ตอนที่ 37 กัดฟันสู้
มองดูชายชุดดำที่ไล่ตามหลังเขามา เซียวเฉินรู้สึกขวัญเสีย ภายในอาทิตย์นี้เขาโดนระดับขอบเขตปรมจารย์สองคนมาไล่ทุบ ช่างน่าสมเพชจริง
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปเสียแรงเสียเวลาด้วย เป็นเรื่องง่ายที่จะหลบหนีสลัดผู้ไล่ล่าเขาด้วยการใช้อัสนีหลบเลี่ยงไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะทำแบบนั้น เขาเกรงว่าหากเขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ชายชุดดำนั้นจะหันกลับไปหาเซียวอวี่หลัน หากเป็นเช่นนั้นจะเป็นปัญหามากกว่า ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่วิ่งต่อไป ลากชายคนนั้นขึ้นไปยังใจกลางของผู้เขาชีเจี่ยว
เมื่อเซียวเฉินเตรียมที่จะใช้อัสนีหลบเลี่ยง ทันใดนั้นก็มีเสียงต่อสู้กันดังขึ้นมาจากหลังของเขา เขารู้สึกไม่สบายใจพร้อมกับขยายสัมผัสวิญญาณของเขาออกไปในทันทีและเห็นชายคนนั้นกำลังต่อสู้กับเซียวอวี่หลัน
หลังจากที่เขาได้เตรียมแผนนี้ไว้เป็นอย่างดีด้วยความยากลำบาก เขาไม่คาดคิดว่าพี่อวี่หลันจะตามหลังเขามา เซียวเฉินคิดในใจอย่างขมขื่น ดูเหมือนจะไม่มีทางหนีแล้วตอนนี้ ข้าอาจจะต้องยันไว้ให้ได้!
แววตาของเซียวเฉินส่องประกายพร้อมกับหยุดฝีเท้าของเขาลงและหันกลับมา มันเป็นไปไม่ได้จริงหรือที่จะล้มระดับขอบเขตปรมจารย์ลงไม่ได้?
ข้าหวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพี่อวี่หลัน
คิดได้เช่นนั้น เซียวเฉินเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เซียวเฉินพบว่ามีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเซียวอวี่หลัน สีหน้ามองดูซีดเซียวพร้อมกับยืนหยัดและกวัดแกว่งดาบในมือของนางไปมา
ใบหน้าของชายคนนั้นร้อนรนพร้อมกับกระแทกใส่เซียวอวี่หลันอีกครั้ง เขาคิดจะรีบออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้พร้อมกับใจที่เต็มไปด้วยหยกวิญญาณสีเลือด เขาไม่ได้ต้องการมาวอแวกับเซียวอวี่หลัน
เซียวอวี่หลันเช็ดเลือดที่อยู่ตรงมุมปากของนาง นางถือดาบจันทร์เสี้ยวไว้ในมือพร้อมกับจ้องมองไปที่ชายชุดดำอย่างเด็ดเดี่ยว นางทำทุกวิถีทางที่สามารถทำได้เพื่อยิงแสงดาบสีแดงใส่ชายคนนั้น
อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นเพียงแค่โบกมือและดอกไม้กินคนขนาดใหญ่ก็ปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง มันเปิดปากอันกว้างของมันและกลืนแสงดาบนั้นไป จิตวิญญาณต่อสู้ของชายคนนี้เป็นสิ่งที่เซียวอวี่หลันแพ้ทางจริงๆ
“เจ้ามารนหาที่ตายของเจ้าเองนะ อย่ามาโทษข้า” ชายชุดดำตะโกนอย่างเย็นชา ร่างของเขาเคลื่อนตัวขึ้นหน้าอย่างรวดเร็วหมายจะสังหารนาง เขาไม่มีเวลามาวอแวกับเซียวอวี่หลันอีกแล้ว
“ตูม!” สายฟ้าพุ่งเป็นลิ้วตัดเข้ามา เป็นร่างของเซียวเฉินปรากฎขึ้นตรงหน้าของเซียวอวี่หลัน ชายชุดดำตกใจกับสายฟ้าจะการปรากฎตัวอย่างฉับพลันของเซียวเฉิน เขารีบถอยกลับไปสองสามก้าว
“น้องเฉิน เจ้า..ทำไมเจ้าถึงมาโผล่ที่นี่?” สีหน้างุนงงของเซียวอวี่หลันปรากฎขึ้น เห็นได้ชัดว่าการที่เซียวเฉินปรากฎตัวออกมาจากสายฟ้านั้นเกินความเข้าใจของเซียวอวี่หลัน
เซียวเฉินยิ้มขมๆ และไม่ตอบนางกลับไป เขาหยิบเม็ดยาฟื้นฟูพลังฉีออกมาส่งให้นางแทน “ข้าไม่คิดว่าพี่อวี่หลันจะตามข้ามา แม้ว่าเม็ดยาฟื้นฟูพลังฉีนี้จะรักษาอาการบาดเจ็บไม่ได้ มันจะช่วยให้เจ้าฟื้นพลังปราณได้เร็วขึ้นน่าจะพอช่วยได้”
เซียวอวี่หลันรับเม็ดยาที่เซียวเฉินนั้นส่งให้ สีหน้างุนงงของนางกลับสับสนหนักขึ้นไปอีก อย่างไรและเมื่อไหรที่น้องเฉินได้รับทักษะต่อสู้แปลกประหลาดนี้มา?
“เจ้าได้เม็ดยานี้มาจากไหน”
เซียวเฉินพอจะเดาได้ไม่มากก็น้อยว่าเซียวอวี่หลันกำลังคิดอะไรอยู่แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาอธิบาย “หากข้ายังรอดไปได้ไว้ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟัง ตอนนี้ขอข้าขอยืมดาบจันทร์เสี้ยวของเจ้า”
เซียวเฉินส่งดาบให้กับเซียวเฉินโดยปราศจากความลังเล แม้นางจะรู้ว่าเซียวเฉินนั้นปิดบังอะไรบางอย่างกับนาง นางก็ยังคงเชื่อใจเซียวเฉิน
เขายินดีที่จะเป็นเหยื่อล่อและเปิดทางให้นางหนี หากเขาจะปิดบังอะไรจากนางนั้นก็เป็นเพราะว่าเขาไม่มีทางเลือก
“น้องเฉิน เจ้าระวังตัวด้วย” เซียวอวี่หลันกล่าวออกมาตอนที่เห็นเซียวเฉินกุมดาบประจันหน้ากับชายชุดดำ
เซียวเฉินโบกมือเบาๆให้นางโดยไม่ได้หันกลับมา หลังจากนั้น เขากวัดแกว่งดาบและเส้นสายพลังงานบริสุทธิ์ก็พุ่งเข้าไปในอาวุธวิญญาณอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าจิตวิญญาณต่อสู้มังกรฟ้าในร่างของเขาได้สร้างการเชื่อมต่อลึกลับขึ้นมา
ดาบจันทร์เสี้ยวจัดได้ว่าเป็นอาวุธวิญญาณระดับลึกซึ้งขั้นต่ำ เซียวเฉินสามารถรู้สึกได้เลยว่าพลังที่ส่งมาจากจิตวิญญาณต่อสู้มังกรฟ้านั้นแข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาใช้กับกระบี่เงาพระจันทร์
มองดูเซียวเฉินที่กวัดแกว่งอาวุธวิญญาณ ชายคนนั้นก็สัมผัสได้ถึงกระแสพลังที่เปลี่ยนไปของเซียวเฉิน กระแสพลังนี้มีชั้นอำนาจ มันทำให้เขารู้สึกกดดันไปเล็กน้อย
เจ้านี่มันใช่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดจริงรึเปล่า? ความสงสัยวาดผ่านดวงตาของชายชุดดำ อย่างไรก็ตามเพียงครู่เดียวสายดุดันก็กลับมาพร้อมกับพูดขึ้น “ข้าขอยืนยันคำเดิม ส่งหยกวิญญาณสีเลือดมาข้าจะจากไปทันที เจ้ากับแม่นางด้านหลังของเจ้ามีศักยภาพยอดเยี่ยม ไม่มีความจำเป็นที่จะมาจบชีวิตที่นี่”
มองไปที่ดาบจันทร์เสี้ยวสีหน้าของเซียวเฉินสงบนิ่งพร้อมกับยิ้มขึ้น “ไม่ต้องมาพยายามเกลี้ยกล่อม ข้าไม่มีทางส่งหยกวิญญาณสีเลือดให้แน่”
“ไม่ว่าเจ้าจะรักษาคำพูดหรือไม่ ข้าเสี่ยงชีวิตเพื่อได้รับมันมาถึงกระทั่งต้องสละอาวุธวิญญาณของข้าไปด้วย ทำไมข้าจะต้องส่งหยกวิญญาณให้กับเจ้าไปอย่างว่าง่าย”
สีหน้าที่ถูกปกปิดไว้ของชายผู้นั้นทำให้ไม่สามารถเห็นสีหน้าของเขาได้ เข้าพูดขึ้นเสียงต่ำ “ตราบใดที่เจ้าส่งมันมาให้ข้า ข้าจัดหาอาวุธวิญญาณมาชดเชยให้เจ้าได้ทันที ไม่ด้อยกว่าระดับลึดซึ้งขั้นต่ำที่เจ้ากำลังถืออยู่นี้แน่นอน”
เจ้าหยกวิญญาณสีเลือดนี่มันมีค่าขนาดนั้นเชียว? จะคุ้มหรือไม่ที่จะเอาไปแลกกับอาวุธวิญญาณระดับลึกซึ้ง? หรือเป็นไปได้ว่าสัตว์อสูรวิญญาณที่พวกเขาต้องการจะจับไม่ใช่เพียงแค่สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5 ?
มีความสงสัยเกิดขึ้นในใจของเขา สีหน้าของเซียวเฉินไม่ได้เปลี่ยนแปลงพร้อมกับพูดอย่างเฉยเมย “ขอข้าทำความเข้าใจก่อน ภายใต้สถานะการณ์ที่เจ้าได้เปรียบเต็มประตู ทำไมเจ้าถึงเสนอการแลกเปลี่ยนแบบใจกว้างเช่นนี้”
“เจ้ากลัวว่าสู้กับข้าจะทำให้เจ้าเสียพลังปราณมากเกินไป หากเจ้าถูกพบตัวโดยองครักษ์ของตระกูลเซียวหลังจากนั้น มันจะเป็นการยากที่เจ้าจะหลบหนี ข้าพูดถูกไหม?”
หลังจากที่ชายชุดดำถูกจับไต๋ได้ สายตาดุดันก็กลับมาบนหน้าของเขา “เจ้าปฏิเสธที่จะใช้ทางง่ายๆ เดินมาทางยากๆเอง อย่ามาโทษข้าในเรื่องนี้”
ด้วยเสียง ‘เช้ง’ ดังขึ้นมาพร้อมกับชายชุดดำที่ดึงดาบยาวกว่าสองเมตรออกมาจากตรงไหนก็ไม่รู้ นี้น่าจะเป็นอาวุธระดับลึกซึ้งที่เขาจะนำมาแลกเปลี่ยนกับเซียวเฉิน
เซียวเฉินไม่ได้เห็นดาบยาวมาสักพักนึงแล้ว รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย พร้อมกับประกายแสงจากดาบชายชุดดำใช้ความได้เปรียบพุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว
ดาบอันงดงามถูกใช้อย่างเกรี๊ยวกราดโดยชายผู้นี้ราวกับว่ามันเป็นดาบหนัก ทักษะของเขาประกอบไปด้วย ฟาด สับ เฉือนและกระแทก อย่างไรก็ดีมันก็เหมาะกับการใช้ดาบยาวกว่าสองเมตรนั้น พลังของมันไม่อาจหยั่งได้
เซียวเฉินไม่ใช่ไม่คุ้นเคยกับการใช้อาวุธยาวแต่เขายังไม่คุ้นเคยกับการใช้ดาบแบบนี้ เขาสามารถพึ่งพาได้เพียงพลังอันแข็งแกร่งของมังกรฟ้าและประกายสายฟ้าที่อยู่บนตัวดาบเพื่อรับมือกับสถานะการณ์ตรงหน้าแต่ทันใดนั้นเขาก็เปิดช่องว่าง
“ปัง!”
เมื่อดาบทั้งสองเข้าปะทะกันและกัน แรงต้านขนาดใหญ่ออกมาจากดาบทำให้เซียวเฉินถูกกระแทกถอยหลังกลับไปหลายเมตร พลังปราณในร่างของเขาปั่นป่วน แสดงให้เห็นว่ามีความเสียหายหลายจุดเนื่องจากพลังจากดาบยาวนั้นทำลายภายในร่างกายของเขา
ทางด้านชายชุดดำสถานะการณ์ก็ไม่ใช่ดี ด้วยพลังของมังกรฟ้าและแสงสายฟ้าแปลกประหลาดเมื่อเข้าปะทะกัน เขารู้สึกถึงความชาที่มือ
หากไม่ใช่เพราะขอบเขตพลังของเขากับเซียวเฉินนั้นต่างกันจนเกินไป ดาบยาวในมือของเขาคงลอยไปไกลแล้ว
ทำอย่างที่สุดเพื่อยับยั้งอาการบาดเจ็บในร่างของเขา เซียวเฉินยื่นมือออกเปลวเพลิงสีม่วงก่อตัวขึ้นบนนิ้วของเขาหลังจากหมุนวนอยู่สองสามรอบก่อนมันก็ถูกยิงไปทางชายชุดดำ
ชายคนนั้นกวัดแกร่งดาบของเขาปรากฎเป็นประกายแสง ด้วยเสียงระเบิดดังกังวาน ดาบปะทะเข้ากับเปลวเพิลงและเกิดระเบิดขึ้น หลังจากเกิดระเบิดเปลวเพลิงสีม่วงนั้นก็ไม่ได้ดับลง
แต่มันกลับกระจายไปบนตัวดาบเผาไหม้ต่อไป ในไม่ช้ามันก็ลามมาถึงด้ามจับ ปรากฎเป็นความตกใจขึ้นในดวงตาของชายคนนั้น ก่อนที่เปลวเพลิงจะลามไปถึงด้ามจับเขารีบโยนดาบในมือทิ้งไปอย่างเร่งรีบ
ตอนนี้แหละ! สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์!
เซียวเฉินรีบรีบเปลี่ยนมือซ้ายมาจับดาบจันทร์เสี้ยวไว้พร้อมกับทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์หมุนเวียนในร่างของเขา พลังงานธาตุสายฟ้าบริสุทธิ์ุพุ่งออกมาจากมือขวาของเขา
มันก่อรูปร่างสายฟ้าสว่างขึ้นในอากาศและยิงตรงไปทางชายชุดดำ แม้ว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์จะเป็นเพียงทักษะต่อสู้ระดับเหลืองขั้นสูงความเร็วของมันก็ยังเร็วกว่าทักษะต่อสู้ระดับลึกซึ้งทั่วไป หลังจากที่เสียดาบยาวไปชายคนนั้นก็ไม่มีอะไรมาใช้เบี่ยงมันออกไปได้
“ฟุ่บ!”
สายฟ้าที่ส่องประกายเข้ากระทบร่างของชายคนนั้นและในทันทีร่างของชายคนนั้นก็ส่องส่าวงพร้อมกับเสียงสายฟ้าเเล่นไปทั่วร่างกาย ตัวเขากระพริบอย่างต่อเนื่องราวกับมนุษย์สายฟ้า
เซียวเฉินตกใจเป็นอย่างยิ่ง ชายคนนี้ใช้ทักษะต่อสู้แปลกประหลาดและเปลี่ยนพลังปราณไปเป็นเกราะคลุมร่างของเขาไว้ ทำให้พลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ถูกกันออกไป
“ตาย!”
ชายชุดดำตะโกนขึ้นเสียงดังสนั่นพร้อมกับหยิบดาบที่ยังคงลุกไหม้ขึ้นมา ร่างของเขาระเบิดพุ่งตรงเข้ามาและก่อนที่เซียวเฉินจะได้ขยับก็มีแสงสายฟ้าปรากฎขึ้นต่อหน้าเขา
โล่อัสนีสวรรค์!
ดาบที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิงอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ถูกหยุดลงบนโล่อัสนีสวรรค์ จากการป้องกันของโล่สวรรค์ศักดิ์สิทธิ์พลังจากการโ๗มตีนั้นจึงลดทอนลงไปมาก อย่างไรก็ตามเซียวเฉินยังคงกระอักเลือดออกมา แสดงให้เห็นถึงพลังของดาบนั้นแข็งแกร่งเพียงใด
“ข้าไม่เคยถูกกดันเท่านี้มาก่อนในชีวิตยิ่งด้วยแค่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นต่ำ เซียวเฉินเจ้าเป็นคนแรกที่ทำได้” ชายชุดดำดูเหมือนกับมนุษย์คลั่งที่ใช้ดาบติดไฟทุบลงบนโล่อัสนีสวรรค์ อย่างต่อเนื่อง
“ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!..”
ทุกครั้งที่ดาบฟาดลงมา พลังปราณและเลือดในร่างของเซียวเฉินก็ยิ่งปั่นปว่นขึ้นไปอีกและผิวของเซียวเฉินก็เริ่มซีดลง
เซียวอวี่หลันที่พลังปราณฟื้นคืนมาได้ระดับหนึ่งมองดูสถานะการณ์ย่ำแย่ของเซียวเฉิน นางกระโดดเข้ามาโดยไม่สนอาการบาดเจ็บซัดฝ่ามือตรงไปที่ชายคนนั้น
อย่างไรก็ตามร่างของชายคนนั้นห่อหุ้มไปด้วยเกราะพลังปราณที่กันได้แม้กระทั่งเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริง ดังนั้นฝ่ามือนี้จะไปทำอะไรได้? ชายชุดดำหันกลับมาพร้อมกับฟาดไปที่เซียวอวี่หลันด้วยดาบของเขา ส่งตัวนางลอยออกไป
“ไอ้สารเลว!” เซียวเฉินตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับโยนโล่อัสนีสวรรค์ทิ้ง ตรงไปทางเซียวอวี่หลัน รับร่างของนางเอาไว้
“น้องเฉิน ฝ่ามือของข้าเมื่อครู่ส่งพิษของดอกสองฤดูเข้าไปในร่างของเขา สิ่งที่ต้องทำก็คือทำให้เขาเลือดออกให้ได้” เซียวอวี่หลันพูอย่างอ่อนแรงขณะทรุดตัวลงในก้อมกอดของเซียวเฉิน
ชายชุดดำหัวเราะเสียงดัง “ช่างไร้เดียงสา เจ้าคิดว่าจะสังหารข้าด้วยการส่งพิษดอกสองฤดูใส่ร่างของข้า? อย่าลืมว่าจิตวิญญาณต่อสู้ของข้าคืออะไรไม่มีพิษชนิดใดในโลกที่จะสังหารข้าได้”
ได้ยินดังนั้นเซียวอวี่หลันที่หน้าซีดเซียวตกไปสู้ความสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม
เซียวเฉินจับดาบในมือไว้แน่นพร้อมกับหัวใจที่กำลังสั่น หากข้าแข็งแกร่งขึ้นกว่าานี้ สถานะการณ์แบบนี้คงไม่เกิดขึ้น เมื่อคิดได้ว่าเขาปล่อยให้ผู้หญิงนางนี้พยายามอย่างหนักหรือแม้แต่เจ็บตัวเพื่อเขา
“วันนี้ ไม่ว่าตระกูลเซียวจะมาหรือไม่พวกเจ้าสองคนก็ต้องตาย นี้เป็นผลลัพธ์ที่พวกเจ้าเลือดเอง” ชายชุดดำพูดขึ้น
“เช่นนั้นรึ?”
ทันใดนั้นเสียงเย็นชาก็ดังมาจากภายในป่า เซียวเฉินส่งสัมผัสวิญญาณออกไปก็ไม่พบใคร หรือแท้จริงแล้วเสียงนี้อยู่ห่างออกไปกว่า 800 เมตร