Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 31 สัมผัสวิญญาณ

ด้วยพลังของเม็ดยาอดอาหาร เซียวเฉินไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับการกินดื่มตลอดทั้งเดือน เขาสามารถจดจ่อไปกับการบ่มเพาะพลังได้อย่างเต็มที่ เมื่อเทียบกับผู้บ่มเพาะพลังคนอื่นๆเขาสามารถประหยัดเวลาไปได้เยอะ ติดอยู่อย่างเดียว ชีวิตที่ขาดรสชาติอาหารนั้นมันยากที่จะอธิบายเป็นคำพูดและการเก็บตัวฝึกฝนเพียงคนเดียวนั้นมันเหงาหงอยจนอยากตาย

ภายใต้การบ่มเพาะพลังอย่างหนักในความสันโดษนี้มันช่างน่าเบื่อและจืดชืดยิ่งกว่านั่งสกัดยาอยู่ในห้องของเขาเสียอีก อย่างไรก็ตามจากวันแรกที่เขาได้มายังโลกใบนี้ เซียวเฉินได้รับรู้ว่านี่เป็นโลกที่ปลาใหญ่จะกินปลาเล็ก ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้รับความเคารพและบูชา

ในเส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังนั้นไม่มีเส้นทางลัด ไม่มีสิ่งที่ได้มาโดยปราศจากความพยายาม เรื่องแบบนั้นมีแต่ในนิยายเท่านั้น ในโลกใบนี้ ด้วยความอดทนต่อความเปล่าเปลี่ยวอันยาวนั้นและทุ่มเทอย่างหนักเท่านั้น ที่จะสามารถกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงได้

ดังนั้น เซียวเฉินไม่ลดละความพยายามวันแล้ววันเล่า บางครั้งก็มีเสียงนกบินผ่านหรือเสียงคลานของแมลง แต่เซียวเฉินไม่ให้ความสนใจ เขาจดจ่อไปกับการบ่มเพาะพลังอย่างลึกซึ้ง

เซียวเฉินหลับตาของเขามาเป็นเวลากว่า 7 วันก่อนที่ทันใดนั้นจะเบิกตากว้างและปรากฎเป็นแสงสีม่วงทอประกายจากนัยตาทั้งสองของเขา เซียวเฉินลุกขึ้นยืนยืดร่างกายและสูดหายใจเข้าลึก ทั่วทั้งร่างของเขารู้สึกผ่อนคลาย

เจ็ดวัน เป็นเวลากว่าเจ็ดวันเต็มๆ ด้วยความช่วยเหลือของเม็ดยาบำรุงลมปราณทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ในที่สุดก็ทะลวงขึ้นไปที่ชั้น 2 มันราวกับความสำเร็จนั้นถูกรับประกันไว้แล้วเพราะไม่มีอะไรมาขว้างทางก้าวหน้าของเขาได้ ช่างราบลื่นและไม่ติดขัด

ด้วยพลังอันน่าอัศจรรย์ของเม็ดยาและความหนาแน่นของพลังวิญญาณโดยรอบไม่แปลกที่เขาจะทะลวงขึ้นชั้น 2 ของทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ได้ก้าวขึ้นสู่ชั้น 2 เป็นที่เรียบร้อย เขาสามารถใช้สัมผัสวิญญาณได้แล้ว เซียวเฉินตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขารีบทำตามวิธีในตำราบ่มเพาะพลัง พยายามรู้สึกถึงสัมผัสวิญญาณในคลื่นจิตสำนึกของเขา

หลังจากนั้นไม่นาน โลกที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้ปรากฎขึ้นตรงหน้าของเขา ในพื้นที่ที่ไร้ขอบเขตนั้น มีทรงกลมสีเขี่ยวลอยอยู่บนฟ้าเรื่องแสงสลัวออกมา นี่คือโลกในจิตสำนึกของเซียวเฉิน

ด้วยเพียงแค่คิด พื้นที่จิตสำนึกได้กลายเป็นวังหรูหราในทันที มันเหมือนกับที่เขียนไว้ในตำราบ่มเพาะพลัง เขาเป็นเจ้าของโลกจิตสำนึกแห่งนี้ ดังนั้นอะไรที่เขาต้องการ เขาสามารถสร้างขึ้นมาได้

สัมผัสวิญญาณนี้มันคือความต้องการของผู้บ่มเพาะพลังที่ปรากฎขึ้นในคลื่นจิตสำนึก มันเป็นสิ่งเดียวกับความต้องการที่อยู่ในจิตใจของพวกเขา แตกต่างกันไปกับผู้บ่มเพาะพลังแต่ละคน หลังจากเริ่มควบคุมมันได้อย่างมั่นคง มันจะสามารถเคลื่อนตัวได้หรือแม้กระทั่งก่อร่างขึ้นมา วังในจิตสำนึกของเขานั้นคือการปรากฎสัมผัสวิญญาณของเซียวเฉิน

ขั้นต่อไปคือปลดปล่อยสัมผัสวิญญาณออกมาจากร่างของเขา เพียงแค่นึกคิดสัมผัสวิญญาณในร่างของเขาก็พวยพุ่งออกมา ทันใดนั้นภาพของพื้นที่ในรัศมี 500 เมตรรอบตัวของเซียวเฉินก็ฉายเข้ามาในคลื่นจิตสำนึกของเขา เขาสามารถมองเห็นหญ้าทุกต้นและสัตว์อสูรวิญญาณทุกตัวราวกับมองด้วยตาของเขาเอง

ไม่ มันยิ่งกว่าการมองด้วยตาของเขาเอง เซียวเฉินสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจของสัตว์อสูรพวกนั้น ชีพจรและการเต้นหัวใจของพวกมัน..

ทันใดนั้นทรงกลมสีเขียวในพื้นที่จิตสำนึกของเขาเหมือนไม่เต็มใจที่จะถูกทิ้งไว้คนเดียวและเข้ามารวมกับสัมผัสวิญญาณของเซียวเฉิน หลังจากมันออกมามันก็หลอมรวมเข้ากับสัมผัสวิญญาณ

หลังจากสัมผัสวิญญาณและการตื่นรู้ทางวิญญาณหลอมรวมเข้าด้วยกัน สัมผัสที่ผสานเข้าด้วยกันเริ่มวิเคราะห์พื้นที่รอบๆอย่างรวดเร็ว ไม่นาน ก็มีสิ่งที่เพิ่มเข้ามาในคลื่นจิตสำนึกของเขา

สมุนไพรที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางวัชพืชปรากฎขึ้น ข้อมูลเช่นสรรพคุณทางยาและอายุปรากฎขึ้นในคลื่นจิตสำนึกของเซียวเฉิน

เขาประหลาดใจ หลังจากที่สัมผัสวิญญาณของเขาหลอมรวมเข้ากับการตื่นรู้ทางวิญญาณ พวกมันมีความสามารถในการตรวจหาสมุนไพร ไม่ไกลจากเซียวเฉินมีสมุนไพรหลายชนิดซ่อนอยู่

ถอนสัมผัสวิญญาณกลับมา เซียวเฉินมุ่งหน้าไปยังจุดที่เพิ่งตรวจพบ แน่นอน มันมีหญ้าวิญญาณวายุสีขาวอยู่สองสามต้นซ่อนอยู่หลังกองวัชพืช ด้านหลังของหญ้าวิญญาณวายุยังมีผลไม้สีแดงสด

หญ้าวิญญาณวายุนี้ดูเหมือนจะมีอายุถึง 10 ปีดังนั้นสรรพคุณทางยาของมันจึงยอดเยี่ยม สำหรับผลไม้สีแดงที่อยู่ด้านหลังมันนั้นล้ำค่ามากกว่าหลายเท่าตัวและเห็นได้ชัดว่ามันกำลังจะสุกเร็วๆนี้

ผลอ่อนแดงนี้มีคุณสมบัติธาตุไฟ สำหรับผู้บ่มเพาะพลังทักษะไฟ มันมีประโยชน์อย่างมาก ในเม็ดยาระดับสูงหลายชนิดก็มีผลอ่อนแดงนี้เป็นส่วนผสมหลัก

เซียวเฉินไม่คาดมาก่อนเลยว่าจะได้พลังนี้มาตอนที่เขาใช้สัมผัสวิญญาณเป็นครั้งแรก หลังจากคิดเกี่ยวกับมัน เซียวเฉินตระหนักได้ว่ามันไม่น่าแปลกเลยที่จะมีสมบัติธรรมชาติระดับต่ำอยู่ในบริเวณนี้ ท่ามกลางพื้นที่รอบนอกของภูเขาชัเจี่ยว นี้เป็นพื้นที่ที่มีพลังวิญญาณหนาแน่นที่สุด

ช่างน่าเสียดายที่เขานั้นรีบออกมาเลยไม่ได้เอาถุงเก็บสมุนไพรมาด้วย หากเขาถอนมันขึ้นมาและเก็บอย่างไม่เหมาะสม สรรพคุณของสมุนไพรก็จะลดลงเป็นอย่างมาก เขาทำได้เพียงรอจนถึงเวลาที่จะลงจากภูเขาก่อนที่จะเก็บมัน

เรียกสติกลับมาจากความประหลาดใจ เซียวเฉินเริ่มนึกถึงคาถาที่บันทึกไว้ในตำราบ่มเพาะพลัง ในเมื่อเขาไม่สามารถสร้างรากฐานและหลอมรวมแก่นกลางได้ เขาทำได้เพียงบ่มเพาะพลังเพื่อเป็นนักสู้เท่านั้น ทักษะบ่มเพาะพลังอมตะทำได้เพียงสนับสนุนเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงต้องนึกคาถาที่พอจะใช้ประโยชน์ในการประลองได้ มีคาถามากมายบันทึกไว้ในตำราบ่มเพาะพลัง หลายอันในนั้นไร้ประโยชน์ในโลกนี้ เซียวเฉินไตร่ตรองมาเป็นเวลานานก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะฝึกฝนคาถาไหนดี

คาถาแรงโน้มถ่วง สามารถใช้ประโยชน์จากสภาพไร้แรงโน้มถ่วงลอยขึ้นไปในอากาศได้เป็นระยะเวลาสั่นๆ แม้จะไม่สามารถทำให้บินได้ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเขณะที่ระดับขอบเขตยังต่ำอยู่

เซียวเฉินเลือกคาถาแรงโน้มถ่วงไว้เป็นตัวเลือกแรกๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าคาถาแรงโน้มถ่วงสามารถเลื่อนระดับได้ เมื่อมันฝึกฝนจนถึงขั้นสมบูรณ์ ผู้นั้นจะสามารถบินได้ราวกับสายลม เคลื่อนที่ได้มากกว่า 1000 เมตรภายในเวลาชั่วครู่และยังผลาญพลังปราณเพียงแค่เล็กน้อย

หลังจากที่เขาตัดสินใจได้ดังนั้นเซียวเฉินก็เริ่มฝึกฝน หมุนเวียนพลังปราณในรูปแบบที่เขียนไว้ในตำราบ่มเพาะพลัง จู่ๆก็มีแรงผลักขึ้นลงที่ขาของเขา ร่างของเขาดูเหมือนจะไร้น้ำหนักพร้อมกับลอยขึ้นช้าๆในอากาศ

“ปั๊ก!”

เซียวเฉินที่ได้อยู่ในสถานะนั้นเป็นครั้งแรกโดยไม่ได้ตั้งตัว เมื่อเขาหยุดหมุนเวียนพลังปราณเขาก็ตกลงมาทิ่มพื้นในทันทีทันใด

“เจ็บเป็นบ้า…” เซียวเฉินยิ้มขณะที่ปัดฝุ่นออก แม้ว่าเขาจะผิดพลาดในครั้งแรก ตอนนี้เขาพอจะรู้แล้วว่ามันทำงานยังไง เขาควรจะจับเคล็ดลับของมันได้เพียงลองแค่สองสามครั้ง ยังไงก็ก็เป็นเพียงคาถาระดับเริ่มต้น

ต่อมาในอีกสองสามครั้ง เซียวเฉินร่ายคาถาอย่างระมัดระวังก่อนที่ในที่สุดจะจับเคล็ดลับได้ หลักการของคาถาแรงโน้มถ่วงนั้นเรียบง่าย มันจะทำให้เขาอยู่ในสภาพไร้น้ำหนักปล่อยให้เข้าลอยขึ้นไปในอากาศ เมื่อเขาชินกับสภาวะไร้น้ำหลัง มันก็ไม่มีอะไรยากอีกต่อไป

หลังจากคุ้นเคยกับมันแล้ว เซียวเฉินก็บินจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปอีกต้นหนึ่งอย่างนึกสนุก แม้ว่ามันจะไม่ใช่การบินจริงๆ แต่ความรู้สึกตอนที่บังคับตัวลอยไปในอากาศนั้นแปลกใหม่สำหรับเขา

การบินแบบชั่วคราวนี้ทำให้เกิดความคิดในใจของเซียวเฉิน ถ้าวันหนึ่ง ระดับขอบเขตของเขาสูงขึ้นพอ มันจะรู้สึกยังไงตอนที่บินท่องไปทั่วโลกราวกับสายลม

.

หลังจากนั้นเซียวเฉินก็เริ่มฝึกคาถาอื่นๆอีกสามคาถา – โล่อัสนีสวรรค์ อัสนีบาตร่วงหล่นและอัสนีหลบเลี่ยง เป็นระยะเวลาเล็กน้อย เซียวเฉินนั้นไม่มีความตั้งใจจะฝึกคาถาอื่นๆอีก เขาเข้าใจถึงคำสอนที่ว่าอย่ากินเกินกว่าจะเคี้ยวไหว

คาถาทั้งสามเป็นธาตุสายฟ้า โลอัสนีสวรรค์ ตรงตามชื่อสามารถสร้างโลขึ้นมาจากสายฟ้าเพื่อป้องกันการโจมตี อัสนีร่วงหล่นเป็นการอัญเชิญสายฟ้าฟาดจากสวรรค์ลงมาโจมตีเป้าหมาย อัสนีหลบเลี่ยงก็ตรงตามชื่อเช่นกันใช้พลังสายฟ้าหลบเลี่ยงออกจากพื้นที่ต่อสู้อย่างรวดเร็ว

แต่เดิมเขาอยากจะฝึกคาถาแทรกแผนดินแทนคาถาอัสนีหลบเลี่ยงเพราะมันมีประสิทธิภาพดีกว่า อย่างไรก็ตามมันน่าเสียดายที่เซียวเฉินนั้นบ่มเพาะพลังอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นการยากที่จะใช้คาถาธาตุดิน ดังนั้นเขาจึงเลือกทำสิ่งที่ทำได้

เซียวเฉินฝึกฝนคาถาเหล่านี้อย่างหนักทั้งวัน ต้นไม้หนาทึบรอบๆเป็นเป้าซ้อมยิงที่ดีเยี่ยม อัสนีร่วงหล่นนับไม่ถ้วนถูกร่ายออกมา แยกต้นไม้ออกเป็นสองซีกในพริบตา เสียงดังกึกก้องสนั่นอย่างไม่หยุดหย่อนตลอดจนไปถึงเที่ยงคืนจึงหยุดลง

นี่เป็นเพราะเซียวเฉินผลาญพลังปราณทั้งหมดในร่างของเขา หยิบเม็ดยาบำรุงลมปราณอีกเม็ดมากลืนลงไป เซียวเฉินนั่งลงในท่าขัดสมาธิและบ่มเพาะพลังอีกครั้ง หลังจากที่ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่ชั้นที่ 2 อัตราการดูดซับพลังวิญญาณเขาเพิ่มขึ้น เมฆสีขาวที่ลอยอยู่รอบตัวมีงกรฟ้าถูกเติมให้เติมอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

เซียวเฉินเคยคิดว่าพลังปราณนั้นออกมาจากตัวมังกรฟ้า จนกระทั่งไม่นานมานี้หลังจากที่เขาคุ้นเคยกับพลังปราณเขาก็ตระหนักได้ว่ามันไม่ใช่เช่นนั้น แก่นกลางของพลังปราณของเขานั้นน่าจะเป็นเมฆขาวสามก้อนที่ลอยอยู่รอบตัวเจ้ามังกรฟ้า

เมฆสีขาวนั้นแท้จริงไม่ใช่เมฆ พวกมันเป็นพลังปราณที่อยู่ในรูปร่างของเมฆกำลังลอยอยู่รอบๆเจ้ามังกรฟ้า สองในนั้นมีการเชื่อมต่อกันอ่อนๆ ด้วยระดับขอบเขตในตอนนี้ของเซียวเฉิน เขายังคงไม่สามารถเข้าใจได้ว่าการเชื่อมต่อนั้นคืออะไร

สิ่งเดียวที่เซียวเฉินแน่ใจคือเมื่อเมฆก้อนที่สี่ปรากฎออกมา แปลว่าเขาได้ก้าวขึ้นสู้ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นกลางแล้ว เมื่อตอนนั้นมาถึงปริมาณพลังปราณของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง

ในเช้าวันต่อมา เซียวเฉินได้ลืมตาขึ้นพร้อมกับยืดร่างกาย ปล่อยสัมผัสวิญญาณออกมา เขาไม่พบใครอยู่ในรัศมี 500 เมตร

สัมผัสวิญญาณของเขาช่างมีประโยชน์ ไม่เพียงแต่จะสามารถแยกความแตกต่างของสมุนไพร มันยังสามารถตรวจสอบศัตรูที่อยู่รอบๆได้อีกด้วย นี้มันแข็งแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะพลังทั่วไป

คาถาแรงโน้มถ่วง!

เขาร่ายชื่อคาถาขึ้นในใจและเริ่มที่จะลอยขึ้นหลังจากนั้น เขาเริ่มคุ้นชินกับคาถานี้มากกว่าเมื่อวาน เซียวเฉินผู้ลอยอยู่กลางอากาศมองไปยังพื้นดินใต้เท้าของเขาพร้อมตะโกนออกมาเบาๆ

โล่อัสนีสวรรค์!

โล่สายฟ้ารูปสามเหลี่ยมปรากฎขึ้น โล่สายฟ้าสีม่วงส่องแสงสีแดงออกมาจางๆ นี้เป็นผลมาจากการสร้างมันขึ้นมาด้วยพลังอัสนีที่บริสุทธิ์ เซียวเฉินประเมินไว้ว่ามันสามารถรับการโจมตีเต็มแรงของระดับขอบเขตปรมจารย์ได้เลย

อัสนีร่วงหล่น!

เซียวเฉินยังคงลอยอยู่บนอากาศ ชี้นิ้วพร้อมกับมีสายฟ้าเส้นหนาที่ราวกับตกลงมาจากสวรรค์ ต้นไม้ใหญ่บนพื้นแตกกระจายภายในพริบตา พลังอำนาจของมันนั้นเปรียบเทียบได้กับทักษะต่อสู้ระดับลึกซึ้ง เนื่องจากมันพุ่งลงมาจากท้องฟ้าและด้วยความเร็วของมัน มันยากสำหรับเป้าหมายที่จะหลบพ้น

อัสนีหลบเลี่ยง

เขาร่ายคาถาสุดท้าย ร่างของเซียวเฉินหายไปในพริบตาและมีเสียงฟ้าคำรามดังกึกก้องประมาณ 100 เมตรถัดไปตรงหน้าสายฟ้าที่ตกลงมาจากท้องฟ้า ร่างของเซียวเฉินปรากฎออกมาจากแสงสายฟ้ากลางอากาศ ไม่ได้รับอันตรายใดๆ

หลังจากที่เขาฝึกทั้งสี่คาถาไปหนึ่งรอบ เซียวเฉินก็ลอยลงมาช้าๆและหยุดมือลง เป็นเพราะว่าวันนี้เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำ

การหลอมเครื่องสวมใส่! เพื่อที่จะหลอมสิ่งที่เซียวเฉินต้องการมาเป็นเวลานาน – แหวนหวงมิติ

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset