Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 1101 : จ่ายค่าจ้างแบบพิเศษ

แคทลียาตกอยู่ในภวังค์นานหลายวินาที เนื่องจากคาดไม่ถึงว่าสุสานลับของจักรพรรดิโรซายล์จะเกี่ยวข้องกับนรก

แต่หลังจากไตร่ตรองอย่างละเอียด เธอพบว่าไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ตัวตนระดับโรซายล์จะเกี่ยวข้องกับสถานที่แบบนั้น

มีครู่หนึ่งที่แคทลียาภาวนาว่า ขอให้ราชินีไม่ไล่ตามเรื่องนี้อีก แต่ในท้ายที่สุด เธอตัดสินใจพับเก็บความคิดดังกล่าว เพราะถ้าเปลี่ยนเป็นตัวเธอเอง ก็คงตัดสินใจทำในสิ่งเดียวกัน

ท่ามกลางกระแสความคิด เฮอร์มิท แคทลียาก้มศีรษะให้บุคคลในตำแหน่งประธานโต๊ะทองแดงยาว

“ขอบคุณสำหรับคำตอบ ดิฉันหมดคำถามแล้ว”

เดอะฟูล ไคลน์พยักหน้ารับแผ่วเบา มองไปรอบตัวและกล่าว

“เชิญ”

ทันทีที่สิ้นเสียง ฟอร์สซึ่งรวบรวมความกล้ามาสักพัก ตัดสินใจ ‘ใส่หมดหน้าตัก’ คล้ายกับกำลังหลับตาและวิ่งเข้าหาความตาย

“มิสเตอร์เวิร์ล ดิฉันอยากจ้างคุณ”

เมื่อเห็นเดอะเวิร์ล เกอร์มัน สแปร์โรว์หันมามอง หญิงสาวรีบอธิบาย

“ภารกิจไม่ซับซ้อน แค่พาฉันไปยังสถานที่แปลกๆ และกลับมารับในอีกสองสามวันให้หลัง… หรือถ้าคุณไม่ว่างจริงๆ … ฉันยินดีจะจ้างให้คุณช่วยแสดงพลัง ‘ท่องเที่ยว’ ต่อหน้าเพื่อทำการบันทึก”

ได้ยินคำจ้างวานจากมิสเมจิกเชี่ยน คำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวไคลน์ก็คือ

ผจญภัยสุดขั้วกับแบร์ กริลล์?

ฉันมีสถานที่เหมาะๆ ให้เธอเลือกเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นซากสมรภูมิเทพทางน่านน้ำสุดขอบตะวันออกของทะเลโซเนีย เมืองกัลเดรอนแห่งโลกวิญญาณ หรือจะเป็นเมืองแห่งปาฏิหาริย์ เลฟซิดในการเดินทางของกรอซาย… รับประกันได้เลยว่าทั้งแปลกและน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าที่เธอจินตนาการนับร้อยเท่าพันเท่า… แต่น่าเสียดาย มิสเมจิกเชี่ยนคงรับมือกับอันตรายไม่ไหว… ไคลน์ไม่บังคับให้เดอะเวิร์ลตอบทันที ยังคงจ้องหน้ามิสเมจิกเชี่ยนต่อไปอย่างเงียบงัน

ฟอร์สเว้นวรรคพักหายใจ พยายามข่มสติ จากนั้นก็เสริมรายละเอียด

“แค่นี้ค่ะ… ปัจจุบันฉันคือนักบันทึก ลำดับหก แห่งเส้นทางผู้ฝึกหัด ในการจะย่อยโอสถ ไม่เพียงต้องบันทึกพลังพิเศษหลากหลายชนิด แต่ยังต้องบันทึกขนมธรรมเนียม วิวทิวทัศน์ และตำนานท้องถิ่นของสถานที่ต่างๆ … ฉันอยากเป็นนักท่องเที่ยวให้เร็วที่สุด มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากสงคราม… มิสเตอร์เวิร์ล ตอนนี้ฉันบันทึกพลัง ‘ท่องเที่ยว’ ไว้กับตัวแค่ครั้งเดียว หากใช้มันเดินทางไปไกล เกรงว่าคงจะหาทางกลับไม่ได้… ฉันไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วนอกจากต้องพึ่งคุณ… ถ้าไม่สนใจก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าสนใจ คุณยินดีรับค่าตอบแทนแบบไหน?”

แบบนี้นี่เอง… ออเดรย์กระจ่างทันที พร้อมกับรู้สึกว่าแนวคิดของฟอร์สช่างยอดเยี่ยม

นอกจากนั้น ฟอร์สยังเป็นนักเขียนนิยายขายดี การได้ ‘บันทึก’ ตำนานและเรื่องเล่าลงบนหนังสือและตีพิมพ์ นั่นคงช่วยให้ความเร็วในการย่อยโอสถเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด… ออเดรย์พยักหน้าเล็กน้อย ยินดีกับเพื่อนสนิทด้วยใจจริง

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้ชมมากประสบการณ์ มีหรือที่ออเดรย์จะไม่ทราบว่าฟอร์สกลัวมิสเตอร์เวิร์ลมากเพียงใด เธอแอบคาดหวังความสนุกในตอนที่ทั้งสองได้พบหน้ากันอีกครั้ง

ออเดรย์ นิสัยของเธอแย่มาก! แต่นี่เป็นสัญชาตญาณของผู้ชม… ฮิฮิ… ฟอร์สไม่มีทางรู้ว่า นักผจญภัยเสียสติที่เธอหวาดกลัวจากก้นบึ้ง แท้จริงแล้วเป็นแค่หน้ากากชั้นนอก เนื้อในคือชายหนุ่มจิตใจงดงามและสุภาพอ่อนโยน… เราเองก็ต้องเร่งย่อยโอสถนักท่องฝันเหมือนกัน ด้วยการตระเวนไปตามความฝันของผู้คนในยามค่ำคืน… ออเดรย์ไม่เปลี่ยนสีหน้า เพียงรักษาอากัปกิริยาสำรวจของผู้ชม

แฮงแมน อัลเจอร์ถอนหายใจยาวหลังจากได้ยินคำพูดมิสเมจิกเชี่ยน เพราะแม้แต่ผู้ฝึกหัดที่เคยมีลำดับต่ำคนนี้ ปัจจุบันกำลังพุ่งเป้าไปยังการเป็นลำดับห้า โดยที่ตัวมันจมปลักอยู่ในลำดับ 5 มาสักพักแล้ว

เดอะเวิร์ลกับเฮอร์มิทอยู่ในลำดับสี่… จัสติส เดอะซัน เดอะมูน เดอะสตาร์ ล้วนอยู่ในลำดับ 5 เหมือนกับเรา… หากไม่นับจัดจ์เมนต์ที่เพิ่งเข้าร่วมชุมนุม มีเพียงเมจิกเชี่ยนที่ลำดับต่ำกว่าเรา… อัลเจอร์รู้สึกแน่นหน้าอกอย่างอธิบายไม่ถูก สลัดเท่าไรก็ไม่ออก ใจอยากรีบคว้าโอกาสในการเลื่อนเป็นครึ่งเทพแห่งเส้นทางวายุ ผู้สังเวยภัยพิบัติ โดยเร็ว

มันกระหายตำแหน่ง กระหายพลังอำนาจ กระหายการถูกยกย่อง เคารพนับถือ และเชื่อฟัง นอกจากนั้นยังไม่อยากถูกสมาชิกชุมนุมทาโรต์แซงหน้าไปและทิ้งมันไว้ข้างหลังคนเดียว

อย่างนี้นี่เอง… ไคลน์เริ่มเข้าใจแนวคิดของมิสเมจิกเชี่ยน แต่ทันใดนั้น มันฉุกคิดบางสิ่งได้

สิ่งนั้นคือ ‘อาชีพ’ ของมิสเมจิกเชี่ยน เป็นข้อมูลที่เธอเล่าให้ฟังขณะพูดคุยกับเดอะฟูลในคืนจันทร์เต็มดวง

อดีตศัลยแพทย์ ปัจจุบันนักเขียน!

หืม… หากตำนานที่เราสร้างโด่งดังและแพร่หลายเป็นวงกว้าง นั่นจะยิ่งช่วยย่อยโอสถจอมเวทพิสดารได้หลายระดับ… อา… ยิ่งพอเป็นนิยายที่เน้นด้านการบรรยายให้เกิดความหลอน สยองขวัญสั่นประสาท นั่นจะยิ่งได้ผลดี… เมื่อผุดแนวคิดใหม่ ไคลน์บังคับให้เดอะเวิร์ลเปิดปาก

“งานจ้างของคุณ สำหรับผมแล้วง่ายมาก… แต่ค่าตอบแทนที่ผมต้องการ อาจจะฟังดูยุ่งยากเล็กน้อย”

หลังจากได้ยินว่ามิสเตอร์เวิร์ลมีแนวโน้มจะช่วย เมจิกเชี่ยน ฟอร์สรีบถามด้วยความตื่นเต้นเจือกังวล

“จะให้ฉันตอบแทนด้วยอะไร?”

เดอะเวิร์ลครุ่นคิดสักพักก่อนจะตอบ

“รวบรวมตำนานภูตผีที่เกิดขึ้นในระยะหลังตามโรงพยาบาลใหญ่ของเบ็คลันด์ จากนั้นก็เขียนลงในหนังสือหรือบนความในหนังสือพิมพ์… เงื่อนไขของผมก็คือ พยายามเขียนให้สยองขวัญและพิสดารมากที่สุด หากกลายเป็นหนังสือขายดีติดอันดับได้ก็จะเยี่ยมมาก”

เหตุผลที่ไคลน์บอกให้เขียนแค่ตำนานสยองขวัญตามโรงพยาบาลใหญ่ในเบ็คลันด์ เพราะมิสเมจิกเชี่ยนเป็นชาวเบ็คลันด์ที่มีเครือข่ายทางการแพทย์ในระดับหนึ่ง การนำตำนานภูตผีมาเป็นวัตถุดิบเขียนนิยายจะไม่ทำให้คนรอบข้างผิดสังเกต แต่ถ้าเกิดเธอเขียนตำนานภูตผีบนเกาะรอสต์ ทะเลหมอก และทวีปใต้ลงไปด้วย เกรงว่าซาราธคงได้ส่งหุ่นเชิดไปเคาะประตูหาถึงบ้าน

ตำนานภูตผีในระยะหลังตามโรงพยาบาลใหญ่ของเบ็คลันด์… หลังจากได้ยินข้อเสนอจากเดอะเวิร์ล จัสติส ออเดรย์พลันตกตะลึงนานเกือบสามวินาที

เดิมทีเธอคิดว่าตำนานดังกล่าวเกิดจากเทคนิคการรักษาลับๆ ของผู้วิเศษสังกัดโบสถ์ ส่วนเห็ดและวัชพืชคือผลข้างเคียงด้านลบของสมบัติวิเศษที่ใช้ในปฏิบัติการ แต่กลับต้องผิดคาด

แน่นอน ออเดรย์เคยสงสัยเล็กๆ ว่าอาจเป็นฝีมือของดอน·ดันเตส เพราะสุภาพบุรุษรายนี้ได้ฟังเธอเล่าถึงคนไข้ที่บาดเจ็บหนักในโรงพยาบาล แถมยังเป็นคนจิตใจงดงาม แต่ในภายหลัง ออเดรย์ค่อนข้างมั่นใจว่าดอน·ดันเตสไม่ได้เคลื่อนไหว ความน่าจะเป็นจึงตกอยู่กับหน่วยพิเศษของศาสนจักรมากกว่า

แต่ในวินาทีนี้ ออเดรย์มั่นใจเกือบเต็มร้อยว่า เทวทูตตัวตลกคือมิสเตอร์เวิร์ล หรือถ้าไม่ใช่ก็คงมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

มิสเตอร์เวิร์ลสวมหน้ากากเห็ดและวัชพืช เหมือนกับที่สวมหน้ากากนักผจญภัยเสียสติ… แต่ทำไมถึงต้องแต่งกายแบบนั้นออกไปทำความดี? หรือต้องใช้ความสยองขวัญและหวาดผวาของผู้คนเพื่อย่อยโอสถ? ออเดรย์พึมพำพลางคาดเดา

เดอะสตาร์ เลียวนาร์ด และแฮงแมน อัลเจอร์ ต่างนึกถึงตำนานภูตผี คนหนึ่งเพิ่งแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเหยี่ยวราตรีที่วิหารนักบุญแซมมวล ส่วนอีกคนเพิ่งได้ฟังตำนานสยองขวัญจากลูกเรือ

เห… เราไม่เคยได้ยินข้อเรียกร้องแบบนี้มาก่อน แถมยังไม่ใช่การเขียนชีวประวัติ… แม้ว่าสงครามจะปะทุขึ้น แต่หนังสือพิมพ์และนิยายกลับขายดีขึ้นมากเช่นกัน บรรณาธิการถึงกับเร่งให้เราออกหนังสือเล่มใหม่… อา… ปกปิดตัวตนสักหน่อยดีกว่า คงต้องโน้มน้าวให้บรรณาธิการเปลี่ยนนามปากกาของเรา ข้ออ้างก็คือ นิยายต่างแนวต้องใช้นามปากกาที่ต่างกัน… หลังจากไตร่ตรองเล็กน้อย เมจิกเชี่ยน ฟอร์สมอบคำตอบ

“ตกลง”

เดอะเวิร์ล เกอร์มัน สแปร์โรว์หัวเราะในลำคอก่อนจะกล่าวเสียงแหบพร่า

“ถ้าผลงานออกมาดี ผมจะเปิดโอกาสให้คุณบันทึกพลังครึ่งเทพ”

“…ตกลง!” ฟอร์สสลัดความเกียจคร้านและตอบขึงขัง

สำหรับเธอ การได้บันทึกพลังครึ่งเทพไม่เพียงจะช่วยในการป้องกันตัว แต่ยังช่วยให้โอสถย่อยได้เร็วขึ้น

บทสนทนาดังกล่าวทำให้ออเดรย์ ซิล เลียวนาร์ด และสมาชิกคนอื่น อดไม่ได้ที่จะรำพันคล้ายกันในใจ: นักบันทึกช่างน่าอิจฉา…

หากมีผู้วิเศษระดับครึ่งเทพคอยหนุนหลัง นักบันทึกจะสำแดงพลังได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ด้อยไปกว่าลำดับ 5 เลยสักนิด ในบางกรณีอาจแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ

หลังจากตกลงกันเสร็จ บรรยากาศถูกปกคลุมด้วยความเงียบไปครู่หนึ่ง เนื่องจากชุมนุมทาโรต์ไม่มีความต้องการเพิ่มเติม

เดอะสตาร์ เลียวนาร์ดเพิ่งกลายเป็นจอมอาคมวิญญาณได้ไม่นาน ยังไม่ทันได้สรุปกฎและกุญแจสำคัญ นอกจากนั้น การเลื่อนลำดับในอนาคตก็คงถูกสนับสนุนโดยศาสนจักร ไม่จำเป็นต้องซื้อสูตรหรือตะกอนพลัง ในส่วนของสมบัติวิเศษ มันเพิ่งซื้อวาจาสมุทรไป และยังสามารถเบิกใช้งานสมบัติปิดผนึกหลังประตูยานิสได้ด้วย

ในระยะหลัง เดอะมูน เอ็มลินมักอ่านบันทึกของผีดูดเลือดเพื่อค้นคว้าเกี่ยวกับดวงจันทร์ เพราะมันอยากดึงพลังของปราชญ์สีชาดออกมาจนถึงขีดสุด สำหรับตะกอนพลังและสูตรโอสถลำดับ 4 ราชาหมอผี เอ็มลินยังไม่ต้องการในช่วงนี้ หรือต่อให้ต้องการ ก็มีเงินไม่พอที่จะซื้ออยู่ดี

เดอะซัน เดอร์ริคเชี่ยวชาญพลังนักบวชแสงแล้วก็จริง แต่ยังห่างไกลจากการเลื่อนลำดับอยู่มาก นอกจากนั้น มันมีตะกอนพลังของลำดับ 4 อย่างผู้เจิดจรัสอยู่ในมือแล้ว

ในทำนองเดียวกับ ออเดรย์และซิลยังไม่ใกล้เลื่อนลำดับ คนหนึ่งกำลังทำงานใช้หนี้มิสเตอร์เวิร์ล ส่วนอีกคนทำงานใช้หนี้ฟอร์ส

สำหรับแฮงแมน อัลเจอร์ มันเป็นคนของโบสถ์วายุสลาตันก็จริง แต่ก็ต้องคอยปกปิดลำดับที่แท้จริงของตัวเอง สถานการณ์น่าอึดอัดสุดขีด หากต้องการเลื่อนเป็นครึ่งเทพ มีแต่ต้องแสวงหา ‘ทางลัด’ จากสงครามเท่านั้น และเหนือสิ่งอื่นใด มันได้รับสูตรโอสถ ‘ผู้สังเวยภัยพิบัติ’ มาจากเดอะเวิร์ลก่อนหน้านี้แล้ว

เฮอร์มิท แคทลียาเพิ่งกลายเป็นครึ่งเทพ ปัจจุบันกำลังศึกษาความลับของศาสตร์เร้นลับในทุกแง่มุม ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจมากที่สุดก็คือ แม้เพิ่งจะเลื่อนลำดับได้ไม่นาน แต่เมื่อนึกทบทวนความรู้ที่ตนสั่งสมมาตลอดชีวิต เธอกลับพบว่าโอสถปราชญ์พิศวงถูกย่อยไปแล้วหลายระดับ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากข้อมูลที่ได้ฟังภายในชุมนุมทาโรต์!

ช่วงเวลาค้าขายจบลงอย่างรวดเร็ว บรรดาสมาชิกเริ่มการแลกเปลี่ยนข้อมูลอิสระ

เดอะมูน เอ็มลินมองไปรอบตัวก่อนจะหยุดสายตาที่เดอะสตาร์ เลียวนาร์ด

“ถ้าคุณเป็นคนของทางการ ในยามศึกสงคราม คุณจะทำยังไงกับนักบวชของศาสนาศัตรูที่อยู่ในพื้นที่? เขาไม่ได้วางแผนที่จะทำเรื่องเลวร้ายหรืออะไรทำนองนั้น”

แม้ว่าเฟเนพ็อตจะยังไม่ได้เปิดศึกกับโลเอ็นโดยตรง แค่เริ่มโจมตีลุนเบิร์ก แต่ยิ่งนานวันเข้า เหล่าสาวกของวิหารฤดูเก็บเกี่ยวก็ยิ่งมองบิชอปยูทรอฟสกี้ซึ่งมีเชื้อสายฟุซัคด้วยสายตาแปลกไป

เดอะสตาร์ เลียวนาร์ดไตร่ตรองสักพักก่อนจะมอบคำตอบ

“คุมขังเชิงป้องกัน”

………………………………….

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset