Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 25 พักผ่อนให้สบาย

การสกัดของเหลวของหญ้าตีนเสือได้ปริมาณที่เพียงพอนี่เป็นเพียงขั้นตอนเริ่มต้นเท่านั้น ตอนไปคือสกัดของเหลวออกมาจากสมุนไพรอีกสามชนิด

หลังจากพักได้สักครู่ เซียวเฉินก็หยิบหญ้าฝรั่นขึ้นมาถือไว้ในมือ เขาพยายามที่จะปลุกการตื่นรู้ทางวิญญาณของเขาเพื่อเชื่อมต่อจิตกับมัน

เขามุ่งความสนใจและลูกบอลทรงกลมสีเขียวไปคลื่นจิตสำนักของเขาสร้างเป็นเป็นเส้นลำธารสีเขียวหยก มันไหลผ่านเส้นลมปราณภายในแขนของเขาออกจากร่างไป เส้นสีเขียวซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าก่อให้เกิดการเชื่อมโยงกับหญ้าฝั่นสีสดใส

ทันใดนั้น พื้นที่สีแดงสดก็ปรากฎขึ้นในจิตสำนึกของเซียวเฉินราวกับมันตั้งอยู่ข้างหน้าเขา ในเวลานี้เซียวเฉินได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อพื้นที่ด้านในของสมุนไพรนี้

เส้นสายสีแดงนี้น่าจะเป็นคุณสมบัติทางยาของหญ้าฝรั่น พื้นที่ที่มีเส้นใยหนาแน่นมากที่สุดคือจุดที่มีสพรรคุณทางยามากที่สุด ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องไปสนใจพื้นที่อื่นๆ

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เซียวเฉินลืมตาขึ้นและถอนจิตออกจากสถานะแปลกประหลาดนี้ หลังจากได้เรียนรู้การเชื่อมต่อจิตนี้ เขาในตอนนี้มีความเข้าใจต่อลูกบอลทรงกลมในคลื่นจิตสำนึกของเขาอย่างลึกซึ้ง

ลูกบอลทรงกลมสีเขียวนี่อาจเป็นแก่นกลางรวบรวมจิตวิญญาณหลังจากที่เขาปลุกการตื่นรู้ทางวิญญาณขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ทราบถึงระดับพลังของแก่นกลางจิตวิญญาณตอนนี้ ซึ่งขนาดเล็กเท่าเม็ดถั่วเขียวนี้ควรจะอยู่ระดับไหน

เซียวเฉินรวบรวมความคิดหมุนเวียนพลังทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งสร้างเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริง เขาเริ่มลงมือกลั่นของเหลวจากหญ้าฝรั่น ของเหลวสีแดงใส 50 หยดถูกกลั่นออกมา ตามด้วยของเหลวจากบัวแปดเหลี่ยมและมิ้น พวกมันทั้งสองชนิดกลั่นออกมาได้ชนิดละ 50สิบหยด

มองดูขวดยาทั้ง 4 ขวดบนโต๊ะ เซียวเฉินพักหายใจและเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ขั้นแรกของการกลั่นเม็ดยาอดอาหารเสร็จสิ้น ผลาญพลังปราณของเซียวเฉินหมดไปกว่าครึ่ง

ขั้นที่ 2 คือการหลอมให้เป็นเม็ดยา มันต้องการพลังปราณมหาศาล หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นในขั้นตอนนี้ทุกอย่างก็ไร้ค่า เซียวเฉินพักไว้ที่ขั้นตอนนี้และหมุนเวียนทักษะการบ่มเพาะพลังเพื่อเรียกพลังปราณฟื้นกลับคืนมาอย่างช้าๆ

พลังปราณ!พลังปราณ!

ในตอนนี้ เซียวเฉินไม่ต้องการสิ่งอื่นนอกจากเพิ่มความจุของพลังปราณ ถ้าหากเขามีพลังปราณที่เพียงพอคงไม่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น เขาเพียงแค่พยายามกลั่นเม็ดยาระดับพื้นฐานเท่านั้น ถ้าเขาทำยาที่ระดับสูงกว่านี้ เขาคงทำพังตั้งแต่ขั้นตอนแรกแล้ว

ผ่านมากว่าครึ่งชั่วโมง เซียวเฉินพักการบ่มเพาะพลัง พลังปราณในร่างของเขานั้นฟื้นกลับมาเต็มเปี่ยมเพียงพอให้เขาดำเนินกานขั้นที่สองของการกลั่นเม็ดยา

หยิบหม้อปรุงยามังกรฟ้าขึ้นมา เซียวเฉินสร้างเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงและดันมันเข้าไปทางปากหม้อปรุงยามังกรฟ้า เปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงเผาไหม้อย่างดุเดือดภายในหม้อ ก่อนอื่นเขาเทของเหลวหญ้าตีนเสือเข้าไป

ภายใต้การเผาไหม้ของเปลวเพลิงสีม่วงที่แท้จริงของเหลวข้นหนืดนั้นก็เริ่มเป็นฟอง ส่งเสียง ‘ซี่ซี่’ ออกมา หม้อปรุงยาเริ่มส่งกลิ่นหอมจางๆ เซียวเฉินค่อยสังเกตพร้อมกับเทของเหลวตัวที่สองลงไปหลังจากผ่านมาได้หนึ่งนาที

จากนั้น 4 นาที ของเหลวในขวดยาทั้ง 4 ใบก็ลงไปอยู่ในหม้อปรุงยา เซียวเฉินปิดฝาหม้อและส่งพลังปราณไปหล่อเลี้ยงเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงภายในหม้อปรุงยาอย่างต่อเนื่อง

เส้นใยที่มองไม่เห็นเชื่อมต่อไปยังเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงภายในหม้อปรุงยาดึงพลังปราณภายในร่างของเขาไหลออกมาอย่างมั่นคง หล่อเลี้ยงให้เปลวเพลิงสีม่วงลุกไหม้

นี้เป็นข้อเสียเปรียบที่ไม่มีสัมผัสวิญญาณ ถ้าเซียวเฉินสามารถบ่มเพาะทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ของเขาขึ้นสู่ขั้น 2 และได้รับสัมผัสวิญญาณมา เขาสามารถใช้มันเพื่อควบคุมความหนาแน่นของเปลวเพลิงสีม่วงที่แท้จริงได้ เขาคงไม่ต้องมาเสียพลังปราณอย่างเปล่าประโยชน์ดังเช่นตอนนี้

ภายในหม้อปรุงยามังกรฟ้า ของเหลวหลากสีหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างช้าๆ กลายเป็นของเหลวหนืดหมุนวนอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้กลิ่นของยาได้เริ่มตลบอบอวลไปทั่วห้อง

เซียวเฉินที่ปราศจากสัมผัสวิญญาณ ไม่สามารถมองเห็นสภาพภายในหม้อปรุงยาได้ เขาทำได้เพียงคาดเดาจากกลิ่นยาที่ลอยออกมาจากหม้อปรุงยาว่าส่วนผสมทั้ง 4 นั้นผสมเข้ากับเรียบร้อยแล้ว

ถึงขั้นนี้เขาไม่สามารถใช้ไฟแรงในการกลั่นได้อีกแล้ว เขาต้องตามทิศทางการหมุนวนของหยดของเหลวควบคุมเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงเพื่อให้ความร้อนจากระยะห่าง เปลวเพลิงสีม่วงที่แท้จริงต้องหมุนวนอย่างช้าๆไปพร้อมกัน และต้องปรับอุณหภูมิของไฟ

หยดเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากของเซียวเฉินอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนที่ผลาญพลังปราณมากว่าการใช้ไฟกลั่นของเหลวออกจากวัตถุดิบ ทุกครั้งที่ที่เร่งเปลวเพลิงเต็มที่ เซียวเฉินรู้สึกได้ถึงพลังปราณที่เหี่ยวแห้งลงไปในร่างของเขา หากเขาถึงขั้นที่ใช้พลังปราณจนหมด ทุกอย่างที่เขาทำมาก็จะสูญเปล่า

กลิ่นยาภายในห้องเปลี่ยนไปอีกครั้ง ในที่สุดเซียวเฉินก็หายใจได้คล่อง มีพลังปราณเหลืออยู่ในร่างของเขาอยู่อีกประมาณ 1 ใน 10 ส่วน สถานการณ์ที่เขาเป็นกังวลที่สุดก็ผ่านมาแล้ว นั้นคือการใช้พลังปราณจนหมดมันไม่เกิดขึ้น ช่างโชคดีที่เหลือพลังปราณเพียงพอในการกลั่นยาขั้นสุดท้าย

ภายใต้การกลั่นให้บริสุทธิ์ของเปลวเพลิงอันร้อนแรง ของเหลวในหม้อปรุงยาก็ควบแน่นเป็นเม็ดยาส่งกลิ่นหอมจางๆออกมาจากหม้อ ในเมื่อขั้นตอนนี้ของการกลั่นเม็ดยาจบลง เม็ดยาอดอาหารก็ออกมา

เซียวเฉินเปิดฝาหม้ออก กลิ่นหอมอบอวลไหลเข้ามาปะทะจมูกของเขา มองดูเม็ดยาที่อยู่ในหม้อปรุงยาเซียวเฉินรู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่ง สำหรับเขาที่ทำมันมาถึงขั้นนี้ได้โดยไม่ทำผิดพลาดใหญ่หลวงก็เป็นเรื่องน่ายินดีมากแล้ว

หากเขาสามารถทำขั้นตอนสุดท้ายได้อย่างสมบูรณ์แบบมันคงจะดียิ่งกว่า นัยตาของเซียวเฉินลุกไหม้ไปด้วยความตื่นเต้น แต่ใจเข้ายิ่งสงบนิ่งมาก ขั้นตอนสุดท้ายนั้นสำคัญที่สุดไม่มีที่ว่างให้กับความผิดพลาด

เซียวเฉินนำเปลวเพลิงอันสีม่วงที่แท้จริงลอยขึ้นมาช้าๆบนอากาศเม็ดยาหยาบก็ลอยตามขึ้นมาอย่างช้าๆ เขาเหยียดมือขวาออกไปรับเม็ดยาที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟ

ถึงเวลาตกแต่งแล้ว!!

เขาส่งความสนใจทั้งหมดไปที่มันทำให้คิ้วของเขาบีบตัวหากัน ซึ่งนั้นจะเกิดขึ้นในตอนที่ใครบางคนกำลังมุ่งสมาธิจดจ่ออย่างมาก

“ฟู่ ฟู่”

เม็ดยาหมุนอย่างรวดเร็วภายในเปลวไฟ เซียวเฉินไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เม็ดเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน ผิวของเม็ดยาเริ่มเรียบและกลายเป็นทรงกลมสวยงามจนแทบจะสะท้อนแสงได้

อีกเพียงขั้นตอนเดียวเม็ดยาอดอาหารก็จะเสร็จสมบูรณ์ เซียวเฉินผลักเม็ดยาอย่างรุนแรงกลับลงไปในหม้อปรุงยา หลังจากปิดหม้อลงเขาก็เริ่มเผาขั้นสุดท้าย

ในขณะนี้เซียวเฉินไม่กล้าแม้แต่จะละความจดจ่อ จนกว่าเม็ดยาจะออกมาจากหม้อมันก็ยังไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วงอีกแล้ว มีเพียงต้องให้ความร้อนเม็ดยาอีกครึ่งวันเท่านั้นก่อนที่เม็ดยาอดอาหารนี้จะเสร็จสมบูณ์

“นายน้อยอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องการที่จะทานเลยหรือไม่?”

“ปัง!”

ทันทีทันใด การปรากฎตัวอย่างฉับพลันของเป่าเอ๋อทำให้เซียวเฉินเสียสมาธิ ในขณะที่เข้าเสียสมาธิเขาขาดการควบคุมเปลวเพลิงภายในหม้อปรุงยา กลายเป็นว่า เม็ดยาที่เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

หัวมังกรอีกด้านหนึ่งกระแสควันพร้อมเศษยาถูกพ่นออกมา…

“ให้ตายเถอะ! เจ้าเข้ามาทำอะไรตอนนี้!” เซียวเฉินคำรามออกมาด้วยความโกรธไปที่ประตูห้อง ไปที่เป่าเอ๋อ

ความพยายามของเขาทั้งหมดกองอยู่ตรงนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมาถึงขั้นตอนนี้ได้ เซียวเฉินอารมณ์ขึ้นจนถึงขีดสุด ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อของเขาทำให้เขาดูน่ากลัวขึ้นไปอีก

เมื่อเป่าเอ๋อที่ยืนอยู่ด้านนอกเมื่อเห็นเซียวเฉินที่คำรามอย่างโกรธแค้นมาที่นาง มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนโต๊ะ นางรู้ตัวว่านางได้สร้างปัญหาแล้ว ใบหน้าเรียวเล็กของนางซีดขาวจากความกลัว ถาดอาหารที่อยู่ในมือหน้าเริ่มสั่นไหว

หยดน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของนางพร้อมกับตอบด้วยเสียงสั่น “นายน้อย ข้า…ข้าไม่ได้ตั้งใจ”

เซียวเฉินเหนื่อยล้าจากที่ใช้พลังปราณไปทั้งหมดจิตใจเริ่มอ่อนเพลีย โบกมือของเขาอยากร้อนใจ “เจ้าออกไปข้างนอก ไม่มีอะไรให้เจ้าทำที่นี้”

จากนั้นกว่าครึ่งวัน เซียวเฉินฟื้นกำลังกลับมาบางส่วน เขารู้สึกเสียใจ เกิดอะไรขึ้นกับข้า… มันก็แค่กลั่นยาผิดพลาด ทำไมต้องไปอารมณ์เสียใส่เด็กสาวตัวเล็กๆ หรือเขาจะเริ่มเห็นตัวเองเป็นคุณชายแล้วจริงๆ?

แค่พลังและตำแหน่งเล็กน้อยแค่นั้น เข้าก็เริ่มเสียความเป็นตัวเองไป แล้วแบบนี้ เขาจะต่างอะไรกับตระกูลจางและพวกลูกหลานเสเพของมัน? เขาเพียงแค่กลั่นยาผิดพลาดเท่านั้นเอง ถ้าครั้งแรกเขาพลาดก็แค่พยายามทำมันอีกครั้งเท่านั้นเอง ไม่ต้องไประบายความโกรธกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ

ยิ่งคิดเดียวกับมันเขาก็ยิ่งรู้สึกผิด เขาลุกขึ้นและเดินตรงไปที่ห้องของเป่าเอ๋อ แสงไฟในห้องของนางยังไม่ดับ เซียวเฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ ผ่านออกมาจากข้างใน

“ครืดด”

เขาค่อยๆเลื่อนประตูเปิดออก อาจจะเป็นเพราะนางรีบร้อนกลับมาทำให้ลืมที่จะล็อคประตู

เมื่อเป่าเอ๋อผู้ที่นั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียงเห็นเซียวเฉินเปิดประตูเข้ามา นางรีบเช็ดน้ำตาออกจากตาและแก้มของนางพร้อมกับถามขึ้นอย่างสั่นกลัว “นายน้อย.. ทำไมท่านมาที่ห้องข้า? ตอนนั้น..ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ..”

เซียวเฉินนะเซียวเฉิน นางเป็นแค่เด็กน้อยไร้เดียงสาแต่เจ้าทำนางกลัวได้ขนาดนี้ เจ้านี่มันเลวจริงๆ เซียวเฉินดุตัวเองในใจ

เขาไม่สามารถที่จะกล่าวคำขอโทษที่เขาคิดในระหว่างเดินมาที่นี่ หลังจากที่เขาเห็นถาดอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ ข้าวต้มปลาหมึก เขาตอบกลับไป “ข้ามากินอาหารเย็น แล้วก็มาดูเจ้าด้วย”

เมื่อเซียวเฉินพูดจบเขาก็หยิบชามข้าวต้มขึ้นมากินอย่างเอล็ดอร่อยโดยปกติที่โรงครัวจะไม่มีการทำอาหารเย็น ดังนั้นชามนี้เป่าเอ๋อเป็นคนทำด้วยตัวเอง

“มันอร่อยมาก…เจ้าเป็นคนทำเอง?”

“อือ, ข้าทำอาหารได้นิดหน่อย ข้าเรียนมาจากแม่ตอนข้ายังเด็ก” เป่าเอ๋อกล่าวด้วยเสียงค่อย

มองดูเซียวเฉินผู้ที่กำลังกินข้าวต้มอย่างเอล็ดอร่อย เป่าเอ๋อถามอย่างกล้าๆกลัวๆ “นายน้อย ท่านยังโกรธข้าอยู่?”

“ใช่!”

เซียวเฉินกระแทกชามลงบนโต๊ะ ใบหน้าดูเคร่งขรึม หัวใจของเป่าเอ๋อแทบจะกระโดดออกมานอกร่าง

“ข้าล้อเล่น ข้าโกรธที่เจ้าทำข้าวต้มมาน้อยเกินไป เจ้าต้องทำมาให้เยอะกว่าในวันพรุ้งนี้เพื่อเป็นการลงโทษ” เซียวเฉินเปลี่ยนสีหน้าเป็นอ่อนโยนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

น้ำตาของเป่าเอ๋อแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มในทันที พร้อมกับพูดอย่างไม่เชื่อตัวเอง “จริงนะ?”

เซียวเฉินลุกขึ้นเดินตรงมาที่เป่าเอ๋อ เช็ดน้ำตาบนใบหน้าของนางตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงใจ “จริงสิ ข้าวต้มปลาหมึกอร่อยมาก ข้าไม่น่าไปพาลใส่เจ้าเลยก่อนหน้านี้ เจ้าไม่ต้องเก็บไปคิดมากแล้วนอนหลับให้สบาย”

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset