฉินพยายามลองใช้กระบวณท่านี้ออกมาหลายครั้งแต่เขาก็สำเร็จเพียงครึ่ง-ครึ่งเท่านั้น นี่เป็นเพราะว่าเขายังไม่เข้าใจถึงการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของรากปัญญาแห่งการต่อสู้อย่างลึกซึ้ง
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาไม่อาจไปใส่ใจกับมันมาก เขาจมจิตสัมนึกเข้าไปที่จุดตันเที่ยนและพยายามนึกถึงภาพในตอนที่ต่อสู้กับจางเหอ ทุกกระบวณท่าของจางเหอปรากฎในหัวของเขาราวกับวิดีโอเทปที่เล่นซ้ำๆ
ทำความเข้าใจมันอยู่ในหัวการเปลี่ยนรูปแบบไหลเวียนอยู่ภายในอย่างเงียบๆ
ทันใดนั้นเซียวเฉินก็ใช้กระบวณท่านี้ออกมาร่างของเขาปรากฎขึ้นในอากาศและกระบี่แสงนับไม่ถ้วนถูกยิงออกไป ท่าทางของเซียวเฉินยังคงเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆกลางอากาศขณะที่เขาสำเร็จถึงกระบวณท่านี้
กระบี่แสงเสริมด้วยความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณต่อสู้มังกรฟ้า พุ่งใส่ร่างของเสือปีศาจลายดำอย่างไม่ลดละ เลือดสีม่วงสาดออกมาจากตัวของมัน เสือปีศาจลายดำร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดพยายามที่จะจับตัวของเซียวเฉินที่อยู่กลางอาหาศแต่ก็ไม่อาจทำสำเร็จ
“ตาย!”
หลังจากที่ใช้ทักษะต่อสู้ออกไปพลังพรุ่งพล่านออกมาจากจิตวิญญาณต่อสู้มังกรฟ้าร่างของเขาที่กำลังร่วงลงมาพุ่งสูงขึ้นไป ประกายสายฟ้าถูกปลดปล่อยออกมาจากกระบี่เงาจันทร์แสดงพิษสงของมันออกมา แก่นกลางปีศาจระดับ 6 ฟันไปที่เสือปีศาจลายดำด้วยพลังอันไร้ขอบเขต
เสือปีศาจลายดำถูกตัดกลายเป็นสองท่อนในทันที เมื่อเซียวเฉินลงมาถึงถึงพื้นเขาก็ถอดหายใจอย่างโล่งอก เขารู้สึกผิดหวังนอกจากคลื่นเสียงคำรามอันน่ากลัวนั้นแล้วที่เหลือมันไม่มีอะไรแข็งแกร่งเป็นพิเศษ
เซียวเฉินจากไปหลังจากที่ดึงแก่นกลางปีศาจระดับ 3 ออกมาจากสมองของมัน เมื่อเขามองหาเหยื่อรายต่อไปมีเงาดำลอยมาเหนือศีรษะของเขา
เงยหัวขึ้นไปเพื่อมองดูเซียวเฉินก็ตกใจ เงาดำนั้นคือคนที่เซียวเฉินเห็นเขาควบคุมอสูรปีศาจ
“ฮูมม!”
เงาสีขาวอีกเงาหนึ่งลอยผ่านหัวของเขาไป นั่นเป็นการบินอย่างแท้จริงไม่ใช่การกระโดดไปมาระหว่างกิ่งไม้
“ผู้เชี่ยวชาญระดับราชา!” เซียวเฉินมองไปที่เงาสีขาวและอุทานออกมา
“ฮ่ะ!”
เซียวเฉินยืนเเข็งเงาสีดำนั้นเหรียบลงบนนกตัวใหญ่และลอยตรงมาที่เซียวเฉิน เซียวเฉินผู้ที่ยังอยู่บนพื้นเห็นชัดว่าเป็นเป้าหมายของเขา