บทที่ 608 เรื่องหลายอย่าง
โจวชิงไป๋ให้นำสินค้าล็อตนี้ไปส่งที่โกดังเก็บของ
จากนั้นเขาตรงไปที่ร้านเกี๊ยวต่อแล้วก็โทรศัพท์ไปหาเถ้าแก่ “เดี๋ยวคุณให้พวกเขามาส่งอีกล็อตหนึ่งนะครับ ให้อ้างอิงตามปริมาณที่ส่งมารอบนี้เลย”
“ต้องการเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ?” เถ้าแก่อาหารทะเลพูดอย่างแปลกใจ
“ครับ คุณก็ช่วยลดราคาให้ผมหน่อยนะครับ ลูกค้าคนอื่นของคุณยังไม่สั่งมากเท่าผมด้วยซ้ำ” โจวชิงไป๋พูด
“ยังไงผมก็ต้องลดราคาให้พวกคุณอยู่แล้วล่ะครับ ราคาเท่านี้ก็ถือว่าต่ำมากแล้ว” เถ้าแก่อาหารทะเลพูดด้วยรอยยิ้ม
“พวกผมเคยไปดูที่ต้าเหลียนแล้ว ของที่นั่นก็เยอะมากเหมือนกัน” โจวชิงไป๋พูด
“พี่ชาย สินค้าของโรงงานผมที่ส่งไปให้พวกคุณราคาต่ำที่สุดแล้วจริง ๆ นะครับ คุณเป็นลูกค้ารายใหญ่ของผม ผมไม่ได้ขายให้คนอื่นถูก ๆ เลยนะ ทำไมนั่นพวกคุณถึงไม่นับบ้างล่ะ? เอาอย่างนี้แล้วกัน หมึกกระดองแห้งผมลดให้คุณอีก 5 เหมา ส่วนอย่างอื่นผมก็ไม่มีปัญญาแล้วครับ” เถ้าแก่อาหารทะเลพูด
แน่นอนว่าเขาไม่อยากเสียลูกค้ารายใหญ่จากปักกิ่งคนนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่รายใหญ่ที่สุด แต่การที่พวกเขาสั่งในปริมาณมากขนาดนี้ก็ถือว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่คนหนึ่งเหมือนกัน
ดังนั้นเขาจึงจะต้องเหนี่ยวรั้งอีกฝ่ายไว้ เนื่องจากถ้าลูกค้าจากปักกิ่งคนนี้ไปรับสินค้าจากท่าเรือที่ต้าเหลียนนั่น เขาจะต้องเสียลูกค้ารายใหญ่ไปอย่างไม่ต้องสงสัย
“ได้ครับ ผมจะรอให้พวกคุณส่งสินค้ามานะครับ คุณโทรมาที่เบอร์ของร้านผมในเวลาเปิดร้านนะครับ เวลาอื่นผมไม่อยู่” โจวชิงไป๋พูด
“งั้นเถ้าแก่เชิญบอกเวลากับผมได้เลยครับว่าปกติคุณอยู่เวลาไหนบ้าง” เถ้าแก่อาหารทะเลพูด
โจวชิงไป๋บอกเวลาเปิดร้านของเขาไป อีกฝ่ายก็จดเอาไว้แล้วก็พูดขึ้นว่า “ไม่มีปัญหาครับ เดี๋ยวถ้าพวกเขามาถึงแล้ว ผมจะให้พวกเขาส่งของไปให้นะครับ”
“ส่งมาก่อนวันที่ยี่สิบให้ได้ก็พอครับ” โจวชิงไป๋พูด
“ได้เลยครับ” เถ้าแก่อาหารทะเลตอบอย่างไม่ลังเล
โจวชิงไป๋วางสายของเขาแล้วจึงค่อยเดินกลับบ้าน หลินชิงเหอกำลังนอนกลางวันกับลูกสาวของเธอ แต่ลูกสาวของเธอกลับยังไม่หลับและเล่นกับตัวเองอยู่
พอได้ยินเสียง หลินชิงเหอจึงตื่นขึ้นมาพูดขึ้นว่า “ทั้งหมดเรียบร้อยดีไหมคะ?”
“อืม คุณนอนต่อเถอะ” โจวชิงไป๋พูด
“คุณนอนเถอะค่ะ” หลินชิงเหอหาวหวอด เธอนอนมาชั่วโมงกว่าแล้ว ไม่อยากนอนอีกแล้วล่ะ
โจวชิงไป๋มองไปทางลูกสาวตัวเอง เห็นได้ชัดว่าลูกสาวของเขาก็เป็นเจ้าลิงซนคนหนึ่งเหมือนกัน ซึ่งเธอก็สัมผัสได้เช่นกันว่าพ่อกลับมาแล้ว จึงเริ่มส่งเสียงร้องอ้อแอ้ออกมา เห็นได้ชัดว่าต้องการเรียกให้คนมาอุ้มตนขึ้น
“ตอนคุณยังไม่มาหล่อนออกจะว่าง่าย แต่พอคุณกลับมาลูกก็เริ่มอ้อนคุณซะแล้ว” หลินชิงเหอพูดอย่างจนใจ ลูกสาวของเธอคนนี้เป็นหัวโจกจอมซนตัวจริงเลยล่ะ แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่รู้เรื่องอะไร แต่ความสามารถนั้นของเธอก็ทำให้คนอดหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกจริง ๆ
ราวกับสามารถสัมผัสได้ว่าใครดีต่อเธอแล้วเธอก็จะอ้อนคนนั้น
โจวชิงไป๋ถอดเสื้อนอกออกแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้อุ้มลูกสาว แต่เขาก็นอนราบมาพูดคุยกับลูกสาวของเขา
หลินชิงเหอลุกขึ้นมาแล้วหาน้ำอุ่นดื่ม หลังจากนั้นก็กินแอปเปิล แล้วเริ่มทำงานแปลของตัวเอง
โจวชิงไป๋อยู่เป็นเพื่อนลูกสาวของเขา เฝ้าไปเฝ้ามาก็หลับไปเลย ลูกสาวเขากลับปลุกให้เขาตื่นขึ้นมาเพราะเธอยังไม่ได้กินนม
โจวเฉวี่ยนกับโจวกุยหลายกลับมาถึงแล้ว ซึ่งโจวกุยหลายตรงไปที่ร้านเกี๊ยวเพื่อเตรียมเปิดร้าน
ส่วนโจวเฉวี่ยนมาอยู่เลี้ยงน้องสาว หลินชิงเหอเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้น “ไปเรียกป๊าให้ลุกได้แล้วล่ะ เขาควรต้องออกกำลังกายได้แล้ว”
อยู่ที่บ้านก็สามารถออกกำลังกายได้ อย่างเช่นวิดพื้น ลุกนั่งอะไรพวกนั้นก็ได้ผลลัพธ์ที่ไม่เลวเช่นกัน
แต่ไม่ทันได้เรียก มี่มี่ที่เริ่มหิวก็ตื่นขึ้นมาแล้วร้องเสียงดัง โจวชิงไป๋ทั้งปลอบเธอไปด้วยและเปลี่ยนผ้าอ้อมไปด้วย หลังจากนั้นถึงส่งให้ภรรยาของเขาให้นม
“ไปออกกำลังเถอะค่ะ อย่าให้ขาดแม้แต่วันเดียว” หลินชิงเหอพูดกับเขา
โจวชิงไป๋พยักหน้า เขามองออกไปข้างนอก ตอนนี้หิมะกำลังตกอยู่ ไม่เหมาะที่จะออกไปวิ่ง ไม่อย่างนั้นเขาก็คงออกไปวิ่งแล้ว
เขาจึงออกกำลังกายในบ้านจนหอบเหนื่อยใบหน้าแดงก่ำ
“ป๊าครับ ตอนนี้ร่างกายป๊าไม่แข็งแรงเลยนะครับ ถ้าเป็นเมื่อก่อนต่อให้ทำแบบนี้จนจบป๊าก็ยังไม่หอบเลยสักนิด” โจวเฉวี่ยนยิ้มพลางพูดขึ้น
เขารับหน้าที่กดขาให้พ่อของเขา
โจวชิงไป๋มองค้อนเขาทีหนึ่ง แต่ถ้าไม่นับถือเขาก็เห็นทีจะไม่ได้ อายุก็มากขนาดนี้จะเทียบกับตอนเป็นหนุ่มอายุ 20 กว่าได้ยังไง
ตอนนั้นเขาทำแบบนี้ก็ไม่หอบจริง ๆ นั่นแหละ เทียบกับตอนนี้เห็นได้ว่าความแข็งแรงของร่างกายเขาได้ตกต่ำลงจริง ๆ
“ป๊าครับ ไปโรงอาบน้ำไหม?” โจวเฉวี่ยนถาม
“ไปสิ” โจวชิงไป๋ไม่ได้อาบน้ำมา 2-3 วันแล้วเช่นกัน ภรรยาของเขาเป็นคนรักความสะอาด ถ้าเขาไม่ไปอีกคงไม่ให้เขาขึ้นเตียงด้วย
เขาบอกภรรยาก่อนแล้วขับรถมาอาบน้ำที่โรงอาบน้ำ อาบเสร็จก็ถึงค่อยรู้สึกสดชื่นขึ้น
ตอนที่สองพ่อลูกกลับมา หลินชิงเหอก็พูดว่า “พวกคุณสองพ่อลูกอยากหาเวลาไปบ่อน้ำพุร้อนไหม ก่อนหน้านี้ฉันเคยไปด้วยกันกับพี่เวิงแล้วก็เสี่ยวเหมยแล้ว รู้สึกสบายตัวมากเลย”
“รอพี่ใหญ่กลับมาก่อนแล้วพวกเราค่อยไปด้วยกันเถอะครับ” โจวเฉวี่ยนพูด
หลินชิงเหอก็เฝ้ารอให้เจ้าใหญ่กลับมาเช่นกัน เนื้อแห้งของเธอก็แขวนเตรียมเอาไว้ ว่าแล้วเธอจึงพูดเตือนโจวชิงไป๋อีกครั้ง “ถ้าได้เวลาพอสมควรแล้ว ก็สั่งให้เถ้าแก่เนื้อเก็บกระเพาะหมูไว้ให้เยอะหน่อยนะคะ”
“กินแบบนี้ทุกปีพี่ใหญ่คงผวาแล้วมั้งครับ” โจวเฉวี่ยนหัวเราะ
“ปีหนึ่งกินไม่กี่ครั้งเอง กลับมาครั้งนี้ม้าจะตุ๋นกระเพาะปลาบำรุงให้เขาด้วย” หลินชิงเหอพูด
วันต่อมาหิมะก็ยังคงตกลงมาอีกไม่น้อยเลย และก็ยังคงเป็นอย่างนี้อีก 2-3 วัน
หู่จือกับกังจือก็ไม่สะดวกที่จะไปตั้งแผงลอยขายของแล้ว
หู่จือมาหาน้าของเขา ประเด็นคือต้องการมาปรึกษากับน้าของเขาว่าควรซื้อหน้าร้าน หรือว่าซื้อบ้านอยู่ดี?
“มีแผนว่าจะแต่งงานไหมจ๊ะ?” หลินชิงเหอถาม
“วางแผนไว้ปีหน้าครับ” หู่จือพูดด้วยรอยยิ้ม
“ที่จริงน้าแนะนำให้ซื้อหน้าร้านก่อน แต่ถ้าเธอจะแต่งงานล่ะก็ งั้นก็ซื้อบ้านแบบห้องชุดไปก่อน แต่งงานแล้วก็ควรต้องมีบ้านถึงจะถูก ไม่ต่างกับบ้านนี้ของพวกเราเท่าไหร่ เงินของเธอที่อยู่กับน้ามีประมาณ 2,000 หยวน แล้วเธอเก็บได้เท่าไหร่ล่ะ?” หลินชิงเหอพูด
“เงินที่ผมเก็บเองมี 4,000 กว่าหยวนครับ” หู่จือพูด
“ตอนนี้บ้านแพงขึ้นกว่าเมื่อก่อนเล็กน้อย แต่ว่าซื้อเล็กหน่อยก็ไม่ต่างกันมาก” หลินชิงเหอพูด “เธอไปถามพ่อตาแม่ยายเธอให้พวกเขาช่วย ข้อมูลจากพวกเขาเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ที่สุดแล้ว ถ้าหาได้ก็จัดการซื้อเลย ปีหน้าก็ให้ซานซานเข้าไปอยู่ พวกเธอสองคนโชคดีที่จะได้มีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว สำหรับเรื่องอื่นนั้นเธอก็ยังต้องต่อสู้ต่อไปนะ”
หู่จือพยักหน้า ในใจรู้สึกดีใจเล็กน้อย ไม่มีชายหนุ่มคนไหนที่จะแต่งงานแล้วไม่มีความสุขหรอก โดยเฉพาะคนที่เขาจะแต่งงานด้วยก็คือเฉินซานซานที่หมั้นหมายมานานแล้ว
“พี่จะแต่งงานแล้ว งั้นห้องนั้นเก็บให้ผมเช่าอยู่แล้วกัน” กังจือพูด
“ปีหน้ากั๋วต้งกับซื่อนีก็ดูท่าว่าจะแต่งงานเหมือนกัน ถึงตอนนั้นเธอก็ขึ้นไปอยู่ชั้นสองของร้านเกี๊ยวเถอะจ้ะ ถ้าไม่กลัวเสียงดังล่ะก็สามารถขึ้นไปอยู่ที่นั่นได้ รอให้เธอจะแต่งงานแล้วค่อยย้ายออกไปก็ได้” หลินชิงเหอพูด
“งั้นผมรอให้พี่ซื่อนีออกไปก่อนดีกว่าผมค่อยย้ายเข้าไป” กังจือยิ้มแล้วพยักหน้า “ปีหน้ามีเรื่องหลายอย่างเลยนะครับ”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ก็พ่ออายุเยอะแล้ว จะให้ฟิตเหมือนหนุ่ม ๆ ก็ไม่ได้ไหมเจ้ารอง
หู่จือจะมีบ้านเป็นของตัวเองแล้วค่ะ เด็ก ๆ เริ่มโตเริ่มออกไปมีชีวิตของตัวเองกันหมดแล้ว
ไหหม่า(海馬)